ความเข้าใจผิดก่อเกิดเลือดเนื้อเชื้อไขของจอมวายร้ายอย่างปุญญ์ มีหรือที่คนอย่างนั้นจะไม่ทวงคืนไม่ใช่แค่ลูก แต่แม่ของลูกเขาก็จะเอา! ######### “ที่ผมอยากรู้คือ เรารู้จักกันก่อนมาก่อนหน้านี้อย่างนั้นใช่ไหม” “คุณจำไม่ได้? แล้วฉันบอก คุณจะจำได้หรือไง” “ผมรถคว่ำจนจำเวลาช่วงหนึ่งไม่ได้เลย และก็มั่นใจด้วยว่าอาจเป็นตอนที่ได้รู้จักกับคุณ” พิชชาอรยืนฟังจนเขาว่าจบ อดเบ้หน้าน้อยๆไม่ได้ “นิยายจัง” “ผมไม่รู้ว่ายังจะนิยายมากพอไหม ถ้าเด็กชายกตัญญ์จะเป็นลูกของผมด้วย” คราวนี้พิชชาอรมองเขาอย่างเป็นเดือดเป็นแค้น เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงบุตรชายของเธอที่มีเขาเป็นคนร่วมสร้าง ใจของเธอไม่เคยเต้นรัวเร็วขนาดนี้มาก่อน รู้สึกเหมือนว่าร่างกายกำลังจะลุกเป็นไฟด้วยโทสะที่ฝังแน่นในตัว บอกเขาด้วยเสียงเครียดๆ “ตอนนี้ไม่สำคัญแล้วว่าเขาจะเป็นลูกของคุณหรือเปล่า” ปุญญ์ขมวดคิ้วมุ่น กระชากเสียงถามอย่างไม่พอใจนัก “ทำไม” “เพราะฉันเคยติดต่อคุณไปแล้วเรื่องที่ฉันท้อง แต่คุณ คุณ....” พูดถึงเหตุการณ์วันนั้นทีไร อารมณ์ของเธอจะพรุ่งปรี้ดทันที มันเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ เกลียดชังเขาอย่างที่สุด จนอยากจะอาเจียนออกมาเลยทีเดียว “ผมทำไม” “ฉันไม่อยากนึกถึงตอนที่คุณพูดลับหลังว่าฉันยังไงบ้างน่ะ พูดอย่างไม่ใช่ลูกผู้ชาย!” พิชชาอรเค้นเสียงว่าอย่างมีโมโห จำได้มั่นว่าเขาบอกว่าผู้หญิงที่ผ่านมาก็แค่ทางผ่านของเขา แล้วนี่มาตอแยกับเธอ แฟนสาวของเขาไม่รู้เรื่องหรือไร ยิ่งคิดก็ยิ่งเดือด “ผมต้องการลูก …และคุณต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมดฐานที่พรากเขามาจากผมที่เป็นพ่อแท้ๆ” “ฝันไปเถอะ!” “มันต้องเป็นฝันที่สนุกแน่พิชชาอร ถ้าในนั้นมีคุณรวมอยู่ด้วย!”
ขีดสองขีดบนแท่งตรวจการตั้งครรภ์ไม่ใช่แค่อันเดียวแต่มันเด่นหราปรากฏอยู่เกือบทุกยี่ห้อที่มีในท้องตลาด ที่เจ้าตัวกว้านซื้อมาจนเกลี้ยงชั้นวางขายนั่นยืนยันผลได้เป็นอย่างดีว่าเธอ...
‘ท้อง’
เพราะคำคำนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดของผู้หญิงทำงานแบบพิชชาอรมาก่อน
เธอเป็นคนชั้นกลางที่ไม่เคยคิดจะมีครอบครัว วันๆทำงานงกๆกลับบ้านเข้านอนเพื่อตื่นขึ้นมาทำงานและวนกิจกรรมเดิมๆอยู่แบบนั้น ไม่เคยมองชายคนใด เลยไม่มีแฟน ไม่เคยตกหลุมรักใคร ไม่เคยเผลอไผลให้ใคร ไม่เคยมีใจให้กับคนไหน และไม่เคยมีอาการหลงรักใคร แต่เธอพลาดให้กับปุญญ์ ชายคนนั้นใช้ต้นทุนทางสังคมที่เขามี ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์อันหล่อเหลา บุคลิกภูมิฐาน หน้าที่การงานและฐานะทางสังคมชั้นเลิศ มาล่อลวงให้เธอหลงใหลกับสิ่งเหล่านั้น หลอมความเหย่อหยิ่งจนละลายลงแทบเท้า ยอมศิโรราบให้เขาเหมือนผู้หญิงรายอื่นๆได้อย่างง่ายดายนัก
เธอจะต้องบอกเขาว่าเธอท้อง เธอไม่ใช่นางเอกในนิยาย ที่มีลูกเขาติดมาแล้วจะพากันหอบหนีไปใช้ชีวิตอัตคัด นึกได้อย่างนั้นแล้วจึงได้แต่รอเวลาเพื่อติดต่อหาเขาที่ PKR groups เธอไม่ได้เก็บเบอร์ส่วนตัวเขาเอาไว้แล้วเพราะเหตุการณ์ในเช้าวันนั้นมันทำให้เธอนึกรังเกียจทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขา ลำคอของพิชชาอรแห้งผากมันปนไปด้วยความตื่นเต้นและวิตกกังวลต่างๆนานา สองเดือนที่ตัดการติดต่อกับเขามันไม่ได้ทำให้เธอเข้มแข็งขึ้นมาได้เลยหรืออย่างไรกัน
ทันทีที่ปลายสายเชื่อมต่อสัญญาณ จึงกรอกเสียงลงไปทันที
“ฉันต้องการเรียนสายกับคุณปุญญ์ค่ะ”
“จากไหนคะ” ทางนั้นถามกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงเอือมๆราวกับเจอปัญหาเช่นนี้บ่อยๆ
“บอกเขาว่าพิชชาอร...หวังว่าเขาจะยังจำคำพูดของตนเองได้” ประโยคหลังเธอคิดอยู่ในใจเงียบๆไม่ได้ออกปากไป
ใช่ เขาเคยบอกเธอไว้ว่าหากอยากติดต่อหาเขาบ้างให้แจ้งกับพนักงานได้เลย เพียงแค่บอกชื่อของเธอ ทุกคนจะอำนวยความสะดวกให้ทันที
ขณะรอสาย ใจที่เต้นสม่ำเสมอก็รัวเร็วขึ้นมาอย่างที่ระงับไม่อยู่ สองเดือนแล้วที่เธอกับเขาจบความสัมพันธ์กันไป ความสัมพันธ์คืนเดียวเสียด้วย เงินที่เขาหยิบยื่นให้เธอยังเก็บไว้อย่างดี ไม่ได้แตะมันแม้แต่สตางค์แดงเดียว ร่ำๆจะคืนให้หลายครั้งแล้วก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับภาระงานจนลืมไป ตอนนั้นเธอยอมรับว่ามีทิฐิจนประชดเขาเรื่องเงิน แต่ตอนนี้ขอให้ได้คุยกับเขาเรื่องเด็กในท้องเสียก่อนเถอะ…
คิดมาถึงตรงนี้ ปลายสายก็มีสัญญาณตอบรับอีกครั้ง
“คุณพิชชาอรคะ ท่านประธานให้แจ้งธุระของคุณผ่านดิฉันเลยค่ะ”
ได้ยินเช่นนั้นแล้วก็คล้ายกับเลือดในกายจะระอุเดือดขึ้นมาจนทะลุปรอท พิชชาอรหายใจหนักหน่วงตามแรงอารมณ์โกรธของตน เธอจะบอกผ่านคนอื่นได้อย่างไร ไหนเมื่อเธอต้องการคุยกับเขาเรื่องที่ ‘เธอท้อง’
แต่แล้วเสียงอีกเสียงจากปลายสายก็ดังแว่วเข้ามา
“เอามานี่มา” อึดใจทางนั้นก็ถามเธอกลับมาอีก “คุณพิชชาอร... อย่างนั้นหรือคะ”
“ใช่ค่ะ ฉันต้องการเรียนสายกับคุณปุญญ์”
“ตอนนี้พี่ปุญญ์ติดประชุมกับผู้บริหารท่านอื่นอยู่ ถ้ามีธุระสำคัญอะไร บอกผ่านทางนี้ได้เลยค่ะ ฉันจะเป็นธุระให้...ทุกเรื่อง”ปลายสายเน้นคำสุดท้ายอย่างจงใจ
“ฉันต้องการคุยกับเขา...เป็นการส่วนตัว” พิชชาอรได้ยินเสียงตัวเองเน้นคำตอบกลับไปเช่นกัน ตอนนี้เธอมือสั่นขึ้นมาแล้ว มันสั่นไปพร้อมๆกับหัวใจของเธอ เธอกำลังโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้
“เอ...ปกติถ้าพี่ปุญญ์ต้องการให้ใครติดต่อกลับเรื่องส่วนตัวเขามักจะให้เบอร์ส่วนตัวเอาไว้นี่คะ แต่ถ้าไม่มี หาทางติดต่อไม่ได้คงหมายถึงว่าเขาไม่อยากให้ติดต่อแล้วละมังคะ”
อีกฝ่ายร่ายยาวแม้จะลงท้ายคะขาทุกประโยคอย่างผู้ดี แต่ก็เต็มไปด้วยน้ำเสียงส่อเสียดทุกคำ
“ให้ฉันช่วยจัดการเรื่องเงินให้ไหมคะ แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับคุณแล้วนะคะที่พี่ปุญจะยอมจ่ายให้”
“เธอหมายถึงอะไร”
พิชชาอรถามกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เธอร้อนไปหมดทั้งใบหน้า ปลายสายพูดราวกับรู้เรื่องของเธอและปุญญ์อย่างไรอย่างนั้น
เสียงทางนั้นถอนหายใจยาว ก่อนบอก “พี่ปุญญ์อาจชอบสนุกซุกซนไปทั่วเรื่องนี้เราสองคนเข้าใจกันดี ฉันหมายถึงฉันกับพี่ปุญญ์น่ะนะคะ และคุณไม่ใช่คนแรกหรอกที่โทรเข้าเบอร์สำนักงานแต่อยากคุยเรื่องส่วนตัวกับเขา และหลังจากนี้ฉันที่กำลังจะเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายทั้งนิตินัยและพฤตินัยของพี่ปุญญ์จะเป็นคนจัดการทุกอย่างทุกเรื่องของเขาเอง ตกลงจะให้โอนเงินเข้าบัญชีเลยไหมคะ สะดวกดี เหมาะกับผู้หญิงง่ายๆแบบคุณ”
พิชชาอรไม่รู้ว่าตัวว่าเธอวางสายไปตอนไหน แต่เธอไม่อยากเชื่อคำพูดแบบนั้น เธอต้องพบเขาให้ได้ อย่างน้อยๆก็ได้ร่วมกันสร้างชีวิตน้อยๆในท้องเธอขึ้นมาด้วยกันแล้ว เขาควรต้องรับผิดชอบไปพร้อมกับเธอ และเธอจะไม่หน้าด้านหน้าทนหากไปบอกเขาแล้ว และเขาจะไม่เป็นลูกผู้ชายมากพอที่จะรับผิดชอบ เธอก็พร้อมจะเลี้ยงลูกคนเดียว!
แล้วตัดสินใจลางาน ตรงไปที่ตึกใหญ่ใจกลางเมือง เธอรออยู่ที่ด้านล่างเมื่อพนักงานไม่ยินยอมให้เธอขึ้นไปพบเขาที่ด้านบนเสียที ลุกนั่งอยู่แถบนั้นอยู่นาน จึงเดินเข้าไปยังร้านกาแฟชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วไปหมดตั้งใจจะสั่งเครื่องดื่มและนั่งรอเขาในนี้จนกว่าอีกฝ่ายจะลงมา แต่ที่นั่งที่มีเหลือกลายเป็นตัวที่ต้องนั่งหันหน้าเข้ามาในร้าน เธอจึงเลือกนั่งรอดีกว่าจะต้องไปเป็นเป้าสายตาที่ข้างนอก
นานจนเครื่องดื่มของเธอเกือบหมดแก้ว พิชชาอรเผลอหลับตาไปอย่างไม่รู้ตัว สะดุ้งตื่นก็แว่วเสียงคุยกันจากทางด้านหลัง เสียงที่พอจะจำได้ว่าเป็นของใคร เธอจึงนั่งนิ่งรอฟังพวกเขาสนทนากัน
“พี่ปุญญ์ฮะเมื่อตอนพี่ประชุมเห็นลูกศรเล่าว่ามีผู้หญิงโทรมาจะคุยกับพี่ให้ได้เลยฮะ”
“มีอะไรเหรอ”
“ไม่ทราบสิฮะ ไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร บอกแต่ว่าเรื่องส่วนตัว”
“เรื่องส่วนตัวอีกแล้วเหรอ”ปุญญ์ว่าก่อนจะหัวเราะขรึมๆขึ้นมาพร้อมกัน
“เจ้าชู้” อีกเสียงที่โพล่งพูดขึ้นมาว่านั่นเธอจำได้มั่น นั่นคือเสียงหญิงสาวผู้ซึ่งประกาศตัวว่ากำลังจะเป็นภรรยาของปุญญ์ เธอคงพูดถูกใจเขามากละมังถึงทำให้เสียงหัวเราะดังกระเพื่อมขึ้นอีกครั้งได้
“เจ้าชู้อะไรกันคะ” ปุญญ์ทอดเสียงย้อนถามอีกฝ่าย พิชชาอรบีบมือตัวเองจนแน่น เธอจะกล้าพอไหม ที่จะหันไปเจรจากับเขา
“ลูกศรจะฟ้องคุณป้า”
“ได้ยังไงกันหืม... พี่อาจจะผ่านใครมามากมายนะ แต่คนที่พี่ต้องแต่งงานด้วยก็จะมีแค่ลูกศรเท่านั้น”
จบสิ้นกันแล้ว
เธอไม่หน้าทนพอจะไปคุยกับเขาอีก ทุกๆอย่างมันฟ้องอยู่ในการกระทำและคำพูดของเขาแล้ว
พิชชาอรหนาวยะเยือกไปถึงขั้วกระดูก เธอสะอิดสะเอียนเขา ปุญญ์จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นจริง แล้วเธอล่ะ ยังมีหน้าไปบอกเขาอีกไหมว่าท้องกับเขา ทั้งๆที่เธอยอมนอนทอดกายให้เขาเอง ยอมเขาเองทั้งสิ้น แถมเขายังตราหน้าไว้แล้วด้วยว่าผู้หญิงในอดีตของเขาเป็นแค่เพียงทางผ่านเท่านั้น มันก็ไม่แคล้วที่จะรวมถึงตัวเธอด้วย พิชชาอร!
ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"
"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ
ปัญญารัตน์กำแท่งตรวจการตั้งครรภ์ในกระเป๋าไว้จนเหงื่อชุ่มเต็มมือ วันนี้เธอมาเพื่อบอกเขาว่า ท้อง แต่นายแพทย์อนลกลับเอ่ยปาก บอกเลิกความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน เพื่อกลับไปคบกับแฟนเก่าของเขาที่กำลังย้อนกลับมาคบกันอีกครั้ง
คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ
พ่อหายตัวไปอย่างลึกลับ พี่สาวของฉันถูกข่มขืนและจุดไฟเผา พี่ชายถูกทำร้ายจนตายและโยนศพลงแม่น้ำ ใครจะช่วยฉันได้ในสถานการณ์แบบนี้ . "เป็นคนของผม แล้วผมจะช่วยคุณลากคนผิดมาแก้แค้น" เจ้าของคำพูดนั้นคือ รฐนนท์ นิยายไม่เน้นสืบสวน เน้นความสัมพันธ์ของตัวเอก จบดี แฮปปีค่ะ
วันดีคืนดีก็มีมาเฟียมาจอดหน้าบ้าน บอกว่าอยากได้ที่ของผืนสุดท้ายของเธอ มาเฟีย เจ้าของรีสอร์ท ฟาร์มควาย ม้า วัวที่อยู่ตรงรอยต่อของไทยมาเจรจาด้วยตัวเอง ทันทีที่เจอกัน ศศิร์ธาไม่ได้แค่อยากได้ที่ของเธอ ตัวเธอเองเขาก็อยากได้ด้วย เสียแต่ว่าเป็นม่ายลูกติด ไอ้ระยำนั่นมันเอาอะไรคิดถึงได้ถึงผู้หญิงแบบนั้นไป
"คุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม" "นี่อะไร" ศิวัฒน์ชูเอกสารในมือขึ้น "คุณก็เห็นว่ามันคืออะไร" เธอตอบโดยไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเกี่ยวกับเขาถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ "หึ" เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ "เธอคิดว่าเล่นขายของอยู่หรือไง ที่จะเลิกเล่นตอนไหนก็ได้" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากหย่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันก็ยอมเซ็นใบหย่าให้คุณแล้วเราไปอำเภอกันพรุ่งนี้เลยฉันเตรียมเอกสารครบแล้ว" "มันสายไปแล้ว" เขาบีบต้นแขนเธอแน่น "อยากเป็นเมียก็จะให้เป็น" "ฉันเจ็บนะคุณไตร" เธอพยายามแกะมือของเขาออก "อยากหย่ากับฉันมากละสิ เสียใจด้วยตอนนี้ฉันไม่อยากหย่าแล้ว" น้ำเสียงของเขาเหมือนคนที่กำลังโกรธ ซึ่งฉัตรนลินทร์ก็ไม่เขาใจว่าทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกแล้วแท้ ๆ "คุณจะทำอะไร" ฉัตรนลินทร์ร้องถามพลางเอามือดันอกเขาไว้ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็พยายามกอดเธอ ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ "ทำหน้าที่สามีไง จะทำทุกคืนให้คุ้มค่ากับเงินที่แม่ของฉันจ่ายให้เธอ" แม้จะเห็นใบหน้านวลตรงหน้านั้นกำลังซีดเผือดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ "ไม่นะ...ปล่อยฉันลงสิคุณไตร" เธอร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิวัฒน์อุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปที่เตียงนอน อึก!! ................................ "เธออยากหย่าขนาดนั้นเลย" "ใช่ค่ะ ไม่หย่าวันนี้วันหน้าก็ต้องหย่าอยู่ดี" ................................. "ถอยไปดิ อย่ามาขวาง" เธอไม่สนใจลูกชาย "อ้อ เอกสารของบริษัททั้งหมดอยู่ในห้องทำงานนะ ฉันยกให้แกหมดเลย" "แม่!!" "ไม่ต้องเรียก ฉันไม่มีลูกโง่อย่างแก" ................................. "เราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ เรามาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดกันเถอะ" เธอหันไปเผชิญหน้ากับศิวัฒน์ "ฉันขอโทษที่ไม่ยอมปฏิเสธแม่ของคุณในวันนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันไม่อยากให้เรารู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันย้อนไม่ได้เราก็เดินไปข้างหน้าเพื่อลืมเรื่องราวของกันและกันเถอะ" ....................................
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก "เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว" เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ "คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?" หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”