เธอกำเงินที่มีอยู่พันกว่าบาทและเดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่ที่เธออาศัยอยู่ตั้งแต่เด็ก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกจากบ้านหลังนี้โดยที่ไม่มีคนอื่นคอยตามเธอและสั่งเธอให้ซื้อของนั่นนี่ เธอไม่เคยได้ไปไหนคนเดียว ทุกครั้งที่เธอจะไปไหน ต้องมีคนอื่นไปด้วย เพราะเธอนั้น เปรียบเสมือนทาสที่ต้องอยู่เพื่อชดใช้หนี้
เธอหันหลังมองประตูรั้วและคิดว่าเธอคงไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก ในตอนนี้ถึงเธอจะเสียใจ แต่อีกใจนึง เธอกลับดีใจที่ตัวเธอนั้นได้เป็นอิสละ เธอนั่งยิ้มบนรถทัวร์ในขณะที่ที่มองวิวไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดหมาย หญิงสาวแต่งตัวบ้านๆได้เดินลงจากรถทัวร์และมองไปรอบๆด้วยความกลัวปนความตื่นเต้น ในตอนนี้เธอไม่มีมือถือที่จะติดต่อกับเพื่อนที่เธอนัดไว้ เธอพยายามมองหาตู้โทรศัพท์ แต่นี่มันสมัยไหนแล้ว เธอมานั่งลงบนเก้าอี้และมองไปยังผู้คนรอบๆ เพื่อหวังว่าจะเจอกับคนที่เธอนัดไว้
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ท้องเริ่มร้องด้วยความหิว หญิงสาวเปิดดูกระเป๋าเงินของตัวเองที่ในตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่ร้อยบาท เธอใช้เงินไปกับการเดินทางมาที่นี่ และตอนนี้เธอเริ่มกังวลว่าเพื่อนเธอจะทิ้งเธอ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น เธอคงตายแน่ๆ เธอนั้นตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ เพื่อนคนนี้คือที่พึ่งเดียวที่เธอมีอยู่
"มะลิ" ในขณะที่ที่จิตใจเริ่มกะวนกะวาย ก็มีคนเรียกชื่อเธอ เสียงที่เธอรอคอย
หญิงสาวเงยหน้ามองที่ต้นเสียงทั้งๆที่น้ำตาคลอเบ้าด้วยความกลัว
"ใยไหม" เสียงได้ลอดออกจากลำคอที่พยายามจะกลั้นเอาไว้ น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ได้ไหลลงมาอาบแก้มที่ไร้เครื่องสำอาง
"ขอโทษทีมะลิ" ไยไหมรีบโผกอดเพื่อนด้วยความรู้สึกผิด ที่เธอมาสายจนทำให้เพื่อนขวัญเสีย
"ฉันนึกว่าแกจะทิ้งฉันไปอีกคนแล้ว" หญิงสาวที่ร้องไห้ได้โผเข้ากอดกลับอีกฝ่าย
ทั้งสองปลอบใจกันอยู่สักพัก จนมะลิหันไปเห็นชายหนุ่มที่ยืนมองทั้งสองอยู่ เธอรีบเช็ดน้ำตาอย่างร้อนรน
"พี่กล้า อย่ามองแบบนั้นสิ มะลิเค้ากลัวหมด"
"รีบไปขึ้นรถกันเถอะ เดี่ยวจะมืดไปกว่านี้" ชายหนุ่มพูดพร้อมก้มไปหยิบกระเป๋าเก่าๆที่วางอยู่ข้างๆ
"ไม่เป็นไรค่ะพี่กล้า มะลิถือเองดีกว่า" มะลิรีบคว้ากระเป๋ามาถือไว้ด้วยความเกรงใจ
"ไม่เป็นไร เดี่ยวพี่ช่วย มะลิมีกระเป๋าใบเดียวหรอ" ชายหนุ่มยิ้มและถามกลับอย่างสุขุม
"ค่ะ "
......................................................
(ในรถ)
"ขอโทษทีนะมะลิ ที่พี่กับไยไหมมารับช้า " กล้าพูดและมองมะลิด้วยแววตาที่อ่อนโยน มะลิได้ยิ้มตอบโดยที่ไม่ได้ถามอะไรต่อ สำหรับเธอนั้น แค่พวกเขามารับตามนัดหมาย ก็ดีใจมากแล้ว
"แหมพี่กล้าพูดเพราะจังเลยนะ" ไยไหมอดแซวเพื่อนชายไม่ได้ที่มักจะพูดเพราะและอ่อนโยนกับมะลิเสมอ ทั้งสามเป็นเพื่อนกันตอนเรียนม.ปลาย โดยที่กล้ากับไยไหมนั้นบ้านไกล้กันและทั้งสองบ้านยังร่วมกันทำไร่และรีสร์อท ทั้งสองเลยสนิทกันและมักจะเทลาะกันอยู่เสมอ
"พี่ก็เป็นแบบนี้เป็นปรกติอยู่แล้ว "
ไยไหมได้แต่ทำหน้าล้อเลียนอีกฝ่าย จนชายหนุ่มนั้นส่ายหน้าหนี
"ว่าแต่ทำไมคนบ้านนั้นถึงปล่อยให้มะลิเป็นอิสละล่ะ " กล้าได้ถามขึ้น ไยไหมที่ได้ยินก็รีบตบไปที่ไหล่ของกล้าที่ถามอะไรแบบนี้
"คือ คุณหญิงบอกว่ามะลิชดใช้หนี้หมดแล้วค่ะ"
"ออ แบบนี้เอง คุณหญิงนี่ บทจะปล่อย ก็ปล่อยง่ายดีนะ"
"มะลิไม่มีใคร ไม่รู้จักใคร เลยลองโทรหาเบอร์ที่ไยไหมเคยให้ไว้ โชคดีที่ไยไหมยังใช้อยู่" มะลิพูดด้วยแววตาที่เศร้า ไยไหมได้แต่จับมือเพื่อนเพื่อให้กำลังใจ
"ไม่เป็นไร มะลิมาอยู่กับเราที่นี่ มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ มาช่วยเราทำรีสร์อท มะลิเรียนเก่ง เราเชื่อว่ามะลิทำได้"
"จริงหรอ ไยไหมจะให้เราอยู่ที่นี่จริงหรอ"
"อือ "
"ขอบใจนะ มะลิสัญญา มะลิจะตั้งใจทำงาน จะไม่ทำตัวให้เป็นภาระของไยไหมเลย"
มะลิขอบคุณไยไหมด้วยสีหน้าแววตาที่มีความสุข กล้าได้แต่มองมะลิจนเผลอยิ้มออกมา สายตาที่กล้ามองมะลินั้น มันไม่ใช่สายตาที่มองเพื่อน
...........,,,(สองเดือนผ่านไป)...................
มะลิได้มาทำงานที่รีสร์อท จากหญิงสาววัยรุ่นที่มีความโศกเศร้าจนส่งผ่านออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่เคยยิ้มแย้ม ในตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสุขหน้าตาที่ยิ้มแย้ม จากคนที่ไม่เคยมีความมั่นใจ ในตอนนี้กลับกลายเป็นหัวหน้าที่คอยดูแลลูกน้องและโชว์ศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่ จนทำให้รีสร์อทและสวนของครอบครัวกล้าและไยไหมไปได้ดีอย่างรวดเร็ว ทั้งสามร่วมด้วยช่วยกันทำงานด้วยกันอย่างเป็นระบบ จนทำให้เริ่มมีชื่อเสียง ทุกอย่างนั้นไปได้ดีอย่างก้าวกระโดด กล้ากับไยไหมมักจะพามะลิไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา เพราะมะลินั้นบ้างานเป็นที่สุด กล้าเริ่มลุกจีบมะลิอย่างชัดเจนขึ้น แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ตัวเลย
"หัดดื่มบ้างสิมะลิ" ไยไหมได้ส่งซิกไปยังแก้วที่วางอยู่ตรงหน้ามะลิ
"ไม่เอา ขมจะตาย" มะลิตอบกลับด้วยความซื่อ ถึงเธอจะเป็นหญิงเก่ง แต่เรื่องของมึนเมานั้นเธอเข้าไม่ถึงจริงๆ
"พีกล้าไปไหนของเค้านะ "
"ทำไม คิดถึงหรอ" มะลิที่มองออกว่าเพื่อนสนิทของตนนั้นแอบมีใจให้กลับกล้า ถึงจะทำท่าทีรำคาญและชอบชวนเทลาะ แต่เธอนั้นรู้ใจเพื่อนตัวเองดี
"บ้าหรอ" ไยไหมรีบยกเหล้าขึ้นก่อนจะกระดกจนหมดแก้วแก้เขิน
.......................……............................
"ต้องเป็นพี่กล้าที่มารับและคอยพาเราสองคนกลับ ขอบคุณนะคะ" มะลิได้ขอบคุณพี่กล้าพี่ชายที่เธอนั้นเคารพ กล้าแบกไยไหมขึ้นหลังระหว่างเดินเข้าบ้าน เพราะทั้งสามแอบไปเที่ยวจนดึก เลยไม่กล้าที่จะขับรถเข้ามาในบ้าน กล้าเลยไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากแบกคนเมาเข้าบ้านให้ได้เงียบที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น กล้ากลับดีใจ ที่ระหว่างทางเดินเขาได้คุยกับมะลิหญิงสาวที่เขาแอบรักและพยายามพิชิตใจเธออยู่ถึงแม้เหมือนเธอนั้นจะมีกำแพงปิดกั้น แต่เขานั้นก็จะพยายาม
"ไม่เป็นไร พี่เต็มใจ พี่ชอบเวลาที่ได้อยู่กับมะลินะ"
"พี่กล้า" มะลิที่ได้ยินแบบนั้น เธอรู้ความหมายของเขาดี แต่ในตอนนี้ เธอยังไม่พร้อม
"ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น พี่แค่อยากให้เรารู้ไว้ "
"แต่มะลิ เคารพพี่กล้าเหมือนพี่ชายคนนึง ไม่ได้..."
"อย่าพึ่งรีบปฏิเสธพี่สิ ให้เวลาพี่หน่อย ให้พี่กับมะลิเราได้รู้จักกันมากขึ้น ถึงตอนนั้นค่อยปฏิเสธพี่ก็ไม่สาย"
มะลิไม่ได้ตอบกลับอะไร เธอนั้นไม่กล้าเปิดใจให้ใครในตอนนี้ เพราะความรักครั้งเก่า มันยังคงฝังใจเธออยู่
......................................................
(เช้าวันถัดมา)
มะลิตื่นแต่เช้าเหมือนทุกๆวัน ถึงแม้เธอนั้นจะไปเที่ยวจนดึกหรือทำงานจนดึกแค่ไหน แต่เธอมักจะตื่นเช้าและเข้างานก่อนคนงานอยู่เสมอ สำหรับคนอื่นอาจจะดูว่าเธอนั้นหักโหม แต่สำหรับเธอนั้นมันเป็นเรื่องปรกติ ก่อนที่เธอจะมาที่นี่ เธอทำงานเป็นคนใช้ เธอจะต้องตื่นไปตลาดตั้งแต่ตีสาม บางทีกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปสี่ห้าทุ่ม เพราะคุณหญิงมักจะแกล้งใช้เธอทำงานจนดึกอยูเป็นประจำ
"เข้าไร่แต่เช้าเลยนะ" ไยไหมที่ยังมีสีหน้าเมาค้างได้ทักทายเพื่อนสาวในขณะที่ตัวเองยังหาวอยู่
"วันนี้เราต้องไปดูรีสร์อทพี่กล้าด้วย เลยต้องรีบเครียงาน แล้วสั่งงานคนงานไว้ "
"แกไปคนเดียวได้ไหม ขอฉันงีบอีกนิด"
"เดี่ยวพ่อกับแม่แกจับได้ แกจะโดนทำโทษให้ไปเก็บขี้วัวขี้ม้าในไร่เอานะ"
"มะลิ!!!!!!!"
ระหว่างที่พูดแซวเพื่อสาว มะลิได้วูบจนเป็นลมไป ไยไหมเลยต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล
มะลิได้ลืมตาขึ้นก่อนมองไปรอบๆที่เต็มไปด้วยเตียง เธอรู้และเข้าใจได้ทันทีว่าตอนนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาล
"สงสัยนอนน้อย" มะลิได้บ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะพยายามลุกขึ้นจากเตียง พยาบาลเลยรีบวิ่งเข้ามาประคองอย่างร้อนรน
"อย่าพึ่งขยับค่ะคนไข้ นอนพักก่อนนะคะ เดี่ยวพยาบาลไปตามญาติให้"
"ค่ะ" มะลิได้แต่ตอบตกลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ผ่านไปไม่ถึงนาที ไยไหมได้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดีเท่าไหร่
"มะลิแกเป็นไงบ้าง"
"ดีขึ้นแล้ว ขอบใจแกมากนะ"
"อือ วันหลังก็อย่าหักโหมอีกล่ะ"
"ไม่หรอก ฉันแค่นอนน้อย"
"คือตอนนี้แกต้องพักผ่อนเยอะๆแล้วนะ "
"จร้าา ไม่เห็นต้องทำหน้าแบบนั้นเลย แค่พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนสักหน่อยเดี่ยวก็ดีขึ้น"
"คือหมอบอกว่าแกกำลังท้อง"
"ห๊ะ อะไรนะ!!!!!"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเพื่อนสาว เหมือนโลกทั้งใบของเธอได้หยุดหมุน เธอนั้นไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าตัวเองจะโชคร้ายซ้ำซ้อนแบบนี้
"ท้อง!!"
.................................................,