“กอดทำไม คิดว่ามัวแต่ทำอาหารเพลินจนลืมอกที่ซบทุกคืนซะแล้ว” “จอมแค่ว่างค่ะ ลองทำดูไว้ให้คุณทาน ลูกน้องคุณพูดว่าอร่อย จอมก็ดีใจ” “ลิ้นพวกมันกับลิ้นฉันจะเหมือนกันได้ยังไง” อาชารั้งร่างหอมเข้ามาแนบอก จ้องนัยน์ตาที่ตื่นตกใจอย่างมีเลศนัย สาวน้อยคนนี้ทำให้เขานั่งเก้าอี้ที่ทำงานไม่ติด ต้องรีบแจ้นมาหาเธอ ดูสิยังมาทำตาโตเขาพูดแบบนี้ น่าฟัดเสียจริง “พูดจนจอมหัวใจเต้นแรงเลยค่ะ คุณอ่ะชอบแกล้ง” “ชอบหรือเปล่าล่ะ” อาชากระซิบเสียงพร่าใกล้ใบหูเล็ก “ถ้าชอบฉันจะเริ่มแกล้งเลยนะ ตอนนี้เลย” ว่าแล้วมือแข็งแรงก็ไล้ปากอิ่มตึง ถอดแว่นสายตาของสาวน้อยออกไป ใบหน้าสาวน้อยแดงก่ำ อาชาก้มหน้าช้าๆ บดจูบริมฝีปากสีสวย
ชายหาดส่วนตัวเม็ดทรายละเอียดขาวเป็นทางโค้งยาวสุดสายตา แสงจันทร์ฉายสีเหลืองทอแสงอาบไล้เม็ดทรายเคียงข้างท้องทะเลมืดดำวิบวับกระเพื่อมสาดซัดเพราะแรงคลื่นลมหน้าบ้านพักตากอากาศสีขาวหลังใหญ่ทรงโมเดิร์นรั้วรอบขอบชิดร่างของหนุ่มสาวสามสิบกว่าชีวิตกำลังปาร์ตี้กันสนุกสุดเหวี่ยง
ห่างชายหาดไม่ไกลในน่านน้ำผืนกว้างมีเรือยอร์ทลำหรูจอดอยู่ของ อาชา เดชาอัศว เดอลาโพล กำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองดูบริเวณงานวันเกิดเพื่อนรัก เมฆา ปาณะวงศ์อยู่เงียบๆ
ใบหน้าหล่อเหลาแบบหนุ่มละตินของอาชาปกคลุมไปด้วยหนวดเขียวครึ้ม เขากำลังแย้มมุมปากเพราะกำลังจะได้เจอคนสำคัญถึงสองคน
“เรือเล็กพร้อมแล้วครับนายหัว”
มาวิน คนสนิทในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงยีนต์สีดำเข้ามารายงาน ว่าแล้วเดินไปรอเจ้านายลงเรือ นายหัวหนุ่มทอดน่องแข็งแรงในชุดสบายๆ เสื้อยืดสีขาว กางเกงผ้าลินินเดินตามมาวิน
“ไวท์ที่เตรียมมา พร้อมนะ” ก่อนลงเรืออาชาไม่ลืมซักถามถึงของฝากนักดื่มไวท์หวังว่าเพื่อนจะพอใจมากกว่าของขวัญชิ้นไหน
“ครับ” มาวินให้คำตอบ
แน่ใจว่าไม่ต้องลงเรือมาเอาของอีก หนึ่งเจ้านายหนึ่งคนสนิทเดินลงเรือไปยังบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
อาชา เดชาอัศว เดอลาโพล อายุยี่สิบเก้าปีทายาทโรงแรมห้าดาว และบริษัททัวร์ทั่วฟ้าเมืองไทย ใบหน้าหล่อเข้ม นัยน์ตาสีฟ้าเข้ม คิ้วสีน้ำตาล เส้นผมตรงสีดำ
ครู่ต่อมาเขาก้าวเดินขึ้นจากเรือลำเล็กซึ่งมาส่งที่ชายฝั่ง ร่างสูงก้าวเดินนำหน้ามาวิน
“ผมไปทางด้านหน้าเลยนะครับ”
มาวินบอกกล่าวเจ้านาย ว่าแล้วพยักหน้าการ์ดข้างตัวให้ถือของเดินตาม
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปเถอะฉันจะเดินไปด้านหลังเอง”
อาชาตกลง ก้าวเดินห่างจากคนสนิท ทั้งสองรู้จักทุกซอกทุกมุมของบ้านพักสีขาวหลังใหญ่แห่งนี้ดี เคยมาหาเมฆา สังสรรค์กันตอนเพื่อนรักพาคู่นอนมาพักผ่อนหลบหนีความวุ่นวายของเมืองหลวง อาชาเดินไร้เสียงจวบจนถึงโขดหินใกล้บริเวณบ้านแต่ยังไกลจุดที่มีปาร์ตี้ ปรากฏว่ามีเงาวูบวาบกระทบแสงจันทร์ ร่างสูงหยุดเดินหยิบปืนพกที่เอวกระชับมั่นในมือ
การเป็นนักธุรกิจแนวหน้า อยู่กับการขันแข่งหลายรูปแบบ ความป่าเถื่อนก็พบเจอบ่อยครั้ง ทำให้อาชาไม่เคยไว้ใจใคร ระมัดระวังตัวเสมอ ชายหนุ่มก้าวเดินรวดเร็วเข้าหาโขดหินที่ใกล้ตัวที่สุดเป็นที่กำบังกาย
เมฆาไล่ตามจัสมินมาจากบ้านพัก ต้องการงอนง้อสาวสวยที่ทำเรื่องไม่น่าอภัยเมื่อคืนที่ผ่านมาแต่จัสมินไม่ต้องการพูดคุย หยิกข่วนไม่ยั้งมือ เมฆารู้สึกเบื่อหน่ายนิดหน่อยที่สาวสวยช่างเล่นตัวดึงร่างหอมกรุ่นเข้ามาปล้ำจูบ จัสมินต่อต้านในตอนแรก เมื่อลิ้นร้อนของเมฆาชอนไชควานเข้าในโพรงปาก มือร้อนเข้าจู่โจมเนินอกอวบอิ่มหญิงสาวก็ไร้แรงต้านทาน ปล่อยให้เมฆาล้วงมือเข้าภายใต้ชุดยาวบีบเคล้นเต้าอวบอิ่มเพราะตนเองก้พอใจอยู่ลึกๆ เมฆาพอใจท่าทีอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ เร่งมือหนักหน่วงตามใจปรารถนา
“นุ่มมือดีจังดอกมะลิของพี่” เมฆาปากหวาน
“อื้อ…อ้า” จัสมินครางประท้วงเมฆาไล้มือลงหน้าท้องแบนราบไร้ไขมัน รู้สึกกลัวว่าชายหนุ่มจะไม่ยอมหยุดแค่จูบ หญิงสาวจึงหยุดมือปลาหมึกด้วยมือข้างหนึ่ง
“ไม่นะ…อย่า”
“พี่ต้องการเธอนะ ให้พี่เถอะ” เมฆาได้ทีอ้อนด้วยน้ำเสียงหวานหยดแต่สาวสวยยังคงส่ายหน้า เมฆากลืนกลั้นความต้องการปลดปล่อยกับหญิงสาวเอาไว้ คิดว่าคุยกับสาวสวยแบบจริงจังซะทีก็ดี ไม่อยากให้มีเรื่องค้างคาในใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้พี่จะเก็บความต้องการเอาไว้ แต่ขอคุยแค่นาทีเดียวพี่ขอให้เธอฟังพี่จัสมิน ได้โปรดเถอะนะ”
“ก็ได้จะได้จบๆ แค่นาทีเดียวเท่านั้น… จัสมินเกลียดพี่ไม่อยากคุยด้วย” จัสมินเอ่ยตรงข้ามหัวใจ
คำว่าโกรธยังพอขืนแต่เกลียดเมฆาไม่เคยได้รับจากใคร อยากจะเปลี่ยนใจปลุกปล้ำหญิงสาวตรงผืนทรายใต้จันทร์ให้รู้แล้วรู้รอด จะทำให้ครวญครางยิ่งกว่าเมื่อคืนซะอีก
“ว่าไงคะ จะพูดหรือไม่พูด ผ่านไปครึ่งนาทีแล้ว” จัสมินซักถามเมื่อเมฆาเงียบไป
“พี่มีความสุขมากเมื่อคืนไม่ขอให้จัสมินให้อภัยพี่หรอก…”
“หยุดนะ ถ้าพูดเรื่องนี้จะไม่ทนฟัง” จัสมินทุบตีไม่ยั้งมือใบหน้าสาวสวยฉายแววเจ็บปวดสับสนไม่อยากให้เรื่องราวของตนเองกับเมฆามีการสานต่อ เดินหนีร่างสูงอีกครั้ง
“จัสมิน ไหนว่าจะรับฟังไงครับ” เมฆาสวมกอดร่างระหงทางด้านหลังซุกซบบนกลุ่มผมหอมกรุ่นสีดำ ความนุ่มนิ่มของร่างที่ได้เชยชิดมาแล้วชักทำให้ความอดทนของเขาขาดผึง
จัสมินอบอุ่นวาบหวาม แต่หญิงสาวก็ยืนขาแข็งไม่อาจหันไปโอบกอดคนด้านหลังได้ เพราะเรื่องกะทันหันที่เกิดขึ้นมันจู่โจมรวดเร็วเกินจะตัดสินใจอะไรได้ ที่สำคัญเธอมีพันธะสัญญากับครอบครัวเรื่องคู่ครองไปแล้ว
เขาคนนั้นผู้เดียวที่เธอต้องแต่งด้วย อาชา เดชาอัศว เดอลาโพล
เมฆาทนกลิ่นหอมเย้ายวนของร่างอ้อนแอ้น แทบปลิวเพราะแรงลมพัดไม่ได้ ยิ่งเมื่อเธอทำท่ารังเกียจตนอีก เมฆาจึงกอดกระชับร่างสวยแน่นกว่าเดิม สอดมือล้วงไล้เข้าอกอวบ
เอาก็เอาวะ คืนนี้โดนตบ โดนด่าก็จะฝากฝักรสรักเข้าสู่กลีบนวลคับแน่นให้ได้อีกครั้ง เรื่องขอโทษ เอาไว้ที่หลังก็แล้วกัน
“อื้อ…ปล่อย…” จัสมินตกใจดิ้นรนหนี
คำพูดขอร้อง วิชามารที่ใช้มานักต่อนัก ไม่มีวันทำให้จัสมินใจอ่อน ดูท่าเธอจะอ่อนปวกเปียกเพียงโดนลิ้นเปียกสากของเขาลากไล้ทั่วเรือนกายเหมือนเมื่อคืนเท่านั้น…