เพราะความเข้าใจผิด คิดว่าเธอคือเมียน้อยของพี่ชายตัวเอง หัสวีร์จึงไปลากตัวผู้หญิงที่เขาคิดว่าร่านเลวมาลงทัณฑ์ แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองเข้าใจหญิงสาวผิดไป เขาก็ไม่อาจจะปลดปล่อยเธอให้หลุดมือไปได้อีกแล้ว... เขาดูดอมหัวนมของหล่อนเขาไปในปาก ใช้ลิ้น ใช้ฟันขบเม้มราวกับจะกลืนกินมันเข้าไปในลำคอ ฝ่ามือก็บีบเค้นเต้านมเต่งตึง และก็กัดจนเป็นรอยแดงช้ำ ในขณะที่มือใหญ่อีกข้างก็ลูบไปตามสัดส่วนโค้งเว้าของหล่อน บั้นท้ายถูกเขาทั้งขยำ ทั้งตบทั้งตี ก่อนที่เขาจะเอามือวกมาที่หน้าขา และกอบกุมเนินสาวเอาไว้ หล่อนจำได้ว่าวินาทีนั้นตกใจจนแทบช็อก ทั้งดิ้นรน ทั้งกรีดร้อง เมื่อเขาขยำความเป็นหญิงของหล่อนอย่างหยาบคาย หล่อนผลักไสสุดฤทธิ์ แต่แล้วเมื่อนิ้วยาวไล้ไปตามกลีบสวาทด้านใน การผลักไส การขัดขืนก็อ่อนแรงลงอย่างน่าตกใจ
“หมิว... รอด้วยสิ”
เสียงเพื่อนร้องเรียกดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ลลิตา หรือหมิวต้องหยุดเดิน และหมุนตัวกลับไปมอง ก่อนจะระบายยิ้มหวาน เมื่อเห็นว่าเป็นดวงฤดีวิ่งตามมา
“ฤดี”
ดวงฤดีวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดตรงหน้า ก่อนจะเริ่มต้นตัดพ้อ
“ทำไมไม่รอกันบ้างเลย ฉันวิ่งตามเหนื่อยแทบแย่แน่ะ”
ลลิตาระบายยิ้มบางๆ
“หมิวต้องรีบไปทำงานพิเศษน่ะฤดี”
“งานที่ร้านอาหารน่ะเหรอ”
“อืม”
ดวงฤดีมองเพื่อนอย่างสงสาร เพราะเพื่อนสนิทของตัวเองทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตเลยทีเดียว ตั้งแต่เรียนด้วยกันมาจนจะจบปีสี่อยู่แล้ว หล่อนยังไม่เคยเห็นวันไหนเลยที่ลลิตาจะไม่ไปทำงานหลังจากเลิกคลาสเรียน
“ยายเธอหายป่วยหรือยังหมิว”
“ยายหายดีแล้วจ้า ขอบใจนะฤดี”
ดวงฤดีถอนใจออกมาเบาๆ
“งั้นฉันเดินไปส่งขึ้นรถเมล์นะ”
ลลิตาตอบรับด้วยรอยยิ้ม
“ขอบใจจ้ะ”
สองสาวเดินเคียงกันออกมาจะพ้นหน้ามหาวิทยาลัยรัฐอันดับต้นๆ ของประเทศไทยอยู่แล้ว แต่แล้วลลิตาก็ต้องชะงักกึก เมื่อผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านหน้าไปในระยะกระชั้นชิด
สองเท้าคล้ายกับถูกตอกตรึงเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว ไม่ต่างจากดวงตาที่ไม่อาจจะละจากเรือนร่างของผู้ชายคนนั้นได้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะเดินผ่านไปแล้วก็ตาม
“เป็นอะไรไปหมิว”
ดวงฤดีมองตามสายตาของเพื่อนรักไปก็เห็นว่าลลิตากำลังมองผู้ชายคนหนึ่งอยู่
“อ๋อ... นั่นมันคุณหัสวีร์นี่”
หัสวีร์ อรรถวัฒน์ นักธุรกิจชื่อดังที่ถูกรับเชิญมาเป็นวิทยากรในคาบเรียนเมื่อช่วงบ่ายนั่นเอง
“อย่าบอกนะว่าเธอชอบคุณหัสวีร์น่ะยายหมิว”
คนถูกถามแก้มแดงปลั่ง ก่อนจะรีบปฏิเสธ และละสายตาจากเรือนของผู้ชายคนนั้น
“เปล่า... นะ...”
“เปล่า แต่เห็นมองตาไม่กะพริบเลยนะ”
“เออ... ฉันก็มองไปทั่วนั่นแหละ”
ลลิตาแก้ตัว และรีบตัดบท
“เธอส่งฉันแค่นี้ก็ได้นะฤดี เดี๋ยวฉันเดินไปป้ายรถเมล์เอง”
ดวงฤดีมองเพื่อนแล้วอมยิ้ม
“ดูสิเขินจนแก้มแดงไปหมดแล้ว”
“เธอพูดอะไรน่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับ... เขาจริงๆ นะ”
“เหรอ”
“อืม”
ลลิตายืนยัน แต่หลบสายตาของเพื่อนสนิท ดวงฤดีจึงพูดต่อ
“งั้นเธอก็คงเป็นคนเดียวในคลาสที่ไม่สนใจความหล่อของคุณหัสวีร์ จริงไหม”
“เออ...”
ลลิตาได้แต่ยิ้มบางๆ และหลบสายตาของดวงฤดีพัลวัล
ดวงฤดีส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“งั้นเธอไปทำงานเถอะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ”
“จ้ะ กลับบ้านดีๆ นะฤดี”
“เธอก็เหมือนกันแหละ ยายหมิว เลิกงานแล้วรีบกลับบ้านล่ะ”
“ขอบใจจ้า”
ลลิตาโบกมือให้กับเพื่อนรัก ก่อนจะเดินตรงไปยังป้ายรถเมล์ แม้จะพยายามบอกตัวเองให้หยุดคิดถึงผู้ชายคนนั้น แต่หล่อนทำไม่ได้ ในเมื่อหล่อนตกหลุมรักผู้ชายที่ชื่อหัสวีร์ตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตา
“เฮ้อออ...”
หล่อนถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะบอกตัวเองว่ามันไม่มีทางเป็นจริงไปได้ เพราะเขาอยู่สูงเกินกว่าที่ผู้หญิงระดับล่างอย่างหล่อนจะสอยลงมาครอบคอรง
หล่อนยิ้มให้กับตัวเองเศร้าหมอง ก่อนจะยืนรอรถเมล์ประจำทางเงียบๆ
หัสวีร์ตีไฟเลี้ยวรถสปอร์ตคันงามออกจากรั้วมหาวิทยาลัยที่เพื่อนสนิทเป็นอธิการบดีอยู่ จังหวะนั้นสายตาของเขาก็มองเลยไปยังบริเวณป้ายรถเมล์ ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งช่างสะดุดตายิ่งนัก เขาเอี้ยวคอมองจนถูกรถอีกเลนส์หนึ่งที่วิ่งสวนมาบีบแตรใส่ เพราะเขาเผลอปล่อยให้รถไปกินเลนส์ถนนของอีกฝั่ง เขาสะดุ้ง ได้สติ และรีบละสายตาจากผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เขาจำได้แม่นเลยว่าหล่อนคือนักศึกษาประจำคลาสที่เขาไปเป็นวิทยากรนั่นเอง
ทำไมเขาถึงจำเจ้าหล่อนได้นะ ทั้งๆ ที่ภายในคลาสเรียนก็มีนักศึกษามากมาย แต่หล่อนช่างสะดุดตาของเขาเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าหล่อนสวยเหมือนนางเอกหนังหรอกนะ แต่หล่อนมีเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดให้เขาต้องลอบมองบ่อยครั้ง
“บ้าจริง นี่แกเป็นบ้าอะไรไปเนี่ยไอ้หัส”
ชายหนุ่มคำรามด่าทอตัวเองดังๆ ในรถ ก่อนจะเร่งความเร็วรถให้มากขึ้น
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขาคว้าขึ้นมากดรับสาย
“ครับพี่ยา”
จริยา อรรถวัฒน์ คือพี่สะใภ้ของเขา หญิงสาวแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาเกือบสองปีแล้ว ช่วงแรกๆ หล่อนกับพี่ชายของเขาก็รักกันดี แต่ระยะหลังมานี่ เหมือนว่าจะมีเรื่องระหองระแหงกันตลอด และเขาก็ต้องรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับจริยาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“หัสต้องช่วยพี่นะ”
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับพี่ยา”
เมื่อเห็นว่าต้องคุยกันยาว ชายหนุ่มจึงต้องตีไฟเลี้ยวรถ เพื่อส่งสัญญาณว่ากำลังจะหักพวงมาลัยจอดที่ข้างทาง
“ก็พี่ชายตัวดีของหัสน่ะสิ ก่อเรื่องอีกแล้วน่ะ”
“อะไรนะครับ?”
แล้วจริยาก็ฟูมฟายถึงพฤติกรรมของทศวัฒน์ให้กับเขาฟังด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด จนเขาก็อดที่จะสงสารไม่ได้อีกเช่นเคย
“เดี๋ยวผมจะช่วยพูดกับพี่ทศให้นะครับพี่ยา”
“พี่ชายของหัสจะต้องหลงนังผู้หญิงคนนั้นมากแน่ๆ เลยทำอย่างนี้กับพี่”
“ผมว่าคงยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งครับ”
“หัสอย่าเข้าข้างพี่ชายของตัวเองหน่อยเลย ทำไมพี่จะไม่รู้ว่าเขามีคนอื่น”
“พี่ยาครับ... ใจเย็นๆ นะครับ”
จริยาคร่ำครวญฟูมฟายมาตามสาย
“หัสต้องช่วยพี่นะ ไม่สงสารพี่ก็คิดว่าสงสารน้องกิ่งก็แล้วกัน”
กิ่ง หรือเด็กหญิงกานจิรา ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขานั่นเอง
“ครับพี่ยา”
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาจากปากแรงๆ และเต็มไปด้วยความหนักใจไม่น้อย ความจริงเขาไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของพี่ชายสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นเลย
“ขอบใจหัสมากนะ ขอบใจจริงๆ เลย”
“ผมยินดีครับ”
“พี่หวังว่าคุณทศจะฟังหัส และยอมกลับมาเป็นสามีที่ดีเหมือนเดิม”
ความหวังในน้ำเสียงของจริยาทำให้หัสวีย์อดที่จะสงสารไม่ได้
“พี่ทศแค่หลงผิดไปน่ะครับ ยังไงพี่ทศก็รักพี่ยากับน้องกิ่งมากที่สุด”
“พี่ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นแหละ”
จริยาวางสายไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“ไปหาเหล้ากินดีกว่า”
รถสปอร์ตหรูคันงามแล่นกลับขึ้นมาบนถนนอีกครั้ง และมุ่งหน้าไปยังแหล่งที่เต็มไปด้วยสถานบันเทิงด้วยความเร็ว
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน