ซีรีส์แซ่บ ประกอบด้วย 1. สาวใข้วัยละอ่อน 2. เจ้าหญิงแมวเหมียว 3. เพื่อนสวาท 4. คืนนั้น 5. พิศวาส 6. คุณหมอซ่านรัก 7. สวยมากๆ ท่ายากหนูก็เยอะ 8. ความรักไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง ไปที่ระเบียงบ้างก็ได้
ซีรีส์แซ่บ ประกอบด้วย 1. สาวใข้วัยละอ่อน 2. เจ้าหญิงแมวเหมียว 3. เพื่อนสวาท 4. คืนนั้น 5. พิศวาส 6. คุณหมอซ่านรัก 7. สวยมากๆ ท่ายากหนูก็เยอะ 8. ความรักไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง ไปที่ระเบียงบ้างก็ได้
ซีรีส์แซ่บ
เล่ม 1 สาวใช้วัยละอ่อน
มะลิมองสภาพเจ้านายหนุ่มแล้วต้องเบือนหน้าหนี เธอเป็นหลานสาวป้าทองแท้ ซึ่งเป็นแม่บ้านเก่าแก่ของคุณหญิงขจิต ซึ่งเป็นมารดาของขจร
ขจรเป็นลูกชายคนเล็กของคุณหญิงขจิต เขาแยกบ้านออกมาอยู่ต่างหาก เพราะมีโปรแกรมว่าจะแต่งงานกับแฟนสาวที่คบหาดูใจกันมานาน แต่ฤดีกลับสลัดรักไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ทำให้ขจรเสียใจเป็นอันมาก เขาเมามายมาหลายวันแล้ว และไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง นอนหลับไม่ได้สติอยู่ที่เรือนหอร้างรักแห่งนี้
คุณหญิงขจิตกับป้าของเธอจึงส่งเธอมาช่วยดูแลเขา
มะลิ เธอเป็นหญิงสาววัย 20 ปี ซึ่งเพิ่งเรียนจบการบัญชีจากวิทยาลัยแห่งหนึ่งในระดับ ปวส. เธอเป็นเด็กกำพร้า ป้าทองแท้รับมาเลี้ยงดูในบ้านของคุณหญิงขจิตตั้งแต่เด็ก
เธอเดินไปเก็บขวดเหล้ามากมายที่กองเกลื่อนอยู่กับพื้น เห็นใจเขาอยู่ ไม่น้อยที่ต้องโดนสลัดรัก ทั้งๆ ที่เขากับแฟนสาวอย่างฤดีรักกันมาก ใครๆ ก็รู้ เธอเองยังงุนงงว่าเหตุใดฤดีถึงหนีไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น
พอเก็บกวาดเรียบร้อยก็รีบจัดการนำผ้าขนหนูใส่กะละมังใส่น้ำ ก่อนจะบิดหมาดๆ แล้วเช็ดหน้าเช็ดตาให้เขา
เธอต้องเบือนหน้าหนีจากกลิ่นเหล้าคละคลุ้งที่อยู่บนตัวเขา
“ตกลงกินหรืออาบกันแน่นี่” มะลิบ่นอุบ จัดการเช็ดหน้าเช็ดตาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อีกฝ่าย เขาค่อยๆ ปรือตาขึ้นเพราะความเย็นของผ้าที่ลากไปตามใบหน้าและเนื้อตัว
“ใคร” เขาปัดมือของอีกฝ่ายออก ก่อนตื่นเต็มตา
“ออกไป อย่ามายุ่ง” พอเห็นว่าเป็นใครเขาก็ตวาดลั่น ยายเด็กมะลิหลานของป้าทองแท้นั่นเอง ที่บ้านคงส่งยายเด็กนี่มาดูแลเขา เขาไม่อยากให้ใครมาคอยสมเพชเวทนา
ร่างสูงโงนเงนยืนขึ้นก่อนจะเซ มะลิรีบเข้าไปประคองเอาไว้ แต่เขาปัดมือของเธอออกห่าง
“บอกว่าอย่ามายุ่งไง”
“อุ๊ย! ว้าย!” เขาผลักจนเธอเซ ก่อนจะพาร่างสูงเดินขึ้นชั้นบนของตัวบ้าน
มะลิเม้มปากเข้าหากันแน่น ถ้าไม่เพราะผู้ใหญ่ไหว้วานให้เธอมาคอยดูแลล่ะก็ เธอไม่มาให้เสียเวลาหรอก แต่อีกใจเพราะแอบชอบเขามานาน ยังไงก็ต้องถ่อสังขารมาอยู่ดีนั่นแหละ
ในเมื่อเขารำคาญ เธอก็ควรจะถอยมาตั้งหลักก่อน มะลิจัดการทำความสะอาดบ้านของเขาอีกครั้ง เธอปาดเหงื่อไปมา ก่อนจะจัดการเก็บเสื้อผ้าของเขาไปซัก พอเอาเสื้อผ้าลงเครื่องซักหมดแล้ว ก็เข้าครัวทำอาหาร พอทุกอย่างเสร็จสิ้นเธอจึงไปอาบน้ำ ร่างน้อยทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนจะหลับไปในเวลาต่อมา
สะดุ้งตื่นอีกทีเพราะได้ยินเสียงฟ้าคำราม มะลิดีดตัวขึ้นจากโซฟาวิ่งไปเก็บผ้าด้วยอาการกระหืดกระหอบ พอเธอเข้าบ้านมาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ ฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ เด็กสาวผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เสียงฝนและฟ้าทำให้เธอหน้ายุ่งเล็กน้อย เด็กสาวเงยหน้ามองบันไดบ้าน คนที่หนีเธอไปเมื่อครู่จะเป็นยังไงบ้างนะ เม้มปากเล็กน้อย
ขึ้นไปดูเขาเสียหน่อยก็คงดี...
เปิดประตูเข้าไปเห็นเขานอนคว่ำอยู่บนที่นอน สภาพยังอยู่ในชุดเก่า เธอเห็นแล้วส่ายหน้าไปมา ก่อนจะไปจัดการหาชุดมาเปลี่ยนให้เขา
คงไม่เป็นไรมั้ง เขาหลับ...
เปลี่ยนชุดคือต้องจับเขาแก้ผ้านี่แหละ ปัญหาใหญ่ แต่จะให้เขานอนสภาพนี้ก็ไม่ได้ มันดูเวทนายังไงไม่รู้
เธอจัดการพลิกร่างสูงของเขาให้นอนหงาย เขาปัดมือเธอออก ทำท่ารำคาญ มะลิจัดการถอดเสื้อผ้าของเขาออก ในขณะที่เขาลืมตามองอย่างรำคาญสุดๆ
“อุ๊ย! ว้าย!” ร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ ร่างของเขาพลิกขึ้นคร่อมทับร่าง ของเธอ หลังจากกระตุกร่างเธอให้ล้มลงไปบนเตียงกว้าง
“จะทำอะไร”เขาถามเสียงดุดวงตาของเขาแดงก่ำเพราะผ่านการดื่มมาเยอะ
“จะปลดเสื้อผ้าของคุณค่ะ”
“ปลดเสื้อผ้า เธอคิดจะทำอะไร ฉันเป็นผู้ชายนะ”
“คุณจอนปล่อยก่อนค่ะ หนูแค่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณก็เท่านั้นเอง”
“ฉันไม่เชื่อ” เขากดร่างเธอทับเอาไว้กับที่นอน มะลิดิ้นหนี แต่เขายิ่งกดทับร่างของเธอหนักขึ้นไปอีก
“เธอคิดจะทำอะไร บอกมา...”
“มะลิเปล่าคิดอะไร”
“ลอกคราบฉันแล้วจะเรียกร้องให้ฉันรับผิดชอบ อยากถีบตัวเองขึ้นมาจากคนใช้เป็นคุณนายหรือไง”
“คุณจอน” มะลิตกใจเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น
“ตกใจที่ฉันรู้ทันผู้หญิงอย่างเธอใช่ไหมล่ะ”
“มะลิเปล่าคิดแบบนั้นนะคะ”
“เธอน่ะเหรอไม่คิด เวลาฉันอยู่บ้านเธอมองฉันตาเป็นมัน”
“คุณจอน!” เธออุทานอย่างตกใจอีกครั้ง
“หรือฉันจะสงเคราะห์ให้เธอดี” เขาเหยียดปากใส่คนใต้ร่าง ตอนนี้นึกพาลไปหมด จริงๆ เขาเคยเอ็นดูมะลิมาก แต่ตอนนี้ผู้หญิงทุกคนดูขวางหูขวางตาไปหมด
“ปล่อยนะคะ”
“ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด” เขาเยาะเย้ยเหยียดปากน่าเกลียด
“คุณจอนปล่อยมะลินะคะ มะลิเจ็บ” เธอดิ้นเพราะเขายิ่งกดมือเธอทับกับพื้นเตียงจนแทบหัก
“อื้อ... คุณจอน” มะลิตกใจเมื่อเขาซุกใบหน้าลงมาหา ก่อนจะขบเม้มซอกคอของเธอแล้วดูดแรงๆ
“คุณจอน ปล่อยมะลินะคะ” ยิ่งเธอดิ้นเขายิ่งกอดรัดแน่นขึ้น ลมหายใจฟืดฟาดของเขารุนแรง เรือนร่างแข็งแกร่งรัดเธอเหมือนงูเหลือมตัวใหญ่ ท่าทีของเขาเหมือนโกรธ
“คุณโกรธคุณฤดีก็อย่ามาระบายอารมณ์ใส่มะลิสิคะ” เด็กสาวโพล่งออกไปอย่างเหลืออด เขาชะงักก่อนดวงตาจะลุกเป็นไฟ แล้วไม่มีคำพูดอะไรจากเขาอีก เขาบดจูบริมฝีปากของเธอหนักหน่วงรุนแรง เธอถึงกับหอบเมื่อเขาปล่อยริมฝีปากเป็นอิสระ
“คุณจอน” เธอส่ายหน้าไปมาเมื่อเขาเริ่มปลดเสื้อผ้าของเธอ
“ฉันอยากได้เธอ ตอนนี้เลย ได้ไหม” เขาคลุกเคล้าร่างสาว ในเวลานี้เขาต้องการใครสักคน เธอมองเขานิ่ง สายตาเว้าวอนทำให้เธอใจอ่อนอย่างไม่น่าให้อภัย เพียงแค่เธอพยักหน้าให้เขา ริมฝีปากร้อนรุ่มก็ทาบทับลงมาหนักหน่วง ดูดกลืนเรียกร้องเร่าร้อน ลิ้นของเธอถูกเขาดูดเม้มจนมึนงง
เธอผวาเมื่อร่างหนาหนักเปลือยเปล่าแนบชิดเสียดสีกับนวลเนื้อของเธอ ไม่รู้ว่าเขาถอดเสื้อผ้าของเธอออกไปตอนไหน รู้ตัวอีกที เขาก็เสียดสีท่อนเนื้อที่ส่วนปลายฉ่ำเยิ้มเข้ามากับร่องรักของเธอเสียแล้ว
“คุณจอน... อย่าค่ะ”
“เธอบอกว่าจะให้ฉัน” เขาเสียดสีร่องรักของเธอด้วยส่วนปลายของความเป็นชาย เธอซี้ดปาก หลับตาครางด้วยความเสียว ในจังหวะที่เธอกำลังเคลิ้มเขาก็ค่อยๆ กดมันเข้ามาอย่างเชื่องช้า
“คุณจอน... เจ็บค่ะ!” เธอสะดุ้งอุทาน ถอนสะโพกหนี เขากอดรัดเอาไว้แน่น ก่อนจะกดกายเข้าไปจนสุดโคน
ร่างน้อยกระตุกกรีดร้องอย่างรุนแรง เขารัดเธอแน่นขึ้นฝังกายเข้าไป รุกล้ำในร่องเยิ้มจนหมดสิ้น ปากหนาร้องครางสุดเสียงด้วยความเสียวซ่านสุดใจ
“อา... แน่นเหลือเกินมะลิ” ขจรครางหนักๆ เขาแช่กายเอาไว้ในร่างของเธอ เพื่อให้เธอปรับตัว เธอสะอื้นน้อยๆ เจ็บแปลบในสัดส่วนที่เขาฝังเข้ามาหา
“ให้ฉันขยับนะ เธอพร้อมแล้วใช่ไหม” เขาเอ่ยถามสีหน้าเหมือนเจ็บปวด ใบหน้าของเขากระตุกน้อยๆ ขณะยกสะโพกสอบให้แก่นกายเสียดสีกับร่องเยิ้ม
เธอครางซี้ด นิ่วหน้าด้วยความเสียวซ่าน ในจังหวะที่ผ่อนคลายเขาก็กดกระแทกเข้ามาจนมิดเม้น
“อา...” เธอร้องครางเด้งสะโพกรับด้วยความเจ็บเสียว เขาเริ่มซอยกายเข้าออกเร็วขึ้นเมื่อหยาดน้ำรักเริ่มฉ่ำเยิ้ม
กายสาวของเธอเริ่มตอบรับและผลิตน้ำหวานออกมาต้อนรับการขยับกายของเขา ร่างสูงใหญ่กระแทกกระทั้นเข้าหากายสาวหนักหน่วงขึ้นตามแรงอารมณ์ ท่อนกายของเขาสอดเสียบแนบชิดสนิทในร่องเนื้อแสนคับแคบ คนใต้ร่างกัดฟันด้วยความเสียดเสียวปนเปกับความอึดอัดเจ็บแปลบ
เธอรู้สึกกระสันซ่านจากแรงเสียดสีของเนื้อกายชายหนุ่ม เขาโหมกายเข้าใส่ไม่ออมแรง คนใต้ร่างสั่นคลอนไปตามแรงโยก มือหนาเลื่อนมากอบกุมเต้านมเคร่งครัดพอดีมือ นวดเฟ้นแล้วก้มลงดูดจนหัวนมแข็งเป็นไต ลำกาย โหมกระหน่ำ สาวน้อยไม่เคยพานพบบทรักมาก่อนถึงกับทำตัวไม่ถูก ได้แต่ร้องครางอยู่ใต้ร่างหนุ่ม เสียงกระแทกของเนื้อกาย ตับ ตับ ตับ
“เธอคือเจ้าสาวที่เขาไม่ต้องการ แต่กลับเป็นผู้หญิงที่เขาไม่อาจปล่อยไปได้” แต่เมื่อเขายิ่งอยู่ใกล้เธอ เขากลับยิ่งอยากครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ ทว่าเธอไม่ใช่หมากให้เขาควบคุม เขาต่างหากที่จะถูกเธอควบคุมและยอมจำนนรักต่อเธอ
คะนึงนิจรักเขาจึงยอมยกทุกอย่างให้เขาทั้งตัวและหัวใจ แต่เขาเพียงแค่หลอกกินฟรี เตะถ่วงเวลาออกไปเพื่อไปหาผู้หญิงที่ดีกว่า ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นของไร้ค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาจากชีวิตของเขา โดยไม่เสียดายผู้ชายหลอกลวงอย่างฉัฐดนัยเลย
เขา...คือมาเฟียเถื่อน ผู้เย็นชา โหดเหี้ยม และไม่เคยปล่อยให้ใคร “รอด” หากข้ามเส้นของเขา เธอ...คือสาวสวยธรรมดา ที่ดันเข้าไปเห็น "บางอย่าง" ในคลับใต้ดินของเขาเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อ “ปิดปาก” เขาใช้ร่างกายของเธอเป็นข้อแลกเปลี่ยน แต่แทนที่จะลบเธอจากชีวิต... เขากลับ ขังเธอไว้ในหัวใจ แบบถอนตัวไม่ขึ้น “ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไปไหนอีกแล้ว เธอต้องอยู่...เพื่อให้ฉันรัก และปั๊มลูกทุกคืน!” จากเพียงแค่ “ทาสรักในเตียงมาเฟีย” เขากลับรักเธอ...จนกลายเป็นสามีที่คลั่งรักที่สุดในโลก ท่ามกลางแรงรัก อารมณ์ดิบ และคำว่า ‘กรรม’ ที่ผูกมัดทั้งสองไว้ เรื่องราวของเขาและเธอจะลงเอยเช่นไร... เมื่อหัวใจของคนเถื่อน ถูกผู้หญิงคนเดียวทำให้ “อ่อนโยน” ได้เพียงแค่รอยยิ้มของเธอ
เมื่อ ภูผา ทายาทนักธุรกิจพันล้าน ถูกส่งตัวมาอยู่ที่บ้านนอกกลางทุ่งนา เขาต้องใช้ชีวิตร่วมชายคากับ ดาหลา ลูกสาวกำนันจอมแก่นที่มองเขาเป็นแค่ "หนุ่มกรุงไม่เอาไหน" จากความหมั่นไส้ กลายเป็นความห่วงใย... จากแผงผักริมตลาดนัด สู่แผนเปิดโปงที่เขย่าทั้งวงการธุรกิจ เมื่อหนุ่มเจ้าสำอางต้องมาเลี้ยงน้องควายทองแท้ที่ชอบให้ขัดหลังเสียเหลือเกิน แท้จริงคือ CEO ตัวจริงเสียงจริง! ความรัก ความลับ และแผนร้ายที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มจะพาทุกหัวใจอบอุ่นไปพร้อมกลิ่นหอมของไอดิน และคำว่ารักที่งอกงามกลางทุ่งนา เพราะบางที...ควายตัวเดียว ก็พาเราพบรักแท้ได้
เพราะเธอช่วยชีวิตเขาไว้...โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ในนาทีที่เธอคิดว่าเป็นแค่การทำดีธรรมดา กลับกลายเป็นการสะกิดหัวใจของชายหนุ่มผู้เย็นชาที่ไม่เคยเปิดใจให้ใคร "ธามกร วัฒนเดช" บอสหนุ่มผู้เก็บงำความเจ็บปวดไว้ใต้ท่าทีเรียบนิ่ง เขาไม่เคยเชื่อในน้ำใจของใคร...จนวันที่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเขา และเธอ... "แก้วจอมขวัญ อินทราวงศ์" พนักงานบัญชีคนใหม่ ที่ไม่รู้เลยว่าแค่ ความดีเล็ก ๆ ในวันนั้น จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล จากคำขอบคุณ กลายเป็นความห่วงใย จากเจ้านายผู้เย็นชา กลายเป็นผู้ชายที่เดินเข้ามาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวทุกวินาที เขาค่อย ๆ เติมเต็มรอยร้าวในชีวิตของเธอ และเธอกลายเป็นคนเดียวที่เขาอยากปกป้องไปตลอดชีวิต "ถ้าคุณยังไม่กล้ารักผม งั้นขอให้ผมได้รักคุณก่อนนะ แก้วจอมขวัญ"
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด