เรื่องชุลมุนเกิดขึ้น เพราะเขาดันไปเผลอพลาดท่า มีอะไรกับนักศึกษาฝึกงานเสียนี่ แถมเจ้าหล่อนยังทำเมินต่อพรหมจารีที่สูญเสีย หล่อนทำให้เขาเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจอยู่หลายวัน จนเขาจะต้องค้นหาความจริง หล่อนมีดีอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขาลุ่มหลงได้มากขนาดนี้ คีรติหวงความโสดขั้นสุด รอดมือแม่เสือสาวนักล่ามาหลายปี แต่ดันมาตกม้าตาย ติดกับดักนักศึกษาสาว โดนเด็กตกเข้าให้ หัวใจแพ้ลูกอ้อนอ่อนยวบ แต่ร่างกายกลับฟิตปึ๋งปั๋งซะนี่ "เอาสิ! อยากจับตรงไหนก็เชิญ" วิเวียน นักศึกษาฝึกงานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ก่อสร้าง แต่เธอกลับถูกส่งไปดูแลห้องของเจ้านายในกรณีพิเศษ แต่ก็ทำปลาหายากราคาสูงลิบของเขาตายไป 9 ตัว เธอจึงต้องทำงานชดใช้เขาต่อหลังจากฝึกงาน บอสคีย์ ผู้ชายฮอตแห่งปี ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแถมดีกรีแต่ละคนไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมลงเอยกับใคร ประธานบริษัทที่แสนดุ เฮี๊ยบและโหดขั้นสุด ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาต้องสมบูรณ์เป๊ะทุกองศา
คีรติ ฐิติกร เพลย์บอยหนุ่มเนื้อหอม หัวใจโสดสนิทเพราะไม่ชอบความสัมพันธ์ระยะยาว แต่ไม่เคยนอนเดียวดายบนเตียงคนเดียวสักคืน คู่ควงไร้สถานะที่เขาไม่เคยหยิบยื่นตำแหน่งใด ๆ แม้พวกหล่อนจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม
บุรุษหนุ่มที่เป็นดั่งลูกรักของพระเจ้า ที่ท่านคัดสรรค์และประทานมาให้เขาแต่สิ่งดี ๆ ทั้งทรัพย์สมบัติและรูปสมบัติ แถมมันสมองเป็นเลิศด้วยดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 วิศวกรรมศาสตร์ พ่วงด้วยตำแหน่งหลานรักของตระกูลฐิติกร ผู้สืบทอดกิจการ ฐิติกรคอนสตรัคชั่น ต่อจากคนเป็นปู่ เพราะเขาเรียนมาสายนี้โดยตรงและมีภาวะผู้นำสูง
ฐิติกรคอนสตรัคชั่น เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขึ้นชื่อดังอันดับต้น ๆ ของประเทศ เป็นระบบกงสีที่ลูกหลานมีส่วนแบ่งในหุ้นและมรดกแบบปันผลทุกเดือน แต่ทุกคนในตระกูลพร้อมที่จะขัดขาแย่งชิงตำแหน่งประธานบริษัททุกเมื่อ หลังจากฐิติผู้เป็นปู่จากไป บริษัทก็ลุกเป็นไฟ
ฐิติกรคอนสตรัคชั่น เป็นเป้าหมายของคนทำงาน นักศึกษาจบใหม่คาดหวังที่จะได้ร่วมงานกับองค์กรนี้ ด้วยความมั่นคงและสวัสดิการที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งที่อยากส่งนักศึกษามาฝึกงาน เพราะเกือบทั้งหมดที่ได้ฝึกงานที่นี่ จะถูกบรรจุเข้าทำงานหลังจากผ่านการฝึกประสบการณ์
ชื่อเสียงของบริษัทโด่งดังและเลื่องลือ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงซีอีโอสุดหล่ออย่างคีรติ ฐิติกร สาวค่อนประเทศก็ฝันหวาน เพียงแค่ได้เดินเฉียดกับเขาสักครั้งในลิฟต์ก็จะเป็นบุญอย่างมาก ถ้าบุญวาสนานำพาขึ้นไปอีก พวกเธอเหล่านั้นก็ขอตะกายขึ้นเตียงเคียงคู่กับเขาสักครั้ง
รถสปอร์ตคันหรูวิ่งฉิวมาหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าบริษัท ปลายรองเท้าหนังมันปลาบเก้าลงมาจากรถ เขาขยับแว่นเรย์แบนสีชาบนกรอบดวงตาให้เข้าที่ จากนั้นก็ติดกระดุมเสื้อสูท เดินเข้าไปยังตัวตึก พนักงานขับรถรับหน้าที่นำรถเขาไปจอดไว้ในช่องจอดผู้บริหาร
พนักงานหยุดทำความเคารพเขาและกล่าวทักทายเป็นระยะ แม้ว่าผู้เป็นนายจะมีใบหน้าเรียบตึงไร้รอยยิ้ม คอตั้ง หน้าเชิด ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้กรอบแว่นอันนั้น ดวงตาของเขากำลังจับจ้องสิ่งใดอยู่
ปลายนิ้วมือเรียวเล็กของหญิงสาวนางหนึ่งกดที่ปุ่มลิฟต์ ก่อนจะเอ่ยทักทายคนเป็นเจ้านาย
"อรุณสวัสดิ์ค่ะบอส" แสงระวีทักทายคนเป็นเจ้านายด้วยน้ำเสียงสดใส รอยยิ้มของเธอจะเกิดขึ้นบนใบหน้าเพียงแค่ 5 นาทีแรกของการทำงาน เพราะหลังจากที่เจ้านายหนุ่มเอยประโยคแรกออกมา บนดวงหน้าของเธอจะไม่มีรอยยิ้มอีกเลยตลอดวัน
"มุม 45 นาฬิกามีเศษกระดาษทิชชูตกอยู่ บอกแม่บ้านให้จัดการด้วย กำชับด้วยว่ารอบหน้าอย่าให้ฉันเห็นแบบนี้อีก" ประโยคราบเรียบกับใบหน้าเรียบตึงของเจ้านายหนุ่ม ทำให้บรรยากาศหน้าลิฟต์ตอนนี้เหมือนหิมะกำลังตกโปรยปราย แสงระวีกำลังรู้สึกหนาวเหน็บไปหมด เมื่อครู่เธอเห็นเขาเดินคอตั้งตรง แทบจะไม่เอียงสักองศาด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังมองเห็นเศษกระดาษทิชชูเล็ก ๆ นั่น
'ให้ตายเถอะโรบิน ฉันโดนตั้งแต่นาทีแรกเลยเหรอวันนี้' แสงระวีคิดในใจ เธอโค้งให้เจ้านายหนุ่มอย่างนอบน้อมพร้อมกับรับคำ
"ขอประทานโทษค่ะบอส ครั้งหน้าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเอง"
คีรติก้าวเข้าไปในลิฟต์ ส่งมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ยืนเชิดหน้าตั้งตรงรอเลขาก้าวตามเข้ามา แสงระวีเป็นเลขาที่อยู่กับคีรติได้นานที่สุด และเธอก็รู้ใจเขาเป็นที่สุด
แสงระวีส่งสัญญาณมือให้แม่บ้าน เป็นเชิงบอกให้จัดการให้เรียบร้อย พร้อมชี้มือไปที่ประตูลิฟต์และทำท่าเชือดคอตัวเอง แสงระวีใช้ภาษามือจัดการทุกอย่างด้วยเวลาอันจำกัด จากนั้นก็รีบตามเจ้านายเข้าไปในลิฟต์ หญิงสาวแทรกตัวที่พยายามย่อให้ลีบเล็กที่สุดเข้าไป
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง เธอยังไม่ทันได้สูดลมหายใจเข้าปอด น้ำเสียงทรงพลังก็บอกขึ้น
"เรียกประชุมซัพพลายเออร์ 10 โมง"
"คะ!" แสงระวีขานรับเป็นประโยคคำถาม เหมือนต้องการให้เจ้านายหนุ่มทวน เพราะไม่ว่าจะจัดการเร็วอย่างไร ก็ไม่มีทางทัน
"อยากลาออกไปรักษาหูก่อนไหมล่ะ จะได้…ได้ยินชัดขึ้น" ใบหน้าเรียบตึง น้ำเสียงราบเรียบ สามารถทำให้ภายในลิฟต์เย็นเยือกราวกับยืนอยู่บนธารน้ำแข็งขั้วโลก
"ค่ะบอส! ประชุมซัพพลายเออร์ 10 โมง" แสงระวีทวนคำสั่ง เพราะประโยคเมื่อครู่ของเขา บอกให้เธอรู้ว่าจะต้องจัดการให้ได้ ตอนนี้ในสมองของแสงระวีกำลังประมวลผล ว่าเธอจะจัดการเรื่องไหนก่อนดี
ติ๊ง!!! ลิฟต์ส่งสัญญาณเตือนในขณะที่ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก ห้องทำงานผู้บริหารอยู่ชั้นที่ 29 ของตึกฐิติกรแห่งนี้
ในขณะที่ชั้นบนสุดของอาคารเป็นห้องพักสุดหรูของผู้บริหาร แต่คีรติไม่ค่อยชอบใช้บริการมากนัก เพราะเขาเป็นคนโลกส่วนตัวสูง แม้จะทำงานหนักเขาก็แยกงานกับการพักผ่อนออกจากกันอย่างชัดเจน นอกเสียจากว่าทำงานดึกและเหนื่อยจริง ๆ
คีรติเดินเข้าไปในห้องทำงาน ตอนเช้าเขาจะใช้เวลาเช็กอีเมลประมาณ 20 นาที ซึ่งนั่นก็เป็นเวลาเตรียมพร้อมสำหรับแสงระวี
"ออเรนจ์อเมริกาโน่ค่ะ" แสงระวีวางกาแฟน้ำส้มในแก้วทรงสูง พร้อมกับชีสพาย เมนูโปรดของเจ้านายหนุ่มในยามเช้า
คีรติหยิบแก้วกาแฟน้ำส้มขึ้นมาดื่ม โดยที่ไม่ละสายตาออกจากจอคอมพิวเตอร์ แต่หูของเขาก็ยังทำงาน รอฟังรายงานจากแสงระวี
"สรุปรายงานการประชุมเมื่อวานกับรายชื่อบริษัทก่อสร้างที่ยื่นประมูลการก่อสร้างโครงการใหม่ค่ะ"
โครงการใหม่ที่พูดถึงคือโครงการหมู่บ้านจัดสรรระดับพรีเมียมริมทะเลหัวหิน ราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาทต่อยูนิต นั่นทำให้เขาต้องเพิ่มความใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น
"ผมขอ Portfolio ผลงานที่พวกเขาเคยทำด้วย ผมอยากรู้รายละเอียดก่อนการคัดเลือก ผมเกลียดบริษัทที่ชอบย้อมแมว เกลียดพวกเกรดต่ำแต่อยากรีแบรนด์ตัวเองมาร่วมงานกับฐิติกรคอนสตรัคชั่น"
แสงระวีกัดริมฝีปากตัวเอง ความละเอียดรอบคอบของคีรติขึ้นชื่อเป็นที่หนึ่ง แต่พอเป็นคำสั่งเจ้านาย เธอก็ต้องตอบรับ
"ค่ะ"
แม้จะรู้ว่า…บริษัทย้อมแมวที่เขาพูดถึงคือใคร
แม้จะรู้ว่า…ปัญหาที่จะเกิดตามมาเป็นแบบไหน
แม้จะรู้ว่า…เธอต้องสู้รบปรบมือกับใครบ้าง เพื่อได้ข้อมูลนั้นมาตามคำสั่งของเจ้านาย
ฐิติ ฐิติกรมีลูกชายสองคน แต่ก็ยังต้องทำงานจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เขาไม่เคยปริปากบอกใครว่าป่วยเป็นโรคหัวใจ จนกระทั่งแพทย์สั่งให้หยุดงานเพื่อรักษาชีวิต
ฐากิต ลูกชายคนโตเป็นคนเจ้าชู้มีบ้านเล็กบ้านน้อยหลายคน ตัวเขาเองก็วุ่นวายอยู่กับลูก ๆ ของเมียแต่ละบ้านที่ต่างแย่งชิง นั่นทำให้เขาไม่มีเวลาทำงานที่บริษัทได้เต็มศักยภาพที่มี ในบรรดาลูก ๆ มีผู้ชายเพียงคนเดียว คือกิตติกร คนที่ฐากิตหมายมั่นปั้นมือให้แย่งชิงทุกอย่างมาจากคีรติให้ได้ ประเคนทุกอย่างที่อยากได้ให้ แม้กระทั่งบริษัทเปิดใหม่ แต่กิตติกรก็ขี้เกียจ ชอบใช้ชีวิตสำมะเลเทเมา อยู่กับวงเหล้าและบ่อนการพนันมากกว่าทำงานอยู่ดี
ฐากูร ลูกชายคนรอง บิดาของคีรติ เป็นลูกชายที่ถูกประคบประหงมเป็นพิเศษเพราะเขามีภาวะหัวใจรั่วมาตั้งแต่เกิด ป่วยออด ๆ แอด ๆ แต่โชคร้ายที่เขาช็อกหัวใจวายเมื่อรู้ว่าภรรยาแอบนอกใจไปมีคนอื่น หลังจากนั้นคีรติก็ตกมาอยู่ในความดูแลของปู่กับย่า และพวกท่านก็เกลียดแม่ของเขามากจนตัดขาด ความทรงจำระหว่างแม่กับคีรติน้อยมาก จนจำหน้าไม่ได้ เพราะเธอจากไปตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 8 เดือน
ฐากิตเกลียดน้องมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะเขาคิดว่าพ่อกับแม่รักน้องมากกว่า พอน้องชายจากไป เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่กลับโล่งอกที่หมดเสี้ยนหนาม ฐิติกรคอนสตรัคชั่นจะไม่มีทายาทสายตรงคนอื่นนอกจากเขา
ทุกอย่างราบรื่นมาด้วยดี มาเกือบ 30 ปี ฐากิตชะล่าใจ ไม่ว่าจะอย่างไร ทุกอย่างจะต้องตกมาเป็นของเขาแน่
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์ อย่าหาว่าหนูแรดนะคะ นะคะ" "แรดเงียบๆ แอบกินเนียนๆ แต่เซียนต้องหลบ" อันดา เจ้าของสโลแกน ‘ถ้าผู้ชายคิดจะมอมเหล้าแล้วลากเข้าโรงแรม ผู้ชายตายก่อนเพราะเปลือง’ เด็กวิศวะก่อสร้างสุดแสบ สายปาร์ตี้ และนักล่าแต้มบริหารเสน่ห์ อันดาถูกครอบครัวมั่นหมายให้กับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ลืมตาดูโลกวันแรก เธอเรียกคู่หมั้นว่าห่วงคล้องคอ โซ่ตรวนที่กักขังอิสระของเธอมาตลอดชีวิต เธอตั้งป้อมเกลียดเขา โดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอยากเอาชนะหรือความรู้สึกจริงๆ กันแน่ ถึงแม้จะเผลอมีอะไรกับเขาในวันที่เธอเมาหนัก เธอก็สั่งให้เขาลืมเรื่องวันนั้น และห้ามตอกย้ำกับเธออีก เธอไม่แคร์กับเรื่องแค่นั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขายอมหลีกทางให้เธอกับผู้ชายคนใหม่ วันนั้นเธอถึงได้รู้ความจริง ว่าเธอขาดผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ปฏิบัติการตามล่าเฮียเบิ้มกลับมาทำผัวจึงเกิดขึ้น…
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
เมื่อรักกลายเป็นแค้น เขาจะทรยศหัวใจได้นานแค่ไหนกัน เขากับเธอเป็นรักแรกของกันและกัน ทั้งคู่กำลังเตรียมจะสร้างครอบครัว แต่จู่ๆ เธอก็จากไปอย่างไม่ร่ำลา มีเพียงเงินก้อนหนึ่งเพื่อแลกกับอิสรภาพ เขาเหมือนโดนทุบหัวแล้วมัดด้วยหิน ซ้ำจับโยนถ่วงในทะเลลึก ความโกรธแค้นเจ็บปวดอัดแน่นอยู่ในอก วันหนึ่งเธอกลับมาพร้อมคำอธิบายเรื่องราวเมื่อ 8 ปีก่อน แต่จะให้เขาเชื่อได้อย่างไร เมื่อสถานะ ‘นางสาว’ ของเธอเปลี่ยนเป็น ‘นาง’ และจูงมือเด็กน้อยวัย 7 ปี กลับมาด้วย “คุณรู้แล้วใช่มั้ย ว่ากะรัตไม่เคยทรยศคุณ” “เมื่อครู่มันก็แค่เซ็กส์ ใส่ชุดและกลับไปได้แล้ว” เขาบอกอย่างไม่แยแส “กะรัต! คุณกำลังท้องลูกของผมใช่มั้ย” ชายหนุ่มถามอย่างตื่นเต้น “ครั้งนั้นมันก็แค่เซ็กส์ ไสหัวออกจากบ้านฉันไป”
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน