นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"
เสียงฟ้าร้องคำรามดังไปทั่วพื้นปฐพี สายอสุนีบาตฟาดลงที่ต้นไม้อายุนับร้อยปี กลิ่นไหม้ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เพียงครู่เดียวสายฝนก็สาดกระหน่ำลงมา เหมือนกับว่าเป็นลางบอกเหตุบางอย่าง ประตูหน้าเรือนท้ายตำหนักถูกกระชากเปิดออก ฉีกงกงเดินเข้ามาหยุดอยู่กลางห้อง แววตาเย้ยหยันมองสตรีสูงศักดิ์ที่บัดนี้ไม่หลงเหลือความจองหองเหมือนเช่นในอดีต
“พระชายากระหม่อมนำข่าวสกุลหลิวมาบอก” หลิวอวี่หนิงค่อยๆ หันกลับไปมองช้า ๆ ถึงจะพูดว่ามองแต่นางก็มิได้เห็น นางใช้เพียงสัมผัสทางหูที่ได้ยินเท่านั้น
สายฟ้าสาดส่องลงมาอีกครั้งภายในห้องที่มืดมิดพลันสว่างขึ้น ฉีกงกงก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาเบิกกว้างมองสตรีที่นั่งบนเก้าอี้ ใบหน้าที่เคยงดงามกลับขาวซีด ดวงตาขุ่นมัวไร้แวว เส้นผมที่เคยเงางามแห้งกระด้างจับตัวกันเป็นก้อน นางค่อย ๆ อ้าปากออกช้า ๆ และพยายามเปล่งเสียงพูด
“ข่าวอะไร” เสียงแหบพร่าเอ่ยออกมา อาจเพราะว่านางมิได้พูดคุยกับผู้ใดนานมากแล้ว น้ำเสียงจึงฟังแหบแห้งราวกับคนแก่
“ท่านแม่ทัพหลิวตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ร่างอรชร นางค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้ มือเรียวยื่นออกไปข้างหน้าปัดป่ายไปมา ฉีกงกงเบ้ปากก่อนจะขยับเท้าถอยหลัง
“พระชายามองไม่เห็นก็ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นมาพ่ะย่ะค่ะ”คนเราก็เท่านี้ ผู้ใดจะไปคิดว่าสกุลหลิวที่สูงส่งจะตกอับเช่นทุกวันนี้
“ตาย!...พี่ชายข้า ตายได้อย่างไร!”
“แม่ทัพหลิวแอบซุกซ่อนกองกำลังฝึกทหารลับหลังฝ่าบาทเท่านั้นยังไม่พอ แม่ทัพหลิวยังเหิมเกริมลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท พระชายาทรงเป็นคนฉลาด เช่นนั้นก็ย่อมคิดได้ว่าโทษของกบฏ สมควรตายหรือไม่”
กบฏหรือช่างหน้าไม่อายนัก สกุลหลิวจงรักภักดีมาทุกรุ่นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ไม่คาดคิดว่าวันนี้พี่ชายนางจะถูกฐานะกบฏ สวมลงบนศีรษะ ช่างน่าขำ ลอบปลงพระชนม์เช่นนั้นหรือ พี่ชายนางมีเหตุผลใดต้องทำเช่นนั้นหลิวอวี่หนิงยกยิ้มเย้ยหยันออกมา
“ฉีกงกงเจ้าคงไม่คิดจะเข้ามาบอกข้าเพียงอย่างเดียวกระมัง”
“กระหม่อมถึงบอกว่าพระชายาเป็นคนฉลาด เช่นนั้นพระชายาจะรอสิ่งใดอยู่เล่าพ่ะย่ะค่ะจะทนอยู่กับความอัปยศนี้ไปเพื่อสิ่งใด รอสิ่งใดอยู่หรือ มิสู้จากไปอย่างสงบเถิด” หลิวอวี่หนิงเซถอยหลังดวงตาเบิกกว้าง นางก้าวล้มลงไปนั่งบนพื้นที่สกปรก
“ข้าต้องการพบกู่เหว่ยหยวน ไปตามเขามาพบข้า!!..” นางแค่นเสียงออกมาทีละคำ มือเล็กกำเข้าหากันแน่น
“เจ้าคู่ควรจะพบองค์ชายหรือ หลิวอวี่หนิงเจ้าอย่าได้เรื่องมากอยู่เลย หากพระองค์อยากพบเจ้าก็คงยอมมาพบไปนานแล้ว ดวงตาเจ้ามืดบอดพระองค์ยังไม่ยอมให้หมอหลวงเข้ามารักษา เรื่องแค่นี้คนฉลาดอย่างเจ้าจะคิดมิได้หรือ”
“ฉีกงกงอย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย จัดการได้แล้ว”หลิวอวี่หนิงเงยหน้าขึ้นไปตามเสียง
เสียงนี้นางจำได้ดี เป็นอินจูหลี
หึ!!..สตรีชั่วช้านางนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนั่นนะสินะองค์ชายสี่พระสวามีนางจะเข้ามาพบนางหรือ เกรงว่ายามนี้แม้แต่ชื่อของนางเขาก็ไม่อยากจะได้ยินให้ระคายหู
“พ่ะย่ะค่ะพระชายารอง”ฉีกงกงพยักหน้าให้นางกำนัลร่างใหญ่เดินเข้าไปกดตัวหลิวอวี่หนิ่งให้แนบลงกับพื้น อินจูหลีถอยหลังออกมา นางคว้าเอาแจกันใบใหญ่โยนกระแทกผนังห้องจนแตกกระจาย และหยิบเอาชิ้นที่แหลมคมยื่นไปให้ฉีกงกง
“พระชายาเอกหลิวอวี่หนิงได้ยินเรื่องของพี่ชายจึงได้อับอายเป็นอย่างมาก ชีวิตนี้ผิดต่อบรรพบุรุษ ผิดต่อราชวงศ์ไท่กู่จึงได้ปลิดชีพตนเอง น้อมรับความผิดร่วมกับพี่ชาย”สิ้นเสียงอินจูหลี ฉีกงกงก็กดเศษแจกันที่ลำคอระหงก่อนจะลากเป็นทางยาวเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากบาดแผล
หลิวอวี่หนิงไม่คิดจะดิ้นรน ร่างอรชรกระตุกเกร็ง ภาพในวันวานย้อนเข้ามา หากวันนั้นนางไม่ตกหลุมรักเขา หากนางไม่หลงรักกู่เหว่ยหยวน พี่ชายเพียงคนเดียวของนางก็คงจะไม่ตาย สกุลหลิวก็คงจะไม่ล่มสลาย เสียดายที่โลกนี้ไม่มีคำว่าหาก ไม่อย่างนั้นครอบครัวนางคงไม่จบสิ้นลงเช่นนี้ นางไม่ยินยอม นางจะต้องตายไปอย่างคับข้องใจแบบนี้หรือ ดวงตาขุ่นมัวปิดลงช้า ๆ โชคดีเหลือเกินที่ดวงตานางถูกพิษจนมืดบอด มิต้องทนเห็นใบหน้าคนเหล่านี้
‘ทั้งชีวิตของข้า หากจะผิดก็คงเป็นเพราะหลงรักบุรุษชั่วช้าอย่างท่าน กู่เหว่ยหยวน ข้าขอให้ท่านโดนเหมือนดังที่ข้าโดน ไม่ว่าจะกี่ชาติภพ อย่าได้เจอกันอีกเลย’
อดีตที่เธอเคยทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้ ยังคงเป็นรอยแผลใจยากจะสมานกลับคืนได้ คนเคยร้ายอย่างเธอต่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียังไง เขากลับมองเป็นเพียงผู้หญิงร้ายกาจไม่เปลี่ยนแปลง
หลิวชิงเฟยดาราสาวในยุคปัจจุบัน กำลังเข้าฉากบู๊ที่ต้องปีนลงจากตึก ความจริงแล้วเธอควรจะใช้ตัวแสดงแทน ทว่าดาราสาวอยากท้าทายความสามารถของตนเอง ความไม่ชำนาญจึงให้ทุกอย่างพลาด!!!...นอกจากจะไม่ได้ท้าทายแล้วเธอกลับต้องจบชีวิตลง! แต่ทว่าวิญญาณกลับไม่ยอมไปยังปรโลก ไม่รู้เพราะเหตุใดเธอจึงมาอยู่ในร่างของหลิวชิงเฟย หญิงสาวที่มีชื่อเดียวกับเธอ นอกจากนั้นใบหน้าก็ยังงดงามเหมือนกัน แต่นิสัยกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว ชิงเฟยผู้นี้มีนิสัยร้ายกาจเห็นแก่ตัวเป็นอย่างมากจนทำให้ครอบครัวต้องล่มจม หลิวชิงเฟยผู้นี้ยังมีพี่สาวชื่อหลิวจิ้งเฟย และหลานชายชื่อหลิวซานอีกด้วย เดี๋ยวก่อนนะ...เหตุใดตัวละครเหล่านี้มันช่างคุ้นหูเหลือเกิน หลิวชิงเฟยผู้นี้มิใช่ตัวประกอบหญิงที่ต้องตายเพราะถูกพระเอกที่เป็นผู้มีอิทธิพลติดหนึ่งในสามของนครเซียงไฮ้ฆ่าตายหรอกหรือ คนเคยตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายเป็นครั้งที่สอง แต่เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อคำสั่งเสียของพี่สาวผู้วายชนม์ต้องการให้เธอพาหลานชายไปหาบิดาของเขา ถ้าไปก็ต้องถูกเขาฆ่าตาย แต่ถ้าไม่ไปวิญญาณหลิวจิ้งเฟยก็คงไม่ได้ไปสู่สุคติ มองไปทางไหนก็เหมือนจะไม่มีทางเลือกเลย หลิวชิงเฟยคิดหนักเหลือเกิน เธอควรเลือกทางไหนดี...
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
ในขณะที่เขาเฝ้ารักสตรีผู้นั้น ทว่าในขณะเดียวกันนางก็เฝ้ารอความรักจากเขาอย่างมีความหวัง 'ความรักทำให้คนโง่งม' คำกล่าวนี้ช่างเหมาะสมกับนางยิ่ง หรือชั่วชีวิตนี้ของนางจะเป็นได้เพียงอากาศ วนเวียนอยู่รอบกายแต่กลับไร้ค่าไม่มีตัวตน "พระองค์จะหันมาเหลียวแลหม่อมฉันบ้างได้หรือไม่ หม่อมฉันก็มีหัวใจไม่ต่างจากผู้อื่นเช่นกัน"
นิยายเรื่องนี้เป็นการนำตัวละคร ของสามเรื่องหลัก มาแต่งเป็นตอนพิเศษสั้น ๆ เพื่อตอบแทนนักอ่านที่รักทุกท่านที่สนับสนุนกันมาตลอดเวลา จะเป็นฉากเก็บตกที่รี๊ดขอมาทั้งสิ้น ฝากติดตามด้วยนะคะ
เพื่อแคว้นนางเสียสละ เพื่อบิดานางกตัญญู จำใจรับสถานะพระชายาที่พระสวามีไม่ยินดี ได้ครองร่างกายแต่มิอาจได้ครองใจ เพราะมิอาจขัดขืนคำสั่งพระบิดา ฟางหลินจึงต้องอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ทว่าองค์ชายผู้นั้นกลับมีสตรีในดวงใจแล้ว เห็นทีชีวิตการแต่งงานของนางคงไม่พ้นต้องแบกรับความไม่เป็นธรรม
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจนฉันต้องลดหนังสือในมือลงชะเง้อคอมองไปที่ถนน “เสียงท่อรถแบบนี้ ผ่านด่านตรวจมาได้ยังไงวะ?” ความรู้สึกแรกหลังได้ยินเสียงแสบหู ท่อไอเสียที่ถูกตัดแต่งเพิ่มเสียงให้ดังมากขึ้น จนทำให้คนที่ได้ยินเกิดความรำคาญ และฉันเป็นหนึ่งในหลายคนที่เบ้ปากร้องยี๋ แต่ฉันอาจจะอาการหนักกว่าคนอื่นนิดหน่อยก็ได้ เพราะฉันกำลังติดพันกับหนังสือนวนิยายที่เพิ่งได้มา มันเป็นหนังสือนิยายทำมือของนักเขียนท่านหนึ่งแต่ติดเรท ที่ฉันพยายามหลบๆ อ่าน เพราะบางทีสายตาของคนอื่นตอนที่มองปกหนังสือก็ทำให้ฉันหงุดหงิดเล็กๆ ฉันคิดในใจทุกครั้งหากสายตาคนเหล่านั้นพุ่งตรงมาที่หนังสือในมือฉัน ฉันซื้อมาด้วยสตางค์ที่หาได้ ไม่ได้ไปใครขโมยใครมา แล้วทำไมล่ะ ความชอบส่วนตัวของฉันจึงไปขัดตาคนอื่น จบเรื่องนั้นกันก่อนเถอะค่ะ เรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ไอ้รถบิ้กไบค์คันนั้นดันมาจอดใกล้ๆ แปลที่ฉันนอนซุ่มอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่นี่สิ!!
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน