“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
เกือบหกโมงเย็นของซูริก สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) พระอาทิตย์ยังลอยเด่นอยู่บนฟ้า แสงของวันยังไม่ลับหายไป ทว่าเมฆฝนที่ตั้งเค้ามาทำให้ขาเล็กๆ ของหญิงสาวหยุดชะงัก เธอยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา
“ยังทัน” เธอรำพึงกับตัวเองเบาๆ
หญิงสาวหมุนปลายรองเท้าบูทหรับคุณผู้หญิงดีไซน์เรียบหรูกลับ รองเท้าคู่ใจของเธอสำหรับฤดูใบไม่ร่วงที่อากาศเย็นสบาย
ปลีน่องขาวของเธอถูกคลุมด้วยริ้วหนังสาน เพิ่มความเก๋หวานสำหรับออกงานด้วยโบว์เล็กๆ ด้านหน้าให้เหมาะสำหรับสวมใส่ได้หลายโอกาส แม้จะอยู่ในลุกซ์สาวเปรี้ยวหรือสาวหวาน หรือแม้กระทั้งใส่ออกงานเหมือนอย่างแพรนรียามนี้
หญิงสาวในชุดเดรสสั้นคอปาดเฉียงไหล่ตัวต่อผ้าชีฟองจับพลีต ตัวนี้ดูเป็นสาวเปรี้ยวเก๋ มั่นใจในตัวเอง ช่วงไหล่เอวมีซิปประดับด้านข้าง มีลูกเล่นตัดต่อผ้าชีฟองจับพลีตที่ด้านหลังตั้งแต่เอวยาวลงมาเลยกระโปรงด้านในเล็กน้อยให้ดูเป็นสาวเปรี้ยวเซ็กซี่
อุณหภูมิสิบกว่าองศาต้นๆ เหมาะที่จะมาจูงมือคู่รักเดินทอดน่องเลียบทะเลสาบซูริกที่ทอดยาวมากกว่าจะรีบก้าวเดินฉับๆอย่างเร่งรีบเหมือนอย่างเธอ
เบื้องหน้าเป็นทะเลสาบแสนสวยที่สามารถยืนชมวิวเทือกเขาแอลป์ ในวันที่ฟ้าโปร่งจะมองเห็นยอดเขาน้ำแข็งจากสะพานในเมืองซูริก สวยงามมากๆ เราขึ้นไปชั้นบน เพื่อมองวิวสวยๆมุมกว้าง
หญิงสาวเดินผ่านคู่บ่าวสาวที่ถ่ายเวดดิ้งข้างๆ ศาลาริมน้ำฉลุลายสีขาว เธออดที่จะหยุดมองอย่างชื่นชมไม่ได้ การได้สวมชุดเจ้าสาวคือความฝันสูงสุดของผู้หญิงทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งเธอ
แพรนรีมีคู่หมั้นที่เดินทางมาเรียนด้วยกัน ทั้งเธอและเขาได้รับทุนจากรัฐบาลมาเรียนด้านเศรษฐศาตร์การเงินของมหาวิทยาลัยชื่อดังของที่นี่ มีเพื่อนสาวของเธออีกคนแต่ใช้ทุนตัวเอง แพรนรีพักอยู่กับเพื่อนสาวในขณะที่แฟนหนุ่มพักอยู่กับรูมเมทชาวสวิสที่อยู่ห่างจากตึกที่เธอพักไปสองบล็อก
ปลายเท้าเล็กมาหยุดอยู่ที่หน้าตึกที่พักกับอาการหอบน้อยๆ ที่เกิดจากความเร่งรีบ ลมหายใจของเธอพ่นออกมาเป็นละอองสีขาวขุ่นบางๆ บอกได้ถึงอุณหภูมิความร้อนจากภายในร่างกายมากกว่าด้านนอก เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนไรผมช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดี ทว่าเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาก็เน้นย้ำให้เธอต้องรีบก้าวต่อไป
ตึกที่หญิงสาวพักเป็นสถาปัตยกรรมโคโลเนียลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มักเห็นอยู่เกลื่อนเมือง ตรงประตูทางเข้ามีจั่วมุกกลางประดับตราธงชาติเล็กๆ ด้านนอกของอาคารหลังนี้ถูกออกแบบโดยเน้นความโปร่งสบายด้วยหน้าต่างและช่องระบายอากาศ การตกแต่งเป็นปูนปั้น ทว่าเข้าไปด้านในกลับถูกออกแบบให้เป็นสีออกโทนส้มเพื่อให้ดูอบอุ่นสำหรับเมืองหนาวแห่งนี้
หญิงสาวไขกุญแจเปิดประตูห้องเข้าไปเอง เพราะเกรงจะรบกวนเพื่อนสาวที่เธอบอกจะเตรียมพรีเซนต์งาน หากแต่สิ่งที่เธอคิดคงจะสวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
“อย่าใจร้อนซิค่ะคุณธี ยัยแพรเพิ่งออกไปครึ่งชั่วโมง เรายังเหลือเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน”
เสียงหวานของเพื่อนสาวร่วมห้องเล็ดลอดออกมาจากช่องประตูห้องที่กั้นเป็นห้องนอนไปในตัว ขาของแพรนรีหยุดชะงักโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่าชื่อของคนในบทสนทนาเป็นคนที่เธอคุ้นเคย
ชื่อของผู้ชายที่หลุดออกมาจากปากของเพื่อนสาวคือสิ่งที่ทำให้แพรนรีอยากรู้เป็นที่สุดว่าเขามาทำไม ในเมื่อเธอบอกว่าจะไปทำงาน และธีรากรก็บอกว่าเขาไม่ว่างไปรับเธอในตอนดึกเพราะเขาติดโปรเจ็กต์งาน
แต่ว่าคนที่เธอเชื่อว่ากำลังยุ่งอยู่คนละที่ พวกเขากำลังทำอะไรอยู่ในห้องนอนของเธอตอนนี้ หญิงสาวยกข้อมือดูเวลาอีกครั้ง ใกล้จะถึงเวลานัดเริ่มงานเลี้ยงของเธอที่ต้องไปเต็มที แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกเกือบครึ่งชั่วโมง
“ธี หรือ ธีรากร” เขาเป็นคู่หมั้นของหญิงสาวตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ทั้งคู่เริ่มคบกันในสายตาผู้ใหญ่ตั้งแต่เริ่มเรียนปีสอง และพอเรียนจบผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายก็เร่งรัดให้ทั้งคู่หมั้นกันไว้ก่อน และให้ธีรากรเบนเข็มมาเรียนต่อที่สวิตเซอร์แลนด์กับแฟนสาวแทนที่จะไปเรียนอังกฤษตามที่เขาตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้น
หญิงสาวยอมเสียมารยาทบิดลูกบิดเปิดประตูทันที หากแต่บานประตูห้องนอนของเธอกลับถูกปิดล็อกนิ่งสนิท เธอไม่ลังเลที่จะคว้านหากุญแจในกระเป๋าที่เธอเพิ่งหย่อนมันกลับลงไปเมื่อครู่ออกมาไขเปิดอย่างเบามือ
ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ร่างหนาในชุดผ้าขนหนูสีขาวพันร่างกายท่อนล่างหมิ่นเหม่กำลังกกกอดเพื่อนสาวของเธอที่นอนทอดกายอยู่บนเตียง สภาพการแต่งกายไม่แตกต่างกัน ร่างเสลาขาวละออของเธอหลงเหลืออาภรณ์เพียงสองชิ้นเล็กๆ บนล่าง ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากถอดออกทั้งหมด
แพรนรีชะงักเล็กน้อย ภาพสะดุดตากระแทกหัวใจของเธออย่างแรง ของขวัญชิ้นใหม่ที่เธอได้รับจากชายคนรักกับเพื่อนสนิทอย่างไม่ทันตั้งตัว ตำแหน่งผู้หญิงหน้าโง่กับมงกุฎสองแฉกที่ถูกสวมอย่างตั้งรับตำแหน่งไม่ทัน ตำแหน่งที่ผู้หญิงทุกคนพยายามหลีกหนี มันกลับรุนแรงเกินจะต้านทานไหว หัวใจของแพรนรีเบาหวิวไร้ร่องรอย
“ผมขออีกครั้งนะลิซ” ชายหนุ่มอ้อนเสียงนุ่ม คำว่าอีกครั้งกระแทกหัวใจคนยืนฟังอย่างหนัก สิ่งที่เธอพยายามปลอบโยนตัวเองมันเกิดขึ้นไปแล้ว
“ลิซ หรือ อลิชา” เป็นเพื่อนสาวนักเรียนร่วมคสาสกับแพรนรี เธอเป็นลูกสาวเจ้าสัวเศรษฐีเมืองภูเก็ตจึงไม่จำเป็นต้องหาทุน แตกต่างจากเธอที่เป็นแค่ลูกสาวข้าราชการระดับปานกลาง เธอจึงต้องปากกัดตีนถีบสอบชิงทุนมาและต้องดั้นด้นออกไปหางานทำข้างนอกเพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว เพราะลำพังทุนที่ได้รับคงไม่พอกับค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงลิ่ว
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์ อย่าหาว่าหนูแรดนะคะ นะคะ" "แรดเงียบๆ แอบกินเนียนๆ แต่เซียนต้องหลบ" อันดา เจ้าของสโลแกน ‘ถ้าผู้ชายคิดจะมอมเหล้าแล้วลากเข้าโรงแรม ผู้ชายตายก่อนเพราะเปลือง’ เด็กวิศวะก่อสร้างสุดแสบ สายปาร์ตี้ และนักล่าแต้มบริหารเสน่ห์ อันดาถูกครอบครัวมั่นหมายให้กับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ลืมตาดูโลกวันแรก เธอเรียกคู่หมั้นว่าห่วงคล้องคอ โซ่ตรวนที่กักขังอิสระของเธอมาตลอดชีวิต เธอตั้งป้อมเกลียดเขา โดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอยากเอาชนะหรือความรู้สึกจริงๆ กันแน่ ถึงแม้จะเผลอมีอะไรกับเขาในวันที่เธอเมาหนัก เธอก็สั่งให้เขาลืมเรื่องวันนั้น และห้ามตอกย้ำกับเธออีก เธอไม่แคร์กับเรื่องแค่นั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขายอมหลีกทางให้เธอกับผู้ชายคนใหม่ วันนั้นเธอถึงได้รู้ความจริง ว่าเธอขาดผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ปฏิบัติการตามล่าเฮียเบิ้มกลับมาทำผัวจึงเกิดขึ้น…
เรื่องชุลมุนเกิดขึ้น เพราะเขาดันไปเผลอพลาดท่า มีอะไรกับนักศึกษาฝึกงานเสียนี่ แถมเจ้าหล่อนยังทำเมินต่อพรหมจารีที่สูญเสีย หล่อนทำให้เขาเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจอยู่หลายวัน จนเขาจะต้องค้นหาความจริง หล่อนมีดีอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขาลุ่มหลงได้มากขนาดนี้ คีรติหวงความโสดขั้นสุด รอดมือแม่เสือสาวนักล่ามาหลายปี แต่ดันมาตกม้าตาย ติดกับดักนักศึกษาสาว โดนเด็กตกเข้าให้ หัวใจแพ้ลูกอ้อนอ่อนยวบ แต่ร่างกายกลับฟิตปึ๋งปั๋งซะนี่ "เอาสิ! อยากจับตรงไหนก็เชิญ" วิเวียน นักศึกษาฝึกงานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ก่อสร้าง แต่เธอกลับถูกส่งไปดูแลห้องของเจ้านายในกรณีพิเศษ แต่ก็ทำปลาหายากราคาสูงลิบของเขาตายไป 9 ตัว เธอจึงต้องทำงานชดใช้เขาต่อหลังจากฝึกงาน บอสคีย์ ผู้ชายฮอตแห่งปี ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแถมดีกรีแต่ละคนไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมลงเอยกับใคร ประธานบริษัทที่แสนดุ เฮี๊ยบและโหดขั้นสุด ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาต้องสมบูรณ์เป๊ะทุกองศา
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
เมื่อรักกลายเป็นแค้น เขาจะทรยศหัวใจได้นานแค่ไหนกัน เขากับเธอเป็นรักแรกของกันและกัน ทั้งคู่กำลังเตรียมจะสร้างครอบครัว แต่จู่ๆ เธอก็จากไปอย่างไม่ร่ำลา มีเพียงเงินก้อนหนึ่งเพื่อแลกกับอิสรภาพ เขาเหมือนโดนทุบหัวแล้วมัดด้วยหิน ซ้ำจับโยนถ่วงในทะเลลึก ความโกรธแค้นเจ็บปวดอัดแน่นอยู่ในอก วันหนึ่งเธอกลับมาพร้อมคำอธิบายเรื่องราวเมื่อ 8 ปีก่อน แต่จะให้เขาเชื่อได้อย่างไร เมื่อสถานะ ‘นางสาว’ ของเธอเปลี่ยนเป็น ‘นาง’ และจูงมือเด็กน้อยวัย 7 ปี กลับมาด้วย “คุณรู้แล้วใช่มั้ย ว่ากะรัตไม่เคยทรยศคุณ” “เมื่อครู่มันก็แค่เซ็กส์ ใส่ชุดและกลับไปได้แล้ว” เขาบอกอย่างไม่แยแส “กะรัต! คุณกำลังท้องลูกของผมใช่มั้ย” ชายหนุ่มถามอย่างตื่นเต้น “ครั้งนั้นมันก็แค่เซ็กส์ ไสหัวออกจากบ้านฉันไป”
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย