หวงลี่หลิน นักเขียนนิยายสาวผู้ที่มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา ด้วยความเป็นสาวสมัยใหม่และรักอิสระจึงไม่ยอมมีแฟนสักที จนวันหนึ่งเธอและเพื่อนสนิทอีกสองคนดันไปรับคำท้าของเพื่อนอีกกลุ่มว่างานแต่งของเพื่อนในกลุ่มนั้นพวกเธอจะพาแฟนหนุ่มที่ร่ำรวย รูปหล่อและเพอร์เฟคไปโชว์ทุกคนในงาน สัญญาที่เกิดจากความอยากเอาชนะจึงเริ่มต้นขึ้น แต่มันดันวุ่นวายเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมจบสัญญาและเขาก็เข้ามาปั่นป่วนในหัวใจของเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเสียด้วยซ้ำ เฉินเจียวจ้าน ทายาทอันดับสองของตระกูลเฉิน เพราะบิดาและมารดาอยากจะให้เขามีแฟนตอนอายุสามสิบและตัวเลือกที่ดีที่สุดคือผู้หญิงที่ไม่ต้องการมีแฟนแบบจริงจัง น้องสาวของว่าที่พี่สะใภ้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขาสำหรับระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนที่บิดาให้ แต่การที่เขาเข้าหาเธอกลับทำให้เขาตกหลุมรักเธอจริงๆ แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะยอมจบสัญญาแฟนหลอกๆ ในเมื่อเธอกล้าขโมยหัวใจของเขาไป เธอก็ต้องรับผิดชอบมัน
งานแต่งงานมักจะเป็นงานที่สาวๆ หลายคนนั้นใฝ่ฝันอยากที่จะให้เกิดขึ้นกับตนสักครั้งหนี่งในชีวิต แต่ไม่ใช่กับหวงลี่หลิน นักเขียนนิยายรักโรแมนติกวัยยี่สิบหกปีผู้ที่ไม่เคยผ่านการมีแฟนมาเลยสักคนแต่กลับเขียนนิยายออกมาได้ดีราวกับมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องรักมากมาย หวงลี่หลินนั้นเป็นผู้หญิงสวยที่มีหนุ่มๆ หมายตามาโดยตลอด แต่เธอก็ไม่เคยตกลงปลงใจคบหากับใครเลยสักคน ดีที่ทางบ้านเข้าใจและไม่บังคับให้บุตรสาวไปนัดบอร์ดเพื่อหาคู่
“วันนี้เฉินเยว่หลินสวยมากเลยพวกเธอดูสิ” เพื่อนในกลุ่มชี้ไปทางเจ้าสาวที่กำลังเดินเข้ามาในงานพร้อมกับบิดา
“ฉันอยากแต่งงานบ้างจัง แต่ยังหาแฟนไม่ได้เลย” เพื่อนอีกคนพูดขึ้น
“ฉันไม่เห็นจะอยากแต่งงานเลย อยู่คนเดียวทุกวันนี้สบายจะตาย ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ไม่ต้องเป็นห่วงใคร ไม่ต้องตามหึงหวงใคร และไม่ต้องมานั่งรอใคร” สาวสวยรูปร่างสูงเพรียวหุ่นทรงนาฬิกาทรายในชุดเดรสสีแดงเพลิงปาดไหล่ขวานั่งขาไคว่ฮ่างอวดเรียวขาขาวเนียนจิบไวน์อยู่อย่างอารมณ์ดี เธอมักจะได้เป็นแขกรับเชิญทุกครั้งเวลาที่เพื่อนๆ แต่งงาน และทุกงานก็จะมีหนุ่มๆ มาสนใจเธอทุกครั้ง แต่คนสวยเลือกมากอย่างเธอน่ะเหรอจะมองใครสักคน เพราะต่อให้หล่อ รวย และชาติตระกูลดีแค่ไหน ก็ไม่เคยเข้าตาของนักเขียนสาวเลย
“แหม....แม่คนสวยเลือกได้ เมื่อไหร่เธอจะมีแฟนสักทีล่ะ ตั้งแต่ฉันเรียนกับเธอจนจบมาทำงานแล้วฉันยังไม่เคยเห็นแฟนของเธอเลย” ถงถงเอ่ยขัดคอขึ้นทันทีด้วยความหมั่นไส้
“สวยและรวยมากก็พอย่ะ แฟนไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในชีวิต” สาวสวยพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจจนเพื่อนๆ ที่คิดต่างแอบเบ้ปาก ในชีวิตของผู้หญิงใครบ้างที่จะไม่อยากมีแฟนดีๆ จนได้แต่งงานกัน หวงลี่หลินคนนี้ช่างมีความคิดที่แตกแยกนัก
“ใช่ จะรีบมีแฟนไปทำไม อยู่สวยๆ โสดๆ ให้ผู้ชายเสียดายเล่นดีกว่า” อ้ายฉิงเพื่อนสนิทของนักเขียนสาวเอ่ยขึ้น จะมีเพียงเพื่อนสองคนเท่านั้นที่รู้ฐานะที่แท้จริงของนักเขียนสาวคนนี้ เธอไม่ใช่แค่นักเขียนธรรมดาๆ อย่างที่ทุกคนเห็นและเข้าใจ แต่เธอเป็นทายาทลำดับที่สองของตระกูลหวงต่างหาก
“ฉันก็เป็นอีกคนนะที่ยังไม่คิดจะมีแฟน มีแล้วเปลี่ยนบ่อยๆ เหมือนพวกเธอก็ไม่ไหวคิกๆๆๆๆ” เยว่หรูเพื่อนสนิทของลี่หลินอีกคนเดินเข้ามาสมทบกับสองสาว ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นพร้อมกับกลั้วหัวเราะเบาๆ จนอีกสองสาวพลอยที่จะหัวเราะขำไปด้วยไม่ได้ ถงถงรีบเดินหนีไปอยู่กับเพื่อนอีกกลุ่มทันที กลุ่มของสามสาวกับกลุ่มของพวกเธอไม่ค่อยจะกินเส้นกันอยู่แล้ว เจอกันทีไรถ้าไม่ได้แขวะหรือฟาดฟันกันก็ออกจะแปลกทีเดียว
พิธีการผ่านไปจนถึงช่วงเวลารับช่อดอกไม้จากเจ้าสาว ซึ่งเพื่อนๆ เจ้าสาวที่ยังโสดมักจะไปรอคอยรับช่อดอกไม้กันเพื่อหวังจะได้กลายเป็นเจ้าสาวคนต่อไป ผิดก็แต่กลุ่มของสามสาวที่มีบุคลิกต่างกันหากแต่ยังคบหากันได้แบบลงตัว
ลี่หลินนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยเซ็กซี่ และมีความมั่นใจในตนเอง เวลาทำงานอยู่ที่หน้าโน๊ตบุ๊คจะไม่ค่อยสนใจตัวเองเท่าไหร่นัก หากแต่พอออกงานเธอจัดหนักจัดเต็มเซ็กซี่จนหนุ่มๆ หันมามองตามเธอคอแทบเคล็ด ส่วนอ้ายฉิงนั้นเป็นหญิงสาวที่สนใจและดูแลบุคลิกภาพของตนตลอดเวลา เสื้อผ้าหน้าผมของเธอมักจะดูเรียบร้อยทุกสถานการณ์อาจจะเพราะอาชีพการงานของเธอคือนักพัฒนาบุคลิกภาพ และคนสุดท้ายเยว่หรู เธอเป็นคนปากจัดหากแต่จริงใจ การแต่งกายก็จะออกแนวสาวเท่ เพราะเธอนั้นเป็นนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของเมืองเอ
“ว๊ายยย!!!!!” เสียงหวานอุทานออกมาขณะที่ช่อดอกไม้ลอยตกลงมายังตักของคนที่ไม่คิดว่าจะมีแฟนหรือคิดที่จะแต่งงาน สองเพื่อนสนิทสาวมองเพื่อนซี้ด้วยสายตาตกตะลึงเช่นกันก่อนที่จะพากันขำออกมา
“โอ๊ย!!! อะไรกันเนี่ย คนที่เขาอยากมีแฟนอยากแต่งงานไม่หล่นไปหา หล่นมาหาฉันทำไมกันเนี่ย” เสียงหวานอุทานขึ้นจนสองเพื่อนสนิทสาวหัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่ได้
“ฮ่าๆๆๆๆ ยัยลี่หลิน ปีนี้ฉันว่าความโสดที่เธอหวงมาหลายปีต้องสิ้นสุดแล้วล่ะคิกๆๆ” เสียงห้าวหวานดังมาจากริมฝีปากบางสีส้มอ่อนของเยว่หรู หากไม่ใช่เพื่อนสนิทแล้วมาพูดแบบนี้ลี่หลินคงจะฟาดฟันกลับไปอย่างแน่นอน หากแต่เพราะคนที่แซวเธอนั้นเป็นเพื่อนสนิทหนึ่งในสองของเธอจึงทำได้แค่ส่งค้อนน้อยๆ ไปให้เพื่อนเพียงเท่านั้น
“เอาน่า คนอื่นเค้าอยากได้จะตายไป” อ้ายฉิงเอ่ยขึ้นบ้าง
“แต่ไม่ใช่ฉันไหม” ดวงตากลมหวานแข็งกร้าวขึ้นทันทีจนเพื่อนๆ หุบขำแทบจะไม่ทัน
“อะ!! ถ้าอย่างนั้นเธอเอาไปก่อนก็แล้วกันอ้ายฉิง เธอดูอ่อนหวานที่สุดในกลุ่ม น่าจะสละโสดก่อนพวกฉันแน่ๆ” มือบางจับช่อดอกไม้สีขาวที่เพิ่งลอยตกลงมาที่ตักส่งให้กับเพื่อนสนิท
“ว๊าย!!!ฉันยังไม่อยากมีแฟนเหมือนกัน ชีวิตโสดของฉันกำลังสนุกเลย เธอรับไปก็แล้วกันเยว่หรู ไหนๆ เธอก็ทำงานที่มีแต่พวกผู้ชายรุมล้อมอยู่แล้ว เธอดูจะเป็นคนเดียวที่ได้พบกับเพศตรงข้ามได้มากที่สุดนะ” อ้ายฉิงรีบโยนช่อดอกไม้ไปให้กับสาวสุดมั่นอย่างเยว่หรูทันที มือเรียวรีบจับมาแทบไม่ทัน
“โอ๊ย!! อะไรกันเนี่ยพวกเธอ จะเกี่ยงไปทำไม ในเมื่อสักวันพวกเธอก็ต้องเจอใครสักคนอยู่ดี หรือจะบอกว่ามันไม่จริง” สาวมั่นเอ่ยขึ้นก่อนที่จะถือดอกไม้ชูขึ้น
“ใครอยากแต่งงานต่อเยว่หลินมาเอาช่อดอกไม้ไปเลย เพราะสาวๆ กลุ่มนี้ยังไม่อยากมีแฟน” เสียงห้าวหวานจริงจังเอ่ยดังขึ้น สองสาวเพื่อนต่างกลุ่มจึงเดินเข้ามาพร้อมกับหยิบดอกไม้ไปทันที
“ขอบใจ อย่างว่าแหละ พวกเธอจะแต่งงานได้ยังไงในเมื่อแฟนสักคนก็ไม่เคยมีคิกๆๆๆๆ” ถงถงไม่หอบช่อดอกไม้มาเปล่า หากแต่ยังกล่าวปรามาสทั้งสามสาวเอาไว้จนเยว่หรูฟังแล้วยอมไม่ได้
“หึๆ ก็ไม่แน่หรอกนะ สวยๆ เก่งๆ แบบพวกฉันน่ะ แค่กระดิกนิ้วผู้ชายทั้งเมืองก็พร้อมจะดาหน้าเข้ามาให้เลือกแล้วย่ะ” เสียงห้าวหวานเอ่ยขึ้นจนอีกสองสาวต้องหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทเป็นตาเดียวกัน
“ดีเลย ต้นปีหน้าฉันจะแต่งงานกับพี่โจวหมิ่นหาน พวกเธอก็พาผู้ชายที่พวกเธอบอกว่าแค่กระดิกนิ้วก็ดาหน้ากันเข้ามาให้เลือกแล้วมาแนะนำให้พวกฉันรู้จักหน่อยสิ เพราะถ้าเธอทำไม่ได้พวกฉันจะถือว่าพวกเธอมันไม่แน่จริง” โหรวโหรวเอ่ยขึ้นอย่างท้าทาย มีหรือคนไม่ยอมคนอย่างเยว่หรูจะปล่อยผ่าน
“ได้ เธอคอยดูก็แล้วกัน งานแต่งของเธอพวกฉันสามคนจะควงหนุ่มหล่อ รวย โปรไฟล์ดีไปให้พวกเธอได้อิจฉาเล่น” สิ้นคำพูดของเพื่อนรัก อีกสองสาวที่เพื่อนไม่ได้ขอคำปรึกษาเลยสักนิดก็อ้าปากค้างอย่างพร้อมเพรียงกัน
“หรือเธอสองคนไม่กล้า ลี่หลิน อ้ายฉิง” ถิงถิงหันไปเล่นงานแม่สาวสวยกับแม่สาวเรียบร้อยทันที
“ค่ะ..ค่ะ....ใครบอก” อ้ายฉิงตอบอย่างตะกุกตะกักก่อนที่จะหันไปมองหน้าสวยเข้มของเยว่หรูอย่างคาดโทษ
“แล้วเธอล่ะลี่หลิน อย่าบอกนะว่าคนสวยๆ แบบเธอจะหาแฟนไม่ได้ ฉันว่าดีๆ หาได้ก่อนเพื่อนสองคนของเธออีก” โหรวโหรวหันไปถามหญิงสาวอีกคนที่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เอาสิ... ก็อย่างที่เยว่หรูกับอ้ายฉิงบอกนั่นแหละ และก็คงอย่างที่เธอบอกเรื่องแค่นี้ไม่ยากเกินความสามารถของฉันหรอก” ในเมื่อเพื่อนๆ ทั้งสองตกลงปลงใจกันแล้วจะให้เพื่อนแท้อย่างเธอแปลกแยกได้อย่างไร ถึงแม้เธอจะไม่แน่ใจก็ตามว่าจะหาแฟนมาอวดเพื่อนๆ ได้ไหม เพราะตอนนี้เธอยังไม่คิดจะมีใครและลงเอยกับใครจริงๆ
“ดี!!! แล้วฉันสองคนจะรอดู ว่าพวกเธอจะหาแฟนได้ตามที่ต้องการหรือเปล่า” ถงถงเอ่ยส่งท้ายก่อนที่จะถือช่อดอกไม้เดินไปทางอื่นพร้อมกับโหรวโหรวเพื่อนสนิท
ทันทีที่เพื่อนแค้นเดินจากไปสองเพื่อนรักก็มองไปที่เยว่หรูเป็นตาเดียว สาวสวยที่มีใบหน้าสวยคมรีบหลบสายตาก่อนที่จะโดนเพื่อนรุมอย่างรู้ความผิด ลำแขนเรียวเสลาจากทั้งสองสาวคล้องไปที่ลำคอระหงทั้งซ้ายขวา ก่อนที่ลี่หลินจะกระซิบบอกบางอย่างที่ทำให้เยว่หรูยกมือขึ้นมาปิดหูแทบไม่ทัน
“ไม่ๆๆๆ ฉันไม่มีทางมีแฟนก่อนพวกเธอแน่ๆ” เยว่หรูไม่ยอมรับข้อตกลงถึงตนเองจะเป็นคนเริ่มก่อเรื่องก่อนก็ตาม
“ได้ไง ก็ในเมื่อเธอเป็นคนตอบรับยัยนั่นไปก่อน เธอนี่น้า...เยว่หรู ทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อนเลย” ลี่หลินเอ่ยขึ้นเสียงลอดไรฟันเพื่อไม่ให้เพื่อนคนอื่นได้ยิน
“เอาน่ามีมันพร้อมๆ กันนี่ล่ะ สวยๆ แบบเธอสองคนหาไม่ยากหรอก ถ้าไม่อยากมีแบบเป็นตัวเป็นตนเราก็หาจ้างคนมาเล่นบทนี้ซะสิ จะได้ไม่มีปัญหาเวลาที่งานจบ หลังจากยัยนั่นแต่งงานเราก็ทำเรื่องจบสัญญากับหนุ่มๆ พวกนั้นซะ รับรองมีสัญญาไม่มีใครกล้าตุกติกแน่นอน” เยว่หรูหาทางออกให้กับเพื่อนๆ ซึ่งดูสองสาวก็เริ่มที่จะคล้อยตาม เพราะหาจ้างคนที่มารับบทแฟนกำมะลอได้ พวกเธอก็จะไม่สูญสิ้นความโสด
พอสามสาวตกลงกันได้ก็พากันออกจากงานแต่งของเพื่อนในรุ่นที่สละโสดไปอีกคน ทั้งสามสาวไม่ชอบที่จะมางานแบบนี้เลยสักนิดหากไม่ใช่เพราะถ้าไม่มายัยคู่ปรับสองคนนั้นก็จะหาเรื่องพูดจาถากถางและนินทาให้เพื่อนๆ คนอื่นมองทั้งสามสาวไม่ดี ยิ่งคนไม่ยอมคนอย่างเยว่หรู ไม่มีทางซะหรอกที่เธอจะยอมให้ใครมาว่าสองเพื่อนสนิทและตัวเธอแบบนั้น
เพราะความเมตตาจากสวรรค์ ทำให้นางผู้ซึ่งสิ้นอายุขัยในวันที่คลอดลูก ได้กลับมาเกิดใหม่ ในร่างของคุณหนูสามผู้โง่เขลา บุตรีของท่านเจ้าสำนักศึกษาตระกูลหลี่
นางแบบสาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด...จนวันหนึ่งได้พบกับเขา เขาที่เป็นพี่ชายสามีของน้องนางแบบที่เคยทำงานด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เพราะนอกจากถูกเขากวนใจแล้ว..เธอยังถูกเขากวนตัวอีกด้วย
เพราะความเข้าใจผิด ทำให้ต่างคนต่างก็แสดงท่าทีเย็นชาใส่กัน ทำให้ต่างคนต่างก็พลาดช่วงเวลาแห่งความสุขไป กว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญในชีวิตของตนมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ได้จากไปตลอดกาลเสียแล้ว...
คงเป็นเพราะสวรรค์เมตตา ให้นางที่ตายไปแล้วด้วยน้ำมือคนที่รัก ได้ย้อนอดีตกลับมาเมื่อห้าปีก่อน ก่อนที่นางจะกลายเป็นสตรีที่โง่งมให้เขาหลอกลวงจนมีจุดจบที่น่าเวทนา มีหรือครานี้นางจะยอมเจ็บปวดเพราะเขาอีก...
คำว่ารัก...ไม่ควรจำกัดไว้แค่คำว่าเพศ เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครเลือกเกิดได้ แต่ทุกคนเลือกที่จะเป็นได้ เหมือนกับเขาสองคน ที่คิดว่า ความรักคือสิ่งที่สวยงามยิ่งกว่าสิ่งใด
ในชาติภพก่อนนางคือวีรสตรีของแผ่นดินสยาม ปกป้องบ้านเมืองจากข้าศึกศัตรูจนตัวตาย เกิดชาติภพใหม่ในยุคจีนโบราณ นางนั้นเติบโตขึ้นเป็นสตรีที่งดงามแต่ทว่าภายใต้ใบหน้าที่งดงามนั้นกลับมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"