แม็กซิมัส โจนส์ มหาเศรษฐีหนุ่มถิ่นอเมริกา เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง Little jones restaurants. ผู้ชายที่เกิดมาพร้อมกับคำว่า ‘สมบูรณ์แบบ’ เขาเพียบพร้อมอดุมไปด้วยทรัพย์สิน มีผู้หญิงวิ่งไล่เหมือนฝูงไฮยีน่าเวลาออกล่าเหยื่อ แต่...ไม่มีผู้หญิงคนไหนผ่านด่านเข้าไปได้ เมื่อแม็กซิมัสคือ...นักล่า เขาใช้เงินกวาดต้อนผู้หญิงสวยๆ มาเก็บไว้ในสต็อก...เลี้ยงดูหล่อนไว้ในกรงปรารถนา ใครแหกกฎ...จุดจบคงไม่ต้องบอก... เมื่อชายหนุ่มพร้อมจะจ่าย...เพื่อตัดความรำคาญสิ่งกวนใจ ทิชา...สาวเอเชียตัวเล็กที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง หล่อนอาศัยอยู่ในประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาเพื่อศึกษาหาความรู้ ในฐานะนักเรียนทุน…ยากจน ชีวิตที่สงบสุขของเธอปั่นป่วนเพราะการเจอกับคนที่ไม่ควรเจอ เธอเสีย ‘จูบ’ แรกให้กับแม็กซิมัสเพราะอุบัติเหตุ และนั่นทำให้ทิชาต้องเจอกับแม็กซิมัสบ่อยขึ้น เขาวนเวียนอยู่ในสายตาของเธอถี่เกินไป แบบไม่น่าเชื่อ!!
บทที่1.
เจ้าชายบนหอคอยกับสาวน้อยต่ำศักดิ์
ทำไมมนุษย์ถึงได้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ล่ะ? นั่นสินะ เราทุกคนเกิดมาบนโลกใบนี้เพื่ออะไร? เป็นคำถามที่ไม่มีคนตอบได้ ไม่มีมนุษย์คนไหนรู้ สรรพสิ่งบนโลกเกิดมาเพื่ออะไร เราทุกคนเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ความเลื่อมล้ำในสังคม ล้วนแล้วแต่มนุษย์นี่แหละที่เป็นคนกำหนด ถูกแบ่งแยก ถูกกำหนดด้วยคนที่มีอำนาจมากกว่า อำนาจนั่นมาจากคนมั่งมี เขาระบุระดับชั้น แยกคนมั่งมีกับคนยากจนไว้คนละระดับกัน
แต่ในบางครั้ง...ความรักก็ชักพา ทำให้กำแพงแห่งชนชั้นถูกทำลายลง!!
ณ.ยอดตึกสูงบนอาคารรูปสามเหลี่ยม
บนเตียงขนาดใหญ่มีร่างเปลือยเปล่าของคนสองคนที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเร่าร้อน เสียงลมหายใจที่ดังผ่านโพรงจมูกเหมือนเสียงลมหายใจของกระทิงหนุ่มที่มากไปด้วยพละกำลัง ลำตัวมันปราบเต็มไปด้วยคราบเหงื่อที่ผุดซึมออกมาตามรูขุมขน เนื่องจากความร้อนในร่างกายผลักดันออกมา
“ได้โปรดแม็ก ฆ่าฉันให้ตายได้เลยค่ะ!”
ร่างอวบอุ่นเกร็งตัวยกขึ้นสูง สะโพกผายส่ายร่อนตอบรับการโจนจ้วงของชายคนที่ตนเองพร่ำวิงวอนอย่างยินดี
แม็กซิมัส โจนส์ ยิ้มมุมปาก ดวงตาคมกริบวาววับ
เขาคือ มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของร้านอาหารชื่อดังที่มีสาขาเกือบทั่วโลก ‘Little Jones Restaurants.’ เป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลใหญ่อย่างโจนส์ กิจการหลายอย่างที่คนในตระกูลถือครอง แต่แม็กซิมัสก็ยังขวนขวายหางานใหม่เพิ่มเรื่อยๆ ตามประสาคนมีไฟ
มุมปากสีเข้มกระตุกยิ้ม ขณะกระแทกสะโพกสอดความขึ้งเครียดแทรกลึกลงไปในกลีบสวาทให้แรงเร็วยิ่งขึ้น เขาโยกสะโพกสวนใส่สุดแรงเกิด ขยับร่างกายอย่างเมามันสุดแรงตามอารมณ์หนุ่มที่กำลังพลุ่งพล่าน โหมความกระสันซ่านสาดซัดใส่ความแน่นหนึบแบบไม่ออมแรง กางมือขยำเนินเนื้ออวบหยุนจนเต่งเต้ายู่ยี่ เนื้ออวบอัดปลิ้นออกมาตามง่ามนิ้ว แต่เจ้าตัวกลับยิ้มหวานให้ รีบกระดกลำตัวแอ่นความอวบอิ่มเสนอสนองให้อย่างเต็มใจ
แรงอัดกระแทกดังก้องห้องกว้าง พึ่บ! พึ่บ! เสียงครวญครางดังประสานเสียงคำราม
ก่อนจะจบลงเมื่อพายุอารมณ์ลูกใหญ่ถูกปลดปล่อย...
แม็กซิมัสเบี่ยงกายลงจากเตียงนอน เขาฉวยเสื้อคลุมสีน้ำตาลไหม้มาคลุมร่างเปลือย ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้บุนวมริมระเบียง คว้าแก้วคริสตัสเนื้อดีที่มีน้ำสีอำพันติดก้นแก้วขึ้นมากระดกดื่มแก้กระหาย สายตาคมกริบตวัดผ่านเรือนกายอรชรที่นอนแผ่อ้าอร่างฉ่าง คู่ขาอวบอั๋นนอนหอบหายใจระโหยอยู่กลางเตียงด้วยสภาพชวนสังเวท ด้วยแววตาเฉยชา
เขาชักสายตากลับมา ทอดมองวิวเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยแสงไฟยามค่ำคืน บนอาณาจักรที่ตนเองเป็นเจ้าของ
ข้อมือล่ำสันถูกยกขึ้นสูง เขาเพ่งมองหน้าปัดนาฬิกาโรแล็กซ์ เพื่อดูเวลา พร้อมกับเสียงโทรศัพท์ส่วนตัวก็ดังขึ้น
ตืด...
ชายหนุ่มกดรับ “ถึงเวลานัดแล้วครับเจ้านาย” เสียงทุ้มเรียบจากปลายสาย
“อืม...” แม็กซิมัสครางรับ เขากดวาง ก่อนจะโยนโทรศัพท์เครื่องนั้นไว้บนโต๊ะตัวเดิม
หลังประตูห้องน้ำปิดงับลง ประตูหน้าก็ถูกดันเปิดเข้ามา แม่สาวทรงโตผวารีบกระชากผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวไว้ พลางส่งสายตาไม่พอใจมองคนมาใหม่ที่ยืนหน้านิ่งอยู่ปลายเตียง
“ไม่มีมารยาท!” เสียงหวานใสกระซิบดุ
“เธอควรรีบแต่งตัว แล้วออกไปจากที่นี่...ก่อนที่เจ้านายของผมจะออกมาดีกว่านะครับ”
คำแนะนำที่หวังดีสุดๆ มันแฝงไว้ด้วยคำเตือน เมื่อกิตติศัพท์ของแม็กซิมัสใครๆ ก็รู้ดีถึงความเจ้าอารมณ์ ชายหนุ่มมีสมญานามว่า ‘ซาตาน’ ด้วยใบหน้าถมึงทึงน่าเกรงขาม บวกกับความมั่งมีที่ทำให้คนอย่างเขานึกอยากทำอะไรก็ได้ โดยไม่มีใครกล้าต่อสู้
ดูเหมือนว่าหล่อนจะพอรู้ อาการลนลานที่เกิดขึ้นหลังได้ยินคำเตือน หล่อนฉวยชุดเดรสสีอ่อนที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมลวกๆ ก่อนจะกระโจนลงจากวิมานที่ทอดกายนอนอยู่เกือบ30นาทีด้วยความเร็วที่สุด เท่าที่ตนเองจะทำได้
คาร์ล ล้วงกระดาษชิ้นเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ยื่นให้แม่สาวหน้าตื่นที่ยืนอยู่ด้านข้าง
หล่อนตะครุบหมับเกือบเหมือนเป็นการกระชาก จากนั้นสีหน้าตื่นๆ ก็เปลี่ยนไป แววตาสดใสระยิบระยับ ทันทีที่มองเห็นจำนวน ‘เงิน’ ที่ระบุอยู่บนกระดาษชิ้นนั้น
หล่อนรีบยัดกระดาษลงไปในร่องอก เดินนำหน้าคาร์ลตรงไปยังลิฟต์ ก้าวเข้าไปด้านในโดยไม่ต้องรอให้คาร์ลสั่งซ้ำ ก่อนประตูลิฟต์ปิด “หากเมื่อไหร่ที่แม็กต้องการ เรียกใช้ฉันได้ทุกเวลานะคะคุณ”
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"