พฤกษ์ เกริกเกียรติสุริยะ... เขารักเธอไม่มีวันเปลี่ยนแปลงและจะรักตลอดไป “เจ็บหรือเปล่า ทำไมไม่หลบ” นิ่มสัมผัสถึงน้ำเหนียวๆ ที่ติดมากับเล็บและมือ เธอทำเขาเลือดตกยางออกอีกแล้ว “หลบได้ไง เมียกำลังโมโห ถ้าหกล้มฟาดไปจะทำยังไง พี่เป็นห่วงนิ่ม ห่วงลูกของเรานะ” พฤกษ์คุกเข่าลงตรงหน้า เขาแนบหน้าโอบกอดเอวเธอเอาไว้ “พี่พฤกษ์” “เจ็บแค่นี้เล็กน้อย พี่ยอมทำให้เมียและลูกรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ระบายอารมณ์ ยอมเป็นกระสอบทรายให้ทั้งสองคนฟัดตลอดชีวิตเลย” “พี่พฤกษ์” นิ่มอนงค์ปิดปากร้องไห้โฮ รู้สึกตื้อในอก มีผู้ชายแบบนี้อยู่ในโลกจริงเหรอ *** นิ่มอนงค์ พงศ์ไพบูลย์วิทยา... เธอเพิ่งรู้ว่ารักเขา ผู้ชายที่ทำทุกอย่างเพื่อเธอมาทั้งชีวิต ในวันที่เขาจะจากไป เธอไม่มีวันยอมโดยเด็ดขาด “หวงนิ่มเหรอ” นิ่มอนงค์ยิ้มจนแก้มพองเมื่อได้ยินประโยคของเขา อารมณ์ตึงเครียดคราแรกแปรเปลี่ยนเป็นรื่นรมย์ในทันที “ใครพูด ยังไม่ได้พูดสักคำ” พฤกษ์ตอบหน้าตาย เขาจับขาเธอพาดบ่า “อื้อ... พี่พฤกษ์” นิ่มอนงค์หยัดสะโพกรับ “กะจะจับพี่โดยการปล่อยตัวให้ท้องหรือไง” “คิดว่าได้ผลไหมคะ นิ่มอยากจะปรึกษาเรื่องนี้กับพี่พฤกษ์อยู่เหมือนกัน ถ้าได้ผลนิ่มจะได้ปล้ำพี่พฤกษ์ทั้งวันทั้งคืนให้ตัวเองตั้งท้อง” เธอหัวเราะคิก พฤกษ์เข่นเขี้ยว ทำให้คนปากดีครางไม่เป็นภาษา
ภาณุ พงศ์ไพบูลย์วิทยา พ่อเลี้ยงหนุ่ยวัยสามสิบห้า กำลังครุ่นคิดอย่างหนักขณะฟังคำพูดของอดีตน้องภรรยากำลังขอร้องแกมอ้อนวอนอยู่ตรงหน้า ใช่จะไม่รู้ว่านงนภัสนั้นรักและเอ็นดูบุตรสาวอยู่มาก แต่การจะปล่อยให้ลูกน้อยห่างอกไปอยู่ไกลหูไกลตา คนเป็นพ่ออย่างเขาย่อมจะคิดมากเป็นธรรมดา
“นงรู้ดีว่าพี่ณุรักหนูนิ่มมาก นงก็รักหลานนะคะ หลานไปอยู่กับนิ่มที่กรุงเทพฯ จะได้เรียนหนังสือโรงเรียนดีๆ นงสัญญาว่าจะดูแลหลานอย่างดีแน่นอนค่ะพี่ณุ คุณวัฒน์เอ็นดูหนูนิ่มเหมือนลูก เราสองคนมีลูกไม่ได้ อย่างไรเสียจะรักลูกของพี่เหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง เลี้ยงดูแกอย่างดี พี่ณุไม่ต้องห่วงนะคะ”
นงนภัสพูดเสียยืดยาว เธอพยายามหว่านล้อมพี่เขยอยู่นาน ยิ่งเห็นอาการลังเลของอีกฝ่ายก็ยิ่งพูดโน้มน้าวต่อไป นงนภัสเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ภาณุเองรู้จักนิสัยส่วนนี้ของน้องภรรยาดี เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายจะไม่รักนิ่มอนงค์นั้นไม่ได้เป็นปัญหาให้ต้องกังวลใจ ที่เขากังวลเพราะลูกน้อยต้องห่างจากอกคนเป็นพ่ออย่างเขา
“พี่ณุมีภรรยาใหม่แล้ว เดี๋ยวต้องมีลูกด้วยกันอีกหลายคน อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะคะ นงกลัวหลานจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา ไม่ใช่กลัวพี่ณุจะเลี้ยงลูกไม่ดี หรือกลัวเมียใหม่ของพี่จะไม่รักหนูนิ่ม แต่อย่างว่าแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง นงไม่อยากพูดมากเรื่องนั้น พี่ณุคงเข้าใจ ให้หนูนิ่มไปอยู่กับนงนะคะ เพื่ออนาคตของหลาน ถ้าเกิดพี่ณุมีลูกใหม่ หนูนิ่มอาจจะรู้สึกว่าโดนแย่งความรักไปก็ได้”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นเลยนงนภัส หากพี่จะให้ลูกไปอยู่กับเธอแสดงว่าพี่มั่นใจว่าเธอจะรักลูกพี่เหมือนลูกตน”
ภาณุรู้ดีว่านงนภัสรักนิ่มอนงค์บุตรสาวของเขามาก ทั้งปรีชาวัฒน์สามีของหล่อนก็ไม่ต่างกัน เรื่องที่ว่าทั้งสองจะดูแลนิ่มอนงค์ไม่ดีนั้นเขาไม่ได้นึกห่วง จะนึกห่วงตามประสาพ่อที่ต้องให้ลูกไปอยู่กับคนอื่นเท่านั้น แม้เหตุผลของนงนภัสที่ยกมาเอ่ยอ้างจะไม่มีวันเกิดขึ้นก็ตามที เหตุเพราะนิ่มอนงค์นั้นรักและผูกพันกับนงนภัสเอามากๆ อยากจะไปอยู่กับน้าสาวมากกว่าอยู่กับเขาเสียอีก
“นงคุยกับหลานแล้ว หลานตอบตกลงว่าจะไปอยู่กับนง ขอแค่พี่ณุอนุญาตเท่านั้น ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาอะไร” นงนภัสพูดความจริงทุกคำ เธอคุยกับหลานสาวแล้ว นิ่มอนงค์ตกลงที่จะไปอยู่กับเธอ เพราะตลอดระยะเวลาที่พี่สาวป่วยเธอเป็นคนดูแลนิ่มอนงค์เสียเป็นส่วนใหญ่
จริงๆ แล้วเหตุผลที่เอ่ยอ้างเรื่องหลานสาวว่าจะได้เรียนโรงเรียนดีๆ นั้นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด นงนภัสกลัวว่านิ่มอนงค์จะมีปัญหากับภรรยาใหม่ของพี่เขย เลยไม่อยากให้หลานสาวอยู่ที่นี่คนเดียว นารถลดาพี่สาวของเธอก็เช่นกัน ใช่ว่าจะมีความสุขนักตั้งแต่ใช้ชีวิตคู่กับภาณุ ถ้าไม่ใช่เพราะภาณุทำให้พี่สาวของเธอท้องและต้องรับผิดชอบคงไม่แต่งงานกัน
ภาณุมีนิสัยเจ้าชู้ การที่นารถลดาพี่สาวของเธอตั้งท้องนั้นเป็นเรื่องผิดพลาด ภาณุแค่หวังจะหลอก แต่เพราะเหตุการณ์กลับตาลปัตร บิดามารดาไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ภาณุเป็นคนกว้างขวาง มีหน้ามีตาทางสังคม มารู้อีกทีว่า นารถลดานั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่จะทำเล่นๆ ได้ เขาจึงรักษาชื่อเสียงโดยการแต่งงานกับพี่สาวของเธอในที่สุด เพื่อไม่ให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โต เนื่องจากตอนนั้นบิดามารดาโกรธมากที่ภาณุคิดจะไม่รับผิดชอบ นิ่มอนงค์ไม่เคยรู้เรื่องนี้ และไม่มีใครเอ่ยถึงอีก เพื่อไม่ให้คนใกล้ชิดสะเทือนใจไปมากกว่านี้
“คุณพ่อกับคุณแม่ก็อยากให้หลานไปอยู่ด้วย”
นงนภัสหยิบไม้ตายสุดท้ายขึ้นมา ใช่ว่าบิดามารดาของเธอจะโปรดปรานลูกเขยคนนี้นัก ท่านออกจะไม่ชอบขี้หน้าพี่เขยของเธออยู่มาก ถ้าไม่เห็นแก่มีนิ่มอนงค์และนารถลดา พี่เขยของเธอคงได้เป็นข่าวฉาวโฉ่เสียชื่อไปนานแล้ว
“ก็ได้ แต่เธอต้องสัญญากับพี่ว่าจะพายัยหนูกลับมาที่นี่ทุกปิดเทอม”
ภาณุยินยอมในที่สุด แม้เขาจะมีภรรยาใหม่ ซึ่งภรรยาคนนั้นเป็นคนรักเก่าของเขาเมื่อหลายปีก่อน แต่ศิริวรรณเป็นคนดี เธอทนไม่ไหวที่เขาเจ้าชู้เลยประชดไปแต่งงานกับเลิศ ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเขาแทน ทำให้หมางใจกันอยู่พักหนึ่ง พอเลิศเสียชีวิตเขาจึงตามจีบศิริวรรณอีกครั้งเพื่อต้องการเธอกลับมาเป็นของเขาให้จงได้ แต่เพราะทำให้นารถลดาท้องเสียก่อน เขาจึงต้องรับผิดชอบผู้หญิงอีกคน เรื่องที่เขาทำให้นารถลดาท้องนั้นไม่เคยคิดปิดบังศิริวรรณ เนื่องจากตอนนั้นถึงจะยังเจ้าชู้แต่ก็คิดจะยกย่องศิริวรรณเป็นภรรยาออกนอกหน้านอกตา
เขามั่นใจว่าศิริวรรณเป็นคนดีพอ คบหากันมานานและรู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี ศิริวรรณรักและเอ็นดูนิ่มอนงค์ บุตรสาวของเขามาก ตอนที่เขาสารภาพว่าทำให้นารถลดาท้อง เธอยังบอกให้เขาไปรับผิดชอบนารถลดา เธอไม่ด่าไม่ว่าไม่โกรธหรือตำหนิเขาสักคำ แม้เขาจะเป็นผู้ชายเจ้าชู้ และไม่เคยขาดเรื่องบนเตียง แต่ใจเขายกย่องศิริวรรณเป็นหนึ่งในดวงใจเพียงคนเดียวเท่านั้น
ภาณุคิดอย่างผู้ชายเจ้าชู้ทั่วไปที่เขาอาจจะมีผู้หญิงข้างกายมากมาย แต่มีหญิงเดียวที่เขายกย่องเชิดชูให้อยู่เหนือหญิงอื่นใด หลายครั้งที่เขาคิดเห็นแก่ตัวว่าผู้หญิงที่รักเขาต้องเข้าใจในความเป็นเขา แม้จะเจ้าชู้ก็ไม่เคยยกย่องให้เกียรติใครเกินหน้าเกินตา
“ได้สิคะพี่ณุ นงสัญญาว่าถ้าไม่ติดอะไร จะพาหลานมาหาพี่ทุกปิดเทอมค่ะ”
นงนภัสหันไปยิ้มกับสามีเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ ภาณุพยักหน้าให้อดีตน้องภรรยา อีกฝ่ายรีบกุลีกุจอไปช่วยนิ่มอนงค์จัดของ รีบออกเดินทางไปในวันนั้นเลย
หลังจากเดินทางมากพักที่ไพรวัลย์ได้สามวัน และตลอดระยะเวลาสองผัวเมียก็เอ่ยขอนิ่มอนงค์ไปเลี้ยงอยู่ตลอดด้วยความมุ่งมั่นจนภาณุใจอ่อน หันไปปรึกษาศิริวรรณ ภรรยาของเขาเสนอว่าให้นิ่มอนงค์เป็นคนเลือก และบุตรสาวก็เลือกน้าสาวแทนที่จะอยู่กับบิดาเช่นเขา ทำให้รู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย
“อย่าลืมกลับมาเยี่ยมพ่อนะหนูนิ่ม พ่อรักหนูนะคนดี” แม้นิ่มอนงค์จะเกิดจากความผิดพลาดของเขาที่ทำให้นารถลดาท้องอย่างไม่ตั้งใจ แต่เขาก็รักบุตรสาวคนนี้ที่สุด
ตอนนั้นเขาคึกคะนองตามประสา หลังศิริวรรณไปแต่งงานกับยศ เขาก็ทำตัวเสเพลยิ่งกว่าเก่า หลอกผู้หญิงไปทั่ว เขาได้เจอกับนารถลดาด้วยความบังเอิญ อีกฝ่ายอ่อนเดียงสา หลงติดบ่วงเขาอย่างง่ายดาย ใครจะคิดว่าหญิงสาวในเมืองกรุงอันศิวิไลซ์ยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ได้ แถมยังไม่รู้จักวิธีป้องกันตัวเองเหมือนผู้หญิงเจนจัดคนอื่นๆ ที่เขาเคยผ่านมา
พอจะสลัดเธอทิ้งกลับทำไม่ได้ดั่งใจหมาย เมื่อบิดามารดาของเธอเป็นคนมีหน้ามีตาในวงสังคม อีกทั้งมีอำนาจชื่อเสียงเงินทองมากมายที่จะเล่นงานเขาให้กระอักได้ เขาจึงต้องแต่งงานกับนารถลดา แม้ส่วนลึกในจิตใจจะมีศิริวรรณอยู่เสมอ แต่นารถลดาก็แสนดีและอ่อนโยน หัวใจของเขาอ่อนไหวทุกครั้งที่ใกล้เธอ แต่ทิฐิที่ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าหลังจากโดนบิดามารดาของเธอบังคับ จึงไม่ได้ทำตัวเป็นสามีที่ดีนัก ทั้งยังเจ้าชู้ไม่เลิก
“หนูก็รักพ่อค่ะ” นิ่มอนงค์จุ๊บแก้มบิดาซ้ายขวา ก่อนจะขึ้นรถไปตามน้าสาวที่เธอรักประดุจดั่งมารดาเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
ภาณุมองตามท้ายรถไปด้วยความรู้สึกใจหาย ศิริวรรณบีบมือสามีเอาไว้อย่างให้กำลังใจ ส่วนพฤกษ์...วัยสิบขวบ เขาเป็นลูกติดของศิริวรรณกับเลิศ เด็กชายตัวน้อยวัยสิบขวบมองตามไปด้วยจนสุดตา
น้องน้อยของเขา จะไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้วสินะ…
สิบเจ็ดปีต่อมา...
“พ่อของนิ่มอยากให้หนูกลับไปไพรวัลย์ด่วนที่สุด เห็นว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับหนูน่ะจ้ะ” นงนภัสเอ่ยบอกหลานสาวที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอก
ตอนนี้นิ่มอนงค์กลายเป็นสาวสวยวัยยี่สิบสองปี สำเร็จการศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอให้หลานพักผ่อนก่อนค่อยเข้าไปเริ่มทำงานในบริษัท ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว เธอกับปรีชาวัฒน์ไม่มีลูกก็อยากให้นิ่มอนงค์สืบทอดกิจการทุกอย่าง
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
“พี่นุยังรักลินอยู่ไหม...” คำถามที่ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเธอจะต้องเป็นคนถามมันกับเขาดังขึ้น มันคือคำถามที่เธอไม่เคยอยากได้คำตอบ เพราะกลัวว่าถ้ามันเกิดไม่ตรงใจขึ้นมาเธอคงเจ็บปวดเจียนตายน่าดู แต่เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว ทนอยู่กับความรู้สึกบ้าๆ พวกนี้ไม่ไหวแล้ว “ลิน ใจเย็นๆ แล้วฟังพี่ก่อน…” ปรเมศวร์เองก็เริ่มได้สติหลังจากได้เห็นแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความปวดร้าวของอีกคนเข้า มันทำให้เขาคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้นเหตุมันมาจากตรงไหน และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง เขาเองที่ผิด ผิดที่พาช่อลดามาที่นี่
"เธอมาหาน้องชายฉันเพราะอยากขายตัวแลกหนี้ใช่ไหม .. เสียใจด้วยนะเพราะฉันไม่ใช่ไอ้วิลเซนต์ แล้วผู้หญิงอย่างเธอน่ะ อย่าว่าแต่เอาตัวแลกหนี้หลักล้านเลย แค่หลักร้อยฉันยังเสียดายเงิน" วิลเซอร์ หนุ่มหล่ออายุ 24 ปี เป็นชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิด และเป็นหนึ่งในลูกชายแฝดสาม ที่รู้จักกันในนามทริปเปิลวิล เขาเป็นแฝดคนกลางของพี่น้องฝาแฝดชายสามคน หรือบางคนเรียกเขาว่า V2. ครอบครัวพวกเขาเป็นมาเฟียกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ย่าตาทวด มีกิจการตั้งแต่ขาวไปจนถึงเทา เขาเป็นคนเงียบๆ เนี้ยบ และเฉียบขาด สิมิลัน หรือ เก้า เด็กสาวอายุ 22 ปี ที่ชีวิตอาภัพเหลือเกิน เพราะตั้งแต่สูญเสียพ่อไป ชีวิตของเธอก็เริ่มเสียศูนย์และดิ่งลงเหว ชีวิตตกอับขั้นสุดแม้กระทั่งคนที่เธอเรียกว่าแม่ ยังทำให้เธอผิดหวังและเจ็บปางตาย เธอพยายามรักษาบ้าน ที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของพ่อไว้เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ แต่สุดท้ายก็ถูกทริปเปิลวิลล์ยึดไป สิมิลันขอเข้าพบเจ้าหนี้ หวังว่าจะได้รับความเมตตาจากพวกเขาบ้าง แต่เธอคิดผิดถนัด เพราะนอกจากเขาจะไม่ช่วยแล้ว ชีวิตเธอกลับยุ่งวุ่นวายมากกว่าเดิมเสียอีก ชีวิตเธอจะขึ้นสวรรค์หรือดิ่งลงเหว มาลุ้นไปด้วยกันค่ะ "ญาตาวีมินทร์" นิยายเซ็ทมาเฟียตระกูลทริปเปิลวิลล์ แฝดสามสุดหล่อที่มีบุคลิกและนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง มีทั้งหมดสามเรื่องตามแผนผังดังนี้ค่ะ แผนผังตัวละคร ชุดทริปเปิลวิลล์ สุภาพบุรุษมาเฟีย (คู่หลัก) วิลสัน+พุทธมิกา = วินเนอร์ - วินนี่ / วิโอร่า - วีโอเล็ต (คู่รอง) จอนนี่-วันมาตา = มาร์ติน – มารียา หลงกลรักมาเฟีย (คู่หลัก) วิลเซอร์+สิมิลัน = สมิหลา – อันดามัน / วิคเตอร์ – พีพี - ลันตา (คู่รอง) อัลเฟรด-ดาหลา = ลีออง – รีอัล ผัวมาเฟียเมียกำมะลอ (คู่หลัก) วิลเซนต์+ไอด้า = วิลตัน-วิลแฮม-วิลล์ด้า-วิลลาเบลล์ (คู่รอง) นาวิน+ยิปซี = ราเชลล์ – ดาวินซี คำเตือน - นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริงอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ขอองนามปากกา "ญาตาวีมินทร์" แต่เพียงผู้เดียว ห้ามเผยแพร่ คัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใดละเมิดถือว่าทำผิดกฏหมายตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2537 มาตรา 15 17 31 มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย