‘มาร์คัส นิคาซิโอ้’ นักธุรกิจเลือดเย็น ไร้หัวใจ และเป็นเสือผู้หญิง เขาไม่ชอบการผูกมัดแต่สนุกกับการเปลี่ยนรสชาติคู่นอนไปเรื่อยๆ ‘เหมือนฟ้า’ หญิงสาวพรหมจรรย์ที่ถูกขายให้มาเป็นคู่นอนชั่วคราวของมาร์คัส เมื่อเธอต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาร่วมกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งในฐานะนางบำเรอ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขามีอะไรด้วยโดยลืมที่จะป้องกัน ทั้งที่ปกติแล้วไม่เคยพลาดเรื่องนี้สักครั้ง เธอทำให้เขาฉีกทุกกฎเกณฑ์ที่เคยตั้งไว้ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา เพื่อปกป้องลูกในท้องจึงต้องหนีไปโดยไม่บอกเขาสักคำว่าในท้องของเธอมีสายเลือดของเขาอยู่ เขาจึงพลิกแผ่นดินอย่างบ้าคลั่งเพื่อตามหาเธอ... โทษฐานที่กล้าหนีไปจากเขา คือเธอต้องมาเป็นภรรยาเพียงคนเดียวที่เขารักตลอดไป
มาร์คัส นิคาซิโอ้ นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้สีดำสนิทภายในห้องหรูหราของโรงแรมที่มีเพียงเศรษฐีเท่านั้นที่จะเข้าพักได้ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มมองดูผู้หญิงสิบคนที่ยืนสวมชุดชั้นในเรียงแถวอยู่ต่อหน้า
สาวๆ เหล่านี้ดีกรีระดับนางแบบ ดารา พริตตี้ ทรวดทรวงองค์เอวเป๊ะหมดทุกจุด จุดไหนที่ไม่เป๊ะก็ไปเสริมแต่งด้วยเทกนิคทางการแพทย์จนงดงามสมบูรณ์แบบ
ทั้งหมดต่างยิ้มยั่วยวนเขา หวังว่าจะได้เป็นหนึ่งในคนที่เข้าตามาร์คัส...
ถึงแม้ว่าเขาจะได้ชื่อว่าเป็นจอมโหดและไร้หัวใจ แต่เขาก็มีเงินเยอะมาก และพร้อมจะมอบรางวัลให้ผู้หญิงที่ทำให้เขาถูกใจ ไม่ว่าปรารถนาสิ่งใด คงมีเพียงเดือนดาวและทะเบียนสมรสเท่านั้นที่เขาไม่สามารถให้ใครได้
ถ้าพูดถึงทรวดทรงที่โดนใจสุดคงไม่พ้น... ชายหนุ่มจับจ้องมองโศภิตา ดีกรีดารานางยั่วสุดเซ็กซี่ ก่อนชี้นิ้ว
“ฉันเลือกเธอ”
หญิงสาวยิ้มกว้าง เชิดหน้าขึ้น ท่ามกลางสีหน้าผิดหวังของสาวๆ คนอื่น เธอนวยนาดมาย่อกายตรงหน้ามาร์คัส
“ขอบคุณนะคะคุณมาร์คัส”
“อย่าเรียกทำสนิทกับฉัน” บอกเสียงเย็น “ให้เรียกฉันว่านิคาซิโอ้”
เธอหน้าเสียเล็กน้อย แต่พอคิดว่าตัวเองโชคดีที่จะได้ปรนนิบัติมาร์คัสเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อแลกกับสิ่งที่ต้องการ เธอก็กลับมายิ้มหวานได้ตามเดิม
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ ฉันชื่อโศภิตานะคะ เรียกว่าโศก็ได้”
ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนปรายตามองผู้หญิงที่เหลือ “ใส่เสื้อผ้าแล้วก็ไปรับเงินค่าเสียเวลาได้”
ทุกคนทอดถอนหายใจยาวเหยียด ก้มเก็บเสื้อผ้ามาสวม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปรับเงินชดเชยค่าเสียเวลาจากลูกน้องคนสนิทของมาร์คัสที่รออยู่
ชายหนุ่มสั่งโสภิตา “ถอดชุดชั้นในออกซะ”
เธอรีบร้อนถอดออกด้วยความเต็มใจ ก่อนจะขึ้นไปนอนทอดกายอยู่บนเตียงรอ ร่างสูงใหญ่ลุกตามขึ้นเตียง ถามเสียงเย็นชา
“รู้ใช่ไหมว่าเธอมีหน้าที่ทำให้ฉันมีความสุข 1 เดือน”
“รู้ค่ะ”
“แล้วฉันจะให้ทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเงิน ทอง หรือทรัพย์สินอะไร”
“ค่ะ” เธอพยักหน้า ดวงตาเป็นประกาย ในขณะที่มาร์คัสปลดเข็มขัดออกแล้วรูดซิบกางเกง ควักเจ้าโลกออกมาโดยไม่ถอดเสื้อผ้าตัวเองแม้แต่ชิ้นเดียว จากนั้นก็จับเธอแหกขาแล้วสวมถุงยาง จากนั้นยัดเยียดความเป็นชายเข้าไป กระแทกกระทั้น ไม่เล้าโลม ไม่สร้างบรรยากาศอะไรทั้งสิ้น ซอยๆ ไม่ฟังเสียงอะไรจนเธอเจ็บแสบเพราะแรกๆ นั้นขาดน้ำหล่อลื่น
“อะ...” เธอตาเหลือก จุกและแสบไปหมด คู่นอนที่ผ่านมาของเธอไม่มีใครดิบและเถื่อนขนาดนี้มาก่อน จากที่ควรมีความสุขสมก็กลายเป็นความเจ็บปวด
“ทำไม...ไม่ชอบหรือไง” เขาถามเสียงเรียบ แววตาเฉยเมย ซึ่งเธอรู้ดี...หากเขาไม่พอใจก็จะไล่ให้ออกจากห้องได้ง่ายๆ แม้จะยังไม่เสร็จก็ตาม หญิงสาวฉีกยิ้ม แสร้งครางกระเส่าเหมือนเสียวมาก ทั้งที่จริงๆ แล้วเจ็บ และภาวนาให้เกมพิศวาสครั้งนี้จบลงไวๆ
“ชอบสิคะ อ๊ะ อ๊าส์ส์”
เขายิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น...เนิ่นนานจนเธอหมดแรง ทั้งที่เป็นฝ่ายนอนเฉยๆ ทว่าเรี่ยวแรงกลับหดหาย ต่างจากชายหนุ่มที่ยังคงความเสมอต้นเสมอปลายในการกระหน่ำทิ่มแทง มีเพียงหยดเหงื่อที่ซึมเล็กหน่อยตรงข้างขมับเท่านั้นที่บอกให้รู้ว่าเขาใช้แรงเยอะแค่ไหน
“มะ ไม่ ไม่ไหวแล้วค่ะ อา...” เธอครางในลำคอ สั่นไปทั้งตัว กว่าเขาจะเสร็จสิ้นบทสวาทก็ใช้เวลานาน...นานจนเธอแทบจะตายเอาเสียให้ได้
เสร็จกิจ มาร์คัสก็ผละถอยห่างทันควัน รูดซิบกางเกง ไม่เหลือบมองร่างดาราสาวที่นอนระทวยหน้าซีดอยู่บนเตียงสักนิด
“เดี๋ยวย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านฉัน1 เดือนนะ”
“ค่ะคุณนิคาซิโอ้” รับคำเสียงแผ่วโหยเหมือนคนใกล้ตาย ในขณะที่ชายหนุ่มเปิดประตูออกจากห้อง วันนี้เขาเหมาชั้นบนสุดของโรงแรมทั้งชั้น นอกห้องสวีทจึงมีแต่คนของเขาพลุกพล่าน
เขาเป็นคนรักษาความสะอาด ทุกครั้งที่มีเซ็กซ์กับใครจะต้องสวมถุงยาง แม้ลึกๆ จะอยากทำสดๆ โดยไม่ต้องใช้ถุง แต่เพราะผู้หญิงที่ต้องการเงินจนยอมปรนเปรอกามให้เขานั้นแต่ละคนก็ล้วนเคยมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่ามาแล้วทั้งนั้น
จะว่าไปตั้งแต่เขาเริ่มทำผู้หญิงเป็น ไม่มีสักครั้งที่จะได้ชิมรสสาวบริสุทธิ์
แต่ก็เอาเถอะ แค่ได้ปลดปล่อยก็พอใจแล้ว
เรนดิชยืนพินอบพิเทา อีกหลายคนยืนเอามากุมเป้าก้มหน้าเรียงรายอีกเกือบสิบคน...บนพื้นกระเบื้องที่เยียบเย็นมีร่างเล็กบางในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นตัวเก่าๆ นั่งคุกเข่าก้มหน้าอยู่ ผมหยักศกยาวถึงกลางหลังยุ่งรุงรัง
“ท่านครับ...” เรนดิชปรายตามองสาวร่างเล็กที่ไม่ยอมเงยหน้าสบตาใครทั้งสิ้น “ผมไปทวงหนี้จากไอ้ลมแล้ว แต่มันบอกไม่มีอะไร ทรัพย์สินมีค่าในบ้านก็ขายจนเกือบหมด มันให้ตัวผู้หญิงคนนี้มา บอกว่าเป็นน้องสาวมัน ขอยกให้ท่านเพื่อขอลดหนี้ครับ”
มาร์คัสขมวดคิ้ว “จะบ้าหรือไง เงินตั้งสองล้าน จะให้ตัวเด็กมอมแมมมาคนนึงเพื่อขอลดหนี้เนี่ยนะ บาทเดียวฉันยังไม่อยากลดให้เลย”
“ถ้าขัดเนื้อขัดตัวดีๆ แล้วส่งไปขายล่ะครับ” เรนดิชแนะนำ คิดว่าปกติเจ้านายของเขาก็ทำธุรกิจสีเทาๆ อยู่แล้ว แต่เรื่องยาเสพติดกับค้ามนุษย์นี่ไม่เคย ถ้าหากทำล่ะก็...จะต้องรุ่งแน่ “ลองทำด้านนี้ดูบ้างดีไหมครับ”
หญิงสาวเนื้อตัวสั่นเทา มือกำแน่นวางบนต้นขา รูปร่างที่ผ่ายผอมและท่าทางหวาดกลัวของเธอทำให้มาร์คัสมองขันๆ
“ไหนเงยหน้าขึ้นสิ”
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"