หากคุณเชื่อเรื่องความบังเอิญ คุณก็คงเชื่อเรื่อง พรหมลิขิต เช่นกัน ทิศเหนือสะดุดรักแรกพบ และเฝ้ารอคอยการเจอกับเธออีกครั้งและสัญญากับตัวเองจะไม่มีวันปล่อยเธอให้หลุดมือไป
หากคุณเชื่อเรื่องความบังเอิญ คุณก็คงเชื่อเรื่อง พรหมลิขิต เช่นกัน ทิศเหนือสะดุดรักแรกพบ และเฝ้ารอคอยการเจอกับเธออีกครั้งและสัญญากับตัวเองจะไม่มีวันปล่อยเธอให้หลุดมือไป
แรกพบสบสายตาผ่านฝนพร่ำ
คราสองรักหวนคืนเหมันต์โปรย
สายลมพัดกระทบผิวกาย สองเท้าเปลือยเปล่าเหยียบย้ำไปตามเม็ดทรายละเอียดปะทะสายน้ำทะเลซัดเข้าฝั่งก่อนจะย้อนกลับไป เผยให้เห็นเปลือกหอยเล็กที่โผล่พ้นมา ปูเสสวนพากันวิ่งไต่ลงทะเลเมื่อเจอคน
ริมฝีปากอมชมพูคลี่ยิ้มย่อตัวลงนั่งเก็บเปลือยหอยสีชมพูสวยขึ้นมาพิจารณา ก่อนจะหันไปมองแสงอาทิตย์ที่เริ่มสาดส่อง มือเล็กกระชับผ้าคลุมไหล่ ขยับลุกขึ้นเดินไปตามทางก่อนจะหยุดยืนหันหน้าเข้าหาทะเลกว้าง
“ทะเลสวยมากก” อลินดายกมือขึ้น มองเส้นขอบฟ้าสีสวย ไม่มีเค้าพายุร้ายในวันก่อน โชคดีที่เธอเดินทางมาถึงหลังพายุผ่านไปแม้ว่าคลื่นทะเลจะค่อนข้างแรงอยู่บ้าง
“ดีใจที่ชอบ” กวินทร์หยุดยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาว “เอ่อ อลิน เรา...เรามาเป็นแฟ...”
“เฮ้ย! เด็กตกน้ำ!” อลินดาร้องออกมาพร้อมชี้ไปต้นทาง ก่อนจะวิ่งไปในทะเลอย่างไม่คิดชีวิต เสียงร้องขอให้ช่วยเหลือดังต่อเนื่องพร้อมผู้คนที่เดินเรียบชายหาดพากันสนใจ บ้างก็วิ่งมาช่วยเหลือก่อนที่ครอบครัวเด็กจะตามมาดูแลต่อ
อลินดาเดินไปทางที่พักหลังอีกฝ่ายปลอดภัยแล้ว พร้อมรอยยิ้มดีใจประดับ
“อลิน”
“มีอะไรค่อยคุยกันนะ ฉันหนาวขอไปอาบน้ำก่อน ฮึย” ว่าพร้อมลูบแขนตัวเอง
“เอางั้นก็ได้”
อลินดาส่งยิ้มให้ก่อนเดินหลบเข้าห้องพัก กวินทร์เป็นเพื่อนสมัยเรียนและอีกฝ่ายพยายามตามจีบตลอดครึ่งปี จนกระทั่งวันนี้แหละที่เธอตั้งใจจะตอบรับความรู้สึกของเขา
แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างฝัน ท้องฟ้าที่สดใสสุขสงบเมื่อเช้า กลับกลายมีพายุโหมเข้ามาตอนเย็นแทน อลินดาแต่งชุดสวยมานั่งคอยกวินทร์ในร้านอาหารที่จองเอาไว้ เวลาผ่านไปจากนาที เปลี่ยนไปเป็นชั่วโมง ไร้ร่างอีกฝ่ายมาหา โทรหาก็ไม่รับ สีหน้าที่เปี้ยมไปด้วยความตื่นเต้นเปลี่ยนเป็นกังวล
เดินไปหาอีกฝ่ายที่ห้องแต่เห็นเขาพาผู้หญิงเข้าห้อง เท้าเล็กหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องเสียงประสานของชายหญิงที่ได้ยิน ทำให้เธอน้ำตาตก กลับไปร้องไห้ที่ห้องนอนเงียบ ๆ คนเดียว
“อลิน”
อลินดาหันกลับไปเจอกวินทร์เดินมาหา ร่องลอยแดงเป็นจ้ำตามลำคอไม่กี่จุดมันย้ำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอที่เฝ้าถามว่าทำไมถึงไม่รอ เสียใจที่รู้สึกดีกับเขาจนเกือบรัก และก็ต้องขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้มั่นคงกับเราเลย แค่อีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นที่เธอจะตอบรับความรู้สึก
“ว่าไง” เธอส่งยิ้มทักทายทว่าสายตานั้นกลับว่างเปล่า
“ขอโทษที่เมื่อคืนเราไม่ได้ไปกินข้าวด้วย”
“ไม่เป็นไร เราก็สั่งมากินที่ห้องเหมือนกัน”
เธอโกหก ก่อนจะหันมองทางอื่นแล้วถอนหายใจ รู้สึกอึดอัดไปทุกอย่างยิ่งเห็นว่าใครเดินเข้ามานั่นอีก
“เอ้า อลิน เธอก็มาด้วยเหรอ”
“นดามาเที่ยวเหรอ แล้วพักที่ไหน”
“อื้อ เราพักที่นี่ เพิ่งมาถึงเมื่อวาน ไปเล่นน้ำด้วยกันไหม” เนตรนดาเดินเข้ามาสอดแขนคล้องกับกวินทร์แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของชัดเจน
เธอมองทั้งคู่ เห็นกวินทร์แกะมือหล่อนออกจากการเกาะกุม
“ไม่ละ ครบกำหนดเช็คเอาท์แล้ว เราว่าจะกลับเลย กรจะอยู่ต่อก็ได้นะ”
“เราก็จะกลับด้วย เรามาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกัน” กวินทร์คว้าข้อมือเธอไว้ ส่งสายตาเสียใจ แต่ถูกเจ้าหล่อนแกะมือออก
เนตรนดาชักสีหน้าไม่พอใจดึงแขนเขาและเอ่ยปากชวน
“กรอยู่เที่ยวกับนิดาก่อนสิ ถ้าอลินรีบกลับก็ปล่อยเขาไปเถอะ จริงสิ ป๊ากับม๊านดาก็มาด้วยนะ บอกว่าอยากเจอกร”
“ไปนะ” เสียงพูดแผ่วเบาเอ่ยลา ก่อนจะหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นเดินไปเช็คเอาท์ออกจากที่นี่ ตลอดหกเดือนที่ถูกตามจีบตามเอาใจ เป็นใครก็ต้องรู้สึกดี แต่เวลาแค่นั้นไม่สามารถพิสูจน์ความซื่อสัตย์ และมั่นคงจากใจคนได้เลย คิดว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้คัดกรองคนออกไป
อลินดากลับไปทำงานและเริ่มรักษาระยะห่างกวินทร์มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นหลังกลับจากเที่ยวทะเลครั้งนั้น กวินทร์เปิดตัวคบหากับเนตรนดา และยังประกาศหมั้นกำหนดแต่งงานที่รวดเร็วจนเธอเองก็ตั้งรับไม่ทัน
“โชคดีแล้วแหละแก ที่หลุดพ้นคนแบบนั้นมาได้” เตยหอมเพื่อนสาวสองพูด
“ฉันแค่เสียใจที่เผลอรู้สึกดี”
“แกจำที่หมอดูทักได้ไหม กับเพื่อนคนนี้ไม่ใช่ แต่หลังจากนี้จะได้เจอคนนั้น และชาตินี้จะได้อยู่ด้วยกัน” เตยหอมเลียนเสียงหมอดูคนนั้นพูดเตือนความจำเธอ
ช่วงต้นปีเธอมีโอกาสไปทำงานกับเตยหอมและกวินทร์ และโดนหมอดูทักเรื่องเนื้อคู่ ตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่ถูกพระท่านทักเรื่องเดิมอีกครั้ง จนมาเกิดเรื่องขึ้นถึงไม่อยากเชื่อแต่ไม่อยากลบหลู่
“ฉันว่าหลังจากนี้แกจะได้เจอเขาอย่างแน่นอน เผลอ ๆ คืนนี้ตกผู้กลับห้องสักคนสิ” เตยหอมพูดทีเล่นทีจริง
“ฉันไม่ใช่แก”
“อุ๊ย! คนนั้นงานดีจัง”
หนี้สินที่พ่อหยิบยืมเอามาลงทุนกับไร่ถึงเวลาที่ต้องส่งทั้งเงินต้นและดอก แต่โชคร้ายที่ปีนั้นขาดทุน ด้วยความรักลูกไม่อยากให้รู้เรื่องนี้จึงปิดไว้ แต่ความลับไม่มีในโลก! อวัสดาที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ ตั้งใจกลับมาช่วยสืบทอดกิจการของที่บ้านต้องเจอเข้ากับเรื่องไม่คาดคิด เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้ภายในหนึ่งเดือน ด้วยจำนวนเงินมากมายทำให้เธอหมดหนทางเลือก จำใจต้องไปคุยกับเจ้าหนี้ให้รู้เรื่อง
ทศกัณฐ์ หวงความโสด และถูกเข้าใจผิดคิดว่าชอบผู้ชายด้วยกัน จันทร์จิราถูกไหว้วานให้ทำยังไงก็ได้ให้หลานชายของเรืองศักดิ์กลับมาเป็นชายชาตรีอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้ลยว่ามันเป็นแผน
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
กฤษณะต้องมาปกป้องนักโทษคนหนึ่งที่พัวพันกับเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ให้รอดพ้นจากการถูกตามล่า หากแต่เธอคนนี้คือน้องสาวของฆาตกรที่ ฆ่/หั่nศwแฟนสาวของเขาอย่างโหดเหี้ยม แต่ยังไม่ทันได้แก้แค้นมันก็ชิ่งต/ยก่อน ความแค้นทั้งหมดจึงมาลงที่เธอเพียงคนเดียว นานวันเข้าความใกล้ชิดและผ่านอุปสรรคมาด้วยกันตลอดทางความรู้สึกนั้นก็แปรเปลี่ยนจากความแค้นเป็นความรัก "ปากนายนี่มันเลี้ยงสุนัขไว้ในนั้นกี่ตัวกันฮะ! ว่างๆก็แวะไปให้หมอฟันง้างปากลากมันออกมาปล่อยบ้างนะ” “พูดมากอยู่นิ่งๆแล้วก็มาทายาให้ฉันด้วยเพราะเธอคนเดียวฉันถึงได้เจ็บตัวแบบนี้”
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด