เธอเป็นลูกสาวของผู้หญิงที่ทำให้เขาเสียใจ
เธอเป็นลูกสาวของผู้หญิงที่ทำให้เขาเสียใจ
ปัง ปัง ปัง!!! โครม!!!
เสียงทุบประตูที่แทบพังเข้ามา และเสียงกระทบกระแทกด้านนอก ทำให้ไพรหอม จำปานันท์ เด็กสาววัยยี่สิบปี รีบออกไปเปิดประตูด้วยความตระหนกตกใจ เธอผงะเมื่อเห็นชายฉกรรจ์ยืนจังก้าอยู่หน้าประตูพร้อมอาวุธครบมือ ด้วยความที่ยังเด็กนักจึงคิดว่าคนในหมู่บ้านมีธุระด่วนจึงมาเคาะประตูระรัวถึงขนาดนี้ แต่พอได้สติ เด็กสาวคิดว่าเธอไม่สมควรมาเปิดประตูให้คนอื่นง่ายๆ เพราะจะนำอันตรายมาสู่ตัวเองและคนในบ้าน
“ใครมาเหรอหอม แค่กๆๆ” ยายว่านหอมเอ่ยถามด้วยเสียงแหบแห้งเพราะกำลังล้มป่วย สายตาท่านก็ฝ้าฟางมากแล้ว จึงมองอะไรไม่ค่อยชัด
“พวกคุณเป็นใครกันคะ! มาที่นี่ต้องการอะไร” เด็กสาวเอ่ยถามอย่างหวาดระแวง ถอยหลังไปหลายก้าว เมื่อเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์สาวเท้าเข้ามาอย่างคุกคามน่ากลัว เด็กสาวหันไปหยิบไม้ขนาดเหมาะมือขึ้นมาถือเอาไว้ แม้รู้ดีว่าไม่มีปัญญาจะไปสู้รบปรบมือกับชายฉกรรจ์พวกนี้ได้ แต่เธอก็ขอสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องตัวเองและผู้เป็นยาย
“เจ้านายจะบอกเธอเอง ตามมานี่” หนึ่งในชายฉกรรจ์กระชากมือของไพรหอมออกไปจากบ้านไม้หลังเก่าสภาพทรุดโทรมแทบจะพังแหล่ไม่พังแหล่ ไพรหอมใช้ไม้รัวตี แต่โดนแย่งไปจากมือได้และโยนไปทิ้งไปอย่างง่ายดาย
“ปล่อยนะ เราไม่เคยรู้จักกัน อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” เธอร้องขอน้ำเสียงตกใจ คนพวกนี้เป็นผู้ชายร่างใหญ่ยักษ์แถมยังแรงเยอะกว่าเธอหลายเท่านัก ถ้าใช้แรงกำลังคงสู้ไม่ไหว ที่ทำได้คือต้องใช้ปากให้เป็นประโยชน์ ขอร้องความเมตตา เผื่อพวกเขาจะใจอ่อนยอมปล่อยเธอไป
“นี่เหรอลูกสาวนังว่านจันทร์ นังอสรพิษนั่น” พันศึก หาญวรกร นักธุรกิจหนุ่มหล่อวัย 36 ปี ที่ร่ำรวยมหาศาล ทั้งยังเจ้าชู้เรียกว่าเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เขาเอ่ยเหมือนคาดไม่ถึง มองเด็กสาวที่ตัวสั่นอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป สายตาของเขาทำให้ไพรหอมหวาดหวั่นอย่างประหลาด สมองที่กำลังครุ่นคิดเอาตัวรอดกลับชะงักและอื้ออึงในทันที
“คุณรู้จักแม่ของดิฉันด้วยเหรอคะ” เด็กสาวถามเสียงสั่นพยายามผลักมือหนาที่บีบคางเธอออกไป แต่เหมือนเขาจะยิ่งบีบหนักเหมือนคีบเหล็ก เขาวางอำนาจและดูเจ้าอารมณ์ ไม่ชอบให้ใครขัดใจ ที่สำคัญสายตาของเขามองเธอนิ่งไม่ยอมละไปไหน
“รู้จักดีมากทีเดียวเชียว แม่สารเลวของเธอทำฉันแสบมาก” เขาผลักคางของเธอออกห่าง สายตาดุกร้าวน่ากลัว
“แม่ทำอะไร” ไพรหอมถามเสียงสั่นเทา กลัวเขาจับใจ เขาเป็นผู้ชายที่ดูมีอำนาจมาก
เธอไม่เคยเจอหน้ามารดานานแล้ว จำได้ว่าเคยเจอตอนเด็กๆ ท่านทิ้งเธอเอาไว้กับยาย ท่านไม่ให้เธอเรียกว่าแม่ด้วยซ้ำ เธอแอบน้อยใจร้องไห้บ่อยครั้ง ยายเท่านั้นที่คอยปลอบโยน ครอบครัวของเธอลำบากมาก อาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้าน บนพื้นที่เล็กๆ ที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวของยาย เธอไม่ได้เรียนหนังสือต่อ เพราะไม่มีทุนทรัพย์ ยายก็มาป่วยหนักจนเธอต้องออกมาดูแลท่าน ชีวิตลำเค็ญ อดๆ อยากๆ ต้องเก็บผักเก็บหญ้า
เธอประทังชีวิตด้วยการขุดหัวเผือกหัวมันเพื่อยาไส้ เงินค่ายาก็ไม่มี เธอก็พายายไปรักษาที่อนามัยใกล้ๆ โดยใช้บัตรทอง เพราะถ้าไปโรงพยาบาลต้องมีค่ารถค่ารา ซึ่งมันลำบากมากสำหรับคนจนๆ ยาที่ได้มาก็เป็นยาสามัญประจำบ้าน รักษาไปตามอาการ หายก็โชคดีไป ไม่หายก็ต้องกินยาเรื้อรังหลายอย่าง ทั้งยาความดันโลหิตสูง ยาละลายไขมันในเส้นเลือด ช่วงหลังมายายอาการน่าเป็นห่วง ทางอนามัยส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้วให้กลับมาพักรักษาตัว แต่อาการก็ทรงๆ ทรุดๆ ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร ค่าเดินทางและอื่นๆ ทำให้เธอนึกท้อแท้ในชะตาชีวิตของตัวเอง และสงสารยายจับใจ คิดอยากมีเงินเยอะๆ จะได้เพียงพอกับค่ารักษายาย
ไพรหอมเคยนั่งร้องไห้ตอนดึกๆ เมื่อยายนอนหลับแล้ว เกิดเป็นคนจนนี่มันน่าเศร้าจริงๆ ขนาดยาจะรักษาอาการป่วยก็ยังได้ยาไม่ดีเพราะไม่มีเงิน ไม่เหมือนคนรวย จะซื้อยาแพงขนาดไหนก็ทำได้ คนจนรักษาไป หายก็ช่างไม่หายก็ช่าง ตามยถากรรม เคยได้ยินคนพูดว่าเงินไม่สำคัญเสียทุกอย่าง แต่ในเวลานี้เงินสำคัญกับเธอยิ่งกว่าอะไร ทั้งค่าอาหาร ยารักษาโรค บ้านช่องที่ทรุดโทรมกำลังจะพัง รั่วแล้วรั่วอีก อุดรูโน้นก็รั่วรูนี้ ชีวิตลำบากยากเข็ญอดมื้อกินมื้อ หาเช้ากินค่ำ ที่คนรวยๆ ไม่เข้าใจ เธออยากเรียนหนังสือ อยากทำอะไรตั้งหลายอย่าง แต่ไม่มีเงิน เพราะสิ่งที่อยากทำทั้งหมด ต้องอาศัยเงินแทบทั้งสิ้น
“ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ ทำเลวแพศยายังไงล่ะ หึ!” เสียงของคนตรงหน้า ทั้งกร้าวทั้งน่ากลัว แววตาของเขาทำให้เธอเย็นยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ
“แม่ทำ แต่ฉันไม่ได้ทำ ปล่อยฉันกับยายไปเถอะ” เธอยกมือขึ้นไหว้เขาท่วมหัว สาบานได้เลยว่าเธอไม่เคยคิดเกลียดมารดา แต่น้อยใจที่ท่านไม่รัก ไม่ดูแล แม้แต่กอดท่านก็ไม่เคยกอดเธอสักครั้ง
“ปล่อยเหรอ ตลกแล้วเด็กน้อย” พันศึกหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างขบขัน ดวงตาร้อนแรงนั้นกวาดมองร่างเล็กอย่างจาบจ้วง ก่อนจะลูบคางไปมา
“แม่เธอเป็นหนี้ฉันหลายล้านเชียวนะ เธอจะให้ฉันปล่อยเธอไปง่ายๆ หรือไง” พันศึกพูดแล้วให้ยิ่งเจ็บใจ เขาได้เจอว่านจันทร์ด้วยความบังเอิญ ความสวยของเธอทำให้เขาหลงใหลจนคิดจะเลิกเจ้าชู้ แต่เธอกลับหลอกเขา หลอกเอาทรัพย์สินเงินทอง ขโมยเครื่องเพชรและเอกสารสำคัญของคู่แข่งไปเสียอย่างนั้น ยิ่งคิดยิ่งแค้นจนแทบกระอัก ถ้าเขาไม่ได้คิดบัญชีแค้นในครั้งนี้ อย่ามาเรียกเขาว่าพันศึกอีกเลย
“ฉันไม่มีเงินให้คุณหรอกค่ะ บ้านฉันยากจนมาก ยายก็กำลังป่วยหนัก” เธอยกมือขึ้นไหว้เขาปรกๆ เอ่ยขอร้องอย่างหวาดกลัว ระคนกับความทุกข์ใจที่เกิดขึ้น
“ไม่มีเงินแต่น่าจะใช้อย่างอื่นทดแทนได้นะ” พันศึกมองด้วยสายตาวาววับขณะกวาดตามองเด็กสาวที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นดินหน้าบ้านไม้เก่าๆ โทรมๆ ใกล้จะพังแหล่มิพังแหล่ ตอนเขาเห็นว่านจันทร์ครั้งแรกยอมรับว่าเธอสวยมาก
แต่ไพรหอมหอม... สวยหวานและยังเด็กกว่าเยอะ รสชาติของเด็กสาวน่าจะเอร็ดอร่อยกว่าแม่ของหล่อนที่ทั้งหยาบกร้านและคาวโลกีย์ เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตอนนั้นหน้ามืดตามัวหลงว่านจันทร์ไปได้แม้จะวางตัวดี แต่สุดท้ายก็เป็นนังอรสรพิษ ทำให้เขาแค้นใจยิ่งนัก นี่ถ้าเธอรู้ว่าเขาสืบหาตัวลูกสาวเธอได้ และเอาไปเป็นนางบำเรอ คงกระอักเลือดตาย การแก้แค้นที่แสนหอมหวาน ทำลายคนที่หล่อนรักเหมือนแก้วตาดวงใจนี่แหละ มันสะใจดีพิลึก
“ฉันไม่มีอะไรให้คุณทั้งนั้นล่ะค่ะ หนี้ตั้งหลายล้าน คุณไปทวงเอากับแม่ไม่ได้เหรอคะ ฉันกับยายแค่เก็บผักขาย ไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก ขนาดเงินจะซื้อข้าวกินยังไม่มีเลย”
เธอส่ายหน้าไปมา ก้มหน้างุดอย่างจนตรอก นี่ก็ต้องพายายไปหาหมอ เธอยังไม่รู้เลยว่าจะเอาเงินที่ไหน แค่คิดถึงอาการป่วยของยาย ไพรหอมก็น้ำตาแทบร่วงแต่กล้ำกลืนเอาไว้เพราะอยู่กับคนแปลกหน้าตั้งหลายคน ถ้าเธอแสดงความอ่อนแอออกมา พวกเขาจะยิ่งซ้ำเติมและรังแกเอาได้ เธอเคยคิดอยากจะชวนยายฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ยายเป็นคนเข้มแข็ง หาเลี้ยงเธอมาจนอายุป่านนี้ ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา
“ก็ตัวเธอไง พอจะทดแทนกันได้ ไปบำเรอฉันบนเตียงสักกี่วันดี...” พันศึกทำท่าคิดก่อนพูดต่อ “จนกว่าฉันจะเบื่อแล้วกัน จะได้ลดหนี้ให้แม่เธอได้บ้าง แต่ให้ปลดหนี้คงไม่ได้หรอกนะ เพราะแม่เธอเอาไปเยอะ”
รัชวินทร์รู้ดีว่า ถึงจะมีหรือไม่มีแผนการของญาติผู้ใหญ่ เขาก็บังเกิดความรู้สึกพิเศษกับแก้วกัลยา เด็กสาวในอุปการะของคุณตาคุณยาย และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาอยากสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่น
เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาโกรธเกลียดเธอคือเรื่องจริงเช่นกัน ในเมื่อความรักมันเหนื่อยนัก เธอก็ขอพักใจ ถอยห่างออกมา รอวันหย่าขาดจากพ่อของลูกที่ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
"เราเคยสัญญากัน...ใต้ดาวดวงนั้น ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน แต่บางครั้ง...การจากลาไม่ได้เกิดจากคนที่อยากไป และเมื่อเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คำสัญญานั้น...ยังจะมีความหมายอยู่ไหม"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
ตอนเด็กถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว แม่ถูกทำร้าย ฉือเนี่ยนสาบานว่าจะเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา!ครั้งแรกที่กลับมาที่เมืองจิง เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและสำส่อนหลายคนบอกว่าลู่เหยียนสือต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้มาสนใจฉือเนี่ยนแต่มีแค่ลู่เหยียนสือเท่านั้นที่รู้ ว่าเธอที่เขารักและทะนุถนอมนั้นมากความสามารถ สามารถสร้างความวุ่นวายให้ทั้งเมืองจิงได้ด้วยตัวคนเดียวเธอคือหมอมือหนึ่ง เธอคือแฮ็กเกอร์มือทอง และยังเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องจากบุคคลสำคัญคนภายนอก: "คุณลู่ คุณจะเอาใจภรรยาจนไม่มีขอบเขตเลยเหรอ ทำไมแม้แต่ประชุมยังต้องอุ้มเธอไว้ด้วย!"ลู่เหยียนสือ "ต้องเอาใจภรรยาถึงจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู"ต่อมาความลับของเธอถูกเปิดเผย ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหันมาชื่นชมและยกย่องเธอ...
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด