‘ไรเฟิล’ ลูกครึ่งบราซิล-ฮ่องกง หนุ่มหล่อโลกตะลึง กับ ‘อินถวา’ สาวไทยหน้าตาจิ้มลิ้ม สู้คน แต่อ่อนหวานไปทั้งตัว ‘เขาใช้เล่ห์กลให้ได้ครอบครองร่างกายของเธอ เธอก็จะทำให้เขารักด้วยมารยาร้อยเล่ห์ของเธอบ้าง’ อินถวาจะไม่เสียเวอร์จิ้นไปฟรี เสน่ห์ทุกกระบวน มารยาทุกอย่างถูกงัดมาใช้ ทำเป็นอ่อนหวาน ใสซื่อ แต่จริงๆ วางแผนไว้ทุกทาง เพราะรู้แกวว่าไรเฟิลชอบผู้หญิงยากหน่อย ไม่ตามใจเขา นั่นน่ะเร้าใจอย่างแรง เธอยิ่งซื่อ ไรเฟิลก็ยิ่งหลง แต่ที่เขาหลงไม่ใช่เพราะเธอแสร้งทำเป็นใส ทำเป็นยาก แต่เป็นเพราะไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน นั่นแหละเขาชอบมากเพราะชีวิตช่างมีสีสันทุกวัน
สัมผัสบางอย่างที่เคลียคลออยู่รอบตัวทำให้อินถวาพยายามจะเปิดเปลือกตาที่ง่วงงุนขึ้นมองดู เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งปกติที่จะเกิดขึ้น เมื่อฝ่ามืออุ่นจัดของใครบางคนกำลังลูบไล้เนื้อตัวของเธออยู่ทั้งๆ ที่เธอ ‘นอนคนเดียว’
แค่คิดถึงสิ่งนั้น ความง่วงงุนก็หายวับพร้อมดวงตาที่หนักอึ่งก็บางเบาราวติดปีกและดีดผึงขึ้นทันที ทว่าสิ่งที่เห็นนั้นมีเพียงความมืดมิด มืดจนไม่มองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง แต่สัมผัสนั้นยังคงอยู่
อินถวาสั่นไปทั้งร่าง ขนกายลุกตั้งไปทั้งตัวตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงปลายเท้า ไม่มีจุดใดเลยที่ขนจะไม่ลุก เพราะสิ่งที่มองไม่เห็นกำลังลูบไล้ไปทั่วทั้งเนื้อตัวเธอ ‘มัน’ หรือ ‘ใคร’ หรือ ‘อะไร’ บางอย่าง ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว ทั้งๆ ที่น่าจะรู้ว่าเธอตื่นแล้ว
‘กรี๊ดดดดด... ปล่อยฉันนะ! กรี๊ดดดดด...’
เสียงร้องที่ดังอยู่เพียงในลำคอ ยิ่งทำให้อินถวาสะท้านและสั่นจนหยุดไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนหรือจะกรีดร้องดังเพียงใดแต่เสียงนั้นก็เพียงได้ยินอยู่ในลำคอของเธอเท่านั้น
เธอพยายามแล้วที่จะดิ้นรน พยายามที่จะกรีดร้องให้ดังที่สุด แต่เจ้าของฝ่ามือที่แตะต้องเธอนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย มันยังคงแตะ ไต่และลูบไล้ไปทั่ว โดยไม่เว้นสักจุด
เริ่มตั้งแต่ทรวงอกอวบอิ่มเปล่าเปลือยของเธอที่ถูกมันดันจนชิดก่อนที่มันจะซุกไซ้ใบหน้าลงมาโดยไม่สนใจแรงดิ้นรนของเธอ และยิ่งดิ้นก็ยิ่งเสียดสีจนรู้สึกแปลก
‘อื้อ... ปล่อยฉันนะ อื้อ... ไอ้ผีบ้า! ปล่อยฉัน กรี๊ดดดดด... ไอ้ผีชีกอ ปล่อย! อื้อ... ปล่อย...’
ความซาบซ่านจากเคราสากลากไปตามทรวงอกก่อเกิดความรู้สึกใหม่ที่อินถวาไม่เคยได้เรียนรู้ และทันทีที่ยอดอกถูกครอบครอง อินถวาก็ต้องแอ่นอกดันจนชิดติดปากติดลิ้นของมันอย่างไม่รู้ตัว จนหลงลืมว่าต้องกรีดร้องและดิ้นรนให้หลุดพ้น เพราะสิ่งที่ทำกลับเป็นตรงกันข้าม
‘อา... แกทำอะไรฉัน อื้อ... อย่า... ไอ้ผีบ้า อย่านะ... อย่า...’
คราใดที่มีสติอินถวาจะร่ำร้องห้ามเพราะเธอไม่อยากมีประสบการณ์ถูกผีลักหลับ เหมือนเรื่องเล่าที่เคยอ่านมาจากอินเตอร์เน็ต แต่คราใดที่สติพร่าเลือนไปกับสัมผัสปรารถนา เธอก็เพลิดเพลินกับความร้อนฉ่าจนทำได้แต่เปล่งเสียงครวญคราง เพราะร่างกายที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อนกำลังถูกปลุกเร้าทุกช่องทาง
เมื่อริมฝีปากนั้นดูดดื่มความหวานจากยอดอกของเธอจนพอใจ สัมผัสอุ่นซ่านนั้นก็ลากไล้ลงต่ำ ต่ำลงๆ จนอินถวาสะท้านเฮือก เพราะเธอกำลังทนไม่ไหว
‘อา... พอแล้ว อย่า... อย่าทำฉัน อย่า... อื้อ... พอแล้ว’
ใบหน้างามส่ายไปมา ร่างกายที่ยังเหลือเรี่ยวแรงเพียงนิดพยายามบิดกายต่อต้าน เพราะเธอจะไม่ยอมให้ริมฝีปากของไอ้ผีร้ายเคลื่อนเข้าไปใกล้สิ่งนั้น เพราะอย่างนี้ใช่ไหม ผู้หญิงที่ถูกเจ้าผีชีกอนี่กระทำถึงได้อ่อนระทวยหมดเรี่ยวแรง แต่เจ้าผีที่ประทับรอยจูบร้อนๆ ไปตามเนื้อกายของเธอนั้นกลับไม่ยอมฟังคำเธอเลย
ริมฝีปากเร่าร้อนของผีชีกอยังคงเคลื่อนลงไปตามสีข้าง ก่อนจะวกเข้าไปหาสะดือวงสวย และสัมผัสจากปลายลิ้นที่ชอนลึกเข้าไปในร่องสะดือ ก็ยิ่งทำให้อินถวาสะท้านจนต้องกรีดร้องออกมาอีกครั้ง เพราะความเสียวที่จู่โจมตามจังหวะปลายลิ้นจ้วงแทงมันเร่าร้อนจนเธออยากจะเป็นฝ่ายร่อนความซาบซ่านกระแทกหาริมฝีปากนั้นซะเอง
แต่สำนึกว่า ‘ไม่’ กับความต้องการที่ตอบว่า ‘ใช่’ ตีรวนกันจนบอกไม่ถูก รู้แต่ว่าเมื่อรอยจูบประทับไปถึงตรงส่วนนั้น เธอก็กรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง
‘กรี๊ดดดดด... ไม่นะ! ไม่! โอว... อย่าทำอย่างนั้น โอว... ไม่นะ! อื้อ...’
อินถวากรีดร้องส่ายร่อนสะโพกโยกหนีริมฝีปากอุ่นจัด ทว่ายิ่งส่ายร่อนก็ยิ่งกระตุ้นให้ริมฝีปากของผีร้ายทาบทับลงมาอย่างถูกจุด ทั้งฝ่ามือเร่าร้อนของผีร้ายยังช้อนเข้ามาใต้สะโพกผายพร้อมกับยกให้ความอูมเด่นลอยขึ้นสูง จนเธอไม่กล้าให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
แต่คำห้ามไม่เป็นผลเมื่อริมฝีปากอุ่นจัดประทับจุมพิตลงไปอย่างตรงจุด และความทรมานก็จู่โจมอินถวาจนสั่นไปทั้งกาย เพราะไม่อาจดิ้นหนีไปทางไหนได้เลย
‘โอว... อย่า... อื้อ... อย่า... โอว... อื้อ...’
นั่นคือเสียงที่ส่งผ่านอยู่ในใจ เพราะไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถส่งผ่านน้ำเสียงให้เล็ดลอดออกไปได้ ทั้งจะผลักดันริมฝีปากนั้นให้หนีห่าง ฝ่ามือของเธอก็ถูกตรึงไว้กับหัวเตียงจนดิ้นหนีไปไหนก็ไม่ได้เช่นกัน ต้องยอมให้ลิ้นร้อนที่ค่อยๆ แตะไต่สัมผัสอยู่นี้ เริ่มต้นบรรเลงความอ่อนชื้นเข้าไปชอนชิมความหวานหยาดเยิ้มด้านใน ที่ทำให้เธอสุดแสนจะทรมานต่อไป
‘อา... อื้อ... อื้อ... อา... โอว...’
เสียงร้องฟังไม่ได้ศัพท์ดังอยู่เพียงในใจกับเนื้อกายที่บิดเร้าดิ้นรนไม่หยุดเพราะไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าความทรมานอันหอมหวานที่เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่นี้จะไปสิ้นสุดลงที่ใด ทว่าเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นเหนือใบหน้ากับสัมผัสร้อนผ่าวที่ยุติลง ก็ทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าสิ่งนั้นสิ้นสุดลงแล้ว และเป็นการหยุดที่ทำให้เธอต้องกรีดร้องสุดเสียง เมื่อความมืดมิดนั้นมีภาพหนึ่งเด่นชัด
‘หึ! ร้องมันส์อย่างนี้ ฉันชอบ’
“กรี๊ดดดดด...”
อินถวากรีดร้องสุดเสียงพร้อมกับทะลึ่งตัวลุกขึ้นพรวด และสิ่งที่มองเห็นอยู่รอบตัวก็ทำให้เธอรู้ว่า ‘ฝัน’ ไป เพราะห้องนอนของเธอยังคงมีไฟสีนวลสว่างพอให้มองเห็นทุกสิ่งอย่างภายใน และเสื้อผ้าของเธอก็ยังอยู่ครบ ไม่ได้เปลือยไปทั้งร่างอย่างเมื่อครู่ ทว่าความฝันเสมือนจริงจนร่างกายเธอยังสั่นและหัวใจก็เต้นระรัวเร็วไม่ถูกจังหวะ อีกทั้งความร้อนวูบวาบที่ยังกรุ่นอยู่ตามเนื้อตัวนี่มันคืออะไรกัน
“ตาสีเขียว... ตัวอะไร”
อินถวาพึมพำกับตัวเอง เพราะภาพเดียวและเป็นภาพสุดท้ายที่เธอมองเห็นเด่นชัดในความมืดนั่นคือ ดวงตาสีเขียวมรกตของ... เธอแน่ใจว่านั่นไม่ใช่ ‘ผี’ ที่เธอกลัวจนขึ้นสมอง แต่นั่นเป็นดวงตาของสัตว์ที่จ้องมองเธอ สัตว์บางอย่างที่คุ้นเคย แต่เธอกลับจำไม่ได้ว่าคืออะไร ทว่าสัมผัสรัดรึงรอบกายกลับทำให้ชื่อของสัตว์นั้นลอยวนเข้ามาในสมอง
“มังกร... ตาสีเขียว...”
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม