เขา...ขังเธอไว้ในกรงหัวใจ ซ่อนเก็บเอาไว้เพียงเพื่อบำเรอเสน่หา ---------------------------------------- เธอเปรียบเสมือนนกน้อยไร้รัง ต้องเปียกปอนลมฝนหนาวสั่นร่อแร่จวนใจจะขาด แล้วจู่ๆ ใครบางคนก็อ้าแขนต้อนรับแบ่งปันความอบอุ่นให้ เธอจึงไม่รอช้าที่จะโผเข้าสู่อ้อมกอดนั้นอย่างเต็มใจ เขาคือแสงสว่าง คือคนที่ฉุดหล่อนขึ้นมาจากความเดียวดายอ้างว้าง และเป็นความสวยงามของชีวิตที่เหลืออยู่ เธอทุ่มเท...เธอทุ่มใจ ยอมทุกอย่างเพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งของเขา โดยไม่เคยระแวงเลยว่า เธอไม่ใช่ตัวจริง... เมื่อใครอีกคนของเขากลับมา...เธอและลูกในท้องก็ไม่ได้เป็นที่ต้องการอีกต่อไป ทุกอย่างพังครืนลงพร้อมๆ กับหัวใจดวงน้อยที่แตกสลายไม่เหลือชิ้นดี จนไม่อยากเชื่อเลยว่า ผู้ชายที่เคยฉุดหล่อนขึ้นมาจากขุมนรกอันดำมืด กับคนที่ผลักไสหล่อนให้จมลงสู่หุบเหวอันเลวร้ายยิ่งกว่า...ก็คือคนคนเดียวกัน
“เอ๊ย...เร็วๆ หน่อยสิวะเดี๋ยวมืดค่ำ วันนี้ก็ไม่เสร็จกันพอดี” เสียงห้าวทรงพลังของชายหนุ่มวัยคะนองตะโกนบอกลูกน้องที่ทำงานแข่งกับเวลาให้เร่งมือเนื่องจากตะวันเริ่มคล้อยลาลับเข้าไปทุกที
“โธ่! นาย ต่อพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอครับ ผมคิดถึงเมียจะแย่อยู่แล้ว วันนี้ขอกลับบ้านก่อนไม่ได้เหรอ” เสียงไอ้สนลูกน้องบ้าจี้ออดอ้อนผู้เป็นนาย พวกเขารู้ดี ถึงแม้นายน้อยจะโหดขนาดไหนแต่ก็เป็นคนใจดีสุดๆ เหมือนกัน การเย้าแหย่ให้คลายเครียดเวลาทำงานย่อมช่วยให้พวกเขาผ่อนคลาย
“อ้อ...มึงคิดถึงเมียแต่กูไม่มีนี่ คิดถึงมันนักกูจะเตะให้เมียมึงคอยหยอดน้ำข้าวต้มสักเดือนสองเดือนดีไหม ไอ้สน!!” เท่านั้น เสียงหัวเราะชอบใจจากเหล่าคนงานก็ดังก้องทุ่ง ไอ้สนรีบจ้ำอ้าวออกห่างจากบาทาผู้เป็นนายพร้อมบ่นอุบอิบก่อนจะทำงานต่อไปจนเสร็จ
ณกร สุริยะนิมิตร คือชื่อที่คนงานในสวนแห่งนี้เรียกกันว่านาย ความจริงแล้วเขาเป็นแค่ลูกติดของอดีตหัวหน้าคนงาน ธนาบิดาของเขาได้ย้ายถิ่นฐานตามเจ้านายมาจากบ้านเกิด ตอนนั้นธนาได้แอบตกหลุมรักลูกสาวเจ้านายซึ่งก็คือเจ้าของสวนแห่งนี้ที่ตกพุ่มม่ายเหมือนกัน เนื่องจากมารดาของชายหนุ่มได้ลาโลกไปตั้งแต่เขาแบเบาะ ส่วนอีกฝ่ายก็เป็นม่ายเพราะหย่าขาดกับสามี บิดาของเขาเที่ยวตามเทียวไล้เทียวขื่ออยู่พักใหญ่ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็มีลูกติดด้วยกันทั้งคู่ โดยเขาเป็นลูกที่ติดมากับบิดา และภูมิศิลาเป็นลูกติดมาทางมารดาบุญธรรม ภูมิศิลามีอายุมากกว่าเขาสองปี จึงนับถือเป็นพี่ กระนั้นทั้งคู่ต่างก็รักใคร่สนิทสนมกลมเกลียวเหมือนพี่น้องคลานตามกันมา ไม่เคยคิดแบ่งแยกว่าเกิดมาคนละสายเลือด
หลังจากเจ้าของไร่ตัวจริงซึ่งก็คือคุณตาคมศร บิดาของมารดาบุญธรรม ท่านเกษียณตัวเองเพราะความแก่ชรา พ่อของณกรก็สืบเจตนารมณ์ทำงานต่อจากท่านโดยมีสองพี่น้องเป็นตัวเสริมช่วยและเรียนรู้งานไปในตัว กระทั่งทั้งคู่เรียนจบต่างก็กลับมารับผิดชอบงานทั้งหมดอย่างเต็มรูปแบบโดยแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบตามความถนัด
“กลับมาแล้วเหรอณกร แม่ทำกับข้าวมาให้แน่ะเห็นพี่เขาไม่อยู่แม่กลัวแกจะเหงา วันนี้งานเยอะเหรอกลับซะค่ำเชียว” ดวงหทัยออกปากคุยกับลูกชายบุญธรรมที่เธอรักเสมือนลูกทันทีที่ก้าวเข้ามาในตัวบ้าน
“คิดถึงแม่จังเลยครับ...งานเยอะครับแม่ ช่วงนี้ลูกค้าสั่งของเพิ่มมากเลย ก็สินค้าเราได้คุณภาพนี่ฮะ” คนขี้อ้อนตรงปรี่เข้าไปกอดและหอมแก้มมารดาบุญธรรมอย่างเอาใจ เขาไม่เคยคิดว่าเธอเป็นเพียงแม่เลี้ยง เมื่อสิ่งที่เขาได้รับจากดวงหทัยตั้งแต่เจอกันจนกระทั่งแต่งงานกับพ่อของเขาตลอดมาถึงปัจจุบัน ผู้หญิงคนนี้มีแต่ความรักและความเอื้ออาทรให้เด็กกำพร้าที่เสียแม่ไปตั้งแต่แรกคลอดอย่างเขา เขาจึงรู้สึกอบอุ่นเสมอ
“นี่แน่ะ...ดูสิมอมแมมยังกะไปฟัดกับควายมา ยังจะมากอดแม่อีก...ไปล้างหน้าล้างมือ แล้วมากินข้าวเลยไป”
“ครับผม!...แค่นี้ก็ต้องตีด้วย ผมโตแล้วนะ” ยังคงส่งสายตาออดอ้อนจนคนเป็นแม่อดยิ้มไม่ได้ “ขี้อ้อนอย่างนี้เมื่อไหร่จะอ้อนหาสะใภ้ให้แม่ซะที...หือ” แม้ลูกชายตัวดีจะเดินไปแล้วดวงหทัยก็ยังไม่วายกระเซ้าตามหลังไวๆ สมชายชาตรีนั้นอย่างหมั่นไส้ ณกรเดินเข้าห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์ที่วันนี้ไม่ต้องพึ่งอาหารสำเร็จรูปอย่างเคย เขาเตรียมตัวอาบน้ำเสียทีเดียวเลยไม่ได้ล้างหน้าล้างมืออย่างที่มารดาบอกเพราะรู้สึกเหนียวตัวมาทั้งวันกับงานในสวน
เด็กกำพร้าอย่างเขามีบุญหนักหนาที่ได้เข้ามาอาศัยบารมีของครอบครัวนี้ พ่อซึ่งเป็นแค่หัวหน้าคนงานตั้งแต่ที่สวนเก่าของคุณตาบุญธรรมถึงแม้จะจบปริญญาตรีแต่ด้วยความรักในบ้านเกิดทำให้พ่อเลือกจะทำงานต่างจังหวัดต่างจากเพื่อนๆ ที่พาตัวเองเข้าในเมือง
เมื่อแต่งงานกับแม่และมีเขาแม่ก็มาเสียชีวิตตอนที่เขาคลอดเพราะเสียเลือดมาก พ่อทำงานไปด้วยเลี้ยงเขาไปด้วยอย่างยากลำบากก็ได้คุณตาคุณยายนี่แหละที่ช่วยเหลือเลี้ยงดูรักเขาเหมือนหลานแท้ๆ จนวันหนึ่งก็มีพี่ชายที่ชื่อภูมิศิลาและคุณน้าคนใหม่ก็คือแม่หทัยของเขาในตอนนี้ได้เข้ามาทำให้โลกของพ่อสดใสขึ้นอีกครั้ง
พ่อของเขาพิสูจน์ตัวเองอยู่หลายปีกว่าจะชนะใจแม่บุญธรรมแสนสวยคนนี้ได้ แต่พ่อก็ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง ความรัก ความกตัญญูและความเอาใจใส่ ทั้งยังขยันขันแข็งจึงทำให้ทุกคนรักพ่อมากรวมถึงตัวเขาและภูมิศิลาพี่ชายบุญธรรมด้วย
เขากับภูมิศิลาถึงจะไม่มีสายเลือดเดียวกันแต่ก็รักกันมากอาจเพราะเป็นผู้ชายทั้งคู่แถมอายุก็ห่างกันแค่สองปี สองพี่น้องต่างสายเลือดมักใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดจนเติบโตเป็นหนุ่ม พี่ชายเขาที่เรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ ก็เสียสละไม่เรียนต่อปริญญาโทเพื่อผลัดกันทำงานให้เขาเองมีเวลาเรียนอย่างเต็มที่จนเขาเรียนจบภูมิศิลาถึงได้เข้าเรียนต่อปริญญาโท ทุกวันนี้พวกเขาก็แบ่งหน้าที่การงานกันทำตามความถนัดเขามันพวกถนัดใช้กำลังส่วนพี่ชายถนัดการใช้สมองติดต่อลูกค้าและเจรจาพาที ถ้าให้เขาทำหน้าที่นั้นเหรอ...ก็ลูกค้ากระเจิงหมดไง
"ไสหัวจากบ้านฉันซะ! แล้วไม่ต้องกลับมาอีกที่นี่ไม่ต้อนรับกาลกิณีที่มีเลือดชั่วๆ อย่างเธอ" "พี่อาร์ม...ปล่อยนะคะพี่อาร์มเป็นบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันดึกแล้วจะให้จันทร์เจ้าไปไหนคะ" หล่อนรู้ดีว่าเขาพูดจริงทำจริง ใจดวงน้อยแปลบปลาบหวิวเหมือนจะหลุดลอยไปตามแรงลากดึง อุตส่าห์หลบลี้หนีหน้าไม่ออกไปให้เขาเห็นวายยังถูกตามรังควาญจนได้ และที่สำคัญเขากำลังผลักไสหล่อนออกไปทิ้งข้างถนนหน้าบ้าน "อย่ามาเรียกฉันว่าพี่...ฉันไม่เคยคิดจะนับญาตินับเชื้อกับผู้หญิงกาลกิณีอย่างเธอ อย่าคิดว่ามีคุณแม่ให้ท้ายแล้วจะตีเสมอเป็นเจ้าของบ้านคนนึงได้นะ เพราะต่อไปนี้เธอ! ไม่ต้องเข้ามาเหยียบบ้านฉันอีกแล้ว จะไปไหนก็ไป!!!" ปัง! "ว้าย! พี่อาร์ม!!" ร่างเล็กถูกเหวี่ยงจนกระเด็นติดประตูรั้วที่ยังปิดสนิท แล้วยืนเท้าสะเอวทะมึงถึงจ้องหล่อนราวเป็นสัตว์เดรัจฉานน่ารังเกียจนักหนา "ออกไปซะ...ไม่มีเธอสักคนที่นี่คงสงบสุขมากขึ้น อีกหน่อยฉันจะแต่งงานพาเมียมาอยู่ที่นี่! ฉันไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องเลี้ยงลูกเมียน้อยอย่างเธอไว้เป็นหอกข้างแคร่ทำไม" พรพระจันทร์น้ำตาไหลทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้ หัวอกของหล่อนแน่นจุกกับคำถาถางด่าทอต่างๆ นาๆ ที่เขาสรรหามาพ่นพูด ชายหนุ่มจะรู้บ้างไหมว่าหล่อนก็ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ ถ้าเลือกได้หล่อนคงไม่อยากมีชีวิตอยู่เป็นภาระ เป็นตัวปัญหาของใครหรอก....
"รัก" คำที่ไร้ซึ่งตัวตนไม่สามารถจับต้องได้แต่กลับสร้างความสะท้านสะเทือนให้กับทุกคนที่หลงเข้าสู่ห้วงวังวนนั้น ไม่ได้ต่างจากเธอ หญิงสาวซึ่งถูกลวงล่อผูกมัดให้หลงอยู่กับความงดงามเพริดแพร้วหฤหรรษ์ โดยหารู้ไม่ว่าอีกด้านของมันที่มืดมิดทมิฬและเต็มไปด้วยการทำลายล้างจะเผาผลาญเธอให้เหลือเพียงเถ้าธุลีในวันหนึ่ง... เมื่อปฐมบทแห่งการล้างแค้นเปิดฉากขึ้น ความรักอันสวยหรูหวานล้ำ เสน่หาที่ตรึงใจไว้กับร่างกายซึ่งเคยหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกลับกลายเป็นเพียงมายาที่ไร้ซึ่งความความจริงใจ ความเจ็บปวดรวดร้าวจึงมาเยือน "อรุโณรีย์ วรวงค์นุเดช" หญิงสาวผู้บริสุทธิ์ เพราะเธอเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่ถูกชายหนุ่มรูปงามนามทอเลเมียส นิโคไลคัส หลอกใช้เป็นเครื่องมือให้คอยประหัตประหารบิดาของเธอเอง ท่ามกลางความพยาบาทที่ร้อนระอุ แม้แต่เสน่หาที่เคยเพียรป้อนให้กันก็ไม่สามารถดับกระหายความแค้นที่ทับถมอยู่ในใจของชายหนุ่มให้บรรเทาเจือจาง
ผมไม่มีเหตุผลว่าทำไมถึงรักคุณ หัวใจสั่งให้รัก ผมก็รัก ...หรัญย์... ____________ ว่ากันว่า...หากหญิงสาวคนใดได้รับช่อดอกไม้เจ้าสาว หรือช่อบูเก้ในงานแต่งจะได้สละโสดเป็นคนต่อไป แต่ไม่เคยมีใครบอกหล่อนเลยว่า ผู้หญิงที่รับช่อบูเก้ของหล่อนได้ จะได้ว่าที่ผัวหล่อนไปด้วย!! ชีวิตต้องพลิกผันในชั่วข้ามคืน เมื่อเจ้าสาวหม้ายขันหมากอย่างณธิดาต้องหอบหิ้วหัวใจอันบอบช้ำอุ้มขวดเหล้าทั้งชุดเจ้าสาวซัดเซพเนจรหนีอดีตคนรักสุดโฉดที่ไม่โสดอย่างปากว่า เพราะมีทั้งเมียทั้งลูกมาเดินร่อนรื่นในงานแต่งที่หล่อนควรเด่นหรูที่สุด แต่กลับถูกแย่งซีนจนชุดแพงหมดแสงออร่า แล้วใครจะทน! ความเมาและบ้าบิ่นทำให้ณธิดาพบชายรูปงามท่ามกลางแสงดาวแสงเดือนและคลื่นทะเล หล่อนจึงบอกเขาว่าเมาจนความจำเสื่อมเพื่อให้เขาเอ็นดูอุปการะ ตั้งใจหันหลังให้รักครั้งเก่าที่น้ำเน่าจนเหม็นเขียว หลบลี้หนีหน้าผู้คนมาซบอกพ่อค้าผู้น่ากินกว่าลูกชิ้นปิ้งที่เขาขาย แต่กลายเป็นว่าหล่อนกลับถูกเขากิน! นัวๆ และตั้งชื่อใหม่ตามสินค้าหน้าร้านให้ว่า ‘ลูกชิ้น’ หรัญย์เป็นผู้ชายใจดี รักหมารักแมวและรักโลก ที่สำคัญ...เขาชอบกินลูกชิ้นเป็นชีวิตจิตใจ
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน