เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์ อย่าหาว่าหนูแรดนะคะ นะคะ" "แรดเงียบๆ แอบกินเนียนๆ แต่เซียนต้องหลบ" อันดา เจ้าของสโลแกน ‘ถ้าผู้ชายคิดจะมอมเหล้าแล้วลากเข้าโรงแรม ผู้ชายตายก่อนเพราะเปลือง’ เด็กวิศวะก่อสร้างสุดแสบ สายปาร์ตี้ และนักล่าแต้มบริหารเสน่ห์ อันดาถูกครอบครัวมั่นหมายให้กับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ลืมตาดูโลกวันแรก เธอเรียกคู่หมั้นว่าห่วงคล้องคอ โซ่ตรวนที่กักขังอิสระของเธอมาตลอดชีวิต เธอตั้งป้อมเกลียดเขา โดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอยากเอาชนะหรือความรู้สึกจริงๆ กันแน่ ถึงแม้จะเผลอมีอะไรกับเขาในวันที่เธอเมาหนัก เธอก็สั่งให้เขาลืมเรื่องวันนั้น และห้ามตอกย้ำกับเธออีก เธอไม่แคร์กับเรื่องแค่นั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขายอมหลีกทางให้เธอกับผู้ชายคนใหม่ วันนั้นเธอถึงได้รู้ความจริง ว่าเธอขาดผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ปฏิบัติการตามล่าเฮียเบิ้มกลับมาทำผัวจึงเกิดขึ้น…
รถของอันดาแล่นเข้ามาจอดที่หน้าทางเข้าของล็อบบีโรงแรมหรูริมทะเลระยอง วันนี้เธอมาพร้อมกับอิงในชุดลำลองพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ทว่าวันนี้พวกเธอไม่ได้นัดกันมาเที่ยวทะเล แต่มาที่นี่เพื่อทำภารกิจที่แสนสำคัญกว่านั้น
“ยัยเจ้าสาวเพื่อนเราอยู่ห้องไหนน่ะอิง” อันดาถามขึ้นหลังจากล็อกรถ
“3014 ห้องสูทชั้น 30 อะ”
“ฉันละเชื่อเลย คุณนายแกปิดโรงแรมฉลองงานแต่งให้ลูกสาวแบบนี้”
“ก็ลูกเขยเป็นถึงทายาทนักธุรกิจหมื่นล้าน น้อยกว่านี้แกคงกลัวไม่ได้หน้าแหละมั้ง”
“ยัยวิก็น่าจะบอกกันก่อน บอกงานเพื่อนฝูง ฉันก็เลยเตรียมชุดใหม่มาได้แค่เท่าที่มีเลยเนี่ย” อันดาบ่น ก็ตอนที่วิเวียนส่งคำเชิญให้มางานแต่ง คอนเซปต์ที่อันดาได้รับก็คือปาร์ตี้เล็ก ๆ ริมทะเล ธีมชุดสบาย ๆ สไตล์คนคุ้นเคย แต่พอมาถึงดันเจองานเวอร์วังอลังการ ปิดโรงแรมอย่างกับจะเชิญนายกรัฐมนตรีจากต่างประเทศมาร่วมด้วยเสียอย่างนั้นแหละ
“ฉันก็ถามแล้วนะว่างานไม่ใหญ่เหรอ นางก็บอกว่าไม่ใหญ่ งานเล็ก ๆ แค่เพื่อนสนิท”
นี่งานไม่ใหญ่แน่นะวิ..
อันดาแหงนหน้ามองโรงแรมห้าดาวกับความสูง 30 ชั้น ใครมันจะไปเชื่อว่าตึกมโหฬารทั้งตึกนี่ คืนนี้จะถูกใช้เพื่อจัดงานแต่งของคนเพียงคู่เดียว
“มันสนิทกับคนทั้งประเทศหรือเปล่าวะ” อันดาถาม
“บางทียัยวิอาจจะไม่รู้ก็ได้นะแก อาจจะเพราะคุณคีรติ หรือคุณนายแม่จัด”
“เออว่ะ ลืมคิด บางทียัยเจ้าสาวอาจจะยังไม่รู้ตัวก็ได้ ว่าโรงแรมถูกปิดเพราะเจ้าหล่อนน่ะ” อันดาคล้อยตาม
“เออแก แกหันไปดูที่ 13 นาฬิกาตรง มีผู้ชายคนหนึ่งยืนมองอยู่เราอยู่ แกรู้จักมั้ยว่ะ ไม่ต้องรีบหันนะ เดี๋ยวไก่จะตื่นเอา” อิงบอก รีบเปลี่ยนเรื่องทันทีที่เห็นผู้ชายงานดีตรงหน้า
“รู้งานน่า ไม่รีบหันหรอก”
“ถ้าแกไม่รู้จัก คนนี้ฉันจองนะ”
“นี่แกจะเอฟเพื่อนเจ้าบ่าวตั้งแต่ยังไม่เริ่มงานเลยเหรอ”
“ไม่ได้หรอกฉันต้องสู้กับแก ยังไงคืนนี้ก็จะสอยเพื่อนเจ้าบ่าวให้ได้ สอยได้คนนึง จะได้สบายสักที” อิงบอกอย่างมาดมั่น ได้มางานแต่งงานทั้งทีจะกลับไปแบบแห้งเหี่ยวคนเดียวได้ไง
อันดาขนกระเป๋าออกจากท้ายรถโดยแกล้งหมุนตัว เพื่อที่จะมองไปยังจุดที่เพื่อนบอก แล้วก็พบว่าเป็นคนที่เธอคุ้นเคย หน้าตาแบบนั้น หุ่นล่ำ ๆ แบบนั้น แถมยังหนวดครึ้มที่ดูแล้วเข้มจนเกินบรรยาย
“เฮียเบิ้ม!!” หญิงสาวหลุดชื่อเขาออกมา
“อะไรนะแก” อิงถามเพื่อนเพราะได้ยินไม่ชัด ฝันแอบสลาย ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างล่ะ เพราะหนุ่มที่หมายตาไว้ดูเหมือนจะกลายเป็นคนรู้จักของเพื่อนสาวไปเสียแล้ว
“แกรู้จักเขาเหรอ”
“เปล่า” อันดาปฏิเสธทันที
“อ้าวโล่ง งั้นคนนี้ฉันจอง” อิงรีบชิงปักธงใส่ก่อน พร้อมส่งยิ้มหวานไปให้ชายหนุ่มคนนั้น ซึ่งเขาก็พยักหน้าพร้อมส่งรอยยิ้มสุดเข้มกลับมา
อันดากรอกสายตามองบน “เอาไปเถอะย่ะ สเปกฉันต้องสูง ขาว ยาว หล่อ เท่านั้นเว้ย หุ่นแน่นเคราเขียวแบบนี้ไม่เอาอ่ะ”
“แมนออกจะตายแก ดูหน้าอกเขาสิ แน่นแข็งแรงหน้าซบมาก”
“เชื่อดิแก คนแบบนั้นขนหน้าอกพรึ่บแน่นอน ขืนซบลงไปได้ทิ่มหน้าแหกหมด”
“เกินไป! ขนอกนะไม่ใช่เตียงตะปู”
สองสาวยังวิเคราะห์ผู้ชายกันอย่างออกรส ในขณะที่เป้าหมายของพวกเธอเดินจากไปจากตรงนั้นเสียแล้ว
ท่าทางสเปกของอิงกับอันดาจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อันดานึกขำกับโชคชะตา ไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องกลายมาเป็นคู่หมั้นกับผู้ชายที่สวนทางกับความชอบตัวเองแบบ 360 องศาขนาดนี้ เฮียเบิ้มนั้นเป็นชายหนุ่มที่จัดว่าดูดี แต่ไม่มีความเกาหลีแบบที่เธอชอบประดับไว้เลยแม้แต่นิด เขาหล่อแบบหนุ่มไทยแท้ ผิวเข้ม และบวกความแข็งแรงบึกบึนจากการชอบออกกำลังกายเข้าไป ซึ่งถ้าตามนี้แล้วก็คงเป็นที่หมายปองของสาว ๆ หลายคนได้ไม่ยาก แต่อันดากลับไม่ชอบ เธอบอกว่าเขาเหมือนนักมวยปล้ำมากกว่า
“อ้าว! ไปไหนแล้วล่ะ” อิงหมุนตัวไปอีกทีก็ไม่เจอเขายืนอยู่ตรงนั้นเสียแล้ว
“เก็บพื้นที่ไว้เอฟผู้ชายในงานดีกว่าแก” อันดาเตือนพร้อมกับดึงแขนเพื่อนสาวเข้าไปข้างใน
“เข้าไปข้างในกันเถอะ ร้อน!”
อันดาเดินนำหน้าเข้าไปข้างในก่อน ระหว่างนั้นสายตาของเธอก็สอดส่ายมองหาเฮียเบิ้ม เพราะความอยากรู้ว่าเขาตามเธอมาถึงที่นี่ทำไม
“แกมองหาใคร” อิงถาม
“เปล่านี่” อันดาทำหน้าเหลอหลา “ก็มองวิวทั่ว ๆ ไป แกไม่เห็นหรือไงว่าโรงแรมนี้สวยขนาดไหน”
“แต่ดูจากสายตาแก ไม่น่าจะมองวิวนะ”
“มาจับผิดอะไรกันเนี่ย ขึ้นไปหาวิเวียนกันเถอะ” อันดาบอกอย่างกลบเกลื่อน รีบตรงดิ่งไปที่ประตูลิฟต์ เพื่อกดไปยังห้องของเจ้าสาว
“ไม่เช็กอินก่อนหรือไง” อิงเตือน เพราะเห็นว่าหิ้วของพะรุงพะรัง น่าจะเช็กอินและเอาของไปเก็บที่ห้องก่อน
“เออจริง ของเยอะ”
ด้วยความรีบร้อนบวกกับกังวลว่าจะจ๊ะเอ๋กับคนที่ไม่อยากเจอเข้า อันดาเหมือนเพิ่งนึกได้ เธอจึงเปลี่ยนทิศทาง เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์เช็กอิน
พนักงานของโรงแรมเหมือนจะรู้ เธอถามขึ้นมาก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยปากถาม
“พวกคุณเป็นแขกที่มาร่วมงานแต่งงานของคุณคีรติและคุณวิเวียนใช่ไหมคะ”
“ค่ะ” อิงตอบ
“พวกเราเป็นเพื่อนเจ้าสาวค่ะ ชื่ออิงกับอันดา วิเวียนแจ้งไว้ว่าจองห้องพักไว้สำหรับเพื่อนเจ้าสาวแล้ว” อิงบอกพร้อมกับหยิบบัตรประชาชนที่อยู่ในกระเป๋าส่งให้พนักงาน
พนักงานของโรงแรมหยิบสมุดลิสต์รายชื่อแขกพร้อมกับอธิบายให้สองสาวฟัง
“ไม่ต้องใช้บัตรประชาชนค่ะ คุณคีรติเหมาโรงแรมนี้ให้แขกที่มาร่วมงานได้พัก 3 คืน คุณเพียงแค่เซ็นชื่อต่อท้ายชื่อของตัวเองที่ระบุไว้ในเอกสารชุดนี้ค่ะ”
อันดาเห็นชื่อของตัวเองก็รีบเซ็นชื่อลงไป หญิงสาวอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าห้องข้าง ๆ เป็นชื่อของแขกที่เธอคุ้นเคย
‘บุรี วรินรัตกร’ หญิงสาวทวนในใจ ชื่อนี้ไม่ใช่ใครคนอื่นแน่
“แกร…วิเวียนจองห้องสวีทให้ด้วยแก” ในห้วงความคิดที่อันดากำลังคิดถึงใบหน้าคมเข้มของเจ้าของชื่อ น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจของอิงก็ดังขึ้น
“เหรอ” อันดามองไปยังท้ายชื่อของตัวเอง ก็พบว่าห้องที่เจ้าสาวระบุเอาไว้ให้เป็นห้องสวีทเหมือนอย่างที่อิงได้รับ
“แต่ทำไมจองให้เราคนละห้องเลยล่ะ” อิงสงสัย เพราะเห็นเบอร์ห้องของเธอและเพื่อนสาวคนละห้องกัน
“รวยมั้ง” อันดาสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ เพราะความคิดของเธอกำลังจดจ่ออยู่กับเจ้าของชื่อที่อยู่ห้องติดกัน ทำไมเขาได้ห้องพักห้องสวีทเหมือนเธอ ถ้าบอกว่าตามเธอมาก็คงไม่ใช่แล้ว
“แต่เหมือนว่าเราได้พักชั้นเดียวกันกับเจ้าสาวนะ”
“ไปหาวิเวียนก่อนดีกว่า แล้วค่อยถาม” อันดาตัดบทก่อนจะจูงมือเพื่อนสาวเดินเข้าไปในลิฟต์ ทั้งที่สมองของตัวเองก็ยังวนเวียนอยู่กับชื่อบุรี วรินรัตกร
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
เรื่องชุลมุนเกิดขึ้น เพราะเขาดันไปเผลอพลาดท่า มีอะไรกับนักศึกษาฝึกงานเสียนี่ แถมเจ้าหล่อนยังทำเมินต่อพรหมจารีที่สูญเสีย หล่อนทำให้เขาเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจอยู่หลายวัน จนเขาจะต้องค้นหาความจริง หล่อนมีดีอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขาลุ่มหลงได้มากขนาดนี้ คีรติหวงความโสดขั้นสุด รอดมือแม่เสือสาวนักล่ามาหลายปี แต่ดันมาตกม้าตาย ติดกับดักนักศึกษาสาว โดนเด็กตกเข้าให้ หัวใจแพ้ลูกอ้อนอ่อนยวบ แต่ร่างกายกลับฟิตปึ๋งปั๋งซะนี่ "เอาสิ! อยากจับตรงไหนก็เชิญ" วิเวียน นักศึกษาฝึกงานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ก่อสร้าง แต่เธอกลับถูกส่งไปดูแลห้องของเจ้านายในกรณีพิเศษ แต่ก็ทำปลาหายากราคาสูงลิบของเขาตายไป 9 ตัว เธอจึงต้องทำงานชดใช้เขาต่อหลังจากฝึกงาน บอสคีย์ ผู้ชายฮอตแห่งปี ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแถมดีกรีแต่ละคนไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมลงเอยกับใคร ประธานบริษัทที่แสนดุ เฮี๊ยบและโหดขั้นสุด ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาต้องสมบูรณ์เป๊ะทุกองศา
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
เมื่อรักกลายเป็นแค้น เขาจะทรยศหัวใจได้นานแค่ไหนกัน เขากับเธอเป็นรักแรกของกันและกัน ทั้งคู่กำลังเตรียมจะสร้างครอบครัว แต่จู่ๆ เธอก็จากไปอย่างไม่ร่ำลา มีเพียงเงินก้อนหนึ่งเพื่อแลกกับอิสรภาพ เขาเหมือนโดนทุบหัวแล้วมัดด้วยหิน ซ้ำจับโยนถ่วงในทะเลลึก ความโกรธแค้นเจ็บปวดอัดแน่นอยู่ในอก วันหนึ่งเธอกลับมาพร้อมคำอธิบายเรื่องราวเมื่อ 8 ปีก่อน แต่จะให้เขาเชื่อได้อย่างไร เมื่อสถานะ ‘นางสาว’ ของเธอเปลี่ยนเป็น ‘นาง’ และจูงมือเด็กน้อยวัย 7 ปี กลับมาด้วย “คุณรู้แล้วใช่มั้ย ว่ากะรัตไม่เคยทรยศคุณ” “เมื่อครู่มันก็แค่เซ็กส์ ใส่ชุดและกลับไปได้แล้ว” เขาบอกอย่างไม่แยแส “กะรัต! คุณกำลังท้องลูกของผมใช่มั้ย” ชายหนุ่มถามอย่างตื่นเต้น “ครั้งนั้นมันก็แค่เซ็กส์ ไสหัวออกจากบ้านฉันไป”
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป