“จะทำอีกเหรอ ไหนว่าจะอาบน้ำไง” “ช่วงนี้ฤดูหนาว ไม่อาบน้ำก็ไม่เหม็นหรอก” เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มหล่อเหลาต้องการเพื่อนรักของน้องสาว แผนการรักหื่น ซาบซ่านจึงอุบัติขึ้น เนื้อหาในเรื่องเน้นความหื่นเป็นหลัก พิจารณาก่อนกดซื้อเพราะคุณอาจพลาดความมันส์.....
“แกว่าไงนะ!” วารีถามเพื่อนรักเสียงดัง ไม่สนว่าคนในร้านกาแฟจะหันมองหรือไม่
“เบาๆ สิ แกจะเสียงดังทำไมล่ะ” มะยมเอ็ดเพื่อนสาว เมื่อลูกค้าโต๊ะอื่นหันมอง
ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน เพราะเรียนที่เดียวกันตั้งแต่ม.ปลายจนจบปริญญาตรี ทั้งคู่เดินทางไปมาหาสู่กันยิ่งทำให้สนิทสนมมาก
“แค่จะให้ไปออกเดตแทนวันเดียวเอง”
“เองบ้านแกสิ” วารีต่อว่า “จะให้ฉันไปออกเดตแทนแกเนี่ยนะ ฉันทำไม่ได้หรอก”
คบผู้ชายสักคนยังไม่เคยเลย แต่จะให้ไปออกเดต กินเที่ยวกับผู้ชายสองต่อสองเธอคงทำไม่ได้แน่ ยิ่งได้รู้ว่าเขาเป็นใครเธอก็ไม่อยากเข้าใกล้
“หรือแกกลัวอดใจไม่ไหวแอบรักพี่อาชา” เพื่อนแซ็วเมื่อเห็นอาการอีกฝ่าย ทั้งไม่กล้าสบตาและแก้มแดงอีก
“บ้า! ใครจะแอบรักคนแบบนั้น” วารีก้มหน้าหลบสายตาเพื่อน หยิบไอซ์ กรีนทีขึ้นมาจิบ กลบเกลี่ยอาการประหม่าของตน
“อ้อ เหรอ” มะยมมองหน้าเพื่อนอย่างจับผิด “แล้วแกไปถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้สานสัมพันธ์ล่ะ”
“ไม่!”
“น่านะ แค่วันเดียวเอง แกยังรองานอยู่ไม่ใช่เหรอ”
ทั้งสองเรียนจบมาได้เดือนเศษแต่ก็ยังไม่ได้สมัครงานที่ไหน เธอเองก็ว่างๆ รองานที่ลงสมัครให้เรียกตัวสัมภาษณ์ แต่ก็นานแล้วคงหมดหวัง
“แล้วทำไมแกไม่ไปเองล่ะ ให้ไปด้วยกันก็ได้เหมือนทุกทีไง”
“แกก็รู้ว่าฉันคบกับพี่ภัทรเพื่อนพี่อาชาอยู่ ฉันไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ”
“งั้นก็เลิกกับเพื่อนเขาสิ”
“บ้า! ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก” มะยมร้อง ทำตาโตกับคำพูดของเพื่อน “แค่วันเดียวเอง แล้วฉันจะไม่ขออะไรแกเลย นะ”
วารีกรอกตามองหน้าเพื่อน ใจอยากทำความรู้จักกับอาชา แต่ใจผิดชอบชั่วดีก็ตีรวนขึ้นมา หากเขารู้ความจริงจะโกรธมากไหมนะ
อาชาเป็นเจ้าของไร่ชาเขียวในที่เชียงราย บ่อยครั้งเพื่อนเธอมักเปรยให้ฟังบ่อย ๆ ว่าหล่อเหลา และรวยมากเพียงใด ล่าสุดเอารูปมาให้ และเป็นอย่างที่มะยมว่า เขาดูดี แบบคาวบอย มีเสน่ห์ดึงดูดใจเธอมาก และนั่นเป็นสาเหตุที่เธอชอบฟังเพื่อนเล่าถึงเขา
มะยมมักถูกบังคับให้ไปออกเดตกับผู้ชายที่ทางบ้านหมายตาไว้ แต่เธอนั้นมีคนรักอยู่แล้วซึ่งเรื่องนี้เธอเองก็รู้ดีทุกครั้งที่ไปเดต มักไปด้วยกันเสมอ เรียกง่ายๆ ไม้กันหมาดีๆ นี่เอง แต่เธอก็ไม่สนเพราะได้ทานอาหารอร่อยๆ ดีเสียอีก ประหยัดเงินตั้งเยอะแน่ะ
“แต่ฉัน...”
“อย่ามาโกหกว่าไม่อยากไป ฉันรู้นะ แต่ก่อนแกไม่ได้ชอบไอซ์ กรีนทีสักนิด ตั้งแต่ที่ฉันเล่าเรื่องพี่อาชาให้ฟัง แกก็หันมาดื่มชาเขียวเนี่ย”
“รู้ดีนะยะ”
“แน่นอนสิ เราเป็นเพื่อนสนิทกันนี่”
“ก็ได้ ฉันยอมไปออกเดตแทนให้ แต่คราวนี้ให้ทำล่มใช่ไหม”
มะยมไม่ได้พยักหน้าหรือตอบรับ เธอมองเพื่อนสาวนิ่งๆ ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้เพื่อนเธอกับอาชาตกลงปลงใจรักกันทีเถอะ
วารีเห็นเพื่อนไม่ตอบก็พอเดาได้ว่าต้องทำอย่างไร จะมีความสุขกับคนที่แอบชอบทั้งทีกลับต้องทำให้พังพินาศ
“แล้วเดตวันไหน”
“เรื่องนั้น” มะยมทำเสียงอ่อย “แกต้องเดินทางไปที่เชียงรายน่ะ พี่อาชาชวนไปเดตที่ไร่เขาวันมะรืนนี้ แต่แกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันเตรียมตั๋วเครื่องบินให้แล้ว พรุ่งนี้เดินทางได้เลย”
ว่าเสร็จก็หยิบตั๋วเครื่องบินที่ซื้อไว้ส่งให้เพื่อน
“ทำไมกะทันหันนักล่ะ แล้วต้องไปไกลแบบนั้นฉันว่าคงไม่ใช่แค่วันเดียวหรอก” วารีมองหน้าเพื่อนอย่างจับผิด
“จริงๆ นัดเดต หนึ่งวัน นอกนั้นถ้าแกจะอยู่ก็ตามใจหรือจะกลับก็ได้” มะยมบอกเพื่อนเสียงอ่อย
“งั้นฉันต้องขอแม่ก่อนถ้าได้ไปหลายวัน กลัวแม่เป็นห่วง” แต่คงไม่นานหรอกมั้ง แค่ทำให้อาชาเลิกสนใจเพื่อนก็พอสินะ ลึกๆ แล้วเธอก็อยากสานสัมพันธ์ต่อ แต่คงต้องรอดูสถานการณ์ก่อน
“ฉันขอให้แล้ว แกไม่ต้องห่วง” มะยมพูดดักทาง
“ขอว่าไง”
อะไรจะเตรียมพร้อมแบบนี้
“ก็บอกว่าจะพาแกไปเที่ยวเชียงรายไม่มีกำหนดกลับบ้าน แม่แกก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วยนะ ยอมให้ไปเห็นบอกว่าจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดกับแม่ฉันด้วย” อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ทั้งสองสนิทกันเพราะครอบครัวของทั้งคู่รู้จักกันดี แม่ของพวกเธอสายธรรมะเหมือนกันจึงไม่มีปัญหาหากเธอจะพาไปเที่ยวที่ไหน
“เธอนี่สตอเบอรี่เก่งจังนะ”
“เอาน่า ฉันเคลียร์ทางให้แล้วทีนี้แกก็ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม”
“ใครจะกล้ามี พร้อมซะขนาดนี้” เธอแซ็ว ก่อนจะหันไปสนใจไอซ์ กรีนทรีตรงหน้าต่อ วารีรับฟังคำเล่าของเพื่อนที่มีต่ออาชา ผู้ชายที่อยากเจอหน้าสักครั้ง จนกระทั่งได้เวลากลับบ้าน ทั้งสองแยกย้ายกันไปเพราะมะยมมีนัดต่อ
หากคุณเชื่อเรื่องความบังเอิญ คุณก็คงเชื่อเรื่อง พรหมลิขิต เช่นกัน ทิศเหนือสะดุดรักแรกพบ และเฝ้ารอคอยการเจอกับเธออีกครั้งและสัญญากับตัวเองจะไม่มีวันปล่อยเธอให้หลุดมือไป
หนี้สินที่พ่อหยิบยืมเอามาลงทุนกับไร่ถึงเวลาที่ต้องส่งทั้งเงินต้นและดอก แต่โชคร้ายที่ปีนั้นขาดทุน ด้วยความรักลูกไม่อยากให้รู้เรื่องนี้จึงปิดไว้ แต่ความลับไม่มีในโลก! อวัสดาที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ ตั้งใจกลับมาช่วยสืบทอดกิจการของที่บ้านต้องเจอเข้ากับเรื่องไม่คาดคิด เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้ภายในหนึ่งเดือน ด้วยจำนวนเงินมากมายทำให้เธอหมดหนทางเลือก จำใจต้องไปคุยกับเจ้าหนี้ให้รู้เรื่อง
ทุกคนมีความชื่นชอบเป็นของตัวเอง แต่เธอที่ชอบและมโนหยามใจพิมพ์ลงเป็นเรื่องราวจนเกิดความเดือดร้อน แต่รสสุคนธ์ก็ได้ชดใช้ให้เขาไปแล้ว ทว่าเรื่องราวไม่จบเมื่อธราธิปรู้ว่าเจ้าหล่อนหอบลูกในท้องหนี
ทศกัณฐ์ หวงความโสด และถูกเข้าใจผิดคิดว่าชอบผู้ชายด้วยกัน จันทร์จิราถูกไหว้วานให้ทำยังไงก็ได้ให้หลานชายของเรืองศักดิ์กลับมาเป็นชายชาตรีอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้ลยว่ามันเป็นแผน
เมื่ออยู่ๆ เจ้านายที่สาวๆ หมายปองปรากฏกายต่อหน้าแถมยังให้ไปทำงานใกล้ชิด ตำแหน่ง ช่างเสื้อส่วนตัว แต่หน้าที่ของเธอนั่นเหมือนสาวใช้ส่วนตัวเสียนี่สิ แถมยังมีหน้าที่พิเศษที่ทั้งสุขปนซาบซ่านรออยู่อีกด้วย.... “ก็ได้ ฉันยอมหยุด ออกไปซะ แต่ถ้าอยากให้ฉันคลายความทรมานให้ก็ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด”
“ทำอะไรกัน” มัลลิกาได้ยินเสียงลูอิสก็พยายามลุกขึ้นเดินไปหาเขา กำเสื้อเชิ้ตไว้ทั้งสองมือ “กลับมาแล้วเหรอคะ” “คุณดื่มเหรอ” ลูอิสก้มลงดมกลิ่นใกล้ ๆ เธอส่ายหน้าหันไปชี้ทางโดมินิกและอลิส “คุณหมอบอกเป็นยาบำรุงร่างกายค่ะ” ลูอิสมองหน้าเพื่อน คว้าเอวคอดไว้เมื่อเจ้าหล่อนทำท่าจะเซล้มไปทางอื่นให้ขยับมาพิงกายตัว แต่คนเมาดื้อยันมือออกห่างแถมยังใจกล้ากำเสื้อเขาไว้ “จริงไหมคะ” “เรื่องอะไรครับ” ลูอิสควงหญิงสาวไปทางโซฟารั้งเธอให้นั่งบนตัก มัลลิกาแกะมือที่จับเอวขยับขึ้นนั่งคร่อมสอดแขนคล้องลำคอมองหน้าเขาอย่างเรื่อง โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอกำลังทำให้เก๊กขรึมหลุดภาพลักษณ์ “ก็คุณโดมินิกเล่าว่าคุณแอบซุกกิ๊กไว้ที่บริษัท ที่ให้พลอยอยู่แต่บ้านเพราะตัวเองจะได้มีความสุขส่วนพลอยก็นั่งโง่ ๆ ทำกับข้าวรอสามี รอนอนพร้อมคุณเท่านั้น” เธอชี้ไปทางคนเล่าที่ยกมือขึ้นฉับ ลูอิสมองหน้าเพื่อนอีกฝ่ายรีบลุกขึ้นขยับถอยห่าง “พวกเรากลับก่อนนะ” อลิสลุกขึ้นตามแรงสะกิดส่งยิ้ม “กลับแล้วเหยอ” คนเมาหันไปถามเสียงยาน “แล้วอลิสมาหาใหม่นะคะ” “ค่ะ บ๊ายบาย” มัลลิกาที่เมากรึ่มพยักหน้าโบกมือให้ ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าสามีอย่างเอาเรื่อง ลูอิสมองอาการขู่เป็นลูกแมวแล้วยิ้ม ยกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มความเหนื่อยจากการทำงานถูกเธอช่วยชำระล้างอย่างง่ายดายอยู่ทุกวัน เสียงเตือนข้อความเข้า “อลิสบอกว่าวันนี้เหมาะที่สุดสำหรับการปั๊มลูก ฉันเอาใจช่วยนายนะ” มัลลิกาแย่งมือถือเขาแล้ววางไว้ข้างกาย กุมหน้าคมคายให้หันมาสนใจ “จริงไหมคะ” “เรื่องไหน” ลูอิสถามเธอพร้อมกระเตงร่างหญิงสาวขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นตรงไปห้องนอน ทุกจังหวะการเดินมั่นคงหนักแน่น สายตาก็มองหน้าคนเมาแล้วยิ้มอารมณ์ดี ไม่ว่าจะมองอีกกี่ครั้ง มัลลิกาก็เป็นคนที่สามารถทำให้เขารู้สึกดีโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย “ที่ไม่ยอมให้พลอยไปทำงานเพราะจะได้มีความสุขกับพวกหล่อน” มัลลิกาว่าพรางทำแก้มป่องสอดสองแขนคล้องคอ ลูอิสยิ้มชอบใจที่ได้เห็นอาการคล้ายหึงหวงตนจากเจ้าหล่อน ประตูห้องถูกเปิดและปิดลงพร้อมสองกายเดินเข้ามาด้านใน สะโพกได้รูปถูกวางบนเตียงกายชายกำลังจะถอยออกห่างแต่ถูกแขนที่คล้องคอรั้งไว้ จนเขาต้องตอบเสียงหนักแน่น “ผมมีแค่คุณ”
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน