ความเกลียดชิงชังทำให้เขาทิ้งให้เธออยู่ในสถานะ เมียในนาม แต่เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากเขา ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองเช่นเขากลับต้องการกักขังเธอไว้ตลอดไปและหลอกล่อเธอด้วยเพลิงสวาทร้ายที่เร่าร้อนเกินห้ามใจ...
ความเกลียดชิงชังทำให้เขาทิ้งให้เธออยู่ในสถานะ เมียในนาม แต่เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากเขา ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองเช่นเขากลับต้องการกักขังเธอไว้ตลอดไปและหลอกล่อเธอด้วยเพลิงสวาทร้ายที่เร่าร้อนเกินห้ามใจ...
ในค่ำคืนอันมืดมิดซึ่งพายุฝนกำลังพัดกระหน่ำ ในห้องนอนเล็กๆ ของบ้านหลังน้อยกำลังร้อนระอุด้วยเพลิงพิศวาสที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงและเอาแต่ใจของชายนุ่มรูปงามราวเทพบุตรที่สาดใส่ร่างบอบบางของสาวน้อยหน้าแฉล้มซึ่งนอนน้ำตารินด้วยความเจ็บปวดราวร่างจะแตกปริเมื่อเขารุกล้ำร่างบอบบางราวแก้วใสด้วยร่างแกร่งใหญ่โตของเขาโดยไม่สนใจว่าคนตัวเล็กใต้ร่างจะรู้สึกอย่างไร สิ่งที่เขาต้องการคือทำให้เธอเจ็บปวดมากที่สุด เจ็บปวดเท่าที่เขาเจ็บ...
อัคนี ดีแลนด์ เทพบุตรเลือดผสมไทย เยอรมัน วัยยี่สิบแปดปีซึ่งกลายร่างเป็นซาตานร้ายก้มลงบดขยี้เรียวปากกระด้างลงบนกลีบปากบางที่บวมเจ่อแทบแตกปรินั้นอย่างลงทัณฑ์ไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดเพราะน้ำมือเขาแค่ไหน เขาสนใจเพียงอย่างเดียวคือเชยชมร่างกายงดงามนี้ให้สมกับความแค้นในใจ ชายหนุ่มสาวสะโพกสอบเข้าใส่ร่างบอบบางด้วยแรงอารมณ์ แม้ความคับแน่นจะบีบรัดจนเขาปวดหนึบแทบจะขยับไม่ได้ก็ตาม
“ได้โปรด ออกไป บีเจ็บ ฮือออ...”
บารนี สาวน้อยวัยสิบแปดปีหมาดๆ ซึ่งตกเป็นเหยื่อและกลายเป็นผู้รับโทษทัณฑ์จากเขาวอนขอทั้งน้ำตา ความเจ็บปวดราวร่างจะฉีกออกจากกันทำให้เธอแทบขาดใจตายไปเสียเดี๋ยวนี้...
“ไม่หรอก เธอจะไม่ตายแค่นี้หรอกสาวน้อยแต่เธอจะต้องตายทั้งเป็น... หึหึ”
ชายหนุ่มไม่เมตตาแต่กลับเสือกสวนกายแกร่งเข้าหาหาร่างบอบบางอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจอะไรอีกต่อไปเมื่อร่างสาวบีบรัดจนเขาปวดร้าวไปทั้งกายและเขาต้องการปลดปล่อยความทรมานนี้ออกไป
อัคนีบดสะโพกแกร่งรัวเร็วโยกคลึงด้วยลีลาร้อนแรงจนสาวน้อยหอบหายใจสะท้านเมื่อความเจ็บแปลบค่อยคลายลงและความเสียวซ่านแปลกใหม่แทรกเข้ามาแทนที่แม้จะพยายามต้านทานความรู้สึกนั้นแต่ดูเหมือนมันจะไร้ค่า เพราะเธอกลับเผลอตอบสนองเขาด้วยการแอ่นร่างขึ้นเผลอยกสะโพกเคลื่อนไหวไปตามจังหวะที่เขาเป็นผู้นำ แม้เงอะงะแต่ก็ทำให้คนตัวโตพอใจ ก้มลงมาจูบริมฝีปากระเรื่อบวมเจ่อเพราะฤทธิ์จุมพิตลงทัณฑ์จากเขาในคราแรกอย่างอดไม่ไหว และรู้สึกอิ่มเอิบในใจเมื่อเขารู้ว่าตนเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ
น้องสาวของศัตรูหัวใจ น้องสาวของคนที่แย่งคนรักของเขาไปอย่างหน้าไม่อาย และเมื่อนึกถึงข้อนี้อัคนีก็สอดเสยร่างแกร่งเขาหาคนตัวเล็กอย่างร้อนแรงและเต็มไปด้วยความหิวกระหายฟอนเฟ้นทรวงสาวแรกผลิอย่างไร้ความปราณีจนสาวน้อยเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดที่เริ่มทำร้ายเธออีกครั้ง...
“เธอให้ความรู้สึกดีเหลือเกินสาวน้อย อา... โอ้ว... สุดๆ ไปเลย ฉันเริ่มทนไม่ไหวแล้ว...”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนจะกระแทกกายหนักๆ เข้าหาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยธารสวาทเร่าร้อนเข้าสู่กายบางจนหมดสิ้นด้วยความลืมตัว...
อัคนีแหงนเงยสุดปากด้วยความสุขสมเมื่อเขาสามารถไปถึงฝั่งฝันได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าน้องสาวศัตรูหัวใจจะให้ความรู้สึกดีขนาดนี้ สาวน้อยร่างบางก็ครางกระเส่าด้วยความรู้สึกสุขสมที่ไม่เคยได้รับรู้มาก่อนว่าการกระทำเช่นนี้ของชายหญิงจะให้ความรู้สึกซ่านเสียวและเป็นสุขอย่างนี้...
ปัง! เสียงประตูห้องนอนเล็กๆ ของเธอเปิดออกอย่างแรงจนประตูกระแทกผนังห้องพร้อมกับร่างสูงไม่แพ้ชายหนุ่มบนร่างเธอยืนจังก้าอยู่หน้าห้องพร้อมกับภรรยาสาวซึ่งเป็น อดีตคนรัก ของอัคนีนั่นก็คือ ภัทรา
“น้องบี คุณอัคนี...”
บริบูรณ์ พี่ชายของเธอตะลึงมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ความเจ็บปวดไหล่บ่าเข้าจู่โจมหัวใจแกร่งเมื่อเห็นสภาพของน้องสาวที่ดูก็รู้ว่าถูกอัคนีย่ำยีบารนีไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...
“คุณจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นคุณอัคนี...”
สี่ปีผ่านไป...
“น้องบูมครับมาทานผลไม้เร็วครับคุณแม่บีปอกมาให้แล้วครับ” บารนีในวัยยี่สิบสองปีร้องเรียก น้องบูม หรือ เด็กชายอัศวิน ดีแลนด์ บุตรชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจเสียงใส ไม่นานเด็กชายตัวอ้วนกลมผิวสีน้ำตาลทองแก้มยุ้ยก็วิ่งตึกๆ มาหาผู้เป็นมารดาด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง แก้มยุ้ยๆ นั้นแดงปลั่งเพราะวิ่งเล่นจนเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว
“คุงแม่ค้าบ น้องบูมอยากว่ายน้ำ” เด็กชายอ้อนมารดามือป้อมๆ นั้นหยิบแอ๊ปเปิ้ลของโปรดเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆเมื่อมารดาจับมือน้อยไปล้างที่ก๊อกน้ำไม่ไกลกันนั้น
“คุณแม่บอกว่าเวลากินอย่าพูดไงครับ มันไม่สุภาพและจะทำให้อาหารที่เราทานติดคอรู้ไหมคะ”
“ค้าบคุงแม่บี”
“แล้วก็ต้องพูดว่า คุณแม่บี ไม่ใช่คุงแม่บีนะครับลูกรัก”
หญิงสาวบอกลูกรักเพื่อให้เขาพูดได้ถูกต้องอย่างที่ส่วนใหญ่ผู้ที่เลี้ยงเด็กๆ ในวัยนี้เช่นคนที่เป็นปู่ย่าตายายมักจะหัวเราะชอบใจเมื่อหลานๆ พูดไม่ชัดมองว่าเป็นเรื่องตลกขบขันและไม่คิดว่ามันจะส่งผลให้กับเด็กเมื่อโตพอจะเข้าโรงเรียน และเรื่องแบบนี้เธอเคยเห็นมาก่อนสมัยเด็กๆ เพราะเพื่อนวัยเดียวกันกว่าจะพูดชัดก็เกือบจะจบชั้นประถมหก
“ค้าบ คุณ แม่ บี” เด็กชายพูดอย่างตั้งใจพร้อมกับยิ้มให้มารดาจนตาหยี บารนีมองลูกชายตัวน้อยด้วยความรักและพอใจที่น้องบูมเป็นเด็กฉลาดและว่านอนสอนง่ายคุณปู่และคุณย่าซึ่งเดินมาดูหลานรักเล่นปั่นจักรยานอยู่ในสวนมองสองแม่ลูกที่คุยกันด้วยเหตุผลอย่างแสนรัก บารนีกับน้องบูมคือแก้วตาดวงใจของบ้านนี้นั่นคือสิ่งผู้สูงวัยทั้งสองเห็นอยู่ในสายตามาเสมอ...
“มาทานข้าวเที่ยงกันได้แล้วจ้ะน้องบูม ลูกบี”
คุณดารา ร้องเรียกลูกสะใภ้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเอ็นดูสองแม่ลูก คุณดาราในวัยห้าสิบหกนั้นดูงดงามเปล่งปลั่งด้วยการดูแลตัวเองอย่างดีทำให้นางดูอ่อนกว่าวัยและมองแล้วสดชื่นสบายด้วยการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสดใสทันสมัยซึ่งทุกชุดที่นางสวมก็ล้วนแล้วแต่เป็นการออกแบบจากลูกสะใภ้สุดที่รักของนางนั่นเองและฝีมือการออกแบบและตัดเย็บของบารนียังเป็นผลงานที่สร้างชื่อให้กับ ดีแลนด์ซิลด์ หนึ่งในธุรกิจสร้างรายได้มหาศาลให้กับตระกูลดังอย่างตระกูลดีแลนด์ และคุณอีริคดีแลนด์ ประมุขใหญ่ของครอบครัวก็เป็นนักธุรกิจอาวุโสที่มีคนนับหน้าถือตาและถือเป็นแบบอย่างในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย แต่นอกจากครอบครัวดีแลนด์จะทำธุรกิจสิ่งทอแล้วยังมีอีกหลายกิจการที่สร้างรายได้ให้กับคนตระกูลนี้มานานแสนนานนั่นคือธุรกิจสายการบินและการโรงแรม...
“สวัสดีค่ะ ท่านผีปู่ผีย่าผีตาผียายท่านผีบรรพบุรุษทั้งหลายเจ้าขา หนูชื่อลลนานะคะ ชื่อเล่นว่านุ่มค่ะ ถูกคนใจร้ายหน้าตาดีแต่ปัญญานิ่มเข้าใจผิดจับตัวมาแล้วยังพูดจาทำร้ายจิตใจนุ่มต่างๆ นานา นุ่มเสียใจมากเลยค่ะและคิดถึงบ้านมากแล้วก็เป็นห่วงนิ่งที่อาการสาหัสอยู่ด้วย นุ่มอยากขอให้พวกท่านดลบันดาลให้เขาปล่อยตัวนุ่มกลับบ้านเร็วๆ ด้วยค่ะ และขอให้นุ่มพ้นจากอำนาจชั่วร้ายป่าเถื่อนของคนใจร้ายด้วยเถิ้ดดด และจะให้ดีนุ่มขอสามตัวตรงๆ งวดนี้เลยนะคะ นุ่มจะได้มีเงินมีความสุขสบายไม่ต้องทำงานกลางคืนให้ใครดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงกลางคืน ไม่ต้องเจอผู้ชายนิสัยไม่ดีมาลวนลามทำร้าย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ดีมากๆ ก็ขอให้นุ่มได้สามีดีๆ หล่อๆ จิตใจดีไม่ปัญญานิ่ม และรวยมาก รักนุ่มมากๆๆๆ นะคะ สาธุๆๆ” “นี่เธอ พอได้แล้ว เลอะเทอะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว” สิงหาเอ็ดหญิงสาวที่บรรจงปักธูปด้วยรอยยิ้มอย่างหมั่นไส้เหลือคณา “อ้าว.. คุณนี่นะ ฉันขอในสิ่งที่ฉันอยากได้จริงๆ เผื่อท่านจะดลบันดาลให้ฉันได้ดังหวัง จะได้ไม่ต้องมาเจอคุณอีกไง” “อย่างกับฉันอยากจะเจอเธองั้นล่ะ” “แต่คุณก็จับตัวฉันมา” “โอ๊ย... โอเค ฉันผิดเองที่ไม่ดูให้ดี ขอโทษ โอเคมั้ย พอใจรึยัง” สิงหาโวยเสียงขุ่นมองหน้าหญิงสาวที่ยิ้มยียวนด้วยความหมั่นไส้เหลือกำลัง พอรู้ว่าเขาผิดเจ้าหล่อนก็เล่นไม่เลิก
เพราะถูกแม่เลี้ยงใจร้ายเสือกไสไล่ส่งมาให้เป็นเมียขัดดอกของนายใหญ่แห่งหุบเขาคนเถื่อนที่ใครๆ ต่างก็กล่าวขวัญกันว่า โหดร้ายน่ากลัว แต่แล้วเธอกลับพบว่า คนเถื่อนอย่างเขาก็มีหัวใจ และมีไว้เพื่อเธอคนเดียว ++++++++++ “พี่มาร์คไปแล้ว.. ทีนี้ก็เหลือแค่เรา..” ปิ่นกมลเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพัง และถิ่นเถื่อนก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดูท่าทางเขาขัดเขินไม่น้อย “มีอะไรจะสารภาพกับปิ่นมั้ยคะ” “ไม่มีนี่นา..” “ใครกันนะบอกว่า เป็นผัวเมียกัน ต้องบอกกันทุกเรื่อง ให้ไว้ใจกันและกัน” ถิ่นเถื่อนทำอึกๆ อักๆ ท่าทางของคนตัวใหญ่โต แต่ดูเก้งก้างเมื่อตอนนี้เขามีความผิดติดตัว “ก็บางเรื่อง มันยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกไง..” “อ้ออออ.. หรือคะ แล้วพี่เถื่อนคิดว่าจะบอกปิ่นตอนไหนคะ และเรื่องไหนบ้าง” ปิ่นกมลเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วเงยหน้ามองเขายิ้มๆ ถิ่นเถื่อนเมินหน้าหนีน้อยๆ แต่ใบหูแดงก่ำ “ก็..” “ก็อะไรคะ..” ปิ่นกมลซักไซ้ ถิ่นเถื่อนหันกลับมามองหน้าคนช่างซักอย่างรู้สึกหมั่นไส้แกมเอ็นดูคนตรงหน้ายิ่งนัก “ก็.. ไปคุยกันบนห้องดีกว่าไง” “ว้าย... พี่เถื่อน ปล่อยปิ่นนะคะ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย..” ปิ่นกมลหวีดร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อชายหนุ่มตวัดร่างบอบบางขึ้นไว้ในวงแขนแข็งแรงหน้าตาเฉย
สวย ดุดัน เข้ม หยาบคาย เผ็ด แซ่บ ตดเป็นตด ฟังไม่ผิดหรอก ตดน่ะถูกแล้ว นั่นคือ นิยามของ ฝันงาม ชื่อสวยหรูคุณหนูสุดๆ แต่นั่นมันไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าเธอจะเป็นคุณหนูสายแบ๊ว เพราะเธอคือผู้ฉีกทุกกฎของคำว่ากุลสตรี .. +++++++ “จะมีผัวทั้งทีก็ต้องดูดีๆ สิคะ ธิดาหน่อทองไม่ได้กระจอกงอกง่อยนะ มีทั้งมงและสายตะพายพร้อมโล่เกลียดก็อด.. จะให้เอาพวกไม่มีอนาคตมาทำผัวเหรอ..” “ครับเมียพี่ฉลาดเก่งที่สุดในสามโลก เมียจ๋า.. พี่ร้อนแล้ว..” กวินเริ่มเสียงสั่นพร่าเมื่อมือเล็กร้ายกาจเลื่อนไปยังแก่นกลางกายที่เริ่มคึกคะนอง.. “วันนี้งามจะทำให้พี่วินลืมโศก ลืมเศร้า เราจะมันกันอย่างเดียว..” กวินหัวเราะลั่นกับคำพูดห่ามๆ ของเมียรักที่แสนจะตรงไปตรงมาและตรงใจเขาเหลือเกิน.. “งั้นแสดงฝีมือเลยเมียจ๋า หากฟ้าไม่เหลืองห้ามหยุดนะ..” กวินท้าทายฝันงามหรี่ตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวน.. “อย่าร้องขอชีวิตก็แล้วกัน..” ปล. หนังสือเสียงนี้ได้รวมตอนพิเศษไว้ด้วยนะคะฟังกันเต็มอิ่มไปเลยจ้า
“จะอ่อยฉันอีกนานไหม...” เสียงห้าวดังขึ้นทำให้หญิงสาวลืมตาทันทีก่อนจะผละออกจากวงแขนแกร่งของเขาทันที ใบหน้านวลแดงปลั่งทั้งขัดเขินและอับอายกับคำพูดของเขาแต่เหนือสิ่งอื่นใดเธออับอายที่กำลังจะกลายเป็นสาวร่านร้อนเที่ยวกอดจูบกับผู้ชายมากกว่า “คนบ้า ปากเสีย... ฉะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นเสียหน่อย...” หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ แล้วถลึงตาใส่เขาพลางต่อว่าเขาเสียงเขียวแต่ข้างในใจสาวกลับสั่นไหวหวิวๆ แทบจะเป็นลมแข้งขาสั่นไปหมดจนขยับเดินไม่ได้...
เจ้าสาวคาวโลกีย์สำหรับเขา เพราะหวงชีวิตหนุ่มโสดที่ยังใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่งของมารดาที่ทั้งเจ้ายศเจ้าอย่างและจุ้นจ้านวุ่นวาย ทำให้เขาต้องหาไม้กันหมาที่ต้องแสบแซบเร้าใจเพื่อคานอำนาจของมารดา...สำหรับเธอ มีเงินท่วมหัว ไม่ต้องมีผัวก็ได้ จึงต้องมารับอาชีพไม้กันหมาให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อหลวมตัวรับงานนี้ ณดา ก็แทบมอดไหม้ด้วยไฟเสน่หาอันร้อนแรง
เขาหล่อเขาร้ายและร้อนแรงดังเปลวเพลิงที่พร้อมจะละลายน้ำแข็งอย่างเธอ ให้เดือดพล่านด้วยไฟเสน่หา.. ++++++++++ “คนบ้าปล่อยนะ พี่แสน อ๊ายย” หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่อภาสกรก้มลงหอมแก้มใสหนักๆ อย่างมันเขี้ยวและอยากแกล้ง “แก้มน้ำแข็งหอมจัง” “พี่แสนคนบ้า รังแกน้ำแข็ง คอยดูนะน้ำแข็งจะฟ้องพี่ธาร” หญิงสาวหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย “ฟ้องไอ้ธารคนเดียวเหรอ ฟ้องคุณอาด้วยสิ และฟ้องให้หมดด้วยนะว่าพี่ทำอะไรบ้าง” “พี่แสนจะทำอะไร ว้าย.. ปล่อยนะ คนบ้า พี่แสน กรี๊ดดด..” ทิพย์ธาราหวีดร้องเสียงหลงเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่รัดแน่นของเขาแล้วทิพย์ธาราก็รู้ได้ทันทีว่าตนตกเป็นรองเขาหญิงสาวดิ้นเร่าอย่างโมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นที่มีก่อนหน้าหายไปสิ้น เพราะเมื่อปะทะกับเขาทีไรเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้สงบเยือกเย็นได้นานเลยสักครั้ง
ลู่หมิงเยว่ถูกแฟนนอกใจ และยังโดนดูถูกว่าเธอแค่ดีแต่หน้าตา ด้วยความโกรธ ลู่หมิงเยว่ใช้เสน่ห์ของเธอไปมีความสัมพันธ์กับเยี่ยนเฉิงจือประธานบริษัท แต่เธอกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ หลังจากเสร็จธุระนั้นเธอก็หนีไปเงียบๆ และยังเข้าใจผิดว่าคนในคืนนั้นคือเพลย์บอย เสิ่นเว่ยตง ทำให้เยี่ยนเฉิงจือเข้าใจผิดว่าเธอชอบคนอื่น เขาเลยแอบอิจฉาและหึงหวงอยู่เงียบๆ มานาน
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
... ในวันครบรอบแต่งงาน ฮั่วเยี่ยนสือ สามีผู้มั่งคั่งทิ้งเธอไป แล้วหาคนรักแรกของเขา ผู้ชายที่ไม่รักนวลสงวนตัวก็เหมือนสิ่งไร้ค่า ผู้ชายที่เธอเคยอ่อนข้อให้แต่ก็ไม่สนใจเธอ งั้นเธอไม่ต้องการแล้ว จึงขอหย่าทันที ฮั่วเยี่ยนสือไม่สนใจ ซูหว่านหนิงกลับเข้าสู่วงการบันเทิงและเฉิดฉาย รักแรกในอุดมคติชอบแกล้งอ่อนแองั้นเหรอ งั้นก็ให้เธอเผยธาตุแท้จริงให้ทุกคนได้เห็น อดีตสามีที่เป็นคนปากแข็งที่สุด "เมื่อเธอเบื่อแล้วเธอจะกลับมาหาฉัน" แต่ภรรยาที่เคยเต็มใจทำทุกอย่างให้เขานั้นไม่กลับมาอีกแล้ว ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพเท่านั้น แต่ยังมีคนมากมายมาตามจีบเธออีก ดาราระดับโลกแสดงความรักอย่างแรงกล้า ผู้บริหารบริษัทสื่อพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอยิ้ม แม้แต่ทายาทเศรษฐีอันดับหนึ่งก็ต้องการเธอเท่านั้น จากนั้นฮั่วเยี่ยนสือเริ่มตระหนก เปลี่ยนจากคนเย็นชากลายเป็นคนที่คอยติดตามไม่ห่าง ใช้ทุกวิถีทางเพื่อตามจีบภรรยา ซูหว่านหนิงไม่แม้แต่จะมอง "เมื่อก่อนคุณเฉยเมยกับฉัน ตอนนี้คุณไม่คู่ควรกับฉันแล้ว" ฮั่วเยี่ยนสือขอร้องเธออย่างบ้าคลั่ง "หนิงหนิง เราแต่งงานใหม่เถอะ" ซูหว่านหนิงแสดงท่าทางหยิ่ง "คุณฮั่ว ฉันไม่เคยกลับไปหาของที่ทิ้งไปแล้ว"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
จะดีแค่ไหน หากหล่อนได้ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาทุกเช้า... ตั้งแต่จำความได้ ชมพูนุชก็หายใจเป็นชื่อของเขาเรื่อยมา องค์รัชทายาทรูปงามแห่งซาเรีย เขาคือความสุขเดียวในชีวิตของหล่อน แต่ความสุขนั้นกลับไม่จีรังดั่งใจหวัง เมื่อหญิงเดียวในดวงใจของเขาหนีหน้าหายไปพร้อมกับพี่ชายของหล่อน ความผิดบาปทุกอย่างจึงถูกขว้างใส่หน้า เขาเรียกร้องให้ครอบครัวของหล่อนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับตราหน้าผู้หญิงที่เฝ้าภักดีกับเขาอย่างหล่อนว่า ‘นังแพศยา’ “หน้าที่หนึ่งเดียวสำหรับเธอ บนเตียงของฉันก็คือ... นางบำเรอ” องค์รัชทายาทรูปงามหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ นัยน์ตาสีทองตวัดจ้องมองมายังร่างเปลือยเปล่าบอบช้ำของหล่อนอย่างดูแคลน “จำเอาไว้ ถ้าฉันเรียก เธอก็ต้องมา ถ้ามาช้า ฉันจะสั่งโบยพ่อ หรือไม่ก็ แม่ของเธอ” “อย่านะเพคะ...” ริมฝีปากหยักสวยคลี่ยิ้มหยัน “ถ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เธอควรจะรู้หน้าที่ของตนเอง...” มือใหญ่ตบลงบนเตียงนอนนุ่ม ราวกับต้องการย้ำเตือนหน้าที่อันทรงเกียรติของหญิงสาว
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY