ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / บุพเพเล่ห์สวาท
บุพเพเล่ห์สวาท

บุพเพเล่ห์สวาท

5.0
31 บท
7.1K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เพราะความเข้าใจผิด คิดว่าเธอคือเมียน้อยของพี่ชายตัวเอง หัสวีร์จึงไปลากตัวผู้หญิงที่เขาคิดว่าร่านเลวมาลงทัณฑ์ แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองเข้าใจหญิงสาวผิดไป เขาก็ไม่อาจจะปลดปล่อยเธอให้หลุดมือไปได้อีกแล้ว... เขาดูดอมหัวนมของหล่อนเขาไปในปาก ใช้ลิ้น ใช้ฟันขบเม้มราวกับจะกลืนกินมันเข้าไปในลำคอ ฝ่ามือก็บีบเค้นเต้านมเต่งตึง และก็กัดจนเป็นรอยแดงช้ำ ในขณะที่มือใหญ่อีกข้างก็ลูบไปตามสัดส่วนโค้งเว้าของหล่อน บั้นท้ายถูกเขาทั้งขยำ ทั้งตบทั้งตี ก่อนที่เขาจะเอามือวกมาที่หน้าขา และกอบกุมเนินสาวเอาไว้ หล่อนจำได้ว่าวินาทีนั้นตกใจจนแทบช็อก ทั้งดิ้นรน ทั้งกรีดร้อง เมื่อเขาขยำความเป็นหญิงของหล่อนอย่างหยาบคาย หล่อนผลักไสสุดฤทธิ์ แต่แล้วเมื่อนิ้วยาวไล้ไปตามกลีบสวาทด้านใน การผลักไส การขัดขืนก็อ่อนแรงลงอย่างน่าตกใจ

บทที่ 1 ตอนที่ 1

“หมิว... รอด้วยสิ”

เสียงเพื่อนร้องเรียกดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ลลิตา หรือหมิวต้องหยุดเดิน และหมุนตัวกลับไปมอง ก่อนจะระบายยิ้มหวาน เมื่อเห็นว่าเป็นดวงฤดีวิ่งตามมา

“ฤดี”

ดวงฤดีวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดตรงหน้า ก่อนจะเริ่มต้นตัดพ้อ

“ทำไมไม่รอกันบ้างเลย ฉันวิ่งตามเหนื่อยแทบแย่แน่ะ”

ลลิตาระบายยิ้มบางๆ

“หมิวต้องรีบไปทำงานพิเศษน่ะฤดี”

“งานที่ร้านอาหารน่ะเหรอ”

“อืม”

ดวงฤดีมองเพื่อนอย่างสงสาร เพราะเพื่อนสนิทของตัวเองทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตเลยทีเดียว ตั้งแต่เรียนด้วยกันมาจนจะจบปีสี่อยู่แล้ว หล่อนยังไม่เคยเห็นวันไหนเลยที่ลลิตาจะไม่ไปทำงานหลังจากเลิกคลาสเรียน

“ยายเธอหายป่วยหรือยังหมิว”

“ยายหายดีแล้วจ้า ขอบใจนะฤดี”

ดวงฤดีถอนใจออกมาเบาๆ

“งั้นฉันเดินไปส่งขึ้นรถเมล์นะ”

ลลิตาตอบรับด้วยรอยยิ้ม

“ขอบใจจ้ะ”

สองสาวเดินเคียงกันออกมาจะพ้นหน้ามหาวิทยาลัยรัฐอันดับต้นๆ ของประเทศไทยอยู่แล้ว แต่แล้วลลิตาก็ต้องชะงักกึก เมื่อผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านหน้าไปในระยะกระชั้นชิด

สองเท้าคล้ายกับถูกตอกตรึงเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว ไม่ต่างจากดวงตาที่ไม่อาจจะละจากเรือนร่างของผู้ชายคนนั้นได้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะเดินผ่านไปแล้วก็ตาม

“เป็นอะไรไปหมิว”

ดวงฤดีมองตามสายตาของเพื่อนรักไปก็เห็นว่าลลิตากำลังมองผู้ชายคนหนึ่งอยู่

“อ๋อ... นั่นมันคุณหัสวีร์นี่”

หัสวีร์ อรรถวัฒน์ นักธุรกิจชื่อดังที่ถูกรับเชิญมาเป็นวิทยากรในคาบเรียนเมื่อช่วงบ่ายนั่นเอง

“อย่าบอกนะว่าเธอชอบคุณหัสวีร์น่ะยายหมิว”

คนถูกถามแก้มแดงปลั่ง ก่อนจะรีบปฏิเสธ และละสายตาจากเรือนของผู้ชายคนนั้น

“เปล่า... นะ...”

“เปล่า แต่เห็นมองตาไม่กะพริบเลยนะ”

“เออ... ฉันก็มองไปทั่วนั่นแหละ”

ลลิตาแก้ตัว และรีบตัดบท

“เธอส่งฉันแค่นี้ก็ได้นะฤดี เดี๋ยวฉันเดินไปป้ายรถเมล์เอง”

ดวงฤดีมองเพื่อนแล้วอมยิ้ม

“ดูสิเขินจนแก้มแดงไปหมดแล้ว”

“เธอพูดอะไรน่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับ... เขาจริงๆ นะ”

“เหรอ”

“อืม”

ลลิตายืนยัน แต่หลบสายตาของเพื่อนสนิท ดวงฤดีจึงพูดต่อ

“งั้นเธอก็คงเป็นคนเดียวในคลาสที่ไม่สนใจความหล่อของคุณหัสวีร์ จริงไหม”

“เออ...”

ลลิตาได้แต่ยิ้มบางๆ และหลบสายตาของดวงฤดีพัลวัล

ดวงฤดีส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“งั้นเธอไปทำงานเถอะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ”

“จ้ะ กลับบ้านดีๆ นะฤดี”

“เธอก็เหมือนกันแหละ ยายหมิว เลิกงานแล้วรีบกลับบ้านล่ะ”

“ขอบใจจ้า”

ลลิตาโบกมือให้กับเพื่อนรัก ก่อนจะเดินตรงไปยังป้ายรถเมล์ แม้จะพยายามบอกตัวเองให้หยุดคิดถึงผู้ชายคนนั้น แต่หล่อนทำไม่ได้ ในเมื่อหล่อนตกหลุมรักผู้ชายที่ชื่อหัสวีร์ตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตา

“เฮ้อออ...”

หล่อนถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะบอกตัวเองว่ามันไม่มีทางเป็นจริงไปได้ เพราะเขาอยู่สูงเกินกว่าที่ผู้หญิงระดับล่างอย่างหล่อนจะสอยลงมาครอบคอรง

หล่อนยิ้มให้กับตัวเองเศร้าหมอง ก่อนจะยืนรอรถเมล์ประจำทางเงียบๆ

หัสวีร์ตีไฟเลี้ยวรถสปอร์ตคันงามออกจากรั้วมหาวิทยาลัยที่เพื่อนสนิทเป็นอธิการบดีอยู่ จังหวะนั้นสายตาของเขาก็มองเลยไปยังบริเวณป้ายรถเมล์ ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งช่างสะดุดตายิ่งนัก เขาเอี้ยวคอมองจนถูกรถอีกเลนส์หนึ่งที่วิ่งสวนมาบีบแตรใส่ เพราะเขาเผลอปล่อยให้รถไปกินเลนส์ถนนของอีกฝั่ง เขาสะดุ้ง ได้สติ และรีบละสายตาจากผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เขาจำได้แม่นเลยว่าหล่อนคือนักศึกษาประจำคลาสที่เขาไปเป็นวิทยากรนั่นเอง

ทำไมเขาถึงจำเจ้าหล่อนได้นะ ทั้งๆ ที่ภายในคลาสเรียนก็มีนักศึกษามากมาย แต่หล่อนช่างสะดุดตาของเขาเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าหล่อนสวยเหมือนนางเอกหนังหรอกนะ แต่หล่อนมีเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดให้เขาต้องลอบมองบ่อยครั้ง

“บ้าจริง นี่แกเป็นบ้าอะไรไปเนี่ยไอ้หัส”

ชายหนุ่มคำรามด่าทอตัวเองดังๆ ในรถ ก่อนจะเร่งความเร็วรถให้มากขึ้น

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขาคว้าขึ้นมากดรับสาย

“ครับพี่ยา”

จริยา อรรถวัฒน์ คือพี่สะใภ้ของเขา หญิงสาวแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาเกือบสองปีแล้ว ช่วงแรกๆ หล่อนกับพี่ชายของเขาก็รักกันดี แต่ระยะหลังมานี่ เหมือนว่าจะมีเรื่องระหองระแหงกันตลอด และเขาก็ต้องรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับจริยาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“หัสต้องช่วยพี่นะ”

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับพี่ยา”

เมื่อเห็นว่าต้องคุยกันยาว ชายหนุ่มจึงต้องตีไฟเลี้ยวรถ เพื่อส่งสัญญาณว่ากำลังจะหักพวงมาลัยจอดที่ข้างทาง

“ก็พี่ชายตัวดีของหัสน่ะสิ ก่อเรื่องอีกแล้วน่ะ”

“อะไรนะครับ?”

แล้วจริยาก็ฟูมฟายถึงพฤติกรรมของทศวัฒน์ให้กับเขาฟังด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด จนเขาก็อดที่จะสงสารไม่ได้อีกเช่นเคย

“เดี๋ยวผมจะช่วยพูดกับพี่ทศให้นะครับพี่ยา”

“พี่ชายของหัสจะต้องหลงนังผู้หญิงคนนั้นมากแน่ๆ เลยทำอย่างนี้กับพี่”

“ผมว่าคงยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งครับ”

“หัสอย่าเข้าข้างพี่ชายของตัวเองหน่อยเลย ทำไมพี่จะไม่รู้ว่าเขามีคนอื่น”

“พี่ยาครับ... ใจเย็นๆ นะครับ”

จริยาคร่ำครวญฟูมฟายมาตามสาย

“หัสต้องช่วยพี่นะ ไม่สงสารพี่ก็คิดว่าสงสารน้องกิ่งก็แล้วกัน”

กิ่ง หรือเด็กหญิงกานจิรา ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขานั่นเอง

“ครับพี่ยา”

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาจากปากแรงๆ และเต็มไปด้วยความหนักใจไม่น้อย ความจริงเขาไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของพี่ชายสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นเลย

“ขอบใจหัสมากนะ ขอบใจจริงๆ เลย”

“ผมยินดีครับ”

“พี่หวังว่าคุณทศจะฟังหัส และยอมกลับมาเป็นสามีที่ดีเหมือนเดิม”

ความหวังในน้ำเสียงของจริยาทำให้หัสวีย์อดที่จะสงสารไม่ได้

“พี่ทศแค่หลงผิดไปน่ะครับ ยังไงพี่ทศก็รักพี่ยากับน้องกิ่งมากที่สุด”

“พี่ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นแหละ”

จริยาวางสายไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“ไปหาเหล้ากินดีกว่า”

รถสปอร์ตหรูคันงามแล่นกลับขึ้นมาบนถนนอีกครั้ง และมุ่งหน้าไปยังแหล่งที่เต็มไปด้วยสถานบันเทิงด้วยความเร็ว

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY