“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
เกือบหกโมงเย็นของซูริก สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) พระอาทิตย์ยังลอยเด่นอยู่บนฟ้า แสงของวันยังไม่ลับหายไป ทว่าเมฆฝนที่ตั้งเค้ามาทำให้ขาเล็กๆ ของหญิงสาวหยุดชะงัก เธอยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา
“ยังทัน” เธอรำพึงกับตัวเองเบาๆ
หญิงสาวหมุนปลายรองเท้าบูทหรับคุณผู้หญิงดีไซน์เรียบหรูกลับ รองเท้าคู่ใจของเธอสำหรับฤดูใบไม่ร่วงที่อากาศเย็นสบาย
ปลีน่องขาวของเธอถูกคลุมด้วยริ้วหนังสาน เพิ่มความเก๋หวานสำหรับออกงานด้วยโบว์เล็กๆ ด้านหน้าให้เหมาะสำหรับสวมใส่ได้หลายโอกาส แม้จะอยู่ในลุกซ์สาวเปรี้ยวหรือสาวหวาน หรือแม้กระทั้งใส่ออกงานเหมือนอย่างแพรนรียามนี้
หญิงสาวในชุดเดรสสั้นคอปาดเฉียงไหล่ตัวต่อผ้าชีฟองจับพลีต ตัวนี้ดูเป็นสาวเปรี้ยวเก๋ มั่นใจในตัวเอง ช่วงไหล่เอวมีซิปประดับด้านข้าง มีลูกเล่นตัดต่อผ้าชีฟองจับพลีตที่ด้านหลังตั้งแต่เอวยาวลงมาเลยกระโปรงด้านในเล็กน้อยให้ดูเป็นสาวเปรี้ยวเซ็กซี่
อุณหภูมิสิบกว่าองศาต้นๆ เหมาะที่จะมาจูงมือคู่รักเดินทอดน่องเลียบทะเลสาบซูริกที่ทอดยาวมากกว่าจะรีบก้าวเดินฉับๆอย่างเร่งรีบเหมือนอย่างเธอ
เบื้องหน้าเป็นทะเลสาบแสนสวยที่สามารถยืนชมวิวเทือกเขาแอลป์ ในวันที่ฟ้าโปร่งจะมองเห็นยอดเขาน้ำแข็งจากสะพานในเมืองซูริก สวยงามมากๆ เราขึ้นไปชั้นบน เพื่อมองวิวสวยๆมุมกว้าง
หญิงสาวเดินผ่านคู่บ่าวสาวที่ถ่ายเวดดิ้งข้างๆ ศาลาริมน้ำฉลุลายสีขาว เธออดที่จะหยุดมองอย่างชื่นชมไม่ได้ การได้สวมชุดเจ้าสาวคือความฝันสูงสุดของผู้หญิงทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งเธอ
แพรนรีมีคู่หมั้นที่เดินทางมาเรียนด้วยกัน ทั้งเธอและเขาได้รับทุนจากรัฐบาลมาเรียนด้านเศรษฐศาตร์การเงินของมหาวิทยาลัยชื่อดังของที่นี่ มีเพื่อนสาวของเธออีกคนแต่ใช้ทุนตัวเอง แพรนรีพักอยู่กับเพื่อนสาวในขณะที่แฟนหนุ่มพักอยู่กับรูมเมทชาวสวิสที่อยู่ห่างจากตึกที่เธอพักไปสองบล็อก
ปลายเท้าเล็กมาหยุดอยู่ที่หน้าตึกที่พักกับอาการหอบน้อยๆ ที่เกิดจากความเร่งรีบ ลมหายใจของเธอพ่นออกมาเป็นละอองสีขาวขุ่นบางๆ บอกได้ถึงอุณหภูมิความร้อนจากภายในร่างกายมากกว่าด้านนอก เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนไรผมช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดี ทว่าเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาก็เน้นย้ำให้เธอต้องรีบก้าวต่อไป
ตึกที่หญิงสาวพักเป็นสถาปัตยกรรมโคโลเนียลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มักเห็นอยู่เกลื่อนเมือง ตรงประตูทางเข้ามีจั่วมุกกลางประดับตราธงชาติเล็กๆ ด้านนอกของอาคารหลังนี้ถูกออกแบบโดยเน้นความโปร่งสบายด้วยหน้าต่างและช่องระบายอากาศ การตกแต่งเป็นปูนปั้น ทว่าเข้าไปด้านในกลับถูกออกแบบให้เป็นสีออกโทนส้มเพื่อให้ดูอบอุ่นสำหรับเมืองหนาวแห่งนี้
หญิงสาวไขกุญแจเปิดประตูห้องเข้าไปเอง เพราะเกรงจะรบกวนเพื่อนสาวที่เธอบอกจะเตรียมพรีเซนต์งาน หากแต่สิ่งที่เธอคิดคงจะสวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
“อย่าใจร้อนซิค่ะคุณธี ยัยแพรเพิ่งออกไปครึ่งชั่วโมง เรายังเหลือเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน”
เสียงหวานของเพื่อนสาวร่วมห้องเล็ดลอดออกมาจากช่องประตูห้องที่กั้นเป็นห้องนอนไปในตัว ขาของแพรนรีหยุดชะงักโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่าชื่อของคนในบทสนทนาเป็นคนที่เธอคุ้นเคย
ชื่อของผู้ชายที่หลุดออกมาจากปากของเพื่อนสาวคือสิ่งที่ทำให้แพรนรีอยากรู้เป็นที่สุดว่าเขามาทำไม ในเมื่อเธอบอกว่าจะไปทำงาน และธีรากรก็บอกว่าเขาไม่ว่างไปรับเธอในตอนดึกเพราะเขาติดโปรเจ็กต์งาน
แต่ว่าคนที่เธอเชื่อว่ากำลังยุ่งอยู่คนละที่ พวกเขากำลังทำอะไรอยู่ในห้องนอนของเธอตอนนี้ หญิงสาวยกข้อมือดูเวลาอีกครั้ง ใกล้จะถึงเวลานัดเริ่มงานเลี้ยงของเธอที่ต้องไปเต็มที แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกเกือบครึ่งชั่วโมง
“ธี หรือ ธีรากร” เขาเป็นคู่หมั้นของหญิงสาวตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ทั้งคู่เริ่มคบกันในสายตาผู้ใหญ่ตั้งแต่เริ่มเรียนปีสอง และพอเรียนจบผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายก็เร่งรัดให้ทั้งคู่หมั้นกันไว้ก่อน และให้ธีรากรเบนเข็มมาเรียนต่อที่สวิตเซอร์แลนด์กับแฟนสาวแทนที่จะไปเรียนอังกฤษตามที่เขาตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้น
หญิงสาวยอมเสียมารยาทบิดลูกบิดเปิดประตูทันที หากแต่บานประตูห้องนอนของเธอกลับถูกปิดล็อกนิ่งสนิท เธอไม่ลังเลที่จะคว้านหากุญแจในกระเป๋าที่เธอเพิ่งหย่อนมันกลับลงไปเมื่อครู่ออกมาไขเปิดอย่างเบามือ
ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ร่างหนาในชุดผ้าขนหนูสีขาวพันร่างกายท่อนล่างหมิ่นเหม่กำลังกกกอดเพื่อนสาวของเธอที่นอนทอดกายอยู่บนเตียง สภาพการแต่งกายไม่แตกต่างกัน ร่างเสลาขาวละออของเธอหลงเหลืออาภรณ์เพียงสองชิ้นเล็กๆ บนล่าง ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากถอดออกทั้งหมด
แพรนรีชะงักเล็กน้อย ภาพสะดุดตากระแทกหัวใจของเธออย่างแรง ของขวัญชิ้นใหม่ที่เธอได้รับจากชายคนรักกับเพื่อนสนิทอย่างไม่ทันตั้งตัว ตำแหน่งผู้หญิงหน้าโง่กับมงกุฎสองแฉกที่ถูกสวมอย่างตั้งรับตำแหน่งไม่ทัน ตำแหน่งที่ผู้หญิงทุกคนพยายามหลีกหนี มันกลับรุนแรงเกินจะต้านทานไหว หัวใจของแพรนรีเบาหวิวไร้ร่องรอย
“ผมขออีกครั้งนะลิซ” ชายหนุ่มอ้อนเสียงนุ่ม คำว่าอีกครั้งกระแทกหัวใจคนยืนฟังอย่างหนัก สิ่งที่เธอพยายามปลอบโยนตัวเองมันเกิดขึ้นไปแล้ว
“ลิซ หรือ อลิชา” เป็นเพื่อนสาวนักเรียนร่วมคสาสกับแพรนรี เธอเป็นลูกสาวเจ้าสัวเศรษฐีเมืองภูเก็ตจึงไม่จำเป็นต้องหาทุน แตกต่างจากเธอที่เป็นแค่ลูกสาวข้าราชการระดับปานกลาง เธอจึงต้องปากกัดตีนถีบสอบชิงทุนมาและต้องดั้นด้นออกไปหางานทำข้างนอกเพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว เพราะลำพังทุนที่ได้รับคงไม่พอกับค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงลิ่ว
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์ อย่าหาว่าหนูแรดนะคะ นะคะ" "แรดเงียบๆ แอบกินเนียนๆ แต่เซียนต้องหลบ" อันดา เจ้าของสโลแกน ‘ถ้าผู้ชายคิดจะมอมเหล้าแล้วลากเข้าโรงแรม ผู้ชายตายก่อนเพราะเปลือง’ เด็กวิศวะก่อสร้างสุดแสบ สายปาร์ตี้ และนักล่าแต้มบริหารเสน่ห์ อันดาถูกครอบครัวมั่นหมายให้กับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ลืมตาดูโลกวันแรก เธอเรียกคู่หมั้นว่าห่วงคล้องคอ โซ่ตรวนที่กักขังอิสระของเธอมาตลอดชีวิต เธอตั้งป้อมเกลียดเขา โดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอยากเอาชนะหรือความรู้สึกจริงๆ กันแน่ ถึงแม้จะเผลอมีอะไรกับเขาในวันที่เธอเมาหนัก เธอก็สั่งให้เขาลืมเรื่องวันนั้น และห้ามตอกย้ำกับเธออีก เธอไม่แคร์กับเรื่องแค่นั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขายอมหลีกทางให้เธอกับผู้ชายคนใหม่ วันนั้นเธอถึงได้รู้ความจริง ว่าเธอขาดผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ปฏิบัติการตามล่าเฮียเบิ้มกลับมาทำผัวจึงเกิดขึ้น…
เรื่องชุลมุนเกิดขึ้น เพราะเขาดันไปเผลอพลาดท่า มีอะไรกับนักศึกษาฝึกงานเสียนี่ แถมเจ้าหล่อนยังทำเมินต่อพรหมจารีที่สูญเสีย หล่อนทำให้เขาเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจอยู่หลายวัน จนเขาจะต้องค้นหาความจริง หล่อนมีดีอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขาลุ่มหลงได้มากขนาดนี้ คีรติหวงความโสดขั้นสุด รอดมือแม่เสือสาวนักล่ามาหลายปี แต่ดันมาตกม้าตาย ติดกับดักนักศึกษาสาว โดนเด็กตกเข้าให้ หัวใจแพ้ลูกอ้อนอ่อนยวบ แต่ร่างกายกลับฟิตปึ๋งปั๋งซะนี่ "เอาสิ! อยากจับตรงไหนก็เชิญ" วิเวียน นักศึกษาฝึกงานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ก่อสร้าง แต่เธอกลับถูกส่งไปดูแลห้องของเจ้านายในกรณีพิเศษ แต่ก็ทำปลาหายากราคาสูงลิบของเขาตายไป 9 ตัว เธอจึงต้องทำงานชดใช้เขาต่อหลังจากฝึกงาน บอสคีย์ ผู้ชายฮอตแห่งปี ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแถมดีกรีแต่ละคนไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมลงเอยกับใคร ประธานบริษัทที่แสนดุ เฮี๊ยบและโหดขั้นสุด ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาต้องสมบูรณ์เป๊ะทุกองศา
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
เมื่อรักกลายเป็นแค้น เขาจะทรยศหัวใจได้นานแค่ไหนกัน เขากับเธอเป็นรักแรกของกันและกัน ทั้งคู่กำลังเตรียมจะสร้างครอบครัว แต่จู่ๆ เธอก็จากไปอย่างไม่ร่ำลา มีเพียงเงินก้อนหนึ่งเพื่อแลกกับอิสรภาพ เขาเหมือนโดนทุบหัวแล้วมัดด้วยหิน ซ้ำจับโยนถ่วงในทะเลลึก ความโกรธแค้นเจ็บปวดอัดแน่นอยู่ในอก วันหนึ่งเธอกลับมาพร้อมคำอธิบายเรื่องราวเมื่อ 8 ปีก่อน แต่จะให้เขาเชื่อได้อย่างไร เมื่อสถานะ ‘นางสาว’ ของเธอเปลี่ยนเป็น ‘นาง’ และจูงมือเด็กน้อยวัย 7 ปี กลับมาด้วย “คุณรู้แล้วใช่มั้ย ว่ากะรัตไม่เคยทรยศคุณ” “เมื่อครู่มันก็แค่เซ็กส์ ใส่ชุดและกลับไปได้แล้ว” เขาบอกอย่างไม่แยแส “กะรัต! คุณกำลังท้องลูกของผมใช่มั้ย” ชายหนุ่มถามอย่างตื่นเต้น “ครั้งนั้นมันก็แค่เซ็กส์ ไสหัวออกจากบ้านฉันไป”
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
... ในวันครบรอบแต่งงาน ฮั่วเยี่ยนสือ สามีผู้มั่งคั่งทิ้งเธอไป แล้วหาคนรักแรกของเขา ผู้ชายที่ไม่รักนวลสงวนตัวก็เหมือนสิ่งไร้ค่า ผู้ชายที่เธอเคยอ่อนข้อให้แต่ก็ไม่สนใจเธอ งั้นเธอไม่ต้องการแล้ว จึงขอหย่าทันที ฮั่วเยี่ยนสือไม่สนใจ ซูหว่านหนิงกลับเข้าสู่วงการบันเทิงและเฉิดฉาย รักแรกในอุดมคติชอบแกล้งอ่อนแองั้นเหรอ งั้นก็ให้เธอเผยธาตุแท้จริงให้ทุกคนได้เห็น อดีตสามีที่เป็นคนปากแข็งที่สุด "เมื่อเธอเบื่อแล้วเธอจะกลับมาหาฉัน" แต่ภรรยาที่เคยเต็มใจทำทุกอย่างให้เขานั้นไม่กลับมาอีกแล้ว ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพเท่านั้น แต่ยังมีคนมากมายมาตามจีบเธออีก ดาราระดับโลกแสดงความรักอย่างแรงกล้า ผู้บริหารบริษัทสื่อพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอยิ้ม แม้แต่ทายาทเศรษฐีอันดับหนึ่งก็ต้องการเธอเท่านั้น จากนั้นฮั่วเยี่ยนสือเริ่มตระหนก เปลี่ยนจากคนเย็นชากลายเป็นคนที่คอยติดตามไม่ห่าง ใช้ทุกวิถีทางเพื่อตามจีบภรรยา ซูหว่านหนิงไม่แม้แต่จะมอง "เมื่อก่อนคุณเฉยเมยกับฉัน ตอนนี้คุณไม่คู่ควรกับฉันแล้ว" ฮั่วเยี่ยนสือขอร้องเธออย่างบ้าคลั่ง "หนิงหนิง เราแต่งงานใหม่เถอะ" ซูหว่านหนิงแสดงท่าทางหยิ่ง "คุณฮั่ว ฉันไม่เคยกลับไปหาของที่ทิ้งไปแล้ว"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ” “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย” “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้” “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่” “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้ “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้” ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน
หลิวฉูฉู่นางเอกดังย้อนเวลากลับเข้าไปอยู่ในซีรีส์ที่ตัวเองแสดง ทว่าเรื่องไม่ง่ายเลยสักนิด เมื่อเธอ ต้องเข้าไปอยู่ในร่างนางร้ายที่สุดท้ายต้องตายตอนจบเพราะถูกพระเอกฆ่าตาย! หลิวฉูฉู่จึงต้องทำทุกวิธีที่จะให้รอดพ้นจากความตายนี้ "ฝ่าบาท รักนะเพคะ" นิยายเรื่องนี้ เป็นแนวสุขนิยม สายคลั่งรักไม่ควรพลาด ไม่มีดราม่าค่ะ อ่านคลายเครียด นุบนิบหัวใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดวัน หมายเหตุ ซื้อในเวบถูกกว่าแอปเปิ้ลนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY