เมื่อสิงห์หนุ่มได้พบกับนางสิงห์สาวที่คู่ควร จะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือ แม้จะต้องแลกมาด้วยการ 'จี้ ปล้น ข่ม ขย่ม' หรือต้อง 'โยก' กันบ้างบางส่วน เขาก็ถือว่ามันคุ้ม
เสียงลมหายใจหอบกระเส่าของหญิงชายที่สอดประสานกันเป็นจังหวะจะโคนเร่งเร้ารัญจวน บางครั้งแว่วหวานแผ่วเบาแต่บางครั้งก็ดุดันราวกับมีใครบางคนที่กำลังได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส และบางครั้งก็ร้อนรุ่มรุนแรงจนทำให้เตียงเหล็กที่รองรับแรงกระแทกกระทั้นนั้นส่งเสียงอิดออดราวกับว่ามันพร้อมจะหักโค่นลงมาทุกจังหวะการเคลื่อนไหว แต่เมื่อเส้นสายปรารถนายังไม่สิ้นสุด แม้ว่าเครื่องรองรับความซ่านเสียวจะแตกหักลงตรงหน้าเขาก็พร้อมจะฝ่าไป
ฝ่ามือแกร่งช้อนใต้สะโพกผายพร้อมจับพลิกให้ร่างขาวจั๊วคว่ำหน้าลงก่อนจะรั้งสองขาเรียวยาวลงมายืนอยู่ด้านข้างเตียงเหล็ก ทั้งที่ตัวตนแข็งแกร่งของเขายังสอดแทรกอยู่ในโพรงฉ่ำน้ำอย่างไม่มีทีท่าว่าจะขยับออก ไม่รอช้าร่างแกร่งเปล่าเปลือยก็กระหน่ำความแข็งแกร่งทะลวงทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่รีรอให้คนด้านล่างได้ตั้งตัวหรือเตรียมใจ
“โอว... นายหัวขา... ใจเย็นๆ สิคะ แนนนี่ยังไม่ไปไหนค่ะ ยังอยู่กับนายหัวทั้งคืน โอว...”
“เย็นไม่ไหวแล้วแนนนี่ ฉันร้อนจนไฟจะลุก อืม...”
เสียงห้าวกระเส่าตอบอย่างคนมีอำนาจที่พร้อมจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ความปรารถนาครั้งที่ 3 ของคืนนี้สิ้นสุดลง สมดั่งสโลแกนของเขานั่นก็คือ ‘ไม่เช้าอย่ามาเรียกเขาว่าเจ้าป่า’ และราตรีนี้ก็อีกยาวไกลนัก
“อ่ะ! นายหัวขา... แนนนี่... สะ... เสียวเหลือเกิน โอว... นายหัวขา... แนนนี่เสียว... โอว... โอว... นายหัวขา...”
สาวสวยหุ่นนางแบบแต่มีหน้าอกขนาดมหึมาชนิดที่ผู้ชายทุกคนอยากจะซบใบหน้าลงไปมาส่ายศีรษะไปมาด้วยความหฤหรรษ์เกินจะห้ามใจ ก่อนจะผินใบหน้าที่ชื้นไปด้วยไรเหงื่อมองบุรุษรูปร่างแข็งแกร่งที่สร้างความสั่นสะท้านไปถึงโพรงดอกไม้ของเธอในทุกครั้งที่ได้พบหน้า ไม่ว่าจะที่ไหน เวลาใด ขอเพียงเธอได้เห็นหน้าเขา ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงในช่วงเวลาที่เขากระแทกกระทั้นกายแกร่งแข็งเกินชายใดเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างไม่ละลด
ความแข็งแรงของเขาสร้างความอิ่มให้กับเธอจนแทบจะสำลักเพราะลูกไฟที่มอดดับสามารถจุดติดได้หลายๆ ครั้งตลอดค่ำคืน เธอติดใจเขามากมายเสียจนพร้อมจะทำทุกอย่างที่เขาปรารถนา แม้จะเป็นได้แค่เพียงดอกไม้ดอกหนึ่งที่เขาเด็ดดมในยามที่ความต้องการพวยพุ่ง เธอก็พร้อมจะยอม เพราะเขา... จ่ายหนักจริงๆ
“โอว... นายหัวขา... แนนนี่จะไม่ไหวอีกแล้ว อืม... นายหัวขา...”
“หึหึหึ... จะรอดูว่าแนนนี่จะไม่ไหวจริงหรือเปล่า”
ฝ่ามือหนาของสีหราชจับกระชับสะโพกผายแน่นก่อนจะสาวสะโพกสอบกดกระหน่ำลงไป โดยไม่สนใจว่า ‘แนนนี่’ นางแบบสาวอกสะบึม หนึ่งในคู่ขาที่บินตรงจากกรุงเทพฯ มาชุมพร ตามออร์เดอร์ของเขาจะส่งเสียงร้องครวญครางมากน้อยแค่ไหน เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องของเขา เรื่องที่เขาต้องทำคือเขาต้องได้และต้องได้ให้มากที่สุดด้วย
แรงขับเคลื่อนพลังงานทางเพศที่มีอย่างมากล้นและต้องได้รับการตอบสนอง จนเรียกได้ว่าตลอดทุกค่ำคืนข้างกายของสีหราชไม่เคยขาดหญิงงาม แต่เมื่อต้องรับหน้าที่ ‘นายหัว’ แห่งไร่กาแฟอย่างเต็มตัว ช่วงเวลาทำงานเขาก็ต้องลงแรงกายและแรงใจไปอย่างไม่หยุด และเมื่อได้พัก เขาก็ควรจะตักตวงเอาความสุขที่โหยหานั้นไว้ให้ชุ่มปอด และคนอย่างเขาก็ไม่เคยเอาเปรียบใครด้วย
ทุกหยาดเหงื่อที่พวกเธอต้องสูญเสียไปจากกิจกาม ‘ทำรัก’ จะถูกแปลเป็นเงินอย่างสมน้ำสมเนื้อ แน่นอนว่าไม่มีใครเอาเปรียบใครแน่เพราะสิงโตหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยแรงขับเคลื่อนทางเพศอย่างมากมายและต้องการการสนองตอบที่ถึงอกถึงใจพอๆ กัน เขาก็พร้อมจะเห็นอกเห็นใจในความเหนื่อยอ่อนของพวกเธอและพร้อมจะตอบสนองพวกเธอจนเกินคุ้ม ขอเพียงอย่างเดียว ‘อย่าขัดใจ’
“อ่ะ! นายหัว! นายหัว! นายหัวขา... นายหัวขา... อา... กรี๊ด...”
แนนนี่สะดุ้งสุดตัวเมื่อแรงกระแทกนั้นรัวเร็วรุนแรงมากขึ้นก่อนเสียงกรีดร้องเล็กๆ ของเธอจะดังยาว เพราะโพรงดอกไม้กำลังเกร็งตัวบีบรัดความมโหฬารไว้อย่างแนบแน่น ทุกแรงกระตุกรั้ง ทุกแรงบีบอัด ช่างเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ทำให้เธอทั้งสั่นและสะท้านจนทนไม่ไหวต้องส่ายร่อนโพรงดอกไม้กับความแข็งแกร่งนั้นไม่หยุด
แม้จะมีสิ่งขวางกั้นแต่ก็รับรู้ได้ถึงความอุ่นวาบและแรงกระตุกจากเจ้าสิงโตที่คำรามกึกก้องอยู่ในถ้ำฉ่ำน้ำ โดยเฉพาะเมื่อเจ้าสิงโตตัวใหญ่นั้นส่ายศีรษะร่อนไปมาดั่งต้องการประกาศให้โลกรู้ว่าเขาแกร่ง เก่ง และเยี่ยมสุดๆ ไปเลย
“นายหัวขา... เยี่ยมที่สุดเลยค่ะ”
แนนนี่บอกเมื่อพลิกกายเข้าไปกอดก่ายเรือนร่างแข็งแกร่งสมชายชาตรีที่นอนหายใจยาวๆ อยู่เคียงข้าง ฝ่ามือเนียนนุ่มเพราะครีมประทินผิวชั้นดีและอาชีพที่ไม่ต้องไปแบกหามแค่ใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์ลูบไล้ไปมาบนแผงอกแกร่งที่ปกคลุมไปด้วยไรขนสีน้ำตาลทองอย่างหลงใหล
ในเวลานี้เธอก็กำลังใช้ความสวยทำงานที่ให้ประโยชน์สูงสุด เพราะเธอทั้งสุขและอิ่มเอมจนแทบจะหอบร่างกายไปเดินแบบในวันพรุ่งนี้ไม่ไหว และยังได้เช็คเงินสดที่มีเลข 0 หลายๆ ตัวปรากฏอยู่ด้านหลังเป็นของแถมอีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ให้เงินหรือเขาอาจให้น้อยกว่านี้ เธอก็พร้อมที่จะให้เขาตักตวงความสุขอย่างไม่คิดมูลค่า เพราะเขาทำให้เธอถึงอย่างสุดๆ ไปเลย
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก