ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / บำเรอรัก ท่านประธานแสนร้าย เล่ม 1
บำเรอรัก ท่านประธานแสนร้าย เล่ม 1

บำเรอรัก ท่านประธานแสนร้าย เล่ม 1

5.0
110 บท
28.3K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว

บทที่ 1 บททดสอบชีวิตมายาวีย์

2565 ประเทศไทย…

เกลียวคลื่นหยอกล้อสายลม แสงสีส้มตกกระทบผิวน้ำวิบวาวระยับ นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยมาทำกิจกรรมริมหาด บ้างก็ว่ายน้ำ บ้างก็วิ่งออกกำลังกาย หรือบางคนก็ปูผ้านอนอาบแดดอยู่บนชายหาด หลังจากรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์และเปิดรับนักท่องเที่ยวครั้งแรกในรอบสองปี

ช่วงเวลาสองปีเหมือนโควิดจะกลืนกินลมหายใจของคนที่นี่ไปแล้ว จากเมืองที่ไม่เคยขาดสีสัน แทบจะกลายเป็นเมืองร้าง กิจการร้านรวงต่าง ๆ ต้องปิดตัวลงเซ่นพิษเศรษฐกิจ ความคึกคักของมหานครแห่งแสงสีสงบเงียบลง ความมีชีวิตชีวาที่เคยโอบล้อมเมืองไว้แทบจะสูญสลายไปจนหมด ลมหายใจของผู้คนที่นี่กำลังจะหมดลง หากสถานการณ์ยังทอดยาวต่อเนื่องไปอีก

โชคดีที่รัฐบาลประกาศผ่อนปรนลงมาเล็กน้อย นั่นก็เหมือนลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่บรรดาเจ้าของกิจการและพลเมืองในพัทยาเริ่มฟื้นคืนกลับมาทีละนิด ความคึกคักและเสียงอึกทึกในยามเย็นย่ำไปจนถึงดึกดื่น เริ่มกลับมาทำหน้าที่ของมันตามเดิม

พัทยาขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองโลกีย์ เป้าหมายของนักท่องเที่ยววัยนักล่า และที่นี่ก็เป็นเป้าหมายของผู้หญิงหลายคนเดินทางมาขุดทอง บ้างก็หวังอยากมีสามีฝรั่งรวย ๆ บ้างก็อยากมีงานทำที่ดี แต่ในขณะที่บางคนอยากออกไปจากตรงนี้ใจจะขาด

ชีวิตของคนกลางคืนที่นี่ไม่ได้สวยหรูนัก หรือจะเรียกได้ว่าเน่าเฟะก็ไม่ผิดคำ เพราะในชีวิตที่พัทยาของมายาวีย์ เธอไม่เคยเจอสิ่งดี ๆ ที่นี่เลย นับตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้

สิบโมงเช้านับว่าเป็นเวลาเช้าตรู่ของคนที่นี่ เพราะยังเป็นเวลานอนของบรรดาสาวสวยหลายคน ร้านรวงแถวนี้จะทยอยเปิดก็ตอนใกล้เที่ยง แต่จะคึกคักในตอนหัวค่ำไปจนถึงดึกแทน ดังนั้นถนนในซอยดังที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจึงค่อนข้างเงียบ จะมีก็แค่นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจเมื่อตอนกลางคืนกำลังหาทางกลับที่พัก ส่วนคนท้องถิ่นก็ออกมาเตรียมเปิดร้านในคืนนี้เท่านั้นเอง

มายาวีย์เปิดม่านรับแสง ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมของการเริ่มต้นทำงานของวัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะได้ยินเสียงทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ

“เอารถโกโรโกโสของแกออกจากหน้าร้านฉัน” เสียงดังของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่คุ้นหูของคนแถบนี้ เจ้าของเสียงเป็นคนแต่งตัวจัด ปากแดงจนเป็นเอกลักษณ์ คนแถบนี้ไม่มีใครสนใจ เพราะเริ่มชาชินกับเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายทะเลาะกัน

“ขอจอดแป๊บเดียวนะมาดาม ตำอีกครกเดียวก็จะไปแล้ว” ยายปู เจ้าของร้านส้มตำรถเข็นเจ้าประจำของซอยบอกด้วยน้ำเสียงกึ่งเว้าวอนขอความเห็นใจ คนทำมาหากินด้วยกันน่าจะเห็นใจกันบ้าง

“นาทีเดียวก็ไม่ได้ รีบเข็นรถผุ ๆ ของแกออกไปก่อนที่ฉันจะโทรแจ้งเทศกิจมาลากออกไป” มาดามเนื้อทองตวาดแว้ดเสียงดังลั่น เจ้าของเสียงยืนเท้าสะเอวพร้อมกับชี้มือ

“ใจดำจริง ๆ เป็นคนทำมาหากินเหมือนกันน่าจะเข้าใจ” แม่ค้าส้มตำบ่นกระปอดกระแปด มือก็กำสากแน่นรัวตำในครก เหมือนเร่งรีบตั้งใจจะให้เสร็จเร็ว ๆ เพราะไม่อยากมีปัญหากับเจ้าของร้าน

“เอาน้ำสาดเลย” เสียงมาดามเนื้อทองสั่งเด็กในร้านของตัวเอง

“เฮ้ย! ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ” แม่ค้าร้านส้มตำเงยหน้าขึ้นถาม แค่เศรษฐกิจตอนนี้ก็ย่ำแย่และขายยากจนแทบไม่เห็นกำไรในแต่ละวัน แต่อย่าเพิ่งคิดไปถึงกำไรเลย กว่าจะได้ทุนในแต่ละวันก็แทบรากเลือด พอมีลูกค้าเรียกจะจอดขาย ก็เกิดไปบังหน้าร้านคนรวยเข้าให้ ชีวิตของคนจนมันแสนลำเค็ญจริง ๆ

“ก็นี่มันหน้าร้านของกู” มาดามเนื้อทองว่า

“แต่นี่ก็เป็นพื้นที่ถนนสาธารณะ ประชาชนในประเทศไทยสามารถใช้ได้ทุกคน”

“แต่กูไม่ให้มึงใช้เว้ย! เพราะมันคือหน้าร้านของกู เกะกะ สกปรก ร้านกูเป็นร้านขายอาหารหรู เอารถโกโรโกโสแบบนี้มาจอดบังหน้าร้าน คิดว่าลูกค้าจะมองว่ายังไง” มาดามเนื้อทองเท้าสะเอวชี้มือไปที่แม่ค้าร้านส้มตำ ก่อนจะตะโกนกลับไปบอกเด็กในร้าน

“บอกให้เอาน้ำมาสาด ได้หรือยัง” มาดามเนื้อทองเร่ง พนักงานในร้านต่างช่วยกันดึงเวลา เพื่ออะลุ่มอล่วยให้แม่ค้าส้มตำตำเสร็จ พวกเธอก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของนางเช่นกัน ถ้าหากว่าไม่สามารถจอดตรงนี้ได้ ก็ต้องเดินตามไปซื้อที่อื่น ลำบากไปอีก

“ขออีกนิดนะคะมาดามเนื้อทอง เหลือตำของหนูอีกครกเดียว” ลูกค้าที่ยืนต่อคิวอยู่ช่วยต่อรอง เธอเองก็ไม่อยากเดินตามไปซื้อเหมือนกัน

“ใช่ ๆ ตอนนี้ก็ยังไม่มีลูกค้า คนทำมาหากินกันเอง” เสียงเจ้าของร้านฝั่งตรงข้ามที่รอคิวสั่งส้มตำบอกขึ้น เธอเองก็เป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ก็ไม่ใจแคบถึงขนาดไม่ให้รถเข็นมาจอดขาย เพราะแม่ค้าเพียงจอดชั่วคราวและเดินวนไปเรื่อย ๆ ไม่ได้จอดแช่เป็นชั่วโมงสักหน่อย

“งั้นก็ย้ายไปจอดที่ร้านมึงสิ”

“ก็เห็นอยู่ว่าหน้าร้านฉัน รถลูกค้าจอดเต็ม”

“เห็นมั้ยล่ะ ขนาดมึงยังไม่อยากให้จอดเลย อย่ามาทำตัวเป็นคนดีหน่อยเลย”

“ก็ฉันเปิดร้านตอนเช้า ช่วงบ่าย ๆ ก็ไม่มีรถมาจอดแล้ว ฉันก็ไม่ได้ห้ามรถเข็นมาจอดขายนะ”

“อันนั้นมันเรื่องของมึงจ้ะ ส่วนนี่มันหน้าร้านกู” มาดามเนื้อทองเท้าสะเอวอย่างโมโห แม่ค้าส้มตำตั้งหน้าตั้งตาเร่งสปีดตำอย่างเร็ว เป็นที่รู้กันว่าพวกเธอเพียงแค่ดึงเวลาให้แม่ค้าส้มตำรับออร์เดอร์เสร็จ ลูกค้าที่รอซื้อส้มตำก็เข้าข้างแม่ค้าขายส้มตำ ต่อว่าถึงความใจแคบในขณะที่เจ้าของร้านก็ยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว เรื่องนี้ไม่มีใครผิดใครถูก เป็นเพียงความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันเท่านั้นเอง

เสียงอึกทึกครึกโครมด้านล่างคือ ยายปูเจ้าของร้านส้มตำรถเข็นกับมาดามเนื้อทองคงจะเปิดศึกกันเหมือนอย่างเคย มาดามเนื้อทองเป็นเจ้าของร้านอาหารสามคูหาขนาดใหญ่ ตกแต่งอย่างหรูหรา ตอนกลางคืนเปิดเป็นบาร์เบียร์ให้นักท่องเที่ยวมานั่งดื่ม มีสามีฝรั่งเอาไว้ชูคออวดคนอื่นว่าเป็นมาดาม

มาดามเนื้อทองไม่ชอบให้รถเข็นมาจอดบังหน้าร้านของเธอ แต่โลเคชันเจ้ากรรมก็เหมาะเหม็ง เพราะเนื้อที่หน้าร้านของเธอกว้างขวางกว่าที่อื่น ลูกค้าส่วนมากเป็นชาวต่างชาติที่เดินมาเที่ยว ไม่ได้ใช้รถยนต์ สาว ๆ แถวนี้ก็มักกวักมือเรียกให้ร้านส้มตำหยุดเสมอ เพราะส้มตำเป็นเมนูโปรดของพวกเธอ จะไปจอดที่ไหนได้ ในเมื่อที่นี่เป็นทำเลทอง

ถัดจากร้านอาหารมาดามเนื้อทองเป็นร้านนวดที่เป็นคู่แข่งกัน ต้องตากับมาลี ไม้เบื่อไม้เมาที่ชอบแย่งลูกค้ากันเป็นประจำ ต้องตาเป็นสาวใหญ่ที่เข็ดหลาบกับผู้ชายไทยและไม่ยอมลงเอยกับใครอีก ในขณะที่มีหนุ่มต่างชาติแวะเวียนมาขายขนมจีบเธอเสมอ ต้องตาเป็นม่ายสาวเนื้อหอม กระดังงาลนไฟหอมฉุย มีแต่คนบ่นว่าเสียดายที่เธอไม่ตกลงปลงใจหาคู่สักที

ร้านของต้องตาอยู่ติดกับร้านของมาลี ที่เนื้อหอมไม่ต่างกัน แต่จะแตกต่างตรงที่มาลีกวาดเรียบทุกหนุ่มที่เข้ามาดอมดมเธอ แถมยังอวดฟุ้งคุยโวกับการกระทำของตัวเองโดยไม่รู้สึกกระดากอาย เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแม่ในเรื่องการบริหารเสน่ห์ ถ้าจะให้นับสามีก็คงต้องใช้ตัวเลขหลายหลักทีเดียว

แล้วคุณล่ะ… คุณเป็นสาวสวยที่ชอบบริหารเสน่ห์เหมือนมาลี หรือเข็ดหลาบผู้ชายเหมือนต้องตา

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 110 The end Happy ending   03-01 09:54
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY