เธอจะทำอย่างไรเมื่อหัวใจแบ่งเป็นสองภาค จะอภัยเขาดีไหมที่เคยใจร้าย เอาเปรียบ ทำร้ายให้เธอร้องไห้หลายต่อหลายครั้ง หลอกลวงว่าเธอเป็นคู่หม้ันทั้งที่เขามีคนในหัวใจอยู่แล้ว
เธอจะทำอย่างไรเมื่อหัวใจแบ่งเป็นสองภาค จะอภัยเขาดีไหมที่เคยใจร้าย เอาเปรียบ ทำร้ายให้เธอร้องไห้หลายต่อหลายครั้ง หลอกลวงว่าเธอเป็นคู่หม้ันทั้งที่เขามีคนในหัวใจอยู่แล้ว
ผ่องรำไพลงจากรถเมล์ หญิงสาวเดินใจลอยใบหน้าซึ่งแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางพองามเศร้าสร้อย เพราะใจคิดถึงพ่อที่กำลังป่วยหนัก ก่อนออกมาจากโรงพยาบาลพ่อนอนหน้าซีดคิดแล้วก็น้ำตาซึม ยกข้อมือปาดน้ำตาที่ไหลก็เห็นเวลาบนนาฬิกาที่ข้อมือ เกือบถึงเวลาที่นัดเจ้านายคนใหม่ไว้ก็เดินแกมวิ่งไปยังคอนโดหรูซึ่งอยู่ข้างหน้า ปาดเหงื่อที่ใบหน้าออกเมื่อถึงหน้าประตู ทาบมือที่หน้าอกครู่เดียว เดินตรงไปยังลิฟต์
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ประตูเพ้นท์เฮาส์หรูย่านธุรกิจของรองประธานบริษัท ศิววงศ์ษา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ถูกเปิดออกเบาๆ คีย์การ์ดที่ได้มาแบบงงๆ นั้นหญิงสาวเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อสูท รูปร่างทรงนาฬิกาทรายในชุดเรียบร้อยก้าวเข้าห้องกว้างขวางช้าๆ สูดลมหายใจลึกๆให้กำลังใจตนเอง
เวทิศ ศิววงศ์ อายุ 32 ปี สูง187 หน้าตาหล่อเหลาแบบลูกครึ่งเพราะเลือดมารดานั้นเป็นลูกผสม ไทย-ออสเตรีย -จีน
ลูกชายคนเดียวของเจ้าของค่ายละครชื่อดัง นิตยสารหลายปก เจ้าของธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทห้าดาวทั่วฟ้าเมืองไทย ชายหนุ่มมีดาราสาวสวยคู่ควงไม่ซ้ำหน้า โดยไม่ต้องเข้าหาพวกเธอทั้งหลาย เขามีพร้อมทั้งรูปสมบัติทรัพย์สมบัติ ชวนให้หลงใหลก็จริงแต่ชื่อเสียงดังกระฉ่อนในทางเสียหายเป็นการดีที่เธอคิดป้องกันสายตาตนไว้ก่อน เพราะมาที่นี่อาจเจอหนังสดกำลังแสดงอยู่ก็เป็นได้
สนใจเวทิศ ศิววงษ์ แอบมองเขาเหมือนได้ดูดาราทั่วๆ ไปดีอยู่แล้ว หญิงสาวเตือนตนเอง ฉากรักดุเดือดเกิดขึ้นเสมอในห้องนี้ แม้ฟังคนอื่นมาอีกทีก็ตามแต่เธอก็เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง
ไปไหนนะ? เดินหลายก้าวสายตาเรียวเล็กมองหาเจ้าของห้อง พบเจอแต่เฟอร์นิเจอร์หรูหรา การตกแต่งห้องแสนเลิศหรู เพลิดเพลินสายตาจนเผลอเดินลูบๆ คลำๆ ผ่านไปหลายนาทีไม่เห็นใบหน้าครึมหนวดเครา ดวงตาสีสนิม รูปร่างสูงใหญ่ กล้ามโตที่สะกดสายตาตนเองได้เสมอ ผ่องรำไพก็ชะโงกเข้าไปด้านใน ไม่เห็นวี่แววอีกก็ชักโล่งใจที่ยังไม่ต้องพบเจ้านายโดยตรงคนใหม่ในวันนี้
บางทีอาจพาสาวไปออกศึก เฮ้ย ออกเดท ที่อื่นก็ได้ เลขาสาวผิวสีน้ำผึ้งหลับตาพ่นลมหายใจโล่งอก
“เป็นอะไร จะเป็นลมรึไง” เสียงทุ้มดังข้างหลัง
“คุณเวทิศ…อยู่เหรอค่ะ ขอโทษคะคิดว่าไม่อยู่” หญิงสาวตกใจหันหน้าไปมอง
“ ก็นี่ใช่ฉันไหมล่ะ เห็นเป็นคุณพ่อหรือไง หน้าตาฉันหล่อ หนุ่ม กว่าตั้งเยอะ” เจ้านายคนใหม่ตอบเสียงราบเรียบ นิ้วมือเรียวลูบคางบึกบึน ผ่องรำไพจ้องดวงตาสีสนิมไม่กระพริบ หน้าตาพลันแดงก่ำเห็นร่างใหญ่อยู่ชุดเสื้อคลุม โชว์หน้าอกกว้างไรขนสีน้ำตาล เธอเมินไปด้านอื่นเสีย
“เป็นเลขาคุณพ่อมาเกือบปีเป็นไงบ้าง “
เวทิศสำรวจร่างอ้อนแอ้น แต่งตัวค่อนข้างเชย… ทว่าการแต่งตัวถูกมองผ่านเพราะทรวดทรงเจ้าหล่อน แบบนี้นี่เองคุณพ่อถึงหวงนักหนา คุณแม่ถึงลมจับเกือบทุกวัน
นมโตยังกับหนังการ์ตูนโป๊ญี่ปุ่น ก้นงอนน่าตีชะมัดถึงร่างจะผอม
“มีอะไรหรือคะ” ผ่องรำไพจ้องใบหน้าคมคาย แม้จะรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย แต่อยากรู้ทำไมเขาต้องถามแบบนี้ ฟังทะแม่งหูจังเลย
เวทิศยักไหล่ ปล่อยมือข้างหนึ่งมาจับชุดโซฟาหลุยวิกตองค์ สายตาคมกริบยังอยู่ที่เดิม “ แค่อยากรู้เธอสมัครใจมาเป็นเลขาฉันหรือเปล่า เพราะตำแหน่งเลขาประธานใหญ่เงินเดือนดีกว่าเลขารองประธานอย่างฉัน”
ผ่องรำไพมองตามเจ้าของห้องที่เดินไปทรุดนั่งไขว้ขารอคำตอบ
“แต่ที่ดิฉันทราบท่านบอกว่าจะจ่ายเงินดิฉันด้วยอัตราเดิมนะคะ” ผ่องรำไพพยายามไม่มองเรียวขายาวที่โผล่พ้นเสื้อคลุม หญิงสาวบอกรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ของตนแล้วลดเสียงเมื่อรู้ว่าดูน่าเกลียดเมื่อพูดเรื่องเงินก็น้ำเสียงเปลี่ยนไป แต่เรื่องจะยอมลดเงินเดือนคงเป็นไปไม่ได้ ค่าใช้จ่ายเธอแต่ละเดือนแทบไม่เหลืออยู่แล้ว
“ออ เหรอ” ร่างสูงของเวทิศลุกขึ้น ลูบผมสีน้ำตาลอมดำที่ปรกหน้าด้วยความเคยชิน ดวงตาวาววับฉายรังสีบางอย่างออกมาแวบเดียว เดินเข้าใกล้ร่างเล็ก ผ่องรำไพถอยห่าง
“หนีทำไมดูจากสีหน้า คำพูดที่ออกจากปากแสดงว่าต้องการเงินมาก… ถ้าต้องการ ก็ดูแลฉันให้ดี ให้ดีกว่าที่ดูแลคุณพ่อสิคุณเลขาคนเก่ง”
มือใหญ่ละจากเส้นผมรวบร่างเล็กเข้าอ้อมแขน มือทั้งสองรัดแน่น ผ่องรำไพไม่ดิ้นรนหนีเพราะกำลังช็อก… สายตาแหงนมองใบหน้าคมเข้ม จนมือใหญ่ล้วงเข้าบีบหน้าอกใหญ่ในตัวเสื้อ จึงได้สติ “กรี้ดด!” เธอยกสองมือตีอกกว้างพัลวัน มือปลาหมึกดูทนถึก ไม่เจ็บสักนิด แถมไม่ยอมปล่อยก็จิกเล็บยาวข่วนสู้สุดฤทธิ์ ต้องทำเจ้านายขวัญใจสาวๆ เสียโฉมก็ต้องทำล่ะคราวนี้
“อย่านะคุณ อย่าฉันมาเป็นเลขาคุณนะคะ”
“เลขา ใช่ฉันรู้ และพยศ ของเธอใหญ่ดีจริง แบบนี้ชอบนะแต่เสียใจด้วยฉันไม่กินของเหลือเดนจากคุณพ่อท่านหรอก” เวทิศผลักร่างบางจนล้มลงที่พื้น
“ ทำไมทำอย่างนี้” ผ่องรำไพตกใจน้ำตาซึม หัวใจสั่น
ริมฝีปากแดงของเวทิศยิ้มเหยียด นั่งยองลงข้างๆ ปลดเนคไทออกจากลำคอหญิงสาวด้วยความรวดเร็ว
“ทำอะไรคุณ อย่านะ ไม่ ไม่ ไม่นะคะ ดูหน้าฉันก่อน ฉันไม่ใช่ดารานางแบบในสังกัดคุณนะคะปล่อยฉันไปเถอะ” ผ่องรำไพตะลึงคิดว่าอาจโดนข่มเหงรู้ว่าไม้แข็งไม่ได้ผลก็ใช้ไม้อ่อนวอนขอด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร มือบางป่ายปัดมือใหญ่
“ไม่ต้องร้อง ไม่ทำอย่างว่าหรอกบอกแล้วไง แต่ทำอย่างอื่นที่สนุกๆ นิดหน่อยก็เท่านั้น” ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบทำให้รอยยิ้มนั้นหล่อเหลาเหลือกินแต่ไม่นานมันก็เปลี่ยนไปเป็นยิ้มเยาะ เขากระซิบใกล้เรือนผมสีดำขลับหอมกรุ่น สูดหอมฟอดใหญ่ ผ่องรำไพเบิกตากว้าง… ไม่นะต้องไม่เป็นแบบนี้ เธอไม่เคยคิดต้องมาเสียสาวหรือโดนมัดกระทำชำเรา โดนทำร้ายร่างกาย หญิงสาวคิดไปต่างๆ นาๆ
กับผู้ชายเพล์บอยคนนี้ เธอคงมีค่าเพียงธุลีดินถ้าเขาได้เธอไปแล้ว…
ดาราสาว สวยเคยโดนเขี่ยทิ้งมานับไม่ถ้วน นับประสาอะไรกับผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ อย่างเธอ
“ฉันแข็งแรง และแน่นอนลีลาอย่าเปรียบกันเลยนะแต่เสียดายที่เธอคงไม่ได้ลิ้มชิมฉัน” เสียงทุ้มใกล้หูเล็ก จมูกโด่งคลอเคลียที่แก้มหอมกรุ่น มือเขายังอยู่ในตัวเสื้อ บีบขยี้อกอิ่มเธอ
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ” “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย” “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้” “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่” “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้ “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้” ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน
เจียงหยวนชอบเสิ่นตู้มาเป็นเวลาสี่ปี แม้จะต้องเผชิญความรังเกียจจากตระกูลเจียง แต่เธอก็ยังเลือกยืนหยัดเคียงข้างเขา กระทั่งวันหนึ่ง เสิ่นตู้เพื่อพี่สาวของเขา ยอมยกให้เธอไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่สุด เธอถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงก็คือไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่คนที่ใช่ งั้นเธอยอมตัดทิ้งแล้วกัน เธอหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานจนกลายเป็นนางแบบระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกตะลึง ผู้ชายที่ทำร้ายเธอรู้สึกเสียใจ“หยวนหยวน โลกของฉันขาดเธอไม่ได้ กลับมานะ” ตลกสิ้นดี ผู้ชายมันจะเทียบกับอาชีพการงานได้ที่ไหน ! ** เจี่ยงเฉินโจว ผู้นำของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนแสนเย็นชา แต่อยู่ลับหลังกลับเป็นคนคลั่งรัก เขาชอบความงามของเจียงหยวน เห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อง ต่อมา บนพรมแดงท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ชายผู้ก้าวลงจากเวทีคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าสาธารณะ“ถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไร ฉันก็ยินยอม”
... ในวันครบรอบแต่งงาน ฮั่วเยี่ยนสือ สามีผู้มั่งคั่งทิ้งเธอไป แล้วหาคนรักแรกของเขา ผู้ชายที่ไม่รักนวลสงวนตัวก็เหมือนสิ่งไร้ค่า ผู้ชายที่เธอเคยอ่อนข้อให้แต่ก็ไม่สนใจเธอ งั้นเธอไม่ต้องการแล้ว จึงขอหย่าทันที ฮั่วเยี่ยนสือไม่สนใจ ซูหว่านหนิงกลับเข้าสู่วงการบันเทิงและเฉิดฉาย รักแรกในอุดมคติชอบแกล้งอ่อนแองั้นเหรอ งั้นก็ให้เธอเผยธาตุแท้จริงให้ทุกคนได้เห็น อดีตสามีที่เป็นคนปากแข็งที่สุด "เมื่อเธอเบื่อแล้วเธอจะกลับมาหาฉัน" แต่ภรรยาที่เคยเต็มใจทำทุกอย่างให้เขานั้นไม่กลับมาอีกแล้ว ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพเท่านั้น แต่ยังมีคนมากมายมาตามจีบเธออีก ดาราระดับโลกแสดงความรักอย่างแรงกล้า ผู้บริหารบริษัทสื่อพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอยิ้ม แม้แต่ทายาทเศรษฐีอันดับหนึ่งก็ต้องการเธอเท่านั้น จากนั้นฮั่วเยี่ยนสือเริ่มตระหนก เปลี่ยนจากคนเย็นชากลายเป็นคนที่คอยติดตามไม่ห่าง ใช้ทุกวิถีทางเพื่อตามจีบภรรยา ซูหว่านหนิงไม่แม้แต่จะมอง "เมื่อก่อนคุณเฉยเมยกับฉัน ตอนนี้คุณไม่คู่ควรกับฉันแล้ว" ฮั่วเยี่ยนสือขอร้องเธออย่างบ้าคลั่ง "หนิงหนิง เราแต่งงานใหม่เถอะ" ซูหว่านหนิงแสดงท่าทางหยิ่ง "คุณฮั่ว ฉันไม่เคยกลับไปหาของที่ทิ้งไปแล้ว"
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
เพื่อช่วยชีวิตแฟนสาวของเขา มือขวาของหลินเทียนจึงพิการ แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้มาคือการทรยศของแฟนสาวและเพื่อนสนิทของเขา ขณะที่หลินเทียนกำลังรู้สึกสิ้นหวัง เขาก็ได้พบกับคนคนหนึ่งซึ่งทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คนนั้นมีชื่อว่าหลิวอีเตา เป็นหมอในตำนาน หลินเทียนไม่เพียงแต่ได้กลายเป็นศิษย์ของแพทย์ผู้ไร้เทียมทานผู้นี้ แต่ยังได้รับมรดกอันมหาศาลจากดร.หลิวอีกด้วย จากนั้นเป็นต้นมา หลินเทียนโต้กลับทุกทาง กำจัดอุปสรรคต่าง ๆ จะกระทั่งไปถึงจุดสุดยอดของชีวิต
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY