สายตาของอเล็กซิโอร้ายกาจ แต่หล่อนมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าภายในร่างกายสมบูรณ์แบบทรงพละกำลังของเขาจะต้องซ่อนบางสิ่งบางอย่างที่ร้ายกาจยิ่งกว่าดวงตาเอาไว้อย่างแน่นอน และหล่อนก็อดใจแทบไม่ไหวที่จะได้พิสูจน์มัน หญิงสาวหน้าแดงก่ำจนถึงไรผม เมื่อความคิดที่ไม่มีทางอยู่ในหัวของผู้หญิงดีๆ ผุดขึ้นมาในสมองบานเบอะ “คุณ... จะอยู่ถึงเช้าฉันก็... ไม่เดือดร้อน” คนตัวโตยิ้มบางๆ และถอยออกห่าง ด้วยท่าทางเยือกเย็นจนน่าหมั่นไส้ “เชื่อเถอะว่าคุณจะไม่มีทางพูดคำนี้ออกมาอีกหลังจากได้นอนกับผม” คำพูดแสนมั่นใจของคนตัวโตทำให้สโรสินีหน้าแดงแล้วแดงอีก หล่อนกัดปากเชิดหน้า และถอยหลังออกห่าง “อย่ามั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองนักเลย...” “ผมเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก... ในทุกๆ เรื่อง” เขาจงใจจะบอกให้หล่อนรู้ว่า ‘เซ็กซ์’ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เขามั่นใจในตัวเองสุดๆ เชอะ... ไม่เห็นต้องมาสาธยายให้ฟังเลย คนที่ตาไม่บอดก็มองออกทั้งนั้น แหละว่าอเล็กซิโอ เบอร์ลัสโคนิคือนักรักที่เก่งฉกาจ ขนาดคนที่ไม่มีประสบการณ์อย่างหล่อนยังมองออกเลย “ฉันอยากอาบน้ำแล้ว... เชิญคุณไปจัดการไอ้เรื่องที่คุณคิดว่ามันสำคัญกว่า ‘เซ็กซ์’ เถอะ” หล่อนสะบัดหน้าหนี แต่กระนั้นก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากลำคอแกร่งของพ่อคนหล่อระเบิดขึ้นมาอีกจนได้ หญิงสาวพยายามไม่สนใจ แต่ก็ต้องหยุดเดินเมื่อได้ยินคำพูดที่แม้จะราบเรียบแต่ความหมายไม่ผิดจากไฟเลยแม้แต่นิดเดียว “นี่จะเป็นการอาบน้ำคนเดียวครั้งสุดท้ายของคุณ...” “คุณหมายความว่ายังไง” หล่อนหันขวับกลับมาจ้องหน้าเขาตาโต เขายิ้มบางๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้หล่อนตาลาย “เราจะอาบน้ำด้วยกัน... และคุณคงไม่คิดใช่ไหมว่าผมจะแค่อาบน้ำกับคุณอย่างเดียว” “คุณคงไม่ได้ชื่นชอบการมีเซ็กซ์ในห้องน้ำใช่ไหม?” อเล็กซิโอหัวเราะ “คำตอบนี้ผมขอตอบหลังจากเริ่มทำกับคุณก็แล้วกัน เอาล่ะผมต้องไปจริงๆ แล้ว และหวังว่าคุณจะไม่ออกไปก่อความวุ่นวายให้กับผมอีก”
The Presidential คือไนต์คลับหรูหราที่มีชื่อเสียงและมีสาขามากที่สุดในโลก และ ณ ใจกลางเมืองพัทยาแห่งนี้ก็คืออีกสาขาหนึ่งกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องราตรีที่นิยมความมีระดับแต่ในขณะเดียวกันก็อยากได้บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองอย่างล้นหลาม ซึ่ง The Presidential สามารถตอบโจทย์นี้ได้ขาดกระจุยเลยทีเดียว
แต่สถานที่แห่งนี้มีไว้เฉพาะนักเที่ยวที่กระเป๋าสตางค์หนักๆ เท่านั้นแหละ เพราะไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มหรือแม้แต่อาหารต่างๆ แสนจะแพงระยับจนคนจนๆ ทำได้แต่ยืนดมกลิ่นของมันเท่านั้น และด้วยสนนราคาที่แพงหาตัวจับยากเช่นนี้ทำให้ภายใน The Presidential มีแต่เศรษฐีและมหาเศรษฐีเท่านั้นที่สามารถเหยียบย่างเข้าไปได้
และก็ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ สโรสินี พิพัฒนชัย สาวน้อยวัยเพียงแค่สิบเก้าปีกระเสือกกระสนยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้ามาทำงานภายในที่แห่งนี้ ที่ที่หล่อนคิดว่ามันจะสามารถทำให้ตัวเองพร้อมทั้งครอบครัวที่กำลังยากแค้นแสนสาหัสสามารถมีความสุขขึ้นมาได้บ้าง
หญิงสาวก้มลงมองชุดฟอร์มที่ค่อนข้างเปิดเผยเนื้อตัวของตนเองด้วยสายตาไม่พอใจนัก เสื้อยืดสีขาวรัดรูปกับกระโปรงสีดำสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเกือบสองคืบ ต้นขาอวบขาวเนียนไม่มีทางเป็นความลับต่อสายตาของแขกนักเที่ยวได้เลย แต่ก็โชคดีหน่อยที่แสงไฟในไนต์คลับค่อนข้างจะสลัว ทำให้หล่อนไม่อับอายมากนัก
แต่ถึงแม้จะไม่อยากทำงานในอโคจรแบบนี้มากแค่ไหน แต่หล่อนก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว สองชีวิตที่กำลังรอคอยความหวังจากหล่อน สองชีวิตที่หล่อนไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาทนอดยากและลำบากลำบนได้ หล่อนยอมทำทุกอย่าง ยอมทำทุกทางจริงๆ เพื่อช่วยให้แม่และหลานชายที่พึ่งจะสามขวบเศษมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หล่อนไม่อยากให้หลานชายต้องเติบโตขึ้นมาในสลัมเหมือนกับที่หล่อนและน้องสาวพบเจอมา เพราะสภาพแวดล้อมที่น่าสะอิดสะเอียนพวกนี้ไม่ใช่หรือที่ทำให้น้องสาวของหล่อนต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร
สโรสินีน้ำตาซึมขอบตาเมื่ออดีตเมื่อสามปีก่อนย้อนกลับมาเล่นงานอีกครั้ง สภาพศพที่บอบช้ำของน้องสาวในคลองน้ำใกล้กับสลัมทำให้หล่อนเจ็บร้าวไปทั่วทั้งอก น้องสาวของหล่อนถูกข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งทั้งๆ ที่น้องสาวของหล่อนพึ่งจะคลอดลูกชายออกมาได้ไม่ถึงสามเดือนเลยด้วยซ้ำ พวกมันโหดเหี้ยม พวกมันใจร้าย และถึงแม้ว่ามันจะหนีกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้ไม่พ้นเมื่อตำรวจสามารถลากคอพวกมันเขาคุกได้ทั้งหมด แต่หล่อนก็คิดว่ามันยังไม่สาสม พวกมันยังต้องชดใช้มากกว่านี้อีก สโรสินีให้คำสัญญากับตัวเอง
น้ำตาจากที่เคยแค่ซึมเพียงขอบตาตอนนี้ไหลลงมาอาบแก้มและนั่นก็ทำให้หญิงสาวต้องรีบยกมือขึ้นเช็ดอย่างรวดเร็วเพราะเกรงว่าเครื่องสำอางที่แต่งแต้มเอาไว้จะลบเลือน เพราะกฎเหล็กของที่นี่คือพนักงานไม่ว่าจะตำแหน่งอะไรก็ต้องแต่งหน้าทุกคน แล้วก็ต้องยิ้มให้สวยกว่านางงามจักรวาล และที่สำคัญที่สุดห้ามขัดใจลูกค้าอย่างเด็ดขาด คำว่าลูกค้าคือพระเจ้าคือหัวใจของ The Presidential
เคยมีพนักงานหญิงคนหนึ่งเกิดมีปากเสียงกับลูกค้าจอมลามก ทั้งๆ ที่เจ้าหล่อนไม่ได้ผิดเพราะแค่ป้องกันตัวจากการถูกลวนลามเท่านั้น แต่สุดท้ายลูกค้าก็เป็นฝ่ายถูกเสมอเมื่อผู้หญิงคนนั้นถูกไล่ออกไปอย่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ตอนนั้นหล่อนอยากจะเข้าไปซัดใบหน้าอวบอูมของไอ้ผู้จัดการสาขาเห็นแก่เงินให้เละนัก แต่ภาพความหิวโหยของแม่และหลานชายที่จะเกิดขึ้นทันทีหากหล่อนตกงาน ก็ทำให้หล่อนต้องสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้สุดกำลัง แต่กระนั้นหล่อนก็สาบานเอาไว้ภายในใจว่าหากหล่อนมีโอกาส หากหล่อนรวยเมื่อไหร่หล่อนจะต้องกลับมาจัดการกับไอ้มิสเตอร์จอนนี่ อีแวนส์คนนี้ให้จงได้
“ยายฟ้า... แขกเต็มร้านแล้ว มัวแต่มายืนเหม่ออยู่ได้...”
สโรสินีสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะหันไปตามเสียงเรียกแล้วก็ได้เห็นเพื่อนสนิทยืนทำหน้ายักษ์ใส่
“เรียกซะดังเชียวสวย... หูแตกกันพอดี”
เจ้าของชื่อที่มีชื่อจริงว่า ลัลนา อัครโชติพงศา อายุอานามก็เท่ากับหล่อนนั่นแหละห่างจากกันไม่กี่เดือนหรอก แต่ความสวยนั้นคงต้องยกให้ลัลนาไปเพราะหล่อนดันมีชื่อเล่นว่าสวยนี่ แต่เจ้าหล่อนก็สวยสมชื่อปากคอคิ้วคางเหมาะเจาะได้รูปถ้าได้เล่นละครญาญ่าก็ญาญ่าเถอะมีต้องชิดซ้ายแน่ๆ แต่ไหงแม่คุณถึงชอบแต่งตัวเป็นทอมบอยนักก็ไม่รู้ จนคนอื่นแอบคิดกันไปไกลว่าหล่อนกับลัลนาเป็นคู่รักทอมดี้กันไปหมดแล้ว
ทั้งที่จริงๆ แล้วลัลนามีผู้ชายที่แอบมองอยู่แล้วต่างหาก ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่คนไกลที่ไหนเลยนอกจากหนุ่มอังกฤษตาสวยอย่าง แมทธิว บราวน์ เพื่อนสนิทของ อเล็กซิโอ เบอร์ลัสโคนิ เจ้าของ The Presidential แห่งนี้นี่เอง อเล็กซิโอ เบอร์ลัสโคนิ ผู้ชายที่เพียงแค่ได้มองเพียงด้านหลังก็ทำให้หัวใจของหล่อนเต้นแรงที่สุดในชีวิต ผู้ชายที่ทำให้หล่อนตัวสั่นและต้องหลบเมื่อเขามองมา...
หล่อนกับลัลนาเคยพูดกันเล่นๆ ว่าพวกหล่อนจะต้องจับผู้ชายหล่อรวยพวกนี้มาเป็นสามีให้จงได้เพื่อที่จะได้ฉุดตัวเองและครอบครัวขึ้นจากความยากจนเสียที แต่มันก็เป็นแค่การพูดกันสนุกๆ เท่านั้นแหละ เพราะในความเป็นจริงแล้วการที่คิดจะกระทำด้วยประโยชน์ส่วนตัวแบบนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องและควรจะทำเป็นอย่างยิ่ง
แต่... ในชีวิตของคนที่ต้องปากกัดตีนถีบแบบพวกหล่อน ทางเลือกเพื่อความอยู่รอดมันมีอยู่น้อยนิดนัก หากวันใดมันเข้าตาจนจริงๆ พวกหล่อนก็คงไม่มีทางเลือกใดอีก นอกจากทำในสิ่งที่รู้อยู่เต็มอกว่าผิดลงไป แม้ว่าใจจริงแล้วจะไม่อยากทำมันเลยก็ตาม
“ถ้าไม่ดัง เธอจะได้ยินหรือฟ้า...”
เจ้าของชื่อยิ้มบางๆ ให้กับเพื่อนสนิทที่อยู่ในชุดฟอร์มเดียวกับตัวเอง “ขอโทษจ้า พอดีกำลังคิดอะไรเพลินๆ นิดหน่อย ว่าแต่เจ้าอ้วนนั่นให้มาตามฉันเหรอสวย...”
ลัลนาพยักหน้ารับน้อยๆ “ใช่... เห็นว่ามีเรื่องอะไรจะให้เธอทำก็ไม่รู้”
“ฉันไม่อยากพูดกับเจ้าหมูสกปรกคนนี้เลย เวลามันมองฉันนะฉันนี้แทบจะอ้วก แล้วนี่มันแอบคิดอะไรไม่ดีกับฉันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้”
น้ำเสียงของสโรสินีเต็มไปด้วยความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ลัลนาเห็นแล้วก็เดินข้ามาตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ อย่างให้กำลังใจ
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ฉันจะไปเป็นเพื่อน...”
“จริงเหรอสวย...”
ลัลนาพยักหน้าน้อยๆ “จริงสิ ฉันไม่มีทางปล่อยให้ใครทำร้ายเธอหรอก ถ้ามันคิดจะทำร้ายเธอ มันต้องถูกฉันอัดเละแน่”
สโรสินีหัวเราะออกมากับท่าทางจริงจังของเพื่อนรัก “ตัวเธอนิดเดียวเองจะไปสู้อะไรกับไอ้ผู้ชายตัวใหญ่ได้”
“ถึงมันจะตัวใหญ่ แต่ฉันมีเครื่องมือที่จะทำให้มันซ่าส์ไม่ออก หากมันคิดไม่ดีกับเธอ...” มือบางของลัลนาหยิบมีดพกเล็กๆ แบบพับได้ที่เก็บไว้ในขอบกระโปรงออกมาโชว์ สโรสินีอุทานด้วยความประหลาดใจ
“นี่เธอพกของพวกนี้ด้วยเหรอสวย เจ้าอ้วนมันออกกฎว่าห้ามพกของมีคม...”
“ฉันไม่เคยไม่ระวังตัว...” ลัลนาเก็บมือพกอันเล็กไว้ที่เดิม ก่อนจะรีบเร่งเพื่อนรัก
“ไปกันเถอะ มันรอนานแล้วเดี๋ยวจะโวยวายอีก ฉันรำคาญเสียงมันตอนบ่น ยิ่งกว่าเสียงเพลงในไนต์คลับเสียอีก”
สโรสินีหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน ลัลนาคือเพื่อนตายของหล่อน บ้านของหล่อนกับลัลนาอยู่ในสลัมเดียวกันแถมยังอยู่ใกล้ๆ กันอีก บ้านของหล่อนมีแม่แก่ๆ ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจกับหลานชายวัยสามขวบเศษ ขณะที่บ้านของลัลนามียายที่แก่กว่าแม่ของหล่อนและพี่ชายที่ไม่เอาถ่านไปวันๆ เอาแต่เล่นการพนันและไถเงินน้องสาวไปวันๆ พวกหล่อนมีชะตากรรมไม่ต่างกันเลย ดังนั้นจึงทำให้หล่อนรักกันมากจนแทบจะตายแทนกันได้
และพวกหล่อนก็ตั้งเป้าหมายไว้ในชีวิตว่า... จะต้องหาสามีที่รวยโคตรๆ มาเป็นถังเงินถังทองให้จงได้...
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"