อันโตนิโอ ปาสซินี่ หนุ่มหล่อสายเลือดอิตาเลี่ยนผู้มีรูปโฉมงามสง่า แต่ภายใต้ใบหน้าที่หล่อลากดินนั้นใครจะล่วงรู้ได้บ้างว่า เขา... ซ่อนความคลั่งแค้นเอาไว้มากมายแค่ไหน มาร์กาเร็ต ปาเชโก้ สาวน้อยไร้เดียงสา หล่อนหลงรักผู้ชายที่ชื่อ อันโตนิโอ ปาสซินี่ จนหมดหัวใจ รักทั้งๆ ที่รู้ว่าพ่อเทพบุตรสุดหล่อคนนี้ไม่มีทางหยิบยื่นหัวใจของเขาให้กับหล่อนก็ตาม “คนร้ายกาจ...!” หล่อนเค้นเสียงโต้ตอบเขาอย่างเจ็บปวด “แต่คนร้ายกาจคนนี้ก็คือคนที่เธอร่ำร้องอยากได้เป็นผัวมานานไม่ใช่หรือมาร์กาเร็ต” เขาก้าวเข้ามาหา ไล่ต้อนจนหล่อนไม่มีทางหนี ตอนนี้แผ่นหลังบอบบางของหล่อนชนเข้ากับผนังห้องอันเย็นเยียบเสียแล้ว “และก็ได้สมใจไปเมื่อคืนนี้แล้ว” แก้มนวลแดงก่ำแทบไหม้ ขณะยกสองมือขึ้นแผงอกกว้างที่จงใจบดเบียดเข้ามาอย่างสุดกำลัง แต่แรงของหล่อนไม่มีทางต้านทานอันโตนิโอได้เช่นเดิม เพราะสุดท้ายแล้วหล่อนก็ถูกเข้าโอบกอดเอาไว้อย่างแน่นหนา “ปล่อยนะ จะทำอะไรน่ะ” คนถูกถามหัวเราะ ก้มหน้าต่ำลงไปหา “แล้วเธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเธอล่ะ หากฉันกอดเธอแน่นๆ แบบนี้มาร์กาเร็ต” ก็ทำแบบเมื่อคืนยังไงล่ะ! เสียงหนึ่งในสมองร้องตอบออกมา และมันก็ทำให้หล่อนตัวสั่น ใจสั่น และร้อนฉ่าไปทั้งร่าง “ไม่...” “ถ้าฉันต้องการ ฉันต้องได้” เขาพูดอย่างเผด็จการ พูดแบบผู้ชายที่เอาแต่ใจ ก่อนจะพิพากษาหล่อนด้วยจุมพิตดิบเถื่อน เขาขยี้ บดคลึงกลีบปากของหล่อนหนักหน่วงเช่นเดียวกับเมื่อคืน บดเคล้าจนมันแทบฉีกขาด จากนั้นก็สอดแทรกลิ้นเข้าควานหาความหวานอย่างหิวกระหาย รสสัมผัสของเขาฉีกทึ้งทุกความต้านทานของหล่อนให้ขาดสะบั้นลงได้อย่างง่ายดาย จากที่เคยตั้งใจตั้งมั่นว่าจะขัดขืนให้ถึงที่สุด แต่ตอนนี้กลับตอบสนองลีลารักของเขาด้วยความเต็มอกเต็มใจเสียเหลือเกิน
“ระยำ!”
หนังสือพิมพ์ในมือหนาสีแทนถูกขยำและปาทิ้งลงกับพื้นที่ถูกปูด้วยพรมหนาสีเขียวเทอร์ควอยซ์เต็มแรง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเรืองรองไปด้วยเปลวไฟแห่งความเดือดดาล ขณะที่เจ้าของเรือนกายสูงสง่าสมบูรณ์แบบก้าวเท้ามาหยุดตรงหน้าของคู่สนทนา จากนั้นน้ำเสียงห้าวกระด้างก็เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสีสดบางเฉียบแผ่วเบา
“ผมไม่เชื่อหรอกว่าจู่ๆ ลอเร้นโซโทริโอ้ จะฆ่าตัวตายหลังจากรับปากจะช่วยพวกเรารื้อคดีเก่าเมื่อยี่สิบสองปีขึ้นมาทำใหม่น่ะ”
อันโตนิโอเอ่ยถึงนายตำรวจวัยเกษียณที่เคยรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลคดีของบิดาและมารดาของเขาเมื่อยี่สิบสองปีก่อน เขากับ เวเวอร์ลี่เดินทางไปพบท่าน และขอร้องให้ท่านใช้เส้นสายที่ยังพอมีอยู่รื้อคดีเก่าขึ้นมาทำใหม่อีกครั้งเพื่อเอาตัวคนผิดที่แท้จริงไปลงโทษ แต่สุดท้ายก็ไม่คิดเลยว่าแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่เขากับเวเวอร์ลี่เดินออกมา ลอเร้นโซ โทริโอ้จะกลายเป็นศพคาบ้านพักของตัวเองไปเสียแล้ว ทุกอย่างมันมีเงื่อนงำ ไม่มีทางที่ชายแก่อดีตตำรวจอย่างลอเร้นโซจะฆ่าตัวตายเองอย่างแน่นอน แต่เขาเชื่อว่าชายชราถูกฆาตกรรมต่างหาก
“ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกันค่ะคุณอันโตนิโอ มันต้องเป็นฝีมือของไอ้สารเลวเปาโลแน่นอน”
เวเวอร์ลี่ เดเมอริตกัดฟันแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“มันหูตาเป็นสับปะรด มันรู้ทุกอย่างที่พวกเราทำ”
หญิงสาวยังคงเค้นเสียงออกมาด้วยความเจ็บแค้นเช่นเดิม
อันโตนิโอเดินกลับไปทรุดตัวนั่งหลังโต๊ะทำงานไม้ของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะจ้องหน้าคู่สนทนาและพูดออกมาอีกครั้ง
“ครั้งนี้เราพลาดเองที่ไม่ทันระวังตัว ดังนั้นครั้งต่อไปหากพวกเราจะทำอะไร จะต้องระวังตัวให้มากขึ้น ไอ้แก่นรกนั่นมันมีทั้งเงินมีทั้งอำนาจ คนที่พร้อมจะร่วมงานกับมันเพื่อเงินมีอยู่มากมาย และแน่นอนว่าสิ่งที่พวกเรากำลังร่วมมือกันทำมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยสักนิด”
“ฉันรู้ค่ะ และสัญญาว่าครั้งต่อไปฉันจะระวังตัวให้มากขึ้นกว่านี้”
อันโตนิโอผ่อนลมหายใจออกมาจากริมฝีปากหยักสวยตัวเองเบาๆ หลังจากสะกดกลั้นความเดือดดาลที่แล่นพล่านอยู่ภายในอกให้เยือกเย็นลงได้ชั่วคราว
“เชื่อผมเถอะว่าวันพระไม่ได้มีครั้งเดียว หากเราไม่ประมาทครั้งหน้าเราจะไม่พลาดแบบนี้อีก”
“ค่ะ คุณอันโตนิโอ”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบางๆ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความผิดหวังมากมายนัก
“คุณกลับไปเถอะ แล้วอย่าให้ใครรู้ล่ะว่าเราร่วมมือกัน แม้แต่คู่รักของคุณ”
คำพูดของอันโตนิโอทำให้สีหน้าและแววตาของเวเวอร์ลี่หม่นหมองลงไปถนัดตา แม้หญิงสาวจะพยายามซ่อนมันเอาไว้แค่ไหนก็ตาม นาธาน โบซิลวา ลูกชายของนายอแมนโด โบซิลวา สมาชิกพรรคการเมืองเดียวกับเปาโล ปาเชโก้ ซึ่งทั้งสองยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีกต่างหาก หล่อนยังจำได้ว่าตอนที่ก้าวเข้าไปหานาธานนั้นในหัวของหล่อนเต็มไปด้วยแผนการมากมาย หล่อนต้องการใช้เขาเป็นเครื่องมือ ต้องการล่อหลอกและล้วงทุกความลับจากผู้ชายคนนี้ แต่หล่อนก็ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะตกหลุมรักเหยื่อของตัวเองแบบนี้ รักทั้งๆ ที่รู้ดีว่าไม่มีทางสมหวังได้
“คุณอันโตนิโอก็รู้นี่คะว่านาธานก็เป็นเพียงแค่หมากในเกมแก้แค้นของเราเท่านั้น”
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่จ้องมองมายังหล่อนนั้นทำให้เวเวอร์ลี่รู้ดีว่าอันโตนิโอรู้ทันทุกความคิดในหัวของหล่อนลึกซึ้งแค่ไหน
“ใช่ค่ะ... ฉันหลงรักเขา แต่คุณอันโตนิโอเชื่อเถอะค่ะว่าฉันไม่มีทางยอมให้ความรักมามีอิทธิพลอยู่เหนือความแค้นได้หรอกค่ะ ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นให้พ่อของตัวเอง แก้แค้นแทนครอบครัวของฉัน และไอ้สารเลวเปาโลมันจะต้องได้รับกรรมอย่างสาสม”
ความคลั่งแค้นในน้ำเสียงและดวงตากลมโตสีเขียวจัดของ เวเวอร์ลี่ทำให้อันโตนิโอระบายยิ้มน้อยๆ ออกมา ผู้หญิงคนนี้ใจเด็ดมากทีเดียวที่ยอมเชือดเนื้อหัวใจของตัวเองทิ้งเพื่อความแค้นในอดีต
“คุณหยุดรักผู้ชายคนนี้ได้หรือเวเวอร์ลี่”
คนถูกถามยิ้มเศร้าๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความทุกข์ระบมที่ไม่สามารถปกปิดเอาไว้ได้อีก
“ฉันหยุดรักนาธานไม่ได้หรอกค่ะ ก็เหมือนกับที่คุณอันโตนิโอหยุดรักคุณมาร์กี้ไม่ได้ยังไงละคะ แต่พวกเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ถูกต้อง นั่นก็คือการเอาคนเลวมาลงโทษให้ได้”
ชื่อของมาร์กาเร็ตทำให้หัวใจของอันโตนิโอเต้นแรงขึ้น ใช่... เขาเองก็ไม่สามารถหยุดรักมาร์กาเร็ตได้เช่นกัน ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าไม่ควรจะรักเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็เลือกที่จะปฏิเสธมันออกมา
“ผมไม่ได้รักเด็กคนนั้น และคุณก็หยุดพูดชื่อของหล่อนให้ผมฟังได้แล้ว”
“ค่ะ คุณอันโตนิโอ งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ไปเถอะ ส่วนแผนการต่อไปของเราจะเริ่มต้นขึ้นในอาทิตย์หน้า และหวังว่าคุณจะพร้อมสำหรับแผนการนี้”
น้ำเสียงกระด้างและเต็มไปด้วยความความคลั่งแค้นของอันโตนิโอทำให้เวเวอร์ลี่ต้องรีบรับคำออกไป
“ฉันพร้อมที่จะทำทุกอย่าง หากสิ่งที่ทำลงไปมันสามารถทำให้ไอ้สารเลวเปาโลกระอักออกมาเป็นเลือดได้ค่ะ”
คนฟังเหยียดยิ้มหยัน “คุณได้เห็นมันกระอักเลือดแน่ ในไม่ช้า...”
เวเวอร์ลี่ระบายยิ้มสะใจออกมา ก่อนจะขอตัวกลับออกไป เสียงประตูห้องถูกปิดอย่างนุ่มนวลดังขึ้นแผ่วเบา และนั่นก็ทำให้คนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ต้องทอดถอนใจออกมา หัวใจกำลังเจ็บปวด แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้วหากต้องการชำระแค้นให้กับครอบครัว
“พี่ขอโทษนะมาร์กี้”
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มไหววูบ หัวใจเจ็บแปลบเหมือนถูกบีบขยำด้วยอุ้งมือของปีศาจร้าย
“พี่ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว พี่จำเป็นต้องทำร้ายจิตใจเธอ...”
ชายหนุ่มถอนใจออกมาแรงๆ อีกครั้ง พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะก้มหน้าก้มตาทำงานตรงหน้า แต่สมองไม่รักดีมันก็เอาแต่นึกถึงมาร์กาเร็ตอยู่ทุกลมหายใจ เขาคิดถึงหล่อน อยากกอดหล่อน อยากหอมแก้มหล่อน ทว่าก็ทำอย่างที่คิดไม่ได้ เพราะหากทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าเขาติดบ่วงของไอ้สารเลวเปาโลซ้ำอีกครั้ง
มือหนาสีแทนกำแน่นและทุบลงกับโต๊ะตรงหน้าเต็มแรง ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ เขาจะไม่ใจอ่อนอีกแล้ว ไม่ว่าไอ้สารเลวนั่นจะใช้ไม้ไหนกับเขาก็ตาม ชายหนุ่มสาบานกับตัวเองและกัดฟันก้มหน้าจัดการกับเอกสารบนโต๊ะ แต่ทำไปได้ไม่เท่าไหร่ประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกเปิดผั๊วะเข้ามาเสียก่อน พร้อมๆ กับร่างอรชรของผู้หญิงคนที่เขาคิดถึงจนหมดหัวใจ
“มาร์กี้...”
สาวน้อยวัยเพียงแค่ 17 ปีแต่เนื้อตัวนั้นกลับสาวสะพรั่งราวกับสาวอายุสักยี่สิบเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเขา ด้วยใบหน้าและท่าทางที่เต็มไปด้วยการวิงวอน
“พี่ชาย...”
“ผมพยายามห้ามแล้วครับ แต่คุณมาร์กี้เธอ...”
เลขาฯ หนุ่มหน้าห้องของเขาที่วิ่งตามหลังมาร์กาเร็ตเข้ามาติดๆ ละล่ำละลักตอบด้วยความหวาดกลัว แต่อันโตนิโนยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้หยุดพูด
“ออกไปได้แล้วริชาร์ด”
“ครับ ท่านประธาน”
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน