ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / ยัยคู่หมั้นตัวร้าย ของคุณชายเย็นชา
ยัยคู่หมั้นตัวร้าย ของคุณชายเย็นชา

ยัยคู่หมั้นตัวร้าย ของคุณชายเย็นชา

5.0
46 บท
78.9K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

ซือลู่ชิง หนุ่มหล่อวัย 25 ปี ทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลซือ เขาเย็นชา ทำตัวราวกับว่าไร้หัวใจ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนจะมาทอดสะพานให้เขาก็ไม่สน ปากบอกไม่แต่ในใจนั้นรัก ก็หัวใจเขามีเพียงน้องน้อยคนเดียว คู่หมั้นวัยเด็กที่เขาก็แสนจะเต็มอกเต็มใจยอมรับ แต่เพราะความปากหนัก ปากร้าย เลยเผลอพูดจาทำร้ายจิตใจของเด็กสาววัยใสไป ในวัยที่ตนเพิ่งจะย่างเข้าสู่วัยรุ่น ตั้งแต่วันนั้นมาเธอก็หันหลังให้กับเขาและก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงจนกลายเป็นซุปตาร์ตามรอยมารดา เธอเป็นของเขา และใครก็จะไม่มีวันได้เธอไป นอกจากเขาซือลู่ชิงเพียงคนเดียวเท่านั้น ซูหนี่ว์ ซุปตาร์สาวคนสวยวัย 22 ปี ทายาทของอดีตซุปตาร์สาวชื่อดังของเมืองแอล คู่หมั้นวัยเด็กของคุณชายซือลู่ชิง หนุ่มหล่ออันดับหนึ่งของเมืองแอลในยุคนี้ เธอรักและมอบหัวใจให้เขามาตั้งแต่ในวัยเด็ก วันแห่งความรักในวัยสิบสองปี เขาทำร้ายจิตใจเธออย่างใจร้ายด้วยคำพูดที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดที่สุด และในวันนี้เธอต้องการจะเอาคืนตามคำแนะนำของพี่ลู่เหลียน น้องสาวฝาแฝดของซือลู่ชิงนั่นเอง เธอพยายามทำตัวร้ายๆด้วยการควงหนุ่มหล่อให้เป็นข่าว แต่เอ๊ะ! ทุกคนที่เธอควงมักจะหายไปหลังจากวันถัดมา มันเกิดอะไรขึ้นเธอก็ไม่แน่ใจ หรือเธอไม่ดีพอที่จะให้ใครมาจริงใจด้วยกันนะ

บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของสัญญาหมั้นหมาย

15 ปีก่อน

วันนี้เป็นวันที่สองครอบครัวตระกูลซือและตระกูลหลินนัดพบกันตามปกติเพราะอยู่เมืองเดียวกัน คุณนายซือกับอดีตซุปตาร์สาวเพื่อนสนิทอย่างหลินซือซือนั้นมักจะพาลูกๆ มารับประทานปิ้งย่างกันที่สวนภายในอาณาจักรของตระกูลซืออยู่เป็นประจำ ซือลู่ชิงนั้นคอยดูแลน้องๆ แทนมารดาที่กำลังยุ่งได้เป็นอย่างดี ด้วยวัยที่โตกว่าและความเป็นลูกผู้ชาย

“ลู่จื้อ อย่าวิ่งไปทั่วนะครับ เดี๋ยวแม่ถิงถิงเป็นห่วง” เสียงของเด็กชายวัยสิบขวบเอ่ยดังขึ้นขณะที่นั่งอยู่บนเสื่อกับอีกสองสาว ซือลู่เหลียนฝาแฝดผู้น้องอาสาลุกขึ้นไปดูแลน้องชายเอง บนเสื่อปิกนิกตอนนี้จึงมีเด็กชายวัยสิบขวบกับเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบนั่งอยู่ด้วยกัน

“น้องซูหนี่ว์ กำลังทำอะไรอยู่คะ” เสียงเด็กชายดัดเล็กและสุภาพยามคุยกับน้องสาวผมเปียผู้น่ารัก เด็กหญิงเงยหน้าหวานขึ้นมองพี่ชายก่อนที่จะยื่นกระดาษที่เธอเพิ่งจะวาดรูปเสร็จให้เขาดู

คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยขณะที่เพ่งมองไปยังรูปที่ดูไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เขาจึงตัดสินใจเอ่ยถามผู้เป็นคนวาดแทน

“น้องน้อยวาดรูปอะไรคะเนี่ย” เด็กหญิงฉีกยิ้มให้กับพี่ชายสุดหล่อก่อนที่จะอธิบายรูปภาพของคนสองคนที่ยืนจับมือกัน

“นี่พี่ลู่ชิง ส่วนคนนี้ซูหนี่ว์เองค่ะ” เด็กน้อยตอบพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ซือลู่ชิง

“หืม.. นี่พี่หรอกหรอ แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดล่ะคะ”

ซือลู่ชิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย ก็ในรูปมันมีเพียงรูปเขาและรูปของสาวน้อยแล้ว น้องสาวฝาแฝดและน้องชายจอมซนของเขาไปไหนซะล่ะ

“ไม่มีค่ะ เพราะรูปนี้เป็นรูปที่พี่เป็นเจ้าบ่าว และซูหนี่ว์เป็นเจ้าสาว” คำตอบของเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบทำเอาเด็กชายวัยสิบขวบอ้าปากค้าง

“พี่เป็นเจ้าบ่าว น้องซูหนี่ว์เป็นเจ้าสาวอย่างนั้นเหรอคะ”

ซือลู่ชิงเอ่ยถามออกมาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าเขาฟังไม่ผิด ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งสิบขวบแต่เขานั้นมีอีคิวและไอคิวดีเลิศ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของผู้ใหญ่ทำไมเขาจะไม่รู้ เพียงแต่เขาสงสัยว่าน้องน้อยตรงหน้านี้รู้ความหมายของมันหรือเปล่า

“ใช่ค่ะ ซูหนี่ว์อยากเป็นเจ้าสาวของพี่ลู่ชิง ถ้าไม่ใช่พี่ลู่ชิง ซูหนี่ว์ก็ไม่ยืนกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้” น้ำเสียงจริงจังทำเอาเด็กชายแทบสะอึก

‘นี่น้องน้อยของเขาไม่ได้พูดเล่น หากแต่กำลังคิดแบบที่วาดจริงๆ หรอกหรือ’

“แล้วเรารู้หรือเปล่าว่าคนที่เขาจะแต่งงานกันได้เขาต้องรักกันมาก่อน”

เด็กชายค่อยๆ อธิบายให้น้องสาวตัวน้อยฟัง เด็กหญิงพยักหน้าราวกับรู้เรื่อง ซือลู่ชิงตกใจอ้าปากค้างไปอีกรอบก่อนที่จะหันไปมองมารดากับน้าซือซือที่กำลังทำปิ้งย่างกันอยู่ไม่ไกลออกไปเท่าไหร่ อีกด้านซือลู่เหลียนกับซือลู่จื้อก็กำลังวิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนาน

“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอถามน้องน้อยหน่อยนะคะ ความรักที่น้องน้อยเข้าใจมันคืออะไรหรอ”

เด็กชายลองถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าน้องน้อยของเขาเข้าใจเรื่องแบบนี้ผิดไป ถึงแม้ในใจของเขาจะรู้สึกคันยุบยิบแต่ด้วยวัยที่ยังไม่โตมากพอก็ทำให้เขารู้จัก

“ก็หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดด้วย รู้สึกมีความสุขแค่มองเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่าย เวลาไม่เห็นหน้าก็คิดถึง”

เด็กหญิงตัวน้อยวัยเจ็ดขวบพยายามที่จะไล่เรียงความคิดและความรู้สึกที่เกี่ยวกับความรักออกมาให้พี่ชายสุดหล่อที่เธอนั้นคิดว่าเธอนั้นรักเขาให้ฟัง ซือลู่ชิงฟังไปใจเต้นไป เธอยังเด็ก แต่ทำไมเธอถึงได้รู้เรื่องพวกนี้ดีนัก

“แก่แดด”

เด็กชายเอ่ยออกมาเสียงเบาโดยที่เด็กสาวไม่ได้ยิน

“พี่ลู่ชิงคะ ถ้าพี่โตและซูหนี่ว์โตแล้ว เรามายืนข้างกันแบบนี้นะคะ”

เด็กหญิงเอ่ยออกมาพร้อมทั้งกะพริบตาปริบๆ เขาได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กับเธอ ตอนนี้เธอยังเด็กอาจจะเข้าใจเรื่องความรักแบบผิดๆ เธออาจจะรักเขาแบบพี่ชายก็ได้

“ได้สิ โตมาแล้วห้ามเปลี่ยนใจไปจากพี่ก็แล้วกัน”

ซือลู่ชิงตัดสินใจเอ่ยออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้น้องน้อย ราวกับว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องจริงจังอะไร หากแต่มารดาของทั้งคู่กลับมาได้ยินเข้าพอดี เด็กหญิงเลยบอกมารดาของเธอทันที

“แม่ซือซือคะ พี่ลู่ชิงจะแต่งงานกับซูหนี่ว์ค่ะ” คุณแม่ทั้งสองหันไปมองหน้ากันก่อนที่จะยิ้มแหยๆ ออกมา

“จริงหรือครับน้องลู่ชิง ไม่ได้โกหกน้องน้อยใช่ไหม” ซือซือเอ่ยถามบุตรชายของเพื่อนรัก

“จริงครับ ถ้าน้องไม่เปลี่ยนไปใจไปจากผมเสียก่อน ผมก็ไม่ขัดข้องอะไร”

ซือลู่ชิงตอบออกมาตามที่ใจคิด ก็แค่เรื่องของเด็กๆ พวกผู้ใหญ่คงจะไม่ได้คิดจริงจังอะไร และเมื่อแม่น้องน้อยเติบโตเป็นสาว เธอก็ต้องมองหาผู้ชายคนใหม่เข้ามาในชีวิตอยู่ดี หากแต่ซือลู่ชิงนั้นคิดผิด ซูหนี่ว์นั้นดีใจจนร้องไชโยออกมา ทั้งซือซือและถิงถิงได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างหนักใจ

ตกเย็นทั้งสองครอบครัวก็มานั่งล้อมวงรับประทานปิ้งย่างกันที่สวน ซือลู่เหลียนและซือลู่จื้อที่วิ่งเล่นกันจนเหนื่อยก็พากันหิวโหยจนถิงถิงอดที่จะเอ็นดูลูกๆ ไม่ได้ เธอจัดแจงตักเนื้อย่างใส่จานให้ซือลู่จื้อที่มีอายุเพียงแค่ห้าขวบ ส่วนสองแฝดนั้นดูแลตนเองได้แล้ว เธอจึงไม่ต้องเหนื่อยอะไรมาก

พอรับประทานปิ้งย่างกันจนอิ่ม ซือซือก็เอ่ยแซวซือมู่อันเรื่องที่ซือลู่ชิงยินยอมที่จะแต่งงานกับซูหนี่ว์เมื่อเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ บิดาทั้งสองฝ่ายถึงกับหันมามองหน้ากันอย่างตกใจ เด็กวัยเพียงสิบขวบกับเจ็ดขวบถึงขั้นพูดคุยเรื่องแต่งงานกันแล้วหรือนี่

“ซูหนี่ว์ หนูอยากเป็นเจ้าสาวของพี่ลู่ชิงจริงๆ หรอลูก” ซือมู่อันเอ่ยถามบุตรสาวของเพื่อนสนิทถิงถิง

“ใช่ค่ะคุณลุง ซูหนี่ว์รักพี่ชาย และมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของพี่ชาย เวลาที่ซูหนี่ว์ไม่เห็นหน้าพี่ชาย ซูหนี่ว์ก็รู้สึกคิดถึง ซูหนี่ว์อยากเป็นเจ้าสาวของพี่ลู่ชิงค่ะ”

คำตอบของเด็กหญิงทำเอาคนเป็นบิดามารดาถึงกับอ้าปากค้าง ซือซือนึกถึงละครที่เธอเคยแสดงขึ้นมาทันที หรือว่าซูหนี่ว์บุตรสาวของเธอจะเลียนแบบมาจากละคร ที่พระนางหมั้นหมายกันไว้ต้งแต่เด็ก พอโตมาจึงตกลงปลงใจแต่งงานกัน ซุปตาร์สาวส่งยิ้มแหยๆ ให้กับสามี เขาก็น่าจะพอดูออกเหมือนกันว่าบุตรสาวได้ความคิดแบบนี้มาจากที่ใด

“แล้วลู่ชิง อยากจะแต่งงานกับน้องน้อยไหมล่ะลูก” ซือมู่อันเอ่ยถามความเห็นของบุตรชายบ้าง

“ผมบอกแม่ไปแล้วครับ ว่าถ้าโตมาแล้วน้องไม่เปลี่ยนใจไปจากผม ผมก็ยินดีที่จะแต่งงานกับเธอ”

คำตอบที่ไม่ปฏิเสธของเด็กชายวัยสิบขวบทำเอาผู้ใหญ่ทุกคนในวงถึงกับตกใจ แต่ในเมื่อซือลู่ชิงไม่ปฏิเสธ ผู้เป็นบิดาอย่างซือมู่อันจึงได้ตัดสินใจเอ่ยปากออกมา

“เอาแบบนี้ ลุงขอจองน้องซูหนี่ว์ให้เป็นคู่หมั้นของพี่ลู่ชิงไว้ก่อนดีไหมลูก พอหนูกับพี่ชายโตมาแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกทีว่าหนูยังอยากจะแต่งงานกับพี่เขาอยู่ไหม”

ซือมู่อันเสนอขึ้น ถ้าเด็กทั้งสองจะลงเอยกันจริงๆ เขาก็ไม่ขัดข้อง เขาไม่เคยต้องการสะใภ้หรือบุตรเขยที่มาช่วยเรื่องธุรกิจ และเขาไม่เคยมองคนที่ฐานะ ขอแค่ลูกๆ รักใครชอบใคร คนเป็นพ่ออย่างเขาก็ต้องรักด้วยอย่างแน่นอน

“ดีค่ะ ต่อไปนี้ซูหนี่ว์เป็นคู่หมั้นของพี่ลู่ชิงแล้วใช่ไหมคะ”

เด็กหญิงเอ่ยออกมาอย่างดีใจ ทั้งบิดามารดาของเธอต่างพากันปวดศีรษะให้กับความคิดที่เกินเด็กของบุตรสาวเพียงคนเดียว แต่นี่อาจจะเป็นเพราะซูหนี่ว์ยังเด็กก็เป็นได้ รอดูถ้าเธอเติบโตขึ้นมาความคิดที่จะแต่งงานกับซือลู่ชิงอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ ซูหนี่ว์มองไปที่ใบหน้าที่ส่อเค้าความหล่อของพี่ชายแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ ส่วนซือลู่ชิงก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับบิดามารดาพรางคิดอยู่ภายในใจว่านี่เขาตัดสินใจทำเรื่องบ้าอะไรลงไป

“คู่หมั้นคืออะไรหรอครับ”

ซือลู่จื้อในวัยห้าขวบเอ่ยถามขึ้นมาทันทีด้วยความอยากรู้

“ก็หมายถึงคนที่พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ไปแล้วจะต้องได้แต่งงานกันยังไงล่ะคะ”

ผู้เป็นพี่สาวคนกลางตอบแทนผู้ใหญ่ทั้งสี่ก่อนที่จะฉีกยิ้มออกมา เธอพอใจถ้าน้องซูหนี่ว์จะมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอในอนาคต เพราะเธอดูๆ แล้วพี่ชายฝาแฝดของเธอก็น่าจะพอใจในตัวน้องน้อยอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ยอมเล่นเกมผู้ใหญ่แบบนี้แน่ๆ

ผู้ใหญ่ทั้งสี่นั่งพูดคุยกันต่อที่ภายในสวน ซือมู่อันนั้นนั่งดื่มและพูดคุยกับหลินเจียอีเรื่องอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เพราะอีกฝ่ายเป็นวิศวกรมือหนึ่งของเมืองแอล ส่วนภรรยาของทั้งสองก็นั่งพูดคุยถึงเรื่องราววัยสาว สมัยที่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เสียงหัวเราะจากสองสาวดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ซือลู่จื้อเริ่มที่จะง่วงนอน พี่สาวแสนดีอย่างซือลู่เหลียนจึงอาสาพาน้องชายไปอาบน้ำและส่งเข้านอน เธอทำหน้าที่แทนมารดาได้เป็นอย่างดี และดูน้องชายตัวน้อยจะเปลี่ยนจากที่ติดมารดามาเป็นพี่สาวคนสวยแทน

ซือลู่ชิงที่นั่งมองเด็กหญิงตัวน้อยที่กลายมาเป็นว่าที่คู่หมั้นในวัยเด็กของเขาวาดรูปในไอแพดอยู่สักพักก็เริ่มรู้สึกง่วงนอนเช่นกัน พอผู้ใหญ่เห็นว่าเด็กๆ เริ่มที่จะไม่ไหวกันแล้วจึงตกลงแยกย้ายกันโดยที่ไม่ลืมสัญญาที่ให้กันไว้ว่า ถ้าหากซูหนี่ว์และซือลู่ชิงโตขึ้นแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่เปลี่ยนใจไปมีคนอื่น เด็กทั้งคู่ก็จะยังเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันอยู่ และในเมื่อไม่มีใครคัดค้านสัญญาเรื่องนี้จึงเป็นสัญญาที่สมบูรณ์โดยรับรู้กันทั้งสองครอบครัว

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 46 ตอนอวสาน   11-28 10:21
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY