“ผมทนไม่ไหวแล้วนะ..” ชายหนุ่มตัวสูงก้มหน้าลงไปชิดกับหญิงสาวที่กำลังลืมตาอย่างงัวเงีย เขาไม่ได้อยากทำกับคนที่ไม่มีสติแบบนี้เลย…แต่ใบหน้านั้น..มันช่างเชิญชวนเขาเสียจริง.. "ไอย์ริณ" หญิงสาวที่มีรักเดียวมาโดยตลอด 27 ปี เธอทำตามแบบแผนมาตลอด เมื่อเธออกหักและคิดว่าอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่าสักครั้ง เธอแค่อยากนอก "กรอบ" สักครั้งในชีวิต... "ไปป์เปอร์" หนุ่มรุ่นพี่สุดฮอตประจำบริษัทที่แอบมองไอย์ริณมาโดยตลอด "นายน์" เด็กหนุ่ม 19 ปี ที่ไอย์ริณเผลอไปมี One night stand ด้วย... จะเป็นคืนเดียว หรือ ความรักตลอดไป กันนะ?? . . .
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด … ปึก!
เสียงนาฬิกาปลุกในเวลา 6 โมงเช้า ไม่ได้ทำให้หญิงสาวในชุดนอนกระโปรงสีขาวโปร่งลุกลี้ลุกลนหรืองัวเงียสักนิด เธอตื่นเวลานี้ซ้ำๆ เดิมๆ มาเกือบ 4 ปีจนชิน
ชั้นชื่อ “ไอย์ริณ”
ปีนี้ชั้นอายุ 27 ปี ทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตำแหน่งที่น่าเบื่ออย่างนักจัดการงานทั่วไป ตามชื่อตำแหน่งเลยล่ะ… ทำงานทั่วๆ ไปคลอบจักรวาลทั้งแผนกนั่นแหละ… บ่นไปโน่น, แต่ชั้นก็รักงานของชั้นนะ ~
เป็นอีกเช้าที่ไอย์ริณลุกจากเตียงนอนอย่างไม่รีบร้อน ไปเปิดม่านหน้าต่าง มองตึกเมืองใหญ่จากมุมสูงของคอนโด พลางคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้าอย่างอดไม่ได้…
1 อาทิตย์ก่อน
ท่ามกลางฝนตกในเดือนมิถุนายน รถสปอร์ตคันสีดำวาวจอดนิ่งข้างฟุตบาทที่มีรถแล่นผ่านไปมา เสียงฝนตกกระทบหลังคารถดังแผ่ว ภายในรถที่เงียบสนิท…
“ผมว่าเราเลิกกันเหอะ”
ไอย์ริณทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก กับผู้ชายที่นั่งฟากคนขับ คนที่คบกันมา 9 ปี .. เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่คบด้วยมาตั้งแต่มหาลัย..รักครั้งแรก เซ็กส์ครั้งแรก เขาเป็นครั้งแรกในทุกๆ เรื่องของเธอ
“มีคนอื่นแล้วใช่ไหม”
หญิงสาวถามกลับพลางก้มหน้าแต่ไม่มีน้ำตาสักหยด
ลึกๆ ในใจ เธอรู้ดีว่าเราทั้งคู่ออกห่างจากคำว่ารักมาได้หลายปีแล้วด้วยซ้ำ มันเหมือนเพื่อนสนิท คนในครอบครัว คนที่ผูกพัน แต่ไม่ได้รู้สึกร้อนวูบวาบอีกแล้ว
“อืม”
ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเรียบ
ไอย์ริณรู้สึกสับสนไปหมด ไม่ได้โกรธ ไม่เสียใจ..แค่รู้สึก…เสียเวลา…
“ฉันขอลงตรงนี้”
ปัง!
หญิงสาวปิดประตูรถแล้วรีบเดินฝ่าสายฝนไปยังจุดรอรถ นั่งมองรถขับผ่าน ฟังเสียงฝนตก พลางคิด…หรือฉันไม่มีความรักหลงเหลืออยู่แล้ว???
.
.
.
หญิงสาวเสยผมยาวสีน้ำตาลอ่อนที่ปกคลุมใบหน้าสีขาวนวล แล้วดึงม่านเปิดอ้ากว้าง รดน้ำบอนไซบนโต๊ะข้างหน้าต่าง แล้วผละไปเข้าห้องน้ำ แต่งตัวไปทำงานทันที
เช้าวันจันทร์ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ ไอย์ริณปั่นจักรยานคู่ใจเข้าออฟฟิศที่อยู่ห่างจากคอนโดของเธอเพียง 2-3 ช่วงตึก เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่มีแบบแผนในหัวอยู่เสมอจนอาจดูน่าเบื่อเกินไปในสายตาผู้ชายหรือเปล่า?
ติ๊ด~
เสียงแสกนบัตรเจ้าหน้าที่หัวหน้าแผนกจัดการงานทั่วไป
“ไอย์ริณ เวลาเข้างาน 07.42 น.”
เธอเดินตรงไปยังโต๊ะประจำตำแหน่ง แขนข้างหนึ่งแขวนกระเป๋าผ้าเก็บแผ่นงานใบใหญ่ แขนอีกข้างหนีบไอแพดคู่กายเอาไว้แล้ววางลงบนโต๊ะเหมือนอย่างเช่นเคยแล้วเดินตรงไปยังเครื่องทำกาแฟหาเอสเปรสโซร้อนดื่มให้สดชื่น
“มาเช้าอีกแล้วนะครับน้องไอย์”
เสียงนุ่มทุ้มจากทางด้านหลัง เดินก้าวเข้ามาด้านหลังไอย์ริณที่ยืนเหม่อๆ รอกาแฟ เพราะเธอไม่คาดคิดว่าจะมีคนมาเข้างานเช้าเหมือนเธอ ซึ่งมีไม่บ่อยนัก…เธอหันกลับไปตอบเจ้าของใบหน้าหล่อผมสีดำจัดทรงอย่างดี
“ค่ะ พี่ไปป์…วันนี้งานเยอะหรือคะ?”
ไอย์ริณทักทายกลับอย่างยิ้มแย้ม พลางคิดว่า 3-4 วันมานี้ รุ่นพี่อย่าง “ไปป์เปอร์” รุ่นพี่หนุ่มต่างแผนกสุดฮอตขวัญใจสาวๆ ในบริษัท เข้ามาทักทายเธอบ่อยเป็นพิเศษ…
เขารู้ว่าชั้นเพิ่งเลิกกับแฟนแล้วอดสงสารไม่ได้เลยต้องมาชวนคุยให้หายเศร้าหรือเปล่านะ?...
ไอย์ริณรู้จักไปป์เปอร์ รุ่นพี่ของเธอมาได้ 4 ปีแล้ว เขาห่างกับเธอแค่ 2 ปี ซึ่งปกติก่อนหน้านี้หล่อนกับเขาแทบไม่เคยคุยกันนอกจากเรื่องงานและทักทายกันตามประสาเพื่อนร่วมงานด้วยซ้ำ…
ชายหนุ่มรีบผละตัวออกทันที ในใจแทบระเบิดคิดอะไรไม่ออก ร้านเบเกอรี่ที่จองโต๊ะไว้คงต้องแคนเซิลไปก่อน พลางนึกย้อนไปว่า หญิงสาวแทบไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าตนแอบมองด้วยสายตาที่ชื่นชม ห่วงใย …หลงรัก สายตาคู่นั้นที่แอบมองเธอมันไม่เหมือนกับสายตาที่มองผู้หญิงคนไหนทั้งแผนก เขามองเธอแบบนั้นมาตลอด 4 ปี …แต่เธอมีเจ้าของที่มัดหัวใจมาถึง 9 ปี ใครจะกล้าล้ำเส้น…และเธอก็ใสซื่อ ไม่มีพิษภัย ไม่รู้ตัวอะไรเลยมาตลอด
“ได้ค่ะ ..ขอบคุณนะคะพี่ไปป์”
ไอย์ริณส่งยิ้มกลับ ชื่นชมในความทำงานเก่งของรุ่นพี่
“อร๊ายยยยย!!~
ชั้นอยากให้พี่ไปป์มาเตือนงานชั้นบ้างอ๊าาาา! ชั้นอยากเงยหน้ามองตาสีน้ำตาลของเค้าชัดๆ บ้าง เผื่อจ้องตากันเกิน 8 วิ แล้วพี่เค้าจะตกหลุมรักชั้น!”
เสียงวี๊ดว๊าย เสียง4เสียง5 ของจีน่าเพื่อนตัวสูงหุ่นนางแบบผมสั้นประต้นคอ ดังเจื้อยแจ้ว จนพลอยชมพูเพื่อนหุ่นเพรียวแสนใจดี ต้องเอามือไปอุดปากจีน่าก่อนคนจะมองกันมากกว่านี้
“เธอมีงานเยอะถึงขนาดต้องให้เขามาเตือนรึไงจีน่า! วันๆ เดินว่างไปเมาท์ทุกแผนกได้ทั้งวันขนาดนี้อ่ะ!”
พลอยชมพูจิกกัดปนขำเบาๆ ให้ความแรดแต่ไม่มีพิษภัยของเพื่อนสนิทตัวเอง
“เธอต้องเปิดใจได้แล้วนะยัยไอย์…ชั้นว่าพี่เค้าอ่อยแกว่ะ แกไม่เอาชั้นเอานะ”
จีน่าพูดพลางจิ้มนิ้วชี้มาที่ตัวเอง
“9 ปีเลยนะจีน่า…ใครมันจะรีเซ็ตความรู้สึกไวขนาดนั้นอ่ะ”
พลอยชมพู พูดถูก…ไอย์ริณไม่อยากเปิดใจอีกต่อไป คบกันไปนานๆ ก็ไม่เหลือความรักแล้วอยู่ดี…จะมีความรักไปทำไมล่ะ? หญิงสาวคิด
“งั้นถ้าแกไม่คบใคร ก็น่าจะออกไปหาอะไรสนุกๆ ทำบ้างอะ จะทำงานกลับห้องวนไปวนมาแบบนี้หรอวะ…ข้างนอกมันมีอะไรสนุกๆ อีกเยอะนะเว้ย ถ้าสนใจรีบบอกเลย ชั้นรู้จักเจ้าของร้านเหล้าแถวนี้เกือบทุกร้าน *-^”
ไอย์ริณกำลังคิดว่าต้องไปบ่อยขนาดไหนถึงจะรู้จักเจ้าของร้านเหล้าได้ทุกร้านกันนะ…เธอขำออกมาเบาๆ
“ฮ่าาา~ บ้าน่ะจีน่า..แยกย้ายทำงานเหอะ”
.
.
.
17.40 น. ไอย์ริณเก็บของพร้อมกับโบกมือลาเพื่อนๆ ในแผนกที่ทยอยกันกลับบ้าน เธอปั่นจักรยานกลับคอนโดตามเคยพลางคิดถึงเรื่องที่จีน่าบอก..ไม่ใช่เรื่องรุ่นพี่ไปป์..แต่เป็นเรื่องการออกไปหาความสนุกข้างนอก…
เธอควรทำแบบนั้นบ้างไหมนะ?..
เธอไม่เคยไปร้านเหล้าหรือไปผับเลยตลอดเวลาที่คบหากับแฟนเก่า เขาและเธอต่างตั้งใจเรียน พากันทำงาน มีเซ็กส์กันบ้างตามปกติ แบบไม่ได้หวือหวาอะไร…
หญิงสาวเปลื้องเสื้อผ้า ยืนมองรูปร่างผอมเพรียว 161 เซนติเมตร 48 กิโลกรัม เธอหุ่นดีตามแบบฉบับดาราผอมเพรียว แต่ไม่เก้งก้าง เธอมีเนินอกสวยได้รูปขนาดพอดีตัว ยอดปทุมถันสีชมพูสวย เนินสวาทที่ผ่านการใช้งานมาแค่คนเดียวนั้นไม่ได้ทำให้เธอด่างพร้อยเลย…เธอห่างหายจากคำว่าเซ็กส์มานานแค่ไหน?...
“ชั้นเหงาจัง” หญิงสาวคิด
ไอย์ริณตัดสินใจตอนเธออาบน้ำแล้วว่า วันนี้เธอจะออกไปหาแสงสี…จะไม่เก็บตัวหรือทำตามแบบแผนที่คิดไว้อีกแล้ว คืนนี้เธอจะไม่ทำตามกรอบของตัวเองอีกต่อไป…
.
.
.
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"