ทศกัณฐ์ หวงความโสด และถูกเข้าใจผิดคิดว่าชอบผู้ชายด้วยกัน จันทร์จิราถูกไหว้วานให้ทำยังไงก็ได้ให้หลานชายของเรืองศักดิ์กลับมาเป็นชายชาตรีอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้ลยว่ามันเป็นแผน
ทศกัณฐ์ หวงความโสด และถูกเข้าใจผิดคิดว่าชอบผู้ชายด้วยกัน จันทร์จิราถูกไหว้วานให้ทำยังไงก็ได้ให้หลานชายของเรืองศักดิ์กลับมาเป็นชายชาตรีอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้ลยว่ามันเป็นแผน
กลางเมืองหลวงที่มากมายไปด้วยผู้คนและรถ สวนทางกันไปมา ถึงแม้จะเป็นตอนเช้าแต่ในฤดูร้อนเช่นนี้ หญิงสาวรูปร่างสมสัดส่วนสวมชุดพนักงานเดินออกจากคอนโดมิเนียม ก้าวเท้าตามเส้นทางระหว่างคอยเพื่อนสนิทมาหาทุกเช้า
ดวงตากลมโตมองผ่านกรอบแว่นบางก่อนเบิกตากว้างตกใจรีบวิ่งเข้าไปพยุงร่างชายชราขึ้นจากพื้น แม่ค้าใกล้ ๆ พากันเดินออกมาดูพร้อมช่วยเหลือหยิบเก้าอี้มาให้นั่ง
“คุณปู่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
หญิงสาวถามด้วยความตื่นตกใจ เพราะเธอเพิ่งเห็นรถมอเตอร์ไซค์วิ่งบนฟุตบาทเฉี่ยวคนแก่ล้มต่อหน้าต่อตา เหตุการณ์ในครั้งนี้มีหลายคนที่เห็น และต่างต่อว่ารถคันนั้นที่ขึ้นมาวิ่งบนทางเท้า
“ปู่เคล็ดสะโพก อูยยย”
“จีนเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ทัตตกรถามพร้อมเดินมาช่วยพยุงร่างชายชราก่อนจะยื่นถุงขนมส่งให้เธอถือ
“มีมอไซค์วิ่งบนฟุตบาทเฉียวคุณปู่ล้ม แกพาไปส่งโรงพยาบาลได้ไหม” เธอหันบอกเพื่อนชายสองคิ้วขมวดยุ่งแล้วก้มมองคนร้องโอ๊ยบนพื้น
“ได้สิ คุณลุงจำเบอร์ติดต่อลูกหรือหลานได้ไหมครับ”
“ปู่มีหลานชายอยู่แต่เขาคงทำงาน ถ้าไม่รบกวนพวกหนูเกิน ไปส่งปู่ที่โรงพยาบาลก็ได้” อีกฝ่ายขอร้องสีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเม็ดเหงื่อเต็มหน้าผากแสดงชัดว่าเริ่มไม่ไหวแล้ว
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ” ทัตตกรพยุงอีกฝ่ายไปยังวินมอเตอร์ไซค์ที่อาสาพาไปส่งและช่วยตั้งแต่แรก หลังจัดการพาคุณปู่ขึ้นรถได้ เธอก็เดินไปหาเพื่อนพร้อมหมวกกันน็อค
“จะไปด้วยเหรอ” ทัตตกรถามย้ำพร้อมมองหน้าเธอ
“อื้อ ให้เราไปด้วยนะ” เธอไม่พูดเปล่ารีบสวมหมวกแล้วขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายให้สัญญาณออกรถ
หลังมาส่งโรงพยาบาลให้คุณหมอตรวจดูอาการ แจ้งว่าสะโพกเคล็ดให้รับยากลับบ้านเลยก็ได้ หรือจะอยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนก็ได้เช่นกัน แต่ต้องแจ้งทางญาติให้มาเฝ้า เธอจึงขอรับยาแล้วให้เพื่อนสนิทโทรหาญาติให้มาแทน
“แฟนหนูเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ เป็นเพื่อนกัน” จันทร์จิรายกมือปฏิเสธ
“นี่ถ้าหลานชายปู่ชอบผู้หญิง ป่านนี้คงมีเหลนให้ปู่ไปนานแล้ว” เรืองศักดิ์พูดเสียงเศร้าหันออกไปมองทางอื่นพร้อมถอนหายใจ
“คุณปู่มีหลานคนเดียวเหรอคะ”
“ลูกพี่ลูกน้องเขามีอีกสองคน แต่ละคนยังไม่มีใครแต่งงานเลย ยิ่งคนโตสุดมันยิ่งไม่ชอบผู้หญิงปู่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ปู่อยากอุ้มเหลนก่อนตาย”
จันทร์จิราเห็นใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากความเพราะเป็นเรื่องในครอบครัว และเข้าใจว่าคนแก่มักยอมรับว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง ไม่ได้ปรับเปลี่ยนความคิดตามยุคสมัย
“ยาครับ ให้ผมไปส่งที่ไหนไหม” ทัตตกรเดินมาพร้อมกับถูกยาส่งให้อีกฝ่ายถือ
“ไม่เป็นไร ฉันโทรหาหลานชายให้มารับแล้ว ว่าแต่แม่หนูชื่ออะไรล่ะ”
“ชื่อจีนค่ะ คนนี้ชื่อบอมค่ะ” จันทร์จิราแนะนำตัวเองคร่าว ๆ ให้รู้จักรวมถึงงานที่ทำด้วย
“ขอบใจพวกเธอมากนะ ว่าแต่ขอเบอร์โทรได้ไหม เผื่อว่าครั้งหน้าฉันจะได้ตอบแทนถูก”
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราเต็มใจช่วย” จันทร์จิราทิ้งเบอร์โทรให้ ถึงแม้จะปฏิเสธไม่อยากได้ของตอบแทนหรืออะไรก็ตาม แต่ก็ทนลูกตื้อไม่ไหว ก่อนจะแยกจากอีกฝ่ายที่หน้าโรงพยาบาล
จันทร์จิรา หญิงสาววัยยี่สิบสองปีจากบ้านเด็กกำพร้า ไม่มีทั้งพ่อแม่ และไม่คิดออกตามหา เมื่อพวกเขาไม่ได้ต้องการเธอเข้าไปอยู่ในชีวิตแล้ว เธอก็เลือกเส้นทาง หลังสอบชิงทุนเรียนต่อได้สำเร็จ ก็ย้ายตัวเองออกมาอยู่ข้างนอก ทำงานหนักส่งตัวเองเรียนและเก็บออมส่งให้ทางมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้าที่เคยชุบเลี้ยง เมื่อตอนเป็นเด็กตอบแทนบุญคุณ ก่อนจะหันมาเก็บเงินเพื่อทำตามความฝันที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง
“วันนี้จะไปทำงานพาร์ทไทม์ต่อไหม” ทัตตกรมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ แล้วหันไปมองหน้าหญิงสาว ทุกเย็นเจ้าหล่อนจะออกไปทำงานเสริมหารายได้เพิ่มทั้งที่งานประจำนั้นเงินเดือนดีอยู่แล้ว อีกอย่างเธอตัวคนเดียวค่าใช้จ่ายไม่ได้หนักมากนัก
“ร้านหยุดปรับปรุงหนึ่งอาทิตย์ ฉันว่าจะหางานใหม่ทำระหว่างรอ”
“ทำงานอะไรเยอะแยะ ถ้าเงินไม่พอใช้เอาของฉันไปก็ได้”
“ไม่เอา แกก็ทำงานหาเงิน เหนื่อยกว่าจะได้แต่ละบาท และฉันก็มีเงินเก็บอยู่” จันทร์จิราบอก ความจริงที่เธออยากทำงานเพิ่มนั้นเพราะอยากซื้อบ้านที่เป็นชื่อของตัวเองไว้สักหลังเท่านั้น ดีกว่าเสียเงินเช่าคอนโดอยู่
“คิดอะไรอยู่”
“ปิดบังไม่ได้เลยสินะ” เธอก้มดูดน้ำผลไม้ปั่น “ฉันอยากเก็บเงินซื้อบ้าน”
“ดีเลย ขาดอีกเท่าไหร่ล่ะ”
“ถามแบบนี้ทำไม ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง” เธอมองหน้าเพื่อนพร้อมทำคิ้วยุ่ง
“ก็ไม่ได้ให้ฟรี ฉันให้เธอยืม แล้วก็มาผ่อนไง ตกลงขาดอีกเท่าไหร่”
“ก็เยอะแหละ” หญิงสาวก้มหน้าลง พอนึกถึงเงินที่เก็บได้รวมสองปีมานี้ก็สามารถวางเงินมัดจำได้ แต่มันเป็นเงินก้อนใหญ่เวลาจะหยิบมาใช้ก็แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน
“โอเค ฉันให้ยืม แล้วเล็งที่ไหนไว้บ้าง”
จันทร์จิราส่ายหน้า “ยังเลย”
“อยากได้แบบไหน”
“ก็ประมาณ...” จันทร์จิราพูดรายละเอียดเรื่องบ้านที่อยากได้ให้ทัตตกรฟัง เธอไม่ได้ต้องการบ้านหลังใหญ่ เพราะอยู่คนเดียวกลัวจะเหงาด้วยซ้ำ พอพูดแบบที่อยากได้ ทัตตกรก็เสนอโครงการหนึ่งที่เขาขับรถผ่านประจำก่อนจะนัดไปดูบ้านกันเย็นวันนั้นเลย
ด้วยความไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการซื้อบ้านในโครงการเลย ทัตตกรอาสาหาวิศวกรมาตรวจบ้านให้ จัดการทุกอย่างเหมือนเป็นบ้านตัวเอง ก่อนจะกำหนดวันทำสัญญาอีกครั้ง
ทว่าวันนัดส่งมอบกลับกลายเป็นว่าบ้านที่เธอลงทุนจ้างให้คนตรวจสอบและแก้ไขถูกขายให้คนอื่นไปแล้วในราคาที่สูงกว่า จากสีหน้าที่ดีใจตอนแรกเปลี่ยนไปทันทีพร้อมความโกรธเข้ามาแทนที่
“บ้านที่คุณจะเข้ามาจองพอดีว่ามีคนซื้อตัดหน้าไปแล้วครับ” เจ้าหน้าที่ที่ดูแลโครงการบ้านมาพร้อมกับอีกคนเดินเข้ามายกมือไหว้ยื่นกระเช้าของบำรุงและช่อดอกไม้แทนคำขอโทษ
พอได้ยินว่าบ้านถูกขายไปแล้ว ความดีใจที่มีบ้านหลังแรกก็ล่วงติดลบทันทีและแทนที่ด้วยความโกรธ แต่ก็เอาเรื่องไม่ได้เพราะบ้านถูกขายไปแล้ว
“ได้ไง พวกเรามาดูก่อน ทำไมคุณทำแบบนี้” ทัตตกรโมโหต่อว่าอีกฝ่ายที่ไร้จรรยาบรรณเสียงดัง
“เอ่อ คือพวกผมต้องขอโทษด้วยนะครับ” เจ้าหน้าที่คนนั้นโค้งกายขอโทษขอโพย และยังยืนยันไม่สามารถส่งมอบบ้านให้ได้ในวันนี้เสนอให้ไปดูหลังอื่นแทน
จันทร์จิราที่น้ำตาคลอทั้งเสียใจและโกรธ ไม่คิดว่าประสบการณ์การซื้อบ้านครั้งแรกจะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ พอได้คำขอโทษจากอีกฝ่ายแบบลวก ๆ และไม่มีการชดเชยอะไรให้มีเพียงช่อดอกไม้กับกระเช้าที่ไม่สามารถทนแทนได้ จึงพากันกลับ แต่ยังไม่ได้ไปไหนเสียงหนึ่งเอ่ยทักขึ้น
“เอ้า พวกเธอสองคนมาทำอะไรกันที่นี่เหรอ”
พอหันกลับไปมองก็เจอเข้ากับเรืองศักดิ์เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายอีกคนที่เดินเลี่ยงไปทางอื่นแทน
“คุณปู่สวัสดีครับ พวกเรามาดูบ้านที่จอง แต่เจ้าหน้าที่บอกขายให้คนอื่นไปแล้ว” ทัตตกรบอกแล้วหันมองหน้าเจ้าหน้าที่พวกนั้น ก่อนที่พวกเขาจะเดินออกไป
“กลับกันเถอะ มันคงไม่ใช่บ้านฉัน” จันทร์จิรากระตุกชายเสื้อเพื่อนบอกเสียงโรยราอย่างหมดใจ ใบหน้าเศร้าหม่นหมองน่าสงสาร
ทัตตกรพยักหน้ารับ กำลังจะพาไปที่รถแต่ถูกเรืองศักดิ์ห้ามไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยว ๆ ปู่มีอยู่ที่หนึ่ง ทำเลดีมาก หนูจีนต้องชอบแน่ ๆ สนใจจะไปดูไหมล่ะ ปู่รู้จักเจ้าของโครงการเคยไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ จะขอให้เขาลดราคาพิเศษให้”
สองหนุ่มสาวหันมองหน้ากัน
“เอาไง อยากไปดูไหม” ทัตตกรถามย้ำ
“อืม ไหน ๆ ก็มาแล้ว ไปดูหน่อยก็ได้” เธอบอกอย่างสิ้นแรง
“ซื้อบ้านสร้างเรือนหอเหรอ”
คำถามนั้นทำให้คนเศร้าอยู่เบิกตากว้างหายใจสะดุดรีบปฏิเสธเสียงหลง
“แค่ก ไม่ใช่ค่ะ พวกเราไม่ได้เป็นแฟนกัน จีนอยากได้บ้านเป็นของตัวเองดีกว่าไปเช่าคอนโดอยู่ค่ะ บอมเลยอาสาพามาดู วันนี้นัดทำสัญญากันแต่บ้านถูกขายตัดหน้าไปแล้วค่ะ”
เรืองศักดิ์ยิ้มแย้มพยักหน้าเดินไปขึ้นรถตัวเองให้ทั้งสองขับตามตนไป
หากคุณเชื่อเรื่องความบังเอิญ คุณก็คงเชื่อเรื่อง พรหมลิขิต เช่นกัน ทิศเหนือสะดุดรักแรกพบ และเฝ้ารอคอยการเจอกับเธออีกครั้งและสัญญากับตัวเองจะไม่มีวันปล่อยเธอให้หลุดมือไป
หนี้สินที่พ่อหยิบยืมเอามาลงทุนกับไร่ถึงเวลาที่ต้องส่งทั้งเงินต้นและดอก แต่โชคร้ายที่ปีนั้นขาดทุน ด้วยความรักลูกไม่อยากให้รู้เรื่องนี้จึงปิดไว้ แต่ความลับไม่มีในโลก! อวัสดาที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ ตั้งใจกลับมาช่วยสืบทอดกิจการของที่บ้านต้องเจอเข้ากับเรื่องไม่คาดคิด เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้ภายในหนึ่งเดือน ด้วยจำนวนเงินมากมายทำให้เธอหมดหนทางเลือก จำใจต้องไปคุยกับเจ้าหนี้ให้รู้เรื่อง
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ลูหว่านแต่งงานอย่างลับๆ มาสามปีแล้วและไม่เคยเห็นหน้าสามีมาก่อนเลย แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รับในที่สุดกลับเป็นข้อตกลงารกย่าและข่าวที่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อตามจีบสาวรักในใจของเขา ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาและตัดสินใจหย่าร้าง หลังจากนั้น ลู่หว่านก็มุ่งหน้าที่พัฒนาในตัว โดยมีตัวตนหลายตัวตน เป็นหมอเทวดา สายลับระดับสูง แฮ็กเกอร์ชั้นนำ นักออกแบบชื่อดัง นักแข่งรถ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หลังจากเปิดเผยตัวตนมากมายของลู่หว่าน อดีตสามีของเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ชายคนนั้นร้องขอว่า "หว่านหว่าน ให้โอกาสผมอีกครั้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของผมเป็นของคุณ และชีวิตของผมก็มอบให้คุณด้วย"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด