เขาคือซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของแดนกิมจิ ส่วนเธอเป็นแค่ไกด์สาวชาวไทยคนหนึ่ง ดวงชะตานำพาให้เขาได้พบเธอ และเกิดความประทับใจไม่รู้ลืม สามปีผ่านไปเขาได้พบเธอใหม่อีกครั้ง เขาจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเรียกร้องหาแต่เธอ
เขาคือซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของแดนกิมจิ ส่วนเธอเป็นแค่ไกด์สาวชาวไทยคนหนึ่ง ดวงชะตานำพาให้เขาได้พบเธอ และเกิดความประทับใจไม่รู้ลืม สามปีผ่านไปเขาได้พบเธอใหม่อีกครั้ง เขาจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเรียกร้องหาแต่เธอ
บทที่ 1 เปลี่ยนตัว
พิษนุกวาดสายตามองพนักงานบางส่วนที่ยังไม่ได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ ดวงตาหวานฉ่ำคู่นั้นหยุดนิ่งที่หญิงสาวคนหนึ่งที่สบตามาทางเขาพอดี ส่งยิ้มบางเบาแทบมองไม่เห็นผิดกับแววตาให้เธอ
“แยมไม่เข้ามาเหรอวันนี้”
นนทิยาหลุบสายตาลงต่ำเมื่อได้ยินคำถามของเจ้านายหนุ่มรูปหล่อ ไม่ยอมตอบคำถามของเขา
วาสนามองไกด์สาวรุ่นน้องที่ทำเป็นไม่สนใจเจ้านายและตอบคำถามแทน “เธอโทรมาบอกว่าไม่เข้าเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย เย็นนี้จะตรงไปที่สนามบินเลยค่ะ”
“พี่จัดการเรื่องเอกสารลูกค้าให้เรียบร้อยด้วยนะ” พิษนุพยักหน้ารับ กล่าวย้ำกับไกด์อาวุโสสุดของบริษัท แล้วหมุนตัวกลับไปทางเดิมอีกครั้ง
“คุณเต้จะไปไหนหรือคะ” นนทิยารีบตั้งคำถามด้วยความลืมตัวเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังจะออกไปทั้งที่เพิ่งเข้ามา
“มีอะไรหรือเปล่า” พิษนุตั้งคำถาม ฉีกยิ้มรอฟังคำตอบ “ถ้ามีงานให้ผมจัดการก็บอกได้นะ ผมจะทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยออกไป.. พี่หนา”
“พี่ไม่มีค่ะ” เห็นเจ้านายเลิกคิ้วเป็นคำถาม วาสนาจึงรีบส่ายหน้าเล็กน้อยกล่าวปฏิเสธ
“ก้อย..”
“ไม่มีค่ะ”
“คนอื่นมีไหม” พิษนุกวาดสายตาหวานฉ่ำมองทุกคนในสำนักงาน เมื่อไม่เห็นมีใครท้วงติงจึงเดินออกไป
“แกจะบ้าหรือไงก้อย ไปถามเจ้านายแบบนั้นได้ยังไง” วาสนาเอ็ดเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องทันทีที่พ้นสายตาเจ้านายไปแล้ว
“ก้อยลืมตัวนี่ป้า”
วาสนาหรือที่ไกด์รุ่นน้องต่างยกย่องเรียกว่าป้าหนาบ้าง พี่หนาบ้างแล้วแต่อารมณ์ มองนนทิยาด้วยสายตาพิจารณาเงียบๆ ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ
“พี่ว่าเจ้านายเราคงรีบไปดูอาการแฟนสาวคนสวยของเขากระมัง” ในบริษัทแห่งนี้ใครก็รู้ว่าเจ้าของบริษัทสบายทราเวลเป็นแฟนกับไกด์สาวคนสวยนามว่าดาวลดาหรือที่ทุกคนเรียกสั้นๆ ว่าแยม ไกด์สาวมากความสามารถพูดได้ถึงห้าภาษา
“ป้าหนาคะ ทัวร์ญี่ปุ่นรอบนี้ป้ากับพี่แยมดูแลใช่ไหมคะ” เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานคนหนึ่งถามขึ้น
“ไม่ใช่ป้านะ เป็นพี่ก้อยกับพี่แยมต่างหาก” วาสนาปฏิเสธ เพราะถ้าพูดกันตามจริงแล้วเธอมีหน้าที่แค่กระจายงานให้ไกด์หนุ่มสาวทั้งหลายเท่านั้นเนื่องจากอาวุโสที่สุดจึงได้เป็นหัวหน้าไกด์ที่ประจำอยู่ในบริษัทเป็นหลัก จะเป็นตัวเสริมยามที่ขาดคนจริง ๆ เท่านั้น “ดูผิดหรือเปล่าน้องหนู ป้าคงไม่เบลอจนใส่ชื่อตัวเองเพราะอยากไปหรอกนะ” วาสนาพูดติดตลก
“คุณเต้เขาเปลี่ยนให้ป้าไปแทนก้อยค่ะ แล้วให้ก้อยเป็นหัวหน้าไกด์ดูแลลูกทัวร์ไทยที่ไปสัมมนาที่เกาะช้างแทน” นนทิยารีบอธิบายแทนพนักงานฝ่ายการเงินที่คงไม่รู้เรื่องอะไร “เขาบอกว่าจะเรียกป้าไปคุยนี่คะ”
“ป้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย” วาสนาแปลกใจว่าทำไมพิษนุไม่ให้ตนซึ่งมีประสบการณ์มากกว่าดูแลลูกทัวร์ไทยกลุ่มใหญ่กลุ่มนั้น.. หรืออย่างน้อยเขาก็น่าจะเลือกให้ดาวลดาอยู่มากกว่า เพราะประสบการณ์การทำงานและความสามารถของเธอดีกว่าหญิงสาวคนนี้มาก
“คุณเต้อาจจะบอกกับแยมไว้แล้วก็ได้”
“สงสัยไอ้เจ้าแยมลืมบอกพี่..” วาสนารำพัน แววตามีแววลังเลอย่างเห็นได้ชัด
“พี่แยมไม่ค่อยสบายไม่ใช่เหรอป้า เธออาจะเบลอก็ได้” พนักงานสาวโต้แย้ง วางเอกสารของลูกทัวร์ทั้งหมดลงบนโต๊ะทำงานของวาสนา “รายละเอียดทั้งหมดของทัวร์กับเงินสำรองค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ” วาสนาหยิบตารางเวลามาอ่าน ตั้งแต่เวลานัดหมายที่สนามบินสุวรรณภูมิไปจนถึงรายละเอียดการนัดหมายกับรถบัสและไกด์ ที่ต้องร่วมงานด้วยทางประเทศญี่ปุ่น ต่อด้วยเอกสารอื่น ๆ จนครบและเก็บทุกอย่างใส่กระเป๋าสะพายใบใหญ่ของตน “อีกสองชั่วโมงป้าจะกลับแล้วนะ ใครอยากฝากซื้ออะไรที่ญี่ปุ่นบ้างก็รีบฝากพร้อมเงินนะจ๊ะ ไม่รับฝากทางโทรศัพท์และปากเปล่า เพราะป้าไม่มีเงินสำรองจ่าย” สาวใหญ่หัวเราะตบท้ายก่อนเริ่มต้นงานเอกสารที่ทำค้างไว้
ประมาณสิบห้านาทีวาสนาก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นไกด์สาวรุ่นน้องทำท่าเหมือนจะออกไปข้างนอก หลังจากรับโทรศัพท์ของเจ้านาย
“ไปไหนก้อย”
“คุณเต้โทรให้ก้อยเอาเอกสารไปส่งให้บริษัทลูกค้าจ้ะป้า” นนทิยาตอบขณะหยิบเอกสารใส่กระเป๋า “ก้อยไปก่อนนะคะป้า”
“จ้ะ” วาสนาพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มกว้าง แต่ในใจนั้นเกิดความสงสัยมากมาย..
นนทิยาเหลียวมองกลับหลังเข้าไปในสำนักงาน เห็นวาสนาให้ความสนใจกับงานบนโต๊ะก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก รีบเดินเร็วๆ ตรงไปที่รถ.. ตอนที่โกหกว่าเอาเอกสารไปให้ลูกค้าดู เธอนึกว่าฝ่ายนั้นจะสงสัยซะแล้ว เพราะงานแบบนี้ไม่ใช่หน้าที่ของไกด์อย่างตน...
ดาวลดาฉีกยิ้มกว้าง โบกมือเล็กน้อยให้คนรักที่เดินเข้ามาในร้านขายข้าวแกงของครอบครัวเธอ ซึ่งในที่นี้หมายถึงป้าดวงดาวและป้าดวงเดือนพี่สาวฝาแฝดของบิดาซึ่งครองตัวเป็นโสดด้วยกันทั้งคู่ สาเหตุที่ต้องเป็นโสดก็อาจจะมาจากเธอกับพี่สาว ที่ท่านทั้งสองต้องช่วยกันเลี้ยง เนื่องจากมารดาเสียชีวิตตั้งแต่ผ่าตัดเอาเธอออกจากท้องได้ไม่ถึงชั่วโมงจากอุบัติเหตุรถชน
เธอจึงกลายเป็นเด็กที่คลอดก่อนกำหนดถึงสองเดือนและต้องอยู่ในตู้อบอีกเป็นเดือน ไม่รู้เพราะสาเหตุนี้หรือเปล่าถึงทำให้เธอกลายเป็นเด็กฉลาด ไอคิวสูงกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่ในความฉลาดก็มักจะแฝงด้วยความบกพร่อง นั่นก็คือความขี้ลืม ถึงจะฉลาดแต่ก็ต้องกระตุ้นอยู่เสมอ ไม่งั้นมันจะถูกฝังลึกอยู่ในสมองทันที หรือไม่ก็ต้องใช้เวลานึกนานสักหน่อย.. ซึ่งป้าทั้งสองชอบพูดอยู่เสมอ
“ทานอะไรดีคะคุณลูกค้าสุดหล่อ” ล้อคนรักที่เดินเข้ามาใกล้
“จะมาหักเงินคนอู้งาน ไอ้เราก็นึกว่าป่วยจริง พอรู้ข่าวก็รีบบึ่งรถมาดู ที่แท้ก็หลอกให้เราเป็นห่วง” พิษนุแกล้งทำหน้านิ่วขณะพูดกับคนรัก “พี่ขอไปไหว้ป้าก่อนนะ” เขาบอกกับเธอเมื่อเห็นป้าฝาแฝดคนหนึ่งของคนรักคิดเงินลูกค้าเสร็จแล้ว ส่วนอีกคนคงจะเป็นแม่ครัวใหญ่ควบคุมลูกจ้างทำอาหารอยู่ในครัวหลังร้าน
“ค่ะ เดี๋ยวแยมไปเก็บเงินโต๊ะนั้นก่อน แล้วเราค่อยมาทานข้าวด้วยกันนะคะ” เธอบอกคนรักเมื่อเห็นลูกค้าโต๊ะหนึ่งยกมือเรียกให้เก็บเงิน
ถึงแม้ร้านของป้าเธอจะเป็นแค่ร้านขายข้าวแกง แต่ก็เป็นร้านที่มีทำเลดีมากจึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย และเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่ถึงสามสิบโต๊ะ นอกจากข้าวแกงแล้วยังมีขนมหวานและขนมประเภทของฝากอีกหลายอย่าง
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
เธอสุขจนไม่รู้จะสุขยังไง เสียวจนไม่รู้จะเสียวยังไง สุขแล้วสุขเล่า เสียวแล้วเสียวเล่า สุขเสียวจนแทบจะไร้แรงยืนหยัด ต้องโอบแขนกับรอบลำคอแกร่งเพื่อเป็นหลักยึด “คืนนี้จะตามใจฉันทั้งคืนใช่ไหมยอดรัก” “ค่ะ” คำตอบของเธอทำให้เขาพึงพอใจที่สุด จึงจูบปากที่บวมเจ่อนิดๆ นั้นซ้ำอีกหนักๆ ลวนลามร่างนุ่มนิ่มนั้นอย่างย่ามใจ... กว่าจะได้ถูหลังขัดขี้ไคลให้เขา เธอก็ถูกเขาจับขัดดอกไปก่อนจนแทบจะหมดแรง นับเป็นการอาบน้ำที่นานและเสียวสะท้านที่สุดเท่าที่เคยอาบมา…
“คราวหน้าเจ้าควรตัดเล็บให้สั้นกว่านี้นะเหม่ยเหริน” เสินอี้อวดแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยเลือดซิบให้คนที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียงได้เห็นก่อนจะสวมเสื้อคลุมปิดทับ ยิ้มขันได้ใจเมื่อได้เห็นใบหน้าแดงก่ำจนต่อคำพูด
เขาเหลือบสายตามองแก้มบางที่อยู่ไม่ห่างจากปาก จมูกน้อย ๆ ของนางคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเขาเมื่อก้าวเดิน เขาไม่คิดให้เสียเวลา ลดฝีเท้าในการเดินให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วคิดกำไรด้วยการจูบมุมปากและหอมแก้มของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็แผ่วเบานุ่มนวล เพราะไม่อยากทำให้นางตื่นจนเสียโอกาส มือไม้ก็ลูบไล้ความนุ่มเนียนจนลื่นมือของผิวแท้ ที่มีเพียงผ้าผืนน้อยปิดกั้นไว้ “สตรีขี้เมามันไม่งาม แต่ข้าก็ชอบถ้าเป็นเจ้า” เขาพึมพำชิดริมฝีปากอวบอิ่ม ประทับจูบลงไปแนบแน่นเมื่อวางร่างของนางลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว...
มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดก็คือยมทูตรับส่งวิญญาณ เขารีบตามหาวิญญาณของเธอเพื่อพากลับเข้าร่างโดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้เพราะเขาเจอเธอเมื่อร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขความผิดก็คือต้องส่งเธอกลับไปในร่างของคนอื่นที่เพิ่งหมดลมหายใจ และด้วยเหตุผลที่เธอเรียกร้องบางประการ จึงทำให้เธอได้กลับไปเกิดใหม่ในรัชสมัยของราชวงศ์หมิง ในร่างของหญิงสาววัย 19 ปีนามว่า "เฟิ่งต้าชวี่" แต่ "เฟิ่งต้าชวี่" ไม่ใช่ดรุณีแรกแย้มไร้เจ้าของ นางเป็นพระชายาที่แสนบริสุทธิ์ของแม่ทัพผู้เกรียงไกร "อ๋องใหญ่เกาหรงซาน" พระชายาที่เขาเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในห้องหอตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่เพราะความรักและหน้าที่ของสตรีชาวฮั่น นางจึงทนอยู่อย่างปวดร้าวในตำหนักของเขาตลอด 2 ปีก่อนจะตรอมใจตาย
“เหล่ากง..” หญิงสาวยกมือปิดหน้าอก ชันเข่าขึ้นซ่อนสิ่งที่บ่งบอกความเป็นสตรี ตะแคงตัวหนีสายตาหยาดเยิ้มของเขา “สายตาของท่านทำซินเอ๋อร์ขัดเขินแทบขาดใจแล้ว” “เช่นนั้นเหล่ากงให้มองคืนบ้าง” เขาดึงนางมาสู้สายตา “ซินเอ๋อร์ไม่กล้าหรอก” นางเผลอมองไปแล้ว แม้จะเห็นความใหญ่โตของมันแค่ครึ่งลมหายใจ แต่ก็ทำให้นางตกใจจนทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
แต่งงานซ่อนเงากับหลี่ เจวี๋เฉินมาได้สามปี เจียงวานเคยคิดว่าความรักของเธอจะทำให้หัวใจเขาอุ่นขึ้นได้ แต่สิ่งที่รอเธออยู่ กลับเป็นวันที่จู่ ๆ รักแรกของเขากลับมาจากต่างประเทศ แล้วเขาก็พูดเพียงประโยคเดียวว่า “พวกเราหย่ากันเถอะ” เจียงวานรู้ดีว่าคนที่หลี่ เจวี๋เฉินรักไม่ใช่เธอ เธอจึงกลบเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ หยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไปอย่างเด็ดขาด หลังหย่า ชีวิตของเจียงหว่านกลับพุ่งแรงราวติดปีก ทั้งงานทั้งโชคลาภหลั่งไหลไม่หยุด กลายเป็นสไตลิสต์ระดับท็อปของโลก ทั้งการงานและความรักล้วนรุ่งโรจน์ ส่วนอดีตสามีผู้มีตำแหน่ง บางคน นั้นวัน ๆ เอาแต่จ้องหน้าจอ คิดทุกวิถีทางว่าจะทำยังไงให้ได้แต่งงานกับเธออีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเจียงวานตอนยังเด็กกลับมาอีกครั้งหลี่ เจวี๋เฉินถึงกับอยู่เฉยไม่ไหวอีก “วานวาน แต่งงานกันอีกครั้งเถอะนะ ได้โปรด!” เจียงวานเพียงยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ“ไม่มีเวลาหรอก ไปหารักแรกของคุณเถอะ!” หลี่ เจวี๋เฉินควักแหวนออกมา คุกเข่าข้างเดียวแล้วเอ่ยว่า “ฉันไม่มีใครคนอื่นในใจ มีเพียงเธอเท่านั้น เธอคือคนที่ฉันรักมาตลอด ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเธอ!” ตลอดสามปีที่อยู่ด้วยกันทั้งเช้าเย็น ทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เกิดความรักและผูกพันต่อกัน เธอเข้าใจว่าเขายังรักแฟนเก่าอย่างสุดหัวใจ แต่เขากลับคิดว่าในใจเธอมีใครอีกคนอยู่แล้ว คนดื้อสองคนที่แอบรักกันอยู่ฝ่ายละมุม แต่กลับเข้าใจผิดเพราะมีคนอื่นเข้ามาอยู่รอบตัวจนคิดไปต่าง ๆ นานา ความรักครั้งนี้จะฝ่าหมอกแห่งความเข้าใจผิดไปจนถึงตอนจบที่งดงามได้หรือไม่?
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY