รัก...ที่ครั้งหนึ่งจบลงด้วยความเจ็บปวด แต่หลีกหนีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพ้นราวถูกจองจำเอาได้ด้วยโซ่ตรวน และในที่สุด ก็ถูกลากกลับมาให้จมจ่อมอยู่ในอเวจีอันดำมืดนั้นอีกครั้ง ด้วยน้ำมือของเขา ผู้ชายที่ทรยศต่อรักอันมั่นคง...
รัก...ที่ครั้งหนึ่งจบลงด้วยความเจ็บปวด แต่หลีกหนีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพ้นราวถูกจองจำเอาได้ด้วยโซ่ตรวน และในที่สุด ก็ถูกลากกลับมาให้จมจ่อมอยู่ในอเวจีอันดำมืดนั้นอีกครั้ง ด้วยน้ำมือของเขา ผู้ชายที่ทรยศต่อรักอันมั่นคง...
หญิงสาวมองคนทั้งคู่ด้วยใบหน้านองด้วยน้ำตา
ไม่จริงใช่ไหม...พวกเขาสองคนไม่มีทางทรยศเธอ
ไม่มีวัน...เธอต้องกำลังฝันอยู่แน่ๆ
“พี่ธีร์...บอกจีนัสหน่อยว่ามันไม่จริง” สายตาแดงก่ำของกันต์ศิตางค์มองคนรักอย่างเว้าวอน ให้เขาตอบ
ตอบอย่างที่ใจเธอหวัง...
“จีนัส...พี่ขอโทษ...พี่ผิดต่อเธอแต่พี่ต้องรับผิดชอบลูกในท้องของจีน...พี่ขอโทษจริงๆ ให้อภัยเราด้วยเถอะ”
ชายหนุ่มกลับบอกทั้งที่ไม่ได้มองหน้าด้วยซ้ำ เขามัวแต่เป็นห่วงร่างน้องสาวต่างมารดา ซึ่งกำลังร่ำร้องปานใจจะขาดอยู่เช่นกัน
ทั้งคู่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นของห้องรับแขกในบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวเธอ เพื่อ...มาสารภาพผิดในเรื่องที่เรื่องที่น่าบัดสี
“พี่จีนัส...พี่ธีร์ไม่ผิด จีนผิดเอง จีนขอโทษพี่จีนัส จีนขอโทษ...” ฉัตรชฎาผู้เป็นน้องสาวร่ำไห้อย่างสำนึกในสิ่งที่เกิดขึ้น
พี่สาวของเธอกำลังจะมีความสุขกับคนรัก เป็นเพราะเธอแท้ๆ ทุกอย่างถึงได้เกิดเรื่องพลิกผันอย่างไม่น่าให้อภัย
“พี่ธีร์ทำอย่างนี้กับจีนัสได้ยังไง...เลวที่สุด เธอ จีน...เธอเป็นน้องสาวของฉันนะ ทำไมถึงทำกับฉันอย่างนี้ ทำไม...ทำไม๊!! ฮือๆๆๆ”
ราวกับโลกหยุดหมุน ราวกับพายุหอกดาบพัดกระหน่ำทิ่มแทงจนหัวใจขาดวิ่น เหมือน...กับถูกไฟลาวาเผาผลาญให้เป็นจุล ความเจ็บปวดที่ไม่เคยคาดคิดโหมกระหน่ำเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวที่ยืนคร่ำครวญทรุดตัวลงกับพื้นท่ามกลางสายตาทุกคู่
เธอร้องไห้ เธอเสียใจ เธอเจ็บปวดที่ถูกคนรักและคนที่ไว้ใจที่สุดร่วมมือกันแทงข้างหลังมาช้านานและทุกอย่างก็มาเปิดเผยเอาในวันก่อนงานวิวาห์เพียงสองสัปดาห์
ศิลาภินคนรักที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม นับเวลาร่วมหกปีเต็มๆ เธอไว้ใจเขา เชื่อใจเขา ไม่เคยระแวงไม่เคยระวังตัวว่าคนใกล้ชิดอย่างฉัตรชฎา ซึ่งเป็นน้องสาวต่างแม่ที่อยู่รวมชายคาเดียวกันมาตั้งแต่วัยเยาว์จะเป็นแมวขโมย ลักกินขโมยกินจนถึงขนาดมีท้อง
และเขา...ก็เลือกที่จะรับผิดชอบฉัตรชฎา มากันกราบขอขมาผู้ใหญ่รวมถึงขอยกเลิกการแต่งงานกับเธอซึ่งจะมีขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้า
จะมีไหมสิ่งใดที่เจ็บได้เท่านี้ แล้วเธอจะต้องทนอยู่คนทั้งคู่สมรักกันอย่างมีความสุขทั้งๆ ที่ตัวเองร้าวรานจนแทบขาดใจอย่างนั้นหรือ
ไม่มีทาง...กันต์ศิตางค์บอกตัวเองว่าเธอไม่มีทางทำอย่างนั้นได้เด็ดขาด เธอจะต้องไปจากที่นี่ไปให้ไกล หลบไปให้พ้นหน้าคนทั้งคู่ที่ยามนี้เธอทั้งเกลียดทั้งผิดหวังทั้งขยะแขยงอย่างที่สุด
เลว...ชั่วช้า หน้าไม่อาย สารพัดคำประณามที่ในใจตะโกนก้องแต่ไม่สามารถเค้นเปล่งเสียงออกไปได้ ด้วยยามนี้ความเจ็บปวดมันจุกจนแทบหายใจไม่ออกแทบขาดใจอยู่รอนๆ...
"ไสหัวจากบ้านฉันซะ! แล้วไม่ต้องกลับมาอีกที่นี่ไม่ต้อนรับกาลกิณีที่มีเลือดชั่วๆ อย่างเธอ" "พี่อาร์ม...ปล่อยนะคะพี่อาร์มเป็นบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันดึกแล้วจะให้จันทร์เจ้าไปไหนคะ" หล่อนรู้ดีว่าเขาพูดจริงทำจริง ใจดวงน้อยแปลบปลาบหวิวเหมือนจะหลุดลอยไปตามแรงลากดึง อุตส่าห์หลบลี้หนีหน้าไม่ออกไปให้เขาเห็นวายยังถูกตามรังควาญจนได้ และที่สำคัญเขากำลังผลักไสหล่อนออกไปทิ้งข้างถนนหน้าบ้าน "อย่ามาเรียกฉันว่าพี่...ฉันไม่เคยคิดจะนับญาตินับเชื้อกับผู้หญิงกาลกิณีอย่างเธอ อย่าคิดว่ามีคุณแม่ให้ท้ายแล้วจะตีเสมอเป็นเจ้าของบ้านคนนึงได้นะ เพราะต่อไปนี้เธอ! ไม่ต้องเข้ามาเหยียบบ้านฉันอีกแล้ว จะไปไหนก็ไป!!!" ปัง! "ว้าย! พี่อาร์ม!!" ร่างเล็กถูกเหวี่ยงจนกระเด็นติดประตูรั้วที่ยังปิดสนิท แล้วยืนเท้าสะเอวทะมึงถึงจ้องหล่อนราวเป็นสัตว์เดรัจฉานน่ารังเกียจนักหนา "ออกไปซะ...ไม่มีเธอสักคนที่นี่คงสงบสุขมากขึ้น อีกหน่อยฉันจะแต่งงานพาเมียมาอยู่ที่นี่! ฉันไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องเลี้ยงลูกเมียน้อยอย่างเธอไว้เป็นหอกข้างแคร่ทำไม" พรพระจันทร์น้ำตาไหลทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้ หัวอกของหล่อนแน่นจุกกับคำถาถางด่าทอต่างๆ นาๆ ที่เขาสรรหามาพ่นพูด ชายหนุ่มจะรู้บ้างไหมว่าหล่อนก็ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ ถ้าเลือกได้หล่อนคงไม่อยากมีชีวิตอยู่เป็นภาระ เป็นตัวปัญหาของใครหรอก....
ผมไม่มีเหตุผลว่าทำไมถึงรักคุณ หัวใจสั่งให้รัก ผมก็รัก ...หรัญย์... ____________ ว่ากันว่า...หากหญิงสาวคนใดได้รับช่อดอกไม้เจ้าสาว หรือช่อบูเก้ในงานแต่งจะได้สละโสดเป็นคนต่อไป แต่ไม่เคยมีใครบอกหล่อนเลยว่า ผู้หญิงที่รับช่อบูเก้ของหล่อนได้ จะได้ว่าที่ผัวหล่อนไปด้วย!! ชีวิตต้องพลิกผันในชั่วข้ามคืน เมื่อเจ้าสาวหม้ายขันหมากอย่างณธิดาต้องหอบหิ้วหัวใจอันบอบช้ำอุ้มขวดเหล้าทั้งชุดเจ้าสาวซัดเซพเนจรหนีอดีตคนรักสุดโฉดที่ไม่โสดอย่างปากว่า เพราะมีทั้งเมียทั้งลูกมาเดินร่อนรื่นในงานแต่งที่หล่อนควรเด่นหรูที่สุด แต่กลับถูกแย่งซีนจนชุดแพงหมดแสงออร่า แล้วใครจะทน! ความเมาและบ้าบิ่นทำให้ณธิดาพบชายรูปงามท่ามกลางแสงดาวแสงเดือนและคลื่นทะเล หล่อนจึงบอกเขาว่าเมาจนความจำเสื่อมเพื่อให้เขาเอ็นดูอุปการะ ตั้งใจหันหลังให้รักครั้งเก่าที่น้ำเน่าจนเหม็นเขียว หลบลี้หนีหน้าผู้คนมาซบอกพ่อค้าผู้น่ากินกว่าลูกชิ้นปิ้งที่เขาขาย แต่กลายเป็นว่าหล่อนกลับถูกเขากิน! นัวๆ และตั้งชื่อใหม่ตามสินค้าหน้าร้านให้ว่า ‘ลูกชิ้น’ หรัญย์เป็นผู้ชายใจดี รักหมารักแมวและรักโลก ที่สำคัญ...เขาชอบกินลูกชิ้นเป็นชีวิตจิตใจ
เนื้อทองเป็นกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ พออายุได้สามขวบพ่อก็พาเข้ามาทำงานที่ไร่ของนายจ้างเก่าซึ่งผันตัวเองจากผู้รับเหมามาทำปลูกผลไม้ปลูกพืชเกตษรส่งออก เด็กสาวถูกเลี้ยงดูโดยผู้ชายตัวโตๆ ก็คือพ่อเพียงลำพัง ได้รับความเมตตาจาก 'นายใหญ่' และ 'นายผู้หญิง' เป็นอย่างดีเพราะเป็นเด็กฉลาด ช่างพูด พออายุได้หกขวบเจ้าของไร่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ อัศเวทย์หรือนายแทนลูกชายคนเดียวจึงต้องกลับมาจากเมืองนอกกลางคันทั้งที่ยังเรียนไม่จบเพื่อสานต่อความตั้งใจของบิดามารดา ดูแลไร่แห่งนี้ในฐานะเจ้าของไร่คนใหม่อย่างเต็มตัว เนื้อทองเติบโตมาท่ามกลางสังคมของชาวไร่ชาวสวนที่เป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ หล่อนจึงไม่ใคร่เรียบร้อยนัก กะโหลกแก่นแก้ว แต่ก็มีความอดทนสูงเหมือนพ่อ หล่อนเรียนรู้ทุกอย่างมาจากผู้ให้กำเนิด จนกระทั่งเมื่ออายุได้สิบสองปี พ่อก็พาหล่อนระหกระเหินไปยังถิ่นฐานอื่นอีกครั้ง เนื้อทองไม่อยากจากไร่ ไม่อยากจากทุกคนที่หล่อนรักไปเลย แต่ก็จำใจต้องตามบิดาที่มีเหตุผลส่วนตัวในการจากไปหนนั้น แต่แล้วหกปีต่อมา 'นายแทน' ก็ตามหาตัวหล่อนและพ่อให้กลับมาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าคนงานอีกครั้ง ...พ่อก็ยอมเพื่ออนาคตของหล่อน กลับมาคราวนี้อะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป นายแทนแต่งงานกับอดีตพยาบาลสาวสวยชื่อพี่หม่อน พี่สาวใจดีที่นิสัยต่างจากนายราวฟ้ากับเหว พี่หม่อน...คือนางฟ้าแสนดีสำหรับเนื้อทอง แต่พี่หม่อนสุขภาพไม่ค่อยดีนายจึงหวงและเป็นห่วงมาก นายรักพี่หม่อน พี่หม่อนก็รักนาย ส่วนเนื้อทอง...เป็นเด็กที่สร้างแต่ความรำคาญหูรำคาญตาให้นายอยู่เสมอจนถูกดุอยู่ร่ำไป แต่ก็ได้พี่หม่อนคอยปกป้องเสมอ การมีพี่หม่อนเป็นช่วงชีวิตที่เนื้อทองรู้สึกมีความสุขที่สุด แต่ความสุขสำหรับหล่อนมันไม่เคยยั่งยืน วันหนึ่งพี่หม่อนก็จากไป...พร้อมๆ กับความเกลียดชังของนายแทนที่มีต่อหล่อนก็ได้ก่อตัวขึ้น เขาพร้อมที่จะทำลายหล่อนเพื่อบรรเทาความคับแค้นในใจอยู่ทุกเวลา... -------------- -------------- “ท้องไส้อยู่ไม่ใช่เหรอ ทำตัวเป็นลิงเป็นค่างให้ดีเถอะ ลูกฉันเป็นอะไรขึ้นมาเธอเดือดร้อนแน่เนื้อทอง” “...” หล่อนอ้าปากค้าง ใจเต้นระส่ำกับคำพูดของแทน เมื่อคืนหล่อนไม่ได้ถามหมอพงศ์ว่ามีใครบ้างที่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ของหล่อนบ้าง แต่ตอนนี้คงไม่ต้องหาคำตอบแล้ว เพราะนอกจากแทน...ก็ไม่มีใครน่ากังวลอีก หรือจะมีก็คงเป็นพ่อของหล่อน ซึ่งเนื้อทองยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดีเมื่อพ่อกลับมา “ถ้ารอดจากกระท่อมร้างท้ายสวนนั้นมาได้...ก็คงไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ” แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ แต่มันก็แฝงไว้ด้วยความขมขื่นมากมาย ตลอดสามเดือนที่หล่อนต้องอดทนอยู่ที่นั่น มันเหมือนกับโลกอีกโลกหนึ่งที่ถูกตัดขาดจากทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนหล่อนไม่ใช่คน... “...” แทนมองด้วยสายตาไม่พอใจนัก แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร “อีกอย่างนะคะนาย ลูกเป็นของเนื้อทองคนเดียวค่ะ” พูดจบหล่อนหันหลังให้เขาแล้วเดินออกจากไป แต่แทนก็คว้าต้นแขนรั้งเอาไว้เสียก่อน “ถึงจะไม่ได้นอนกับเธอแบบนับไม่ถ้วน แต่ฉันก็มั่นใจว่าที่ลูกไปอยู่ในท้องเธอได้เพราะฉันทำ และฉันไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นอย่าแม้แต่คิดทำอะไรโง่ๆ เพราะฉันไม่ยอมแน่”
รัก...ไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่รักหรือไม่รัก ความรัก...ไม่ใช่รางวัลของความดี ทำดีหรือไม่ดีไม่ได้มีผลอะไร...เพราะคนไม่รักก็คือไม่รัก ------------- คุณเชื่อในเรื่อง ‘รักแท้’ ไหม เคยคิดหรือเปล่าว่าจะมีใครสะกดหัวใจของคุณไว้ แค่เพียงครั้งแรกที่เจอในช่วงเวลาสั้นๆ และหวั่นไหวทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องราวประทับใจเหล่านั้น แต่เขาไม่เคยจำ... ผ่านไปเนิ่นนาน... ในวันหนึ่งเมื่อฝันของคุณเป็นจริงขึ้นมา คุณได้อยู่เคียงข้างเขา ได้เป็นของเขา... คุณกลับพบว่าไม่มีอะไรเหมือนอย่างที่วาดฝันเอาไว้เลย ไม่มีเจ้าชาย ไม่มีความดีงามใดๆ ในตัวเขาที่คุณเคยศรัทธา... ทุกๆ วันมีแต่ความเลวร้ายที่คอยบั่นทอนให้จิตใจล่มสลาย ทุกๆ อย่างในตัวคุณไร้ค่าสำหรับเขา คุณไม่เคยได้เป็นคนสำคัญ และไม่มีวันได้เป็น คุณเป็นได้แค่เงาของใครบางคนที่เขาไม่เคยลืม แล้วคุณยังจะรักเขาได้เหมือนเดิมไหม ยังคงคิดว่าเขาคือ ‘รักแท้’ ของคุณหรือเปล่า....
บาปใดๆ ไหนเล่า...จะหอมหวานเท่าบาปสวาท ------------------- ปัง!! เพล้ง!! ขวดแก้วนั้นถูกปาเต็มแรงบุรุษไปกระทบกับประตูห้องที่สายตาคมเข้มเขม่นมองเคร่งขรึม เศษแก้วแตกกระจายเกลื่อนพื้น น้ำเมากระเด็นติดทั้งประตู ฝาผนังและพื้นตามแรงอารมณ์กราดเกรี้ยว หากนึกย้อนกลับไปคิดทบทวนดีๆ สัตตบงกชเป็นคนเอาเหล้าเข้ามาให้เขาก่อนจะขอตัวขึ้นไปนอน และเขาก็นั่งดื่มจนดึก...หลังจากนั้นก็ไม่รู้ตัวเลยว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งช่วงเช้า ทั้งที่...การดื่มก็ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา ต่อให้เมาแค่ไหนก็ไม่เคยไร้สติจนเลอะเลือนความทรงจำสูญสิ้น...อย่างเช่นเมื่อคืนที่ผ่านมา สันกรามขบเข้าหากันแน่นจนเกิดเสียงกรอดผ่านไรฟันหันกลับมาเปิดประตูห้องตัวเองแล้วย่างเท้าเข้าไปทันที มือนึงดึงประตูกระแทกปิดไม่เบาแรงนักตามอารมณ์ที่กำลังฉุนเฉียว นี่เขาต้องนอนร่วมบ้านกับผู้หญิงที่เพิ่งทำให้ครอบครัวของเขากับภรรยาแตกหักไม่มีชิ้นดีอย่างนั้นเหรอ ในคืนที่ฝนฟ้ากระหน่ำตกไม่ลืมหูลืมตา เมียรักต้องจากจรหนีไปอยู่ไหนเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ แต่คนก่อปัญหาร่วมกับเขากลับยังอาศัยอยู่ภายใต้หลังคาบ้านที่เพิ่งถูกสุมไฟจนวายวอด
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เจียงหยวนชอบเสิ่นตู้มาเป็นเวลาสี่ปี แม้จะต้องเผชิญความรังเกียจจากตระกูลเจียง แต่เธอก็ยังเลือกยืนหยัดเคียงข้างเขา กระทั่งวันหนึ่ง เสิ่นตู้เพื่อพี่สาวของเขา ยอมยกให้เธอไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่สุด เธอถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงก็คือไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่คนที่ใช่ งั้นเธอยอมตัดทิ้งแล้วกัน เธอหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานจนกลายเป็นนางแบบระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกตะลึง ผู้ชายที่ทำร้ายเธอรู้สึกเสียใจ“หยวนหยวน โลกของฉันขาดเธอไม่ได้ กลับมานะ” ตลกสิ้นดี ผู้ชายมันจะเทียบกับอาชีพการงานได้ที่ไหน ! ** เจี่ยงเฉินโจว ผู้นำของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนแสนเย็นชา แต่อยู่ลับหลังกลับเป็นคนคลั่งรัก เขาชอบความงามของเจียงหยวน เห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อง ต่อมา บนพรมแดงท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ชายผู้ก้าวลงจากเวทีคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าสาธารณะ“ถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไร ฉันก็ยินยอม”
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY