“โรคนี้ รักษาได้อยู่สามวิธีนะ ใช้ยา ผ่าตัดและ... ท้อง” คำตอบของคุณหมอทำให้หญิงสาวเงียบไปอึดใจก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ “งั้นวิธีสุดท้ายแล้วกันค่ะ...รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ"
“เป็นอะไรมาคะเนี่ย” เสียงหวานๆ ของผู้ชายในชุดกาวน์สีขาวทำให้ใจฉันชื้นขึ้นมานิดหน่อย ฉันนั่งตัวงออยู่บนเก้าอี้ในห้องตรวจโรคทั่วไป เป็นเพราะฉันปวดท้องแบบแปลกๆ มาหลายครั้งทั้งในช่วงมีประจำเดือนและก่อนประจำเดือน ตอนแรกฉันก็เข้าใจว่าทุกคนเป็นแบบนี้ แต่ไปๆ มาๆ ฉันว่ามันไม่ใช่ มันมากเกินไปสำหรับการปวดท้องประจำเดือน
หน้าฉันซีดและเต็มไปด้วยเหงื่อ หายใจไม่ถนัดนัก เพราะความรู้สึกปวดมันเริ่มตั้งแต่ท้องน้อยไปยันเรียวขา ราวกับถูกสูบแรงไปซะหมด
“ปวดท้องค่ะหมอ” ฉันทำเสียงเหมือนจะร้องไห้พร้อมกับใช้มือปาดเหงื่อ “ปวดมากเลย แต่ก่อนก็ปวดแค่ตอนประจำเดือนมา ตอนนี้ประจำเดือนไม่มาก็ปวด ปวดลงไปถึงขาเลยค่ะ”
ฉันอธิบายอาการ ก่อนที่นัยน์ตาจะสบกับป้ายชื่อที่ปักด้วยไหมสีแดง ‘พชร อัครโภคิน’ และเป็นคราเดียวกับที่คุณหมอถอดแมสก์ออก อาการปวดท้องของฉันก็หายไปชั่วครู่
“ปวดตรงท้องน้อยเหรอคะ”
ฉันตะลึงกับความเนียนใสของใบหน้าคนตัวสูงกว่า ฉันอยู่แถวนี้มาตั้งหลายปี มีแต่หมอแก่ๆ ไม่ก็หมอรุ่นแม่ แต่ฉันไม่เคยเห็นหมอวัยใสที่หน้าเบ้าเกาหลีขนาดนี้มาก่อน
โอ๊ย น่ารัก หล่อ ฉลาด แถมยังพูดจาคะขา หน้าตาก็ผ่าน ฉันเผลอมองหน้าหมออยู่นาน นานจนหมอสะกิดและเรียกชื่อฉันอีกรอบ
“คนไข้คะ”
“คะ? อ๋อ ใช่ค่ะ”
โอ๊ย ปวดท้องก็ปวด อยากกรี๊ดหมอก็อยาก
“หมอเป็นหมอใหม่ที่นี่เหรอคะ” ฉันถามเขาด้วยน้ำเสียงสงสัย เขายิ้มให้เล็กน้อย
“เปล่าหรอก เป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ปีสุดท้าย เพิ่งมาฝึกที่นี่เอง ถ้าไม่เก่งพอก็ขอโทษด้วยนะ” หมอว่าอย่างถ่อมตัว ก่อนจะโฟกัสที่อาการปวดท้องของฉันอีก จู่ๆ คนตัวสูงก็ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้จนฉันสะดุ้งเล็กๆ “เหงื่อออกเต็มเลย ปวดมากเลยสิคะ”
“อะ อ๋อ ใช่ค่ะ” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น คงเพราะหน้าหมอใกล้มาก ใกล้กว่านี้ก็จูบกันแล้ว
“คนไข้ชื่อเล่นว่าอะไรนะคะ จะได้เรียกถูก”
“ตะ เตยค่ะ” ฉันตอบก่อนจะเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ใบหน้าร้อนขึ้นมาหนึ่งระดับเพราะได้กลิ่นน้ำหอมของหมอลอยเข้ามาแตะจมูกฉัน และไม่รู้ฉันประสาทหรือเมากลิ่นของมัน ฉันจ้องหมอด้วยสายตาวอนนาบีและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าปกติ “เอาเบอร์บ้านกับเบอร์มือถือไปด้วยเลยไหมคะ”
“คะ? อ๋อ คนไข้กรอกเบอร์ไว้ในแฟ้มประวัติแล้วนี่นา” เขาหัวเราะ
“งั้นถ้าหมอมีเบอร์เตยแล้วก็อย่าลืมโทรนะคะ จะรอค่ะ” ฉันมองหมอด้วยสายตามีเลศนัย มือข้างที่ว่างเกลี่ยผมไปทัดหู
“...” หมอย่นคิ้วงง
“หมายถึงโทรมาถามอาการเตยไงคะ แต่ถ้าอยากถามอื่นเตยก็สามารถตอบหมอได้ทุกข้อเลยนะคะ เช่นสถานะโสด...อะไรแบบนี้ค่ะ เตยหมายถึงเตยไม่มีแฟนค่ะ”
“แล้วตอนนี้คนไข้ที่สถานะโสดหายปวดท้องละเหรอคะ” คนตรงหน้าหัวเราะกับท่าทีของฉัน บางทีเพราะหน้านางเบ้าเกาหลีจ๋าเหมือนโอปป้าที่พร้อมเดบิวต์ คงจะเจอลูกไม้อ่อยมาทุกแบบเลยเฉยชากับสิ่งที่ฉันพยายามก็เป็นได้
ฉันอยากตอบว่าเห็นหน้าหมอ ก็หายเป็นปลิดทิ้ง แต่มันดูจะแรดไปหน่อย ไม่ค่อยเป็นกุลสตรี ฉันเลยเม้มริมฝีปากพลางกดท้องน้อยให้หนักขึ้น
“ยังเลยค่ะ”
“แล้วนอกจากปวดท้องน้อยนี่มีอาการอื่นร่วมด้วยไหมคะ”
“อาการรักค่ะ” ฉันว่าพลางปรายสายตาโปรยสเน่ห์ให้หมอ เล่นทุกมุก เก็บทุกเม็ด บาทสองบาทฉันก็เอา หากแต่หมอก็ไม่เข้าใจฉันอีก
“คะ?”
“ก็มันปวดไปหมดเลยค่ะ ปวดมากสุดก็ท้องน้อย บางทีก็เหมือนท้องอืด ท้องเสีย ท้องไส้แปรปรวนไปหมดเลย... ถ้ามีคนดูแลสักคนก็คงดีนะคะ” ฉันว่าแล้วก็เหล่สายตาไปที่หมออีก
“สงสัยหมอคงต้องขอตรวจเพิ่มหน่อยนะ”
“ถอดเลยไหมคะ” ฉันถามและนั่นทำให้หมอชะงัก
“อะไรนะคะ”
“ก็เวลาตรวจเขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้ากันเหรอคะ” ฉันมองหมอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม หุบยิ้มไม่ได้ ดีนะที่เมื่อเช้าฉันเลือกชุดชั้นในวิคตอเรียซีเคร็ตที่ลายน่ารักกุ๊งกิ๊งเหมาะสำหรับการเผด็จศึกมาใส่
“ใจเย็นนะคนไข้ เดี๋ยวหมอเรียกพยาบาลให้นะ” หมอหัวเราะก่อนจะเดินไปเปิดประตูแล้วเรียกเจ๊พยาบาลที่หน้าตาควรเกษียณไปแล้วเข้ามาหาฉัน เธอตีหน้าถมึงทึงเล็กน้อย
“พี่แป๊ว คนไข้จะตรวจภายใน รบกวนจัดการให้หมอหน่อย พาคนไข้ไปเข้าห้องน้ำ ทำอะไรให้เรียบร้อยด้วยนะคะ” เสียงของหมอหวานมาก หวานจนฉันเคลิ้ม แม้แต่อีเจ๊พยาบาลหน้าดุที่ตีหน้าเหมือนจะกินหัวฉันเมื่อกี้ก็อมยิ้มขึ้นมาบางๆ
“ได้ค่ะหมอมีน” เจ๊พยาบาลรับคำ
“อ้าว หมอชื่อเล่นว่ามีนเหรอคะ” ฉันหันมองด้วยสายตาต้องการคำตอบ หมอยิ้มรับ
“ใช่ค่ะ ทำไมเหรอ”
“บังเอิญจังเลยค่ะ”
“หืม ยังไงเหรอคะ มีคนรู้จักชื่อมีนเหรอ” หมอย่นคิ้วนิดหน่อยขณะที่ฉันอมยิ้มกรุ้มกริ่ม
“อ๋อ ก็วันก่อนแม่ไปหาหมอดูที่หน้าโรงพยาบาลมาค่ะ เค้าบอกว่าเนื้อคู่เตยชื่อมีนค่ะ”
“หมอคะ พี่ว่าคนไข้น่าจะมีอาการเพ้อเจ้อร่วมด้วย ทำเรื่องส่งไปตรวจแผนกจิตเวชด้วยเลยไหมคะ”
อ๊าย อีป้า อย่ามาขัดจินตนาการฉันสิ! ฉันเคืองนะ! แผนกจิตเวชอะไรวะ ฉันปกติดีโว้ย!
ฉันเบ้ปากเล็กๆ และสบตากับหมอที่ยืนอมยิ้มแต่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
“นี่ อีหนู หมอเขาโดนสาวแอ๊วทุกวัน เขาชินแล้ว มานี่ มาห้องน้ำกับพี่ ไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยแล้วเปลี่ยนผ้าถุงมาขึ้นขาหยั่ง หมอเค้าจะได้ตรวจให้เสร็จๆ”
ฉันโดนลากไปเปลี่ยนผ้าถุงแบบเสร็จสรรพ ได้แต่มองตามหมอตาละห้อยก่อนจะกลับมาที่ห้องเดิมและขึ้นนั่งเตียงแปลกๆ ที่พยาบาลเรียกว่าขาหยั่ง จากความกล้ามากมายในตอนแรกเริ่มหดเล็กลงตามกาลเวลา เพราะว่าฉันกำลังจะถูกตรวจโดยหมอที่หน้าตาหล่อมาก ฉันเลยเกร็งจัด
ให้ตายเถอะ เกิดมาฉันยังไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนได้เห็นเลยนะ นี่เจอหน้ากันครั้งเดียวก็ขอแหกแข้งแหกขาฉันเลยอะ ฉันพยายามหลับตาและตั้งสติก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงหมอพูดขึ้น
“พี่แป๊ว ขอถุงมือสเตอร์ไรด์หน่อยค่ะ”
อ๊ากกกก หมอมาแล้ว! ฉันตื่นเต้นหนักและหลับตาปี๋เพราะฉันไม่รู้จะตีสีหน้ายังไงใส่หมอ เมื่อกี้แอ๊วไปตั้งเยอะ พอถึงเวลาฉันดันไม่กล้าสบตา
“ไม่ต้องเกร็งนะคะ” หมอว่าและทำให้ฉันเกร็งหนักกว่าเก่าด้วยการเปิดผ้าถุงดังพรึ่บ สัมผัสลมเย็นๆ จากอากาศก็ปะทะเข้าสู่ผิวอ่อนไหวของฉันทันที
แค่ฉันจินตนาการว่าหน้าหมออยู่ตรงกลางระหว่างขาของฉันและกำลังจดจ้องบริเวณนั้น ฉันก็ประสาทจะกิน และหมอก็ยังทำให้ฉันตะลึงมากขึ้นเมื่อเขาพูดประโยคต่อมา
“ปวดท้องมาเนอะ เดี๋ยวหมอจะตรวจด้วยนิ้วนะคะ คนไข้ไม่ต้องเกร็งนะ”
นะ นิ้ว!
บอกไม่ให้เกร็งแต่ฉันเกร็งหนักกว่าเดิมอีก
หมอหน้าหล่อขนาดนี้แถมยังจะใช้นิ้วเข้ามาข้างใน ใครจะไม่เกร็งเล่า! แง้
“ไม่ต้องห่วงหรอก"ฉันเอ่ยปากพลางตบบ่าไอ้นุ่นเพื่อให้มันคลายความกังวลใจเรื่องที่ฉันอยู่มหาลัยจนจะปีสี่แล้วยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเค้าสักที "ถ้าหาใครไม่ได้ กูก็จะเอามึงนี่ล่ะ"
"ตบแล้วทำไม จะจูบแบบในละครไง?"ฉันหัวเราะเมื่อแกล้งตบตรงรอยช้ำที่ผิวแก้มของเพื่อนสนิทเพื่อยั่วประสาทมันเล่นๆ ไอ้เตย์ชักสีหน้าไม่พอใจ"ตบจูบมันน้อยไปนะเวย์..." มันยกยิ้ม "ระดับพี่เตย์ต้องตบตับ!!!"
เพราะฉันดันไปสาดน้ำมันพรายใส่ผิดคน จากหนุ่มหล่อเนิร์ดกลายเป็นไอ้บ้าหน้าเลือดที่น่ากลัวสุดๆ ฉันหาข้ออ้างให้เขาหายไป หากแต่เขาชี้ปลายมีดมาเข้าที่หน้าฉัน "มาเป็นแฟนฉัน ไม่งั้นตาย" กลัวแล้ว ;-;
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"