เพราะเป็นลูกอนุที่ไร้ค่า บิดาบังเกิดเกล้าจึงยกเขาให้เป็นชายบำเรอของมหาอำมาตย์ แต่มหาอำมาตย์เกิดหัวใจวายตายในคืนเข้าหอ ทำให้เขาถูกตราหน้าว่าร่านราคะ และจะจับเขาฝังทั้งเป็น!
เพราะเป็นลูกอนุที่ไร้ค่า บิดาบังเกิดเกล้าจึงยกเขาให้เป็นชายบำเรอของมหาอำมาตย์ แต่มหาอำมาตย์เกิดหัวใจวายตายในคืนเข้าหอ ทำให้เขาถูกตราหน้าว่าร่านราคะ และจะจับเขาฝังทั้งเป็น!
บทที่ 1
หลี่ชิง เด็กหนุ่มน้อยวัยสิบสี่ หน้าตาสะสวยราวกับเทพเซียน รูปร่างบอบบาง เพราะเพิ่งย่างเข้าสู่วัยแรกรุ่นดรุณ ผมดำขลับยาวสลวยปล่อยปรกหลังไหล่ สวมชุดไว้ทุกข์สีขาวผ้าเนื้อหยาบ แต่เขาไม่ได้เต็มใจจะไว้ทุกข์เลย…เขานั่งอยู่บนเตียงนอนเล็กๆ ในห้องแคบๆ ที่มีเพียงแสงริบหรี่จากเทียนไขเล่มเล็กเพียงเล่มเดียวเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อน ประตูหน้าต่างของห้องล้วนถูกล่ามโซ่คล้องกุญแจจากภายนอก
มีเพียงประตูห้องเท่านั้นที่เขาเป็นคนลงกลอนข้างในซ้ำเพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกเปิดพรวดพราดเข้ามาได้ตามอำเภอใจ
เสียงกุกกักดังมาจากนอกประตู…ทำให้เด็กหนุ่มเงยหน้ามอง
มีคนกำลังไขกุญแจด้านนอก…จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงขลุกขลักๆ เบาๆ ของความพยายามที่จะเปิดประตูเข้ามา แต่พยายามอยู่สักพักเมื่อไม่เป็นผล ก็เปลี่ยนมาเป็นเคาะประตูเบาๆ เรียกเสียงค่อยๆ ว่า
“เสี่ยวชิง เปิดประตูให้ข้าหน่อย”
“ใคร?” หลี่ชิงแกล้งถาม ทั้งๆ ที่จำเสียงของอีกฝ่ายได้
“ข้างเอง…เฉาฉุน” คนข้างนอกประตูจำใจต้องประกาศตัวด้วยเสียงดังกว่ากระซิบแค่นิดเดียว
“ดึกดื่นป่านนี้แล้ว คุณชายใหญ่มาที่นี่ทำไม?” เด็กหนุ่มกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เสี่ยวชิง…พรุ่งนี้แล้ว เจ้าจะต้องถูกฝังทั้งเป็น เจ้าไม่กลัวหรือ?”
“กลัวหรือไม่ ก็ไม่ใช่เรื่องของท่าน?”
“ย่อมเป็นเรื่องของข้า” เสียงแหบทุ้มของเฉาฉุนเอ่ยอย่างร้อนรน “ข้าชอบเจ้า ข้าชอบเจ้ามากเสี่ยวชิง ขอเพียงเจ้ายอมข้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”
“ปกป้องข้าหรือ? ท่านจะใช้ฐานะอะไรมาปกป้องข้า” หนุ่มน้อยส่งเสียงเฮอะเบาๆ ก่อนจะกล่าวต่อ “ที่ข้าตกที่นั่งลำบากครั้งนี้ล้วนเป็นเพราะท่าน หากท่านมิมาวุ่นวายกับข้า จนบิดาของท่านไปดูตัวข้าแล้วเกิดความพึงพอใจ ออกปากกับ…” หลี่ชิงนั้นกล้ำกลืนคำว่า…บิดาของข้า…เอาไว้ไม่ยอมกล่าวออกมา “ออกปากกับอำมาตย์หลี่ อำมาตย์หลี่ก็คงไม่คิดจะเอาข้าเป็นบันไดใฝ่หาอำนาจด้วยการยกข้าให้เป็นชายบำเรอของมหาอำมาตย์เฉาฮั่วบิดาของท่าน…แล้วผู้ใดจะคาดคิดว่าเขาอยู่ๆ จะหัวใจวายตายโดยไร้สาเหตุ จนข้าถูกประนามว่าเป็นคนร่านราคะ ต้องถูกจับฝังทั้งเป็นไปพร้อมกับศพของเขา”
“ยามนี้ข้าได้สืบทอดตำแหน่งมหาอำมาตย์ต่อจากท่านพ่อผู้วายชนม์แล้ว ขอเพียงเจ้ายอมข้า ข้าจะกันเจ้าเอาไว้ ไม่ให้พวกเขาจับเจ้าฝังไปกับท่านพ่อ”
“หึ…ท่านทำได้หรือ?” น้ำเสียงของหลี่ชิงเยาะหยัน
“ข้าทำได้” เฉาฉุนกล่าวยืนยันหนักแน่น
แต่หลี่ชิงไม่เชื่อ เพราะอีกฝ่ายมากเล่ห์แสนกล เด็กหนุ่มคาดเดาในใจว่า...เฉาฉุนคงไม่ยอมเอาอนาคตของตนเองมาแลกกับชีวิตลูกอนุไร้ค่าอย่างเขาเป็นแน่ ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เพียงเพื่อหว่านล้อมให้เขายินยอมสมสู่ด้วยเท่านั้น หลังจากนั้นเขาจะถูกฝังทั้งเป็นหรืออย่างไร เฉาฉุนก็คงแค่เอามือไพล่หลังยืนมองเท่านั้น!
“เช่นนั้น…ท่านก็ช่วยให้ข้ารอดชีวิตจากการถูกฝังทั้งเป็นในวันพรุ่งนี้เสียก่อน เรื่องอื่นค่อยมาว่ากล่าวกันทีหลัง” หลี่ชิงกล่าวเสียงเรียบ
นอกประตูเงียบเสียงไปอึดใจหนึ่ง แล้วเสียงกุกกักของการคล้องโซ่ใส่กุญแจก็ดังขึ้น ต่อด้วยเสียงฝีเท้าก้าวห่างจากไป
เด็กหนุ่มถอนหายใจ…ชีวิตของเขาคงหนีไปพ้นวันพรุ่งนี้เป็นแน่แท้!
แต่ถึงต้องตาย…เขาก็ขอสาปแช่งให้จวนมหาอำมาตย์เฉาฮั่วกับจวนอำมาตย์หลี่ไฉพบกับความย่อยยับพินาศหมดสิ้นทั้งสองตระกูล!!!
หลี่ชิงนั่งอยู่ในความเงียบอีกพักใหญ่ ก็มีคนมาไขกุญแจปลดโซ่ประตู แต่พอเปิดประตูไม่ได้ ก็ทุบประตูโครมๆ ตะโกนว่า
“หลี่ชิงเปิดประตูเดี๋ยวนี้”
น่าจะเป็นเสียงคนรับใช้ชาย
หลี่ชิงจึงลุกจากเตียงที่นั่งอยู่ไปเปิดประตู พอประตูเปิดออกก็เห็นคนรับใช้ชายสองคนที่มีหน้าตาบูดบึ้งยืนอยู่
“ตามข้ามา” คนรับใช้คนหนึ่งเอ่ยเสียงห้วน แล้วคนรับใช้ชายทั้งสองก็จับต้นแขนของหลี่ชิงคนละข้างเอาไว้แน่น พาตัวไป
เด็กหนุ่มได้แต่คิด…พวกสารเลวนี่คงจะจับเขาไปใส่โลงตอกปิดฝาเตรียมไว้ฝังพรุ่งนี้เป็นแน่
แต่ผิดคาด…
คนรับใช้ทั้งสองลากตัวหลี่ชิงมาที่ห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลเฉา
ที่นั่น…มีคนผู้หนึ่งที่หลี่ชิงไม่รู้จักนั่งที่เก้าอี้ในตำแหน่งประธาน เป็นบุรุษหนุ่มวัยยี่สิบห้า หน้าตาหล่อเหลาคมคายอย่างยิ่ง ดวงตาคมกริบติดจะดุดัน รับกับมีสีหน้าเย็นชากระด้าง รูปร่างกำยำสูงใหญ่ แต่งกายหรูหราประณีต อย่างผู้สูงศักดิ์
ส่วนเฉาฉุนที่มีตำแหน่งเป็นมหาอำมาตย์และเจ้าบ้านในเวลานี้ กลับยืนอยู่ข้างๆ อย่างสงบเสงี่ยม
พอหลี่ชิงถูกนำตัวมา ก็ถูกบังคับให้คุกเข่าลงที่กลางห้องโถงตรงหน้าชายสูงศักดิ์คนนั้น
“เสี่ยวชิง…เอ้อ…หลี่ชิง” เฉาฉุนเอ่ยอย่างไม่ทันระวังก่อนจะรีบเปลี่ยนคำเรียกหาเพราะอยู่ต่อหน้าบุคคลอื่น “รีบโขกศีรษะคารวะไท่ชินอ๋อง” (ชินอ๋อง=ตำแหน่งสูงสุดของอ๋อง มีคำว่า “ไท่” ที่แปลว่ายิ่งใหญ่นำหน้า จึงเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีก ใช้เฉพาะในเรื่องนี้เท่านั้น)
บุรุษตรงหน้านี้คือไท่ชินอ๋องหรือ?
ไท่ชินอ๋องผู้มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินหนานหยางนี้หรือ!
ผู้มีอำนาจเหนือกว่าฮ่องเต้เสียอีก!!!
หลี่ชิงคิดจะเสี่ยงดวงดู…หากได้ผลก็รอด หากไม่ได้ผลก็แค่ตาย…จะอย่างไรเขาก็ต้องตายอยู่แล้วนี่นา
เด็กหนุ่มนิ่งเฉย ไม่ยอมโขกศีรษะ
เฉาฉุนร้อนใจ ลอบโบกมือให้คนรับใช้ชายทั้งสองที่นำตัวหลี่ชิงมา และยืนสงบเสงี่ยมอยู่ด้านข้าง
ทั้งสองสมกับเป็นคนรับใช้มานานปี พอเห็นสัญญาณก็ตรงเข้ามาจะจับหลี่ชิงโขกศีรษะ
“ไม่ต้อง” ไท่ชินอ๋องส่งเสียงห้าม…คนมีอำนาจ แม้แต่เสียงก็ยังทรงอำนาจ
คนรับใช้ทั้งสองรีบคำนับแล้วกลับไปยืนอยู่ด้านข้างตามเดิม
“ทำไมเจ้าไม่ยอมคารวะข้า?” ไท่ชินอ๋องถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดใด พลางยกน้ำชาขึ้นจิบ
“คารวะท่านแล้วมีประโยชน์อันใด?” หลี่ชิงใช้น้ำเสียงเดียวกันถาม…แต่เพราะยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยละอ่อนอยู่ เสียงที่ใช้จึงมิได้เข้มแข็งมีอำนาจมากเท่า
อาเฟย เป็นเด็กกำพร้าที่ไม่รู้ว่า พ่อแม่เป็นใคร เขาถูกทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทางตั้งแต่แรกเกิด และถูกชาวบ้านเก็บได้ ก่อนที่จะกลายเป็นเหยื่อของสัตว์ใหญ่น้อย ทว่าชาวบ้านที่เก็บเขาได้ก็ไม่มีปัญญาจะเลี้ยงดูเขา จึงนำเด็กน้อยไปขายให้แก่จวนชินอ๋อง ด้วยราคา 20 ตำลึงเงิน นับแต่นั้น...อาเฟยก็เติบโตขึ้นมาพร้อมกับปณิธานว่า จะเก็บเงินไถ่ตัวของตนเอง และสร้างเนื้อสร้างตัว เป็นอิสระและแข็งแกร่ง!!! แต่อนิจจา...ปณิธานของอาเฟยถูกอ๋องสี่ ผู้มีร่างสูงใหญ่แข็งแรง กล้ามเนื้อทรงพลัง คอยบั่นทอน ด้วยการจับอาเฟยหนีบรักแร้!!! อาเฟย เป็นนิยายเน้นฮา ไม่เน้นสาระ รี้ดทุกท่านถ้าพร้อมแล้ว เชิญอ่านกันเลยค่ะ
ทิพย์อัปสรนางฟ้าผู้งามละไม ได้เป็นที่รักแห่งเทพผู้ใหญ่อย่างพระเสาร์ เรื่องราวเกือบจะราบรื่นแล้ว ถ้านางจะไม่เป็นที่รักแห่งองค์พระอังคารเทพแห่งสงครามผู้แกร่งกร้าวด้วย ดังนั้นสงครามแห่งสวรรค์จึงบันเกิด!
จ้าวชิงเฟิงคือองค์ชายปลายแถวของแคว้นเป่ย ที่ถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการชิ้นหนึ่งแก่แคว้นหนาน ถูกเหยียดหยามให้เป็นแค่อนุชายาของชินอ๋องผู้ทรงอำนาจ แม้จะเป็นชายก็ยังไม่วายถูกริษยา กลั้นแกล้งต่างๆนานา เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังถูกใส่ร้ายว่าคบชู้ ต้องโทษโบยยี่สิบไม้ และไม้ที่ยี่สิบนั้นผู้โบยจงใจฟาดใส่ศีรษะ ของเขา กะให้ถึงตาย!
รัชวินทร์รู้ดีว่า ถึงจะมีหรือไม่มีแผนการของญาติผู้ใหญ่ เขาก็บังเกิดความรู้สึกพิเศษกับแก้วกัลยา เด็กสาวในอุปการะของคุณตาคุณยาย และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาอยากสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่น
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
บทนำ หมอพุฒตาล ศัลยแพทย์ทั่วไป เรียนจบด้วยเกรดนิยมอันดับหนึ่ง เธอกลายเป็นหมอผ่าตัดมือหนึ่งของโรงพยาบาล ด้วยชีวิตที่คิดอุทิศให้กับวงการแพทย์ ทำให้หมอพุฒตาลไม่เคยข้องแวะกับชายใด แม้จะมีหนุ่มเข้ามาจีบไม่เว้นวัน เมื่อบิดาของเธอเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เพราะการผ่าตัดที่ล่าช้า เนื่องมาจากช่วงเวลานั้น ขาดหมอเฉพาะทาง เหตุผลนี้จึงเป็นแรงผลักดัน ทำให้เธอตั้งใจเรียนศัลยแพทย์ จนฝีมือด้านการผ่าตัดการวินิจฉัยโรคของหมอพุฒตาล เป็นที่ยอมรับของเพื่อนหมอ และคนไข้ที่มารับการรักษา เมื่อเธอทำงานได้สองปีสิ่งที่ไม่คาดฝันกับชีวิตก็เกิดขึ้น เมื่อมารดาเข้ามาหาเธอถึงห้องพักแพทย์ในโรงพยาบาล สิ่งที่มารดาต้องการคือการให้เธอแต่งงานกับลูกชายของเพื่อน เมื่อนางกู้ยืมเงินเขามาส่งเสียให้เธอเรียน ใครเล่าจะรู้ว่าหมอมือหนึ่งอย่างเธอ จะต้องมาแต่งงานใช้หนี้ผู้ชายที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เงินสิบล้านกับดอกเบี้ยอีกเท่าตัวทางเลือกของหมอพุฒตาล คือการแต่งงานกับชายแปลกหน้าเพียงเท่านั้น เตชิน หนุ่มไฮโซรูปหล่อ เห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องบำเรอ เขามองความรักเป็นแค่เรื่องล้อเล่น เที่ยวเตร่ไปวันๆ ส่วนธุรกิจของครอบครัวเขาทิ้งให้เตชิต พี่ชายเพียงคนเดียวรับผิดชอบ ความอดทนของผู้เป็นมารดาได้สิ้นสุดลง เมื่อเตชินเที่ยวเตร่ไม่เอาการเอางาน นางจึงยื่นคำขาดด้วยการให้เขาแต่งงานกับหมอพุฒตาล เตชินฟังแค่ชื่อของเธอ เขาถึงกับขำออกมา ชายหนุ่มไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงเฉิ่ม ๆ แบบนั้นเป็นอันขาด ที่สำคัญเขาไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่เมื่อมารดายื่นคำขาดคือการริบทรัพย์ ทั้งบัตรเครดิตและรถสปอร์ตคันหรู เมื่อไม่มีทางเลือก ชายหนุ่มจำใจยอมตกลงแต่งงาน ซึ่งแน่นอนผู้หญิงคนนั้นต้องทนเขาไม่ได้ และเธอต้องขอหย่าภายในสามเดือน เขาจะแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เธอดู เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรวิ่งเข้ามาในกองเพลิง ที่เขาก่อเอาไว้ เพราะมันพร้อมที่จะเผาเธอให้มอดไหม้ไปในพริบตา!! ************************* ฝากภาค 2 รุ่นลูก ด้วยนะคะ บำเรอรักคุณหมอจ้า*************
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด