ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / หัวใจบ่มรัก
หัวใจบ่มรัก

หัวใจบ่มรัก

5.0
102 บท
43.3K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

‘เด็กกะโปโล’ คือคำจำกัดความของ วรรณวลี ในสายตาของหนุ่มหล่อพี่ชายข้างบ้านอย่าง พศวัต และ ‘ตาแก่’ ที่กล้าพูดว่าเธอเป็นเด็กกะโปโล คอยดูเถอะเด็กกะโปโลคนนี้จะทำให้ตาแก่ปากร้ายมาสยบแทบเท้าให้ได้ในอดีตเขาเคยปฏิเสธการหมั้นหมายกับ วรรณวลี ตามความต้องการของผู้ใหญ่เพราะคิดว่าเธอยังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องพวกนี้ แต่ในวันนี้เด็กสาวในอดีตกลับมาพร้อมการเป็นหญิงสาวที่สวยสะพรั่ง เสน่ห์ยั่วยวนใจเขาอย่างร้ายกาจ และนั่นมันทำให้เขาอยากจะทำให้ความต้องการของผู้ใหญ่ในอดีตให้เป็นจริง …เขาต้องทำมันให้สำเร็จ ก็ผู้หญิงคนนี้เกือบจะถูกหมายปองให้เป็นของเขาตั้งแต่หลายปีก่อนแล้วนี่ และตอนนี้ก็ได้เวลาเอาจริง!!!“ยะ…หยุดนะ” ห้ามเสียงสั่นพร้อมทั้งดิ้นขัดขืนและพยายามดึงตัวเองกลับ แต่ก็ดูเหมือนจะไร้ผล ยิ่งดิ้นชายหนุ่มก็ยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีก“หือ…อย่าหยุดเหรอได้…จัดไป”“กรี๊ดดด! หยุดดด! ไม่ใช่อย่าหยุด ไอ้พี่พตบ้า” วรรณวลีตวาดแว้ดมือไม้ทั้งผลักไสทุบตีคนบ้ารัวไม่เลือกที่และไม่มียั้ง หลบได้ก็หลบแต่ถ้าหลบไม่ได้ไม่ก็ต้องโดนจนช้ำกันไปบ้างล่ะ“พอแล้ว พอแล้ว พี่ยอมแล้ว ไม่ทำอะไรเราแล้ว” พศวัตห้ามเสียงกลั้วหัวเราะ พร้อมทั้งหลบซ้ายหลบขวายกแขนรับกำปั้นน้อยๆ ที่รัวเข้าใส่อย่างรู้สึกสนุกมากกว่าเจ็บตัว“สัญญานะ” ถามอย่างระแวง“ครับ…” เพียงเท่านั้นมือบางก็ผลักอกกว้างแรงๆ เป็นการส่งท้าย ก่อนจะขยับตัวกลับมานั่งที่เบาะของตัวเองพร้อมทั้งรัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย อย่างน้อยก็ป้องกันไม่ให้เขากระชากเธอเข้าไปหาอีก ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงและแดงก่ำ“งั้นก็รีบๆ กลับบ้านสิคะ ฉัน…ว้าย!” วรรณวลีร้องเสียงหลง รีบยกมือปิดปากที่โดนพศวัตอาศัยโอกาสเพียงแค่เสี้ยวนาทีขโมยจูบไปอีกครั้งเอาไว้ ส่วนอีกข้างยกขึ้นชี้หน้าคนฉวยโอกาสที่นั่งหัวเราะยักคิ้วหลิ่วตาอย่างยียวนอย่างโมโหระคนอายจนตัวสั่น“เอาสิเรียกแบบนั้นอีกสิ ฉันๆ คุณๆ เนี่ย พ่อจะจูบให้หนำใจเลย”

บทที่ 1 บทนำ เด็กกะโปโล vs ตาแก่ปากร้าย (1)

บทนำ

เด็กกะโปโล vs ตาแก่ปากร้าย

“เด็กกะโปโล! ยังไงผมก็ไม่หมั้นไม่แต่ง ไม่อะไรทั้งนั้น ถ้าคุณพ่อชอบนักก็หมั้นเองแต่งเองแล้วกันนะครับ ผมขอตัว”

ว่าแล้วร่างสูงของพศวัต การัณยภาสหรือพต นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรงในวัยยี่สิบแปดปีก็ผลุนผลันลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขกของบ้าน ‘กิตติวรา’ ซึ่งตั้งอยู่ติดกันกับบ้านของชายหนุ่ม อีกทั้งสองบ้านยังสนิทสนมรู้จักมักจี่นับถือกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่อย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น

แต่พศวัตยังเดินไม่พ้นประตูห้องเท้าของเขาก็ต้องหยุดชะงักกึก เมื่อมีเสียงเล็กแหลมของหญิงสาวที่คนเป็นพ่อหมายมั่นปั้นมือจะให้มาเป็นลูกสะใภ้ก็ดังขึ้น

“แก่! แถมปากคอเราะร้ายขนาดนี้ เปรี้ยวก็ไม่คิดจะหมั้นจะแต่งด้วยเหมือนกันแหละค่ะ เชิญ…ไปหาเอาป้ายหน้าเลยค่ะ คุณลุง!”

วรรณวลี กิตติวราหรือเปรี้ยว สาวสวยแรกรุ่นในวัยมัธยมปลายปีสุดท้าย และอีกไม่กี่อาทิตย์เธอก็จะจบแถมวางแผนจะไปเรียนต่อที่เมืองนอก เอ่ยเน้นคำว่า ‘ลุง’ โดยที่สายตานั้นจ้องเขม็งต่อสู้ฟาดฟันกับชายหนุ่มที่จ้องมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เมื่ออีกฝ่ายที่บังอาจมากล่าวหาว่าตัวเอง ‘แก่’

ตลอดเวลาที่ผ่านมาวรรณวลีคิดเสมอว่าพศวัตลูกชายสุดหล่อของเพื่อนพ่อนั้นนอกจากหน้าตาดีแล้วยังใจดี สุขุมนุ่มลึกเป็นผู้ใหญ่ ได้เห็นหน้าได้พุดคุยด้วยทีไรเธอยังแอบเก็บเอาใบหน้าหล่อๆ นั้นไปฝันหวานตามประสาผู้หญิง

ทว่าในวันนี้ภาพหนุ่มหล่อผู้ใจดีสุขุมนุ่มลึกที่เธอเห็นตลอดหลายปีที่ผ่านมากลับพังทลายลงตรงหน้า เมื่อได้ประจักษ์ความปากร้ายของเขาด้วยตัวเอง แค่พ่อแม่เธอและพ่อของเขาเอ่ยปากว่าอยากจะให้เธอกับเขานั้นหมั้นกันเอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินทางไปเรียนต่อที่เมืองนอก ทำไมเขาต้องมาพูดอะไรที่มันแรงๆ ด้วย ปฏิเสธดีๆ ก็ได้ แหม…มาหาว่าเราเป็นเด็กกะโปโล ทั้งที่เธอน่ะเป็นถึงดาวของโรงเรียนเลยนะจะบอกให้ เรื่องอะไรจะยอมให้เขามาว่าเธอฝ่ายเดียว ในเมื่อแรงมาเธอก็ขอแรงกลับ ไม่สนด้วยว่าอีกฝ่ายจะอายุมากกว่าเธอถึงสิบปี

“ยัยเปรี้ยว!”

“ทำไมคะพี่พต”

วรรณวลีเชิดหน้าถามกลับด้วยน้ำเสียงท้าทาย ทำให้พศวัตกัดกรามแน่นจ้องเขม็งอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก หากแต่ทำอะไรได้ไม่มาก

“เรากล้าดียังไงมาว่าพี่แก่”

“แล้วพี่พตล่ะคะกล้าดียังไงมาหาว่าเปรี้ยวเป็นเด็กกะโปโล”

ทั้งที่เธอมั่นใจว่าเธอน่ะโตเป็นสาวสะพรั่งและที่สำคัญเนื้อหอมด้วย ไม่อย่างนั้นพวกผู้ชายทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่คงไม่มาต่อคิวขายขนมจีบเธอไม่เว้นแต่ละวันหรอก มีตาหามีแววไม่ เชอะ!

“ฮึ! ก็มันเรื่องจริงนี่ พี่ไม่คุยกับเราแล้ว…หวังว่าคุณพ่อ และคุณน้าทั้งสองคนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการนะครับ”

ท้ายประโยคชายหนุ่มหันไปพูดกับผู้สูงวัยทั้งสามที่นั่งเงียบมองเขาและวรรณวลีปะทะคารมกันตาปริบๆ อย่างไม่คิดจะห้ามปราม

“เปรี้ยวก็ไม่คิดจะคุยกับคนแก่อย่างพี่พตเหมือนกันล่ะค่ะ และหวังว่าคุณลุงและคุณพ่อคุณแม่จะเข้าใจในสิ่งที่เปรี้ยวต้องการเหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วเปรี้ยวขอตัวนะคะ”

สองหนุ่มสาวหันมามองหน้ากัน ก่อนต่างคนจะสะบัดหน้าหนีแล้วเดินไปคนละทาง ทำให้ผู้สูงวัยทั้งสามมองตามหลังคนนั้นทีคนนี้ที ก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วส่ายศีรษะ

“แรงด้วยกันทั้งคู่ มันจะไหวเหรอคะเนี่ย”

นางอมลวรรณพูดพลางถอนหายใจ มองหน้าคนเป็นสามีและนายอนิวัตติ์ก่อนจะส่ายหน้าอย่างบอกว่าสิ่งที่พวกท่านทั้งสามคนคาดหวังไม่มีทางเป็นไปได้แน่

“ขอโทษแทนเจ้าพตมันด้วยแล้วกันนะ ไม่คิดว่ามันจะออกตัวแรงอย่างนี้ จากที่ดูๆ ผมก็ว่าเจ้าพตก็เอ็นดูหนูเปรี้ยวอยู่นา…ผมว่าเราอย่าเพิ่งตัดใจเลยนะ รอให้หนูเปรี้ยวไปเรียนต่อให้จบแล้วกลับมาก่อนดีกว่า ถ้าทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลงเราค่อยปล่อยวาง”

นายอนิวัตติ์เสนอความคิดเห็น และนั่นทำให้สองสามีภรรยาหันมามองหน้ากันอย่างชั่งใจ ว่ากันตามจริงตัวท่านทั้งสองคนเองก็อยากที่จะได้พศวัตมาเป็นเขย เพราะนอกจากจะเป็นคนกันเองแล้ว ชายหนุ่มก็ถือได้ว่าทำงานเก่งและฉลาดจนหาตัวจับยาก

“เอางั้นก็ได้ เรามาลุ้นกันดีกว่าว่าเมื่อถึงตอนนั้นระหว่างเจ้าพตกับยัยเปรี้ยวใครจะยังโสด หรือจะไม่โสดทั้งคู่และถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็คงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ”

แล้วก็เป็นนายอายุธที่เอ่ยขึ้นคล้ายกับไม่รู้สึกกังวลกับเรื่องนี้มากนักติดจะรู้สึกสนุกด้วยซ้ำ ซึ่งนายอนิวัตติ์เองก็พยักหน้าพลางอมยิ้มอย่างเห็นด้วย ผิดกับผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวอย่างนางอมลวรรณที่มองทั้งสองคนด้วยสีหน้ากังวลใจ และนางก็รู้สึกจะกังวลกับฝ่ายชายมากกว่าด้วย เพราะพศวัตนั้นนอกจากรูปหล่อแล้วพ่อยังรวยจึงมีผู้หญิงวิ่งเข้าหาไม่เคยขาด ถ้าพลาดเมื่อไหร่ทุกอย่างอาจจะจบแบบไม่สวย

“หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นตาพตจะยังโสดนะคะ”

ร่างสูงของพศวัตเดินผ่านซุ้มประตูทางลัดที่เป็นรั้วต้นไม้ที่ถูกตัดตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามเรียงยาวตลอดเขตแดนใช้แทนรั้วกั้นและเชื่อมต่อระหว่างบ้านการัณยภาสของเขากับบ้านกิตติวรากลับเข้าบ้านด้วยสีหน้าที่บูดบึ้งตึงเครียด ไม่คิดว่าพวกผู้ใหญ่จะคิดอะไรแผลงๆ อย่างนี้ได้ ให้เขากับวรรณวลีหมั้นกันเนี่ยนะ ชายหนุ่มคิดพลางส่ายศีรษะ ก่อนคิ้วเข้มจะขมวดมุ่นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรถของเพื่อนสนิทจอดอยู่ข้างๆ เมอร์เซเดสเบนซ์ของเขา ไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายมีธุระอะไร รู้แต่ว่าเขาได้เพื่อนไปท่องราตรีแก้เซ็งในคืนนี้แล้ว

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY