เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้หล่อนต้องอยู่ใต้ร่างของเขาไปตลอดกาล หล่อนหน้าแดงก่ำ ก่อนจะถูกเขากระชากเข้าไปกอดรัดแน่นอีกครั้ง เต้าทรวงอกใหญ่คัพซีแนบชิดถูไถไปกับแผงอกกว้างที่รกปด้วยเส้นขน ยิ่งเขาส่ายตัวไปมา หล่อนก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความเสียวสยิวยามที่เส้นขนหยิกครูดไปมากับหน้าอกอวบของตัวเอง “อ๊า...” “ชอบไหม” หล่อนไม่อาจจะตอบออกไปได้ว่าลุ่มหลงกับสัมผัสของเขามากแค่ไหน เพราะมันน่าอับอายเหลือเกิน ทำได้แค่เพียงอ่อนโอนผ่อนตามเขาเท่านั้น
นิลนารา เอกสกุล หญิงสาววัยเพียงแค่ยี่สิบปี หล่อนเดินทางมาจากเมืองไทยสู่ปารีส (Paris) เมืองใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส เพื่อมาทำงานส่งเงินกลับไปให้ทางบ้าน หล่อนทำงานในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า เดอริสโซ่ โฮเทล เป็นโรงแรมชื่อดังที่ดารานักแสดงฮอลลิวูดหลายต่อหลายคนต้องเข้ามาพักเมื่อยามเดินทางมาเยือนกรุงปารีส
หล่อนมาทำงานที่นี่ตามคำชักชวนของรุ่นพี่ในหมู่บ้านเดียวกัน ประกอบกับบริษัทที่ทำงานอยู่ปิดกิจการลงทำให้หล่อนไม่มีทางเลือก ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่เพื่อต่อสู้กับบททดสอบของชีวิตอีกครั้ง
สามเดือนผ่านไปอย่างเรียบง่าย เงินเดือนของหล่อนไม่ได้มากมายเมื่อเทียบกับคนที่นี่ แต่เพราะค่าเงินที่แพงกว่ากันหลายสิบเท่า ทำให้เม็ดเงินที่ส่งกลับไปยังครอบครัวมีค่ามหาศาล หล่อนตั้งใจจะทำงานที่นี่จนกว่าจะสามารถส่งเงินไปปลดหนี้ให้กับครอบครัว ไถ่ที่นาออกจากนายทุน มีเงินส่งน้องๆ เรียนหนังสือสูงๆ และรวมถึงมีเงินเก็บก้อนเล็กๆ สักก้อนสำหรับเปิดร้านเบเกอรี่ที่ตัวเองใฝ่ฝัน จึงจะเดินทางกลับเมืองไทย แม้ว่าจะไม่รู้อนาคตในวันข้างหน้าว่าจะเป็นเช่นไร แต่หล่อนก็เลือกที่จะทำทุกวันให้ดีที่สุด
หญิงสาวระบายยิ้มบางๆ ออกมา ตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก้มลงมองสำรวจชุดทำงานของตัวเองอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยแล้ว จึงเดินออกไปนอกห้อง
“ไปทำงานแต่เช้าอีกแล้วนะยายปลานิล”
เสียงทักทายของจารุมาศ หรือจา รุ่นพี่ที่เป็นคนชักชวนหล่อนมาทำงานที่ปารีสดังขึ้น หล่อนระบายให้กับผู้มีพระคุณ
“ไม่เช้าเท่าไหร่หรอกค่ะพี่จา ว่าแต่พี่จาให้นิลรอไหมคะ”
เมื่อเห็นว่าจารุมาศยังอยู่ในชุดนอน หล่อนจึงอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้
“วันนี้พี่ลาน่ะ”
สีหน้าของจารุมาศเคร่งเครียดขึ้นจนหล่อนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
“พี่จาเป็นอะไรไปคะ หน้าดูไม่ค่อยดีเลย”
จารุมาศมองหล่อน ก่อนจะถอนใจออกมาแรงๆ ความเคร่งเครียดยังเกาะติดอยู่ในดวงตาของคนพูดตลอดเวลา
“แม่พี่ป่วยหนักน่ะ ต้องใช้เงินมาก”
“ป้าเป็นอะไรคะ ก่อนเรามายังดีๆ อยู่เลย”
นิลนาราอุทานตกใจ ในขณะที่จารุมาศหน้าตาไม่สู้ดีนัก
“แม่หกล้มน่ะ หัวฟาดพื้นเมื่อวาน พ่อโทรมาบอกกับพี่เมื่อคืนนี้”
“แล้วป้าเป็นยังไงบ้างคะ” หล่อนถามอย่างเป็นห่วง
“ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียูนะ แต่ไม่รู้ว่าต้องมีผ่าตัดอีกรอบหรือเปล่า เห็นพ่อบอกว่าแม่ยังมีเลือดคั่งอยู่ในสมองอยู่อีก ยังเอาออกไม่หมด”
นิลนาราใจหายไม่น้อย “นิลขอให้ป้าปลอดภัยนะคะ ขอให้คุณพระคุ้มครอง”
“ขอบใจนะ แต่คุณพระคงช่วยอะไรแม่พี่ไม่ได้หรอก หากไม่มีเงินน่ะ”
นิลนารายิ้มบางๆ อย่างเห็นด้วยกับคำพูดของคู่สนทนา
ถ้าไม่มีเงิน ทุกอย่างก็จบ...
เงินไม่ได้สำคัญที่สุด แต่ถ้าไม่มีเงินก็คงไม่สามารถมีชีวิตบนโลกใบนี้ได้ เพราะอย่างนี้ไง หล่อนถึงต้องดั้นด้นมาทำงานถึงที่ปารีส
“แล้วนี่พี่จาจะกลับเมืองไทยไหมคะ”
“จะเดินทางค่ำนี้แหละ”
“นิลอยากไปเยี่ยมป้าจัง แต่ทำงานไม่ถึงปีคงยังลาไม่ได้ ฝากความเป็นห่วงให้ป้าด้วยนะคะพี่จา”
“ขอบใจจ้ะ”
“งั้นนิล ไปทำงานก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน”
“คะพี่จา?”
หล่อนแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นจารุมาศจ้องมองร่างกายของหล่อนตลอดทั้งตัว
“เลิกงานแล้วมีนัดที่ไหนหรือเปล่า”
“เอ่อ ไม่มีหรอกค่ะพี่จา เลิกงานแล้วนิลก็กลับบ้านเลย ว่าแต่พี่จามีอะไรหรือเปล่าคะ”
หล่อนรู้สึกเหมือนกับว่าจารุมาศลังเลอะไรบางอย่างเล็กน้อย แต่สุดท้ายคู่สนทนาของหล่อนก็เอ่ยออกมา
“พี่มีเรื่องรบกวนเธอหน่อยน่ะปลานิล”
“เรื่องอะไรเหรอ บอกมาเลยค่ะ นิลยินดีช่วยพี่จาทุกอย่าง”
ใช่ เพราะจารุมาศคือคนที่มีพระคุณกับหล่อนคนหนึ่งเลย
จารุมาศตัดสินใจอยู่ชั่วขณะ ก็เอ่ยออกมา
“วันนี้พี่มีนัดพบกับผู้ชายคนหนึ่งที่โรงแรม แต่พี่คงไปไม่ได้”
“พี่จาโทรเลื่อนนัดเขาหรือยังคะ”
หล่อนไม่แปลกใจอะไรเพราะพอจะรู้บ้างว่านอกจากทำงานเป็นพนักงานโรงแรมแล้ว จารุมาศยังมีอีกจ๊อบที่ให้เงินดี แต่หล่อนไม่เคยสนใจจะทำ เพราะไม่ต้องการขายศักดิ์ศรีของตนเอง
“พี่โทรติดต่อเขาไม่ได้เลย พยายามตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว นี่พี่ก็รับเงินมาแล้วด้วย ถ้าไม่โทรไปเลื่อน หรือทำให้เขามาเก้อล่ะก็ พี่คงต้องถูกปรับแน่ๆ เลย”
สีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจของจารุมาศทำให้หล่อนเห็นใจ
“มีอะไรให้นิลช่วยได้ไหมคะ”
“ปลานิลจะช่วยพี่จริงๆ เหรอ” สีหน้าของจารุมาศมีความพึงพอใจ
หล่อนพยักหน้ารับน้อยๆ
“ค่ะ นิลยินดีช่วยพี่จาค่ะ”
“งั้นไปพบเขาแทนพี่หน่อย และก็บอกเขาว่าพี่ไปไม่ได้ พยายามติดต่อแล้วก็ติดต่อไม่ได้ แล้วก็บอกเขาให้ด้วยว่าพี่จะกลับมาอาทิตย์หน้า ค่อยเจอกัน”
“เอ่อ... ให้ไปพบที่ไหนคะพี่จา”
“ที่ห้องในโรงแรมไง เดี๋ยวพี่ให้คีย์การ์ด กับเลขห้องไปนะ”
“นิลว่าเอาเบอร์เขามา แล้วนิลจะโทรติดต่อให้ดีไหมคะ”
จารุมาศส่ายหน้าน้อยๆ
“เขาไม่รับสายหรอก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน นิลไปพบเขาที่ห้องดีกว่า แล้วก็บอกตามที่พี่สั่งนะ”
“เอ่อ...”
“หรือว่าปลานิลไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไรนะ งั้นพี่ยอมให้เขาหักเงินพี่ก็ได้”
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!