สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
“Hope Bar Club VIP one night stand งั้นเหรอ” ปราบมองบัตรเชิญที่เพื่อนยื่นให้ด้วยความเบื่อหน่าย หลังจากอ่านมันจบเขาก็วางมันลงบนโต๊ะ เอนตัวลงพิงโซฟาพร้อมกับยกขาขึ้นพาดบนโต๊ะหน้าโซฟา
“แกจะมาทำหน้าเบื่อโลก เป็นลิงอมลูกท้ออยู่อย่างนี้ไม่ได้ตลอดนะเว้ย ฉันจัดงานนี้เพราะแกเลยนะ ไปหาความสุข จิบเหล้าเคล้านารี เหมือนที่เราทำกันเมื่อก่อนไง” ภูชิตตบบ่าเพื่อนบอกด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน คนพูดโยกศีรษะไปด้วยเพื่อให้คู่สนทนามีอารมณ์ร่วมมากที่สุด แต่กลับไม่เป็นผลสักนิด ปราบยังทำหน้าเบื่อโลกอยู่อย่างนั้น
“เบื่อ” เขาทำหน้าเบื่ออย่างที่บอก
“ไปเปิดหูเปิดตาหน่อย แค่พัทยาเอง”
“ไม่ไป” ชายหนุ่มบอกย้ำอีกครั้ง
ปราบเหยียดตัวยาวบนโซฟาทอดสายตามองออกไปด้านนอก กระจกหน้าต่างบานใหญ่ถูกออกแบบให้เปิดกว้าง สำหรับมองทัศนียภาพด้านนอก 180 องศา เพนท์เฮ้าส์หรูหราชั้นบนสุดของโรงแรมกลายเป็นที่เก็บตัวเงียบของเขา หลังจากบิดาประกาศแต่งงานใหม่กับหญิงสาวรุ่นลูก
“ถ้าขี้เกียจขับรถ เดี๋ยวฉันให้คนมารับ” ภูชิตเสนอ เผื่อเขาอยากดื่มและไม่อยากขับรถ
“ขี้เกียจไป” ปราบตอบกลับทันทีโดยไม่เสียเวลาคิด เขาทอดสายตามองออกไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย แต่ภูชิตก็ไม่ละความพยายาม
ภูชิตทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พร้อมกับพยักพเยิดและส่งสายตามองไปที่กระดาษแผ่นเล็ก
“แกดูวันที่ ในบัตรเชิญก่อนดิวะ”
“ทำไม” น้ำเสียงของคนพูดยังคงเบื่อหน่อย แต่ก็ยอมเหลือบสายตาไปมองวันที่ในบัตรเชิญตามความต้องการของเพื่อน เมื่อเห็นวันเวลาในการ์ดเชิญ เขาก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายเช่นเดิม
“ฉันไม่ศรัทธากับวันไหนทั้งนั้นแหละ”
“ฉันไม่ได้หมายถึงวันวาเลนไทน์นะ แต่มันเป็นวันแต่งงานของสาวิตรีต่างหาก หรือแกอยากอยู่กรุงเทพฯ ร่วมฉลองวันแต่งงานอันชื่นมื่นของพ่อกับแฟนเก่าของนายล่ะ ลืมไปแล้วหรือไง”
‘จริงสิ ระยะหลังเขาโหมงานหนัก จนแทบลืมวันลืมคืน’
ปราบส่ายหน้า ทั้งที่แววตายังสะท้อนถึงความปวดร้าว แต่เขาก็ยังปากแข็งคงเส้นคงวา
“ผู้หญิงคนนั้นไม่มีผลกับความรู้สึกของฉันอีกต่อไปแล้ว”
ภูชิตตบบ่าไหล่เพื่อนหนักๆ “เจ็บก็ยอมรับ อย่าเก็บมันไว้ แม้ว่านายจะปากแข็งบอกว่าไม่รู้สึกอะไร แต่นายจะทนอยู่บนนี้ ทั้งที่รู้ว่าอดีตแฟนเก่า แต่งงานกับพ่อของตัวเองอยู่ห้องจัดเลี้ยงข้างล่างโรงแรมงั้นเหรอ"
"อือ...คงงั้น" น้ำเสียงของคนพูด หลุดออกมาจากลำคอเพียงแผ่วเบา
ภูชิตบีบบ่าเพื่อนรักคะยั้นคะยออีกรอบ "เออน่า ถึงนายจะพยายามปกปิดความรู้สึกของตัวเองแค่ไหน แต่นายก็ปิดฉันไม่ได้หรอก”
ปราบนิ่งงัน นึกย้อนกลับไปถึงเดือนก่อน...บิดาของเขาเรียกทนายความประจำตระกูลมาพบ พร้อมกับเอกสารการโอนทรัพย์สิน จำได้ว่าวันนั้นเขาตกใจมาก
หุ้นของโรงแรมและทรัพย์สินทุกอย่าง ถูกโอนให้เป็นชื่อของเขา เหลือไว้เพียงหุ้นในบริษัทเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ปราบไม่เข้าใจการจัดการแบบกะทันหันเร่งด่วนแบบนี้ของบิดา ที่จู่ๆ ทนายประจำตระกูลนำเอกสารมาให้เขาเซ็น
“หมายความว่ายังไงครับ”
“ฉันจะแต่งงาน” วันนั้นบิดาของเขาบอกออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ แต่กลับทำให้ลูกชายเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
จะไม่ให้เขาแปลกใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อบิดาของเขาครองตัวเป็นโสดมาตลอด นับตั้งแต่มารดาของเขาเสียชีวิตลงเมื่อ 20 ปีก่อน ท่านไม่เคยคิดที่จะหาแม่เลี้ยงให้เขา แต่จู่ๆ กลับอยากจะลุกขึ้นมาแต่งงานในวัย 65 มันเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่สุดในชีวิต
“ยอมเพื่อความสุขของฉันสักครั้งนะปราบ ฉันอยากมีคนดูแลตอนแก่”
“ผมไม่เคยคิดจะห้ามคุณพ่ออยู่แล้วนะครับ แต่แค่แปลกใจว่าทำไมคุณพ่อต้องรีบโอนทรัพย์สินมาให้ผม”
คนสูงวัยกว่ายื่นซองสีชมพูส่งให้ลูกชาย
“แลกกับความสุขของฉัน แลกกับเจ้าสาวที่ฉันกำลังจะแต่งงานด้วย นี่จะเป็นสิ่งยืนยันว่าฉันรักแกมากแค่ไหน” ประโยคนั้นยิ่งทำให้ปราบงงหนัก ทำไมจะต้องแลก ในเมื่อเจ้าสาวก็เป็นคนรักของท่าน
ปราบจำต้องหยิบซองขึ้นมาเปิดอ่าน ในจังหวะที่เขากวาดสายตาไปเห็นชื่อและนามสกุลที่คุ้นเคย พร้อมกับประโยคที่หลุดออกมาจากปากบิดาในเวลาเดียวกัน
“ฉันจะแต่งงานกับสาวิตรี เธอจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เพราะต้องเตรียมงานแต่งงาน ฉันจะขอยืมคฤหาสน์หลังนี้เป็นเรือนหอก่อน แกคงไม่ขัดข้องอะไรนะ”
ประโยคนั้นเหมือนหมัดน็อคเสยปลายคางของปราบอย่างจัง สิ่งที่ทำให้เขาช็อกคือ...เจ้าสาวของพ่อคือคนรักของเขา แต่สาวิตรีเป็นเลขาของท่าน ทั้งคู่ไม่มีทีท่าว่าจะรักกันมาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ปราบสบตาบิดานิ่งเป็นเชิงถามย้ำ ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากหนา ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันหนักอึ้งไปหมด
“ฉันรู้ว่านายเสียใจ ทำเพื่อความสุขของฉันได้ไหมปราบ”
“คนอื่นไม่มีแล้วเหรอครับ ทำไมจะต้องเป็นผู้หญิงคนนี้” เขาถามด้วยน้ำเสียงราวกับไฟสุมและพ่นออกมาจากใจ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกทุกร้อนกับปฏิกิริยาของลูกชาย
“ความรักมันห้ามกันได้ด้วยเหรอ” เจ้าสัวกลั้วหัวเราะในลำคอตอบกลับ แม้ว่าเขากำลังจะแย่งคู่รักของลูกชายอยู่ก็ตาม
“ครับ” ปราบตอบรับเบาๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ถ้าพ่อไม่มีธุระอื่นกับผมอีก ขอตัวนะครับ” พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที เขาไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งผู้หญิงคนเดียวกับพ่อ จำต้องเก็บความรู้สึกเจ็บปวดและทุกข์ทนไว้ข้างใน
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
“ถ้าเก่งเรื่องพยาบาล ก็ช่วยพยาบาลให้บางส่วนในร่างกายฉันที่กำลังตื่นตัว สงบลงด้วยก็แล้วกัน หวังว่าคงจะไม่แค่ปากดีนะ” ‘ดารัณ’ จำต้องยอมรับข้อเสนองานใหม่... เพื่อนำรายได้มาสะสางหนี้สินของครอบครัว แต่เมื่ออดีตพยาบาลสาวเดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา เธอกลับพบว่างานของเธอ คือการดูแล... ‘คาร์ดิโก้ นอร์ตัน’ เพลย์บอยหนุ่มผู้บริหารสายการบินยักษ์ใหญ่ ผู้ไม่คิดจะสูญเสียสถานภาพความโสดให้กับผู้หญิงคนใดทั้งสิ้น… กฎเหล็กของคาร์ดิโก้ คือ...เขาจะไม่มีวันพาผู้หญิงไทยขึ้นเตียงเด็ดขาด เมื่อเขาพบว่าพยาบาลสาวไทยที่มารดาของเขาหามาดูแลอาการป่วย แท้จริงมีหน้าที่แอบแฝงคือคอยกีดกันและเก็บกวาดบรรดาคู่นอนชั่วคราวของเขาไปจนหมดสิ้น เขาก็ยิ่งโกรธ มีหรือ...เสือร้ายอย่างเขาจะยอมโดนลบคม เนื้อนุ่มๆ หวานๆ อยู่ตรงหน้า เสืออย่างเขาต้องขย้ำเท่านั้น คาร์ดิโก้จำต้องปรับเปลี่ยนแผน หันมากินอดีตพยาบาลคนสวย โดยไม่รู้สักนิดว่าผู้หญิงคนนั้นก็ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นว่าที่ลูกสะใภ้ที่มารดาของเขาตั้งใจหามาให้ตั้งแต่แรก สุดท้ายเขาก็ต้องจมดิ่งไปกับกฎเหล็กและแรงพิศวาสของตัวเองอย่างถอนตัวไม่ขึ้น “จะหนียังไงก็คงไม่รอดหรอกสาวน้อย ตอนนี้ เวลานี้ เธอต้องทำหน้าที่ของเธอแล้ว” หญิงสาวเงยหน้ามองเจ้านายหนุ่มอย่างตื่นตระหนก ค่าจ้างสูงลิ่วที่เธอได้รับเหมารวมกับทุกการบริการเช่นนี้เลยหรืออย่างไร
เธอบังอาจจับเขามาแต่งงานหลอกๆ แต่เขาเกิดอยากจับเธอมาเป็นภรรยาจริงๆ ป่านฝัน เจ้าสาววิวาห์ล่มจำต้องจับเขามาแต่งงานหลอกๆ เพื่อแก้หน้าให้ แต่เจ้าบ่าวจัดฉากกลับทำเกินหน้าที่ เขาทั้งกอด ทั้งจับ ทั้งจูบ จนหัวใจแข็งกระด้างของเธออ่อนไหวไปกับเขาหลายต่อหลายครั้ง ทวิช ทายาทคนเล็กของบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ในเมืองไทย เขาต้องตกกระไดพลอยโจนร่วมเล่นละครจัดฉากป่านฝันเป็นผู้กำกับ ทว่าคนเจ้าเล่ห์ก็ตีบทกระจาย ขยันหากำไรจากเรือนกายภรรยาสาวบ่อยครั้ง จากตอดเล็กตอดน้อย ปะทะคารม หยอกเย้ากระเซ้าแหย่ รู้ตัวอีกครั้งหัวใจของเขาก็ไปอยู่อุ้งมือของแม่สาวขี้วีนเสียแล้ว แลกกับตำแหน่งภรรยาพฤตินัยและนิตินัยที่เป็นของเขาเช่นกัน “ปล่อยป่านนะ!” “เรื่องอะไรจะปล่อย...มันก็ไม่ผิดกติกานะ วันนี้คุณมานอนนอกห้องกับผมเอง” “คนเจ้าเล่ห์! ใครบอกว่าป่านจะออกมานอนข้างนอกกับคุณ” “บอกอยู่นี่ไง หรือว่าจะเถียง...คุณออกมาหาผมเอง ขึ้นชื่อว่าผู้ชายเจ้าเล่ห์กันทุกคนแหละครับทูนหัว ออกมาแล้วก็อย่าหวังเลยว่าจะได้กลับเข้าไปในห้องอีก” “ถ้าคุณไม่ปล่อย ป่านโกรธคุณจริงๆ ด้วย” หญิงสาวบอกเสียงดุ แต่คนเจ้าเล่ห์กลับยิ่งรัดตัวหญิงสาวแน่นขึ้น “คืนนี้ขอแค่ได้นอนกอดเมีย พรุ่งนี้ผมยอมรับโทษทุกอย่าง” คนเจ้าเล่ห์บอกเสียงอ้อน ทอดสายตาหวานซึ้ง ขณะที่ปลายจมูกโด่งยังคลอเคลียอยู่ข้างแก้มนุ่มไม่ยอมห่าง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนิ่งเขาก็ยิ่งรุกหนัก กดริมฝีปากบนเรียวปากนุ่มดูดชิมความหวานอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ความเร่าร้อนเพิ่มพูนจนคนใต้ร่างไม่อาจต้านทานความเรียกร้องไหว ...ป่านฝันไม่เคยชนะลูกอ้อนของเขาได้สักที
เมื่อมาเฟียโดนหยาม ปฏิบัติการป่วนจึงเริ่มขึ้น! เขาต้องเลี้ยงเด็กและตามล่าแม่เด็กที่ทิ้งลูกเอาไว้มารับผิดชอบ แต่พอเจอเธอ...ความโกรธกลับละลายหาย กลายเป็นต้องการเก็บพวกเธอไว้ทั้งสองคน ซันเซส...คุณพ่อกำมะลอมาเฟียขี้เก็ก ทายาทที่ต้องแบกรับภาระและความแค้นของคาร์ลอสมาหลายปี เดลล่า...เธอพาความหวังกลับมาให้เขาอีกครั้ง เมื่อมีผู้หญิงคนปริศนาพาตัวเธอมาทิ้งไว้หน้าคฤหาสน์ เขาจึงต้องตามล่าผู้หญิงคนนั้นมาเค้นเอาความจริงโดยด่วน แต่เมื่อเจอเธอ...เขากลับต้องรีบเปลี่ยนแผน ใช้คำสั่งหลอกให้ได้ใกล้ชิด จนเธอเผลอไปกับความเจ้าเล่ห์ของเขา สิตมน...คุณแม่กำมะลอ ขาหื่น เถียงคำไม่ตกฟาก เพราะ...เข้าใจผิดมาตลอดว่าเดลล่าเป็นลูกของเขากับเพื่อนรักของตัวเอง เมื่อต้องแบกรับภาระทำหน้าที่แม่แทนเพื่อน หญิงสาวจึงต้องหักห้ามใจ ท่องจนขึ้นใจ.... “นั่นสามีเพื่อน” แต่เขากลับยิ่งป้วนเปี้ยนไม่ห่างกาย สร้างความปั่นป่วนหัวใจไม่หยุดหย่อน ผู้ชายบ้าอะไรจะหื่นได้ทุกวินาที!
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
จากชายหนุ่มที่บังเอิญได้รับมรดกตกทอดของบรรพชนสกุลเฉินเพราะอุบัติเหตุ และในที่สุด จากลูกเขยที่ไร้ค่าไม่ต่างจากขยะชิ้นหนึ่ง กลับกลายมาเป็นหมอเทวดาที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศยิ่ง
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]
"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""
© 2018-now MeghaBook
บนสุด