“ผมจะให้ทะเบียนสมรสตามที่คุณต้องการ แต่ผมจะไม่มีวันให้หัวใจ” “แล้วคุณจะยอมแต่งงานกับฉันทำไม” หล่อนถามเสียงสั่น “เพราะผมต้องการโสเภณีส่วนตัวที่สามารถใช้งานบนเตียงได้สะดวกทุกเวลาที่ผมมีอารมณ์ยังไงล่ะ ในสังคม…คุณจะเป็นภรรยาไม้ประดับ แต่ในห้องนอน…คุณจะเป็นได้แค่เมียบำเรอที่มีค่าแค่ร่างกายสวยๆเท่านั้น”
“อา...”
เสียงครางกระเส่าดังจากคนสองคนที่ตอนนี้หลอมรวมร่างกายเป็นหนึ่ง ‘วีรยา’ปรือตาฉ่ำหวานมองใบหน้าคมที่เห็นห่างเพียงคืบอย่างเคลือบแคลง
หล่อนฝันไปหรือเปล่า ชายที่โอบกอดหล่อนไว้แนบร่างคนนี้คือ‘กฤตพล’ ชายหนุ่มนักรักที่ไร้หัวใจ เขาเคยมองหล่อนอย่างหมิ่นแคลน ดวงตาคู่คมชวนฝันช่างกระด้างไร้ความรู้สึกอยู่เป็นนิตย์
ทว่าในเวลานี้ เขากลับกอดหล่อนราวกับรักเสียเต็มประดา ดวงตาสีเข้มที่เคยเฉยชา วันนี้เปี่ยมล้นด้วยไฟพิศวาส เขาต้องการหล่อน...แม้ไม่บอกผ่านคำพูด แต่ภาษากายและแววตาที่เห็นก็ทำให้หญิงสาวรู้โดยอัตโนมัติว่าตอนนี้เขาเจียนคลั่ง
“อ๊ะ...” วีรยาอุทานสั้นๆ ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อบางสิ่งรุกล้ำเยื่อพรหมจรรย์ก่อนทะลวงเข้าสู่ความอุ่นร้อนที่คับแคบ อาการเจ็บปร่าเกิดขึ้นทั่วเนินสาว แต่เขากลับไม่ปรานีเมื่อขยับกายรุกล้ำเข้ามาอย่างกระชั้นชิด
“จะ...เจ็บ” หญิงสาวบอกเสียงสั่น กระบอกตาร้อนผ่าว ซึ่งเขาก็ชะงักไปชั่วอึดใจเดียว นาทีต่อมาร่างหนาก็ขยับกายอีกครั้ง พร้อมริมฝีปากอุ่นจัดที่ครอบครองยอดถันอิ่มดูดดื่มราวหิวกระหายมาเนิ่นนาน
น่าแปลกที่ความเจ็บปวดในช่วงแรกคลายลง ก่อนความรัญจวนจะเข้าแทนที่ วีรยาหลับตาแน่น นิ้วครูดไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าของผู้ชายที่คร่อมอยู่เหนือร่าง เสียงหวีดร้องบ่งบอกความหฤหรรษ์มาพร้อมกับหยาดน้ำตาแห่งความอิ่มเอม
แต่ดูเหมือนกฤตพลจะยังไม่อิ่มในรสสวาท เพราะชายหนุ่มจูบที่เรียวปากอิ่มแล้วไต่มาตามซอกคอ ขณะที่สองมือบีบเคล้นเต้าทรวงอย่างหนักหน่วงเพื่อปลุกเร้าให้ไฟสวาทลุกโชนอีกครั้ง
ไม่ใช่ฝันไปใช่ไหม...
วีรยาถามตัวเองในใจเช่นนั้น ทว่าใบหน้าคมที่ลอยเด่นอยู่ไม่ห่าง...คิ้วเข้มยาวได้รูป ดวงตาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากสีชมพูสวย
ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นกฤตพล หล่อนไม่มีทางลืม ทั้งรูปหน้าที่คมสัน และเรือนร่างกำยำ บัดนี้หล่อนได้ครอบครองเขาแล้วทุกสัดส่วน
หล่อนเป็นเจ้าของเขาแล้วอย่างเต็มตัวใช่ไหม ?
รอยยิ้มปลื้มปิติผุดขึ้นที่เรียวปากอิ่ม แขนเรียวยังคงโอบรัดลำคอแกร่งไว้อย่างกลัวว่าเขาจะหนีหาย ขณะที่สะโพกสอบเพรียวยังคงทำหน้าที่ขยับเข้าออกอย่างแข็งขัน
หยาดเหงื่อเม็ดเล็กไหลซึมจากเรือนผม ไล่ลงมาตามแนวแก้มราวกับว่าอากาศร้อนจัด ทั้งๆที่ในห้องติดเครื่องปรับอากาศอย่างดี
“เก้า...ฉัน ฉันรักคุณ” หญิงสาวบอกด้วยเสียงสั่นแต่หนักแน่น ซึ่งเขาก็ขมวดคิ้วฉับ ดวงตาเปล่งประกายประหลาดขึ้นวูบหนึ่งก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
กฤตพลไม่พูดอะไร เขากระแทกกระทั้นส่วนร้อนผ่าวอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีคำบอกรัก ไม่มีคำพูดใดๆที่บอกถึงความห่วงหา
แม้ใจหนึ่งจะนึกน้อยใจ แต่กระนั้นวีรยาก็ยังต้องการเขา เมื่อร่างกายร้อนผ่าวเหมือนถูกไฟอังอยู่ตลอดเวลา หล่อนปรารถนาอยากให้เขาโอบกอด จูบซ้ำๆและเป่าลมหายใจร้อนๆรดต้นคอและเนินอก
อยากให้นิ้วเขาสัมผัส แตะทุกสัดส่วน อยากเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น...
เพราะท่วงท่าเร่าร้อน และการสนองกลับที่เป็นไปโดยสัญชาตญาณของหญิงสาว ทำให้กฤตพลยิ้มหยัน เขามองร่างงามเหมือนมองของเล่นที่ถูกใจ
ใช่...หล่อนถูกใจเขา ผู้หญิงที่บริสุทธิ์และหอมหวานเช่นหล่อนหาไม่ได้ง่ายๆในโลกปัจจุบัน
แล้วดูดวงตาหล่อนสิ เชิญชวนจนเขาไม่อยากผละห่างไปไหน...อยากกอด อยากแนบชิดไปนานๆ
เพราะอารมณ์ฝ่ายต่ำพัดโหมกระพือ สุดจะอดใจไหว กฤตพลขบกัดเนินอกขาวผ่องอย่างแรงจนหญิงสาวสะดุ้ง ฝ่ามือใหญ่โลมลูบสีข้างนวลเนียนไปเรื่อย ก่อนเลื่อนขึ้นกอบกุมทรวงอกอวบหยุ่น
“คุณ...ถูกใจผมมาก” เสียงทุ้มกระซิบ วนเวียนดมดอมแก้มสาว สัมผัสจุดชวนหวิวซ้ำๆหลายครั้งราวจะย้ำว่าเรือนกายนี้มีคนครอบครองแล้ว
วีรยายิ้มออกมาอย่างเปี่ยมสุขเมื่อความร้อนที่มีคลายลงจนเหลือเพียงความอบอุ่น ร่างหนาเกร็งกระตุกก่อนจะพาลาวาแห่งรักเข้าสู่ร่างกายหล่อนเต็มที่
บทเพลงรักมอดดับ และหญิงสาวก็อ่อนเพลียเกินกว่าจะพูดอะไร ดวงตาคู่โตหลับพริ้มแล้วจมดิ่งสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว โดยที่ร่างบางยังอยู่ภายใต้อ้อมกอดของคนที่ทิ้งตัวลงนอนเคียงข้าง
คืนนี้คงเป็นคืนที่หล่อนจะหลับฝันดี และต่อให้ฝันร้ายแค่ไหน หล่อนก็ไม่หวั่น เพราะตอนนี้หล่อนมีความสุขเหลือเกินที่ได้หลับพร้อมกับคนที่หล่อนรัก
แสงแรกของเช้าวันใหม่สาดส่องลอดช่องหน้าต่างเห็นเป็นลำแสงสีขาวอ่อนๆกระทบดวงตาของคนที่หลับอยู่บนเตียงกว้างจนต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
เพดานห้องสูง...มีโคมไฟระย้าสีทองประดับอยู่ !
นี่ไม่ใช่ห้องของหล่อนแน่ๆ !
วีรยาหลับตาลงครู่หนึ่งเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่าง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พลางหลุบตาลงมอง...เห็นตนเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าปกปิดร่างกาย มีเพียงผ้าห่มผืนบางเท่านั้นที่คลุมร่างไว้เพื่อกันอุจาด
หน้าหวานเผือดสีก่อนจะแดงปลั่งเมื่อนึกทุกอย่างออก เมื่อคืนนี้มีงานเลี้ยงรื่นเริงเพื่อขอบคุณพนักงานที่สู้อุตส่าห์เหนื่อยยากอยู่เคียงข้างบริษัท
งานสังสรรค์จัดขึ้นที่บริษัท หลังงานเลี้ยงเลิกรา บิดาก็ขับรถมาส่งหล่อนที่บ้านหลังใหญ่ไม่คุ้นตา จากนั้นก็ถูกบังคับให้ดื่มน้ำในขวดจนเกือบหมด
เมื่อดื่มไปแล้ว หล่อนก็ร้อนไปทั้งร่างราวถูกไฟแผดเผา อยากปลดเปลื้องเสื้อผ้าออก แทบไม่เป็นตัวของตัวเอง ครั้นจะขอให้พ่อพากลับไปส่งที่บ้านของตน พ่อก็ขับรถหนีไปแล้ว ทิ้งให้หล่อนยืนอยู่ท่ามกลางความมืดหน้าบ้านของคนอื่นที่หล่อนไม่คุ้นเคย
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"