เรื่องที่เขาเจออยู่มันเป็นเรื่องบ้า!
บ้ามาก บ้าที่สุดที่เขาเคยเจอมาเลย บ้าจนอยากจะต่อว่าคนต้นเรื่องที่ไปเสนอหน้าบอกให้เลขาฯ ส่วนตัวของเขาที่หายหัวหายหน้าไปเป็นปีกลับมาทำงาน อะไรไม่ว่า ‘เธอ’ ยังหอบเอาลูกมาทำงานด้วยอีกต่างหาก
เขาจะด่าใครนอกเหนือจากพ่อตัวเองได้บ้าง ให้ตายเถอะ!
‘สมุทร’ กรรมการบริหารบริษัทโลจิสติกส์แห่งหนึ่งของประเทศไทยวัยสามสิบห้าหัวเสียเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้จากปากของพนักงานฝ่ายบุคคลว่า ‘แสนรัก’ อดีตเลขาฯ ส่วนตัวของเขากลับมาทำงานแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เธอลาออกไปโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง เขาก็ไม่สามารถหาเลขาฯ ที่ถูกใจมาทำงานด้วยได้เลย มีคนใหม่เข้ามาก็เป็นอันต้องขอลาออกก่อนครบกำหนดการทดลองงานอยู่ร่ำไป นั่นเพราะทนความเจ้ากี้เจ้าการและเนี้ยบไปทุกกระเบียดนิ้ว รวมถึงความขี้หงุดหงิดของสมุทรไม่ไหว และการที่เขาเป็นอย่างนี้ก็ทำให้ส่งกระทบกับหน้าที่การงานของเขาโดยตรง จนบิดาต้องยื่นมือเข้ามายุ่ง ซึ่งการที่แสนรักกลับมามันทำให้สมุทรปฏิเสธไม่ให้เธอมาทำงานไม่ได้เพราะมันเป็นคำสั่งของบิดาเขาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท
เขาอยากได้เลขาฯ ส่วนตัวมาคอยช่วยงานก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอยากให้ ‘คนที่มีอดีตด้วย’ กลับมาเสียหน่อย!
ใช่ เขากับแสนรัก ‘เคยเป็น’ อะไรที่มากกว่าเจ้านายและเลขาฯ ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ชนิดที่เรียกได้ว่าสมุทรหลงใหลเธอหัวปักหัวปำเลยล่ะ กระนั้นก็ไม่เคยได้ปริปากบอกหญิงสาวก่อน เพราะจู่ๆ เธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งความเศร้าไว้ให้เขาได้เลียแผลใจเพียงลำพัง
เขาทำอะไรผิด แสนรักถึงมาหนีหายไปอย่างไม่มีเหตุผล!?
หายไปไม่ว่า ยังจะกลับมาในวันที่แผลของเขาเกือบจะปิดสนิทแล้วอีก ตอนนี้มันปริแตกและมีเลือดไหลซึมออกมาแล้ว คิดจะสร้างแผลใจให้เขาอีกนานสักเท่าไรกัน!?
กระนั้นก็ว่าอะไรแสนรักไม่ได้เพราะตัวการของเรื่องนี้คือบิดาของเขาซึ่งเป็นประธานบริษัท สมุทรไม่รู้ว่าบิดาคิดจะเล่นสนุกอะไร ที่รู้ๆ คือเขาไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่แสนรักมีเด็กน้อยวัยขวบนิดๆ ตามติดมาด้วย พร้อมกับแนะนำตัวกับเขาว่า ‘นี่แสนหวาน ลูกสาวของรักเองค่ะ’
ถึงเด็กน้อยคนนั้นจะน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มแค่ไหน ก็ไม่ได้ทำให้สมุทรอารมณ์ดีขึ้นได้เลย
บริษัทเขามีนโยบายอนุญาตให้พนักงานหอบลูกเล็กเด็กแดงมาเลี้ยงที่ทำงานได้ตั้งแต่เมื่อไร!?
จะเมื่อไรล่ะ ก็ตั้งแต่ที่บิดาของเขาออกปากนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นแสนรักคงไม่กลับมาหรอก
สมุทรจึงไม่กล้าปริปากว่าอะไร นอกเสียจากชักสีหน้าสีตาไม่พอใจใส่หญิงสาวก็เท่านั้น เขาขุ่นเคืองเธอ ตั้งใจจะไม่พูดด้วยเมื่อนึกถึงวันเก่าๆ ที่เคยมีร่วมกัน แต่ไอ้เรื่องวันเก่าๆ นั้นก็เป็นสมุทรเองที่เป็นคนเริ่ม เขายอมรับก็ได้ว่าเขาต้องตาต้องใจแม่เลขาฯ สาวสวยคนนี้เป็นอย่างมาก ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงประเภทขาวสวยหมวยเอ็กซ์ แต่ดวงหน้าสะสวยคมคายตามฉบับสาวไทย ผิวสีน้ำผึ้ง และทรวดทรงองค์เอวโค้งมนก็สะดุดตาเขาเสียเหลือเกิน
สะดุดตามากขึ้นไปอีกเมื่อรับรู้ว่าหญิงสาวเป็นคนทำงานเก่งมาก รู้ใจเขาไปหมดทุกเรื่อง อีกทั้งยังจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดี จนชีวิตการทำงานของสมุทรง่ายขึ้นไม่น้อย รวมถึงนิสัยเรียบง่ายที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ นับว่าเขาชื่นชมเธอทั้งรูปร่างหน้าตาและความสามารถเลยล่ะ และมันก็ทำให้ชายหนุ่มได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ลึกซึ้งขึ้นในวันนั้น
วันนั้นสมุทรและแสนรักต้องไปร่วมงานเลี้ยงของบริษัทคู่ค้าและต้องกลับดึก เขาดื่มเข้าไปค่อนข้างมาก แต่ไม่ถึงกับเมาหรอก ทว่าก็แสร้งเมาเพื่อให้แสนรักได้ขับรถเขามาส่งที่บ้าน เมื่อถึงตอนที่แสนรักจะกลับ สมุทรก็รั้งเธอเอาไว้
‘ผมเมา เดินไม่ไหว รักช่วยพยุงผมไปส่งข้างในบ้านได้ไหม’
บ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านจัดสรรที่สมุทรซื้อเอาไว้พักอาศัยตามลำพัง ไม่มีแม่บ้านหรือใครอยู่ข้างใน เรื่องนี้แสนรักรู้ดี เธอจึงตอบรับตามหน้าที่
‘ได้ค่ะ คุณสมุทรเอาแขนพาดไหล่รักนะคะ เดี๋ยวรักช่วยพยุง’
แล้วเธอก็ตกหลุมพรางที่เขาขุดไว้เมื่อมาส่งเขาถึงโซฟาในห้องนั่งเล่น
‘ผมยังไม่อยากให้รักกลับ’
‘คะ?’
‘คืนนี้รักอยู่กับผมได้ไหม’