แม้จะถูกทารุณอย่างหนัก แต่อัมพรก็ยังมีจิตใจของความเป็นแม่ เมื่อเห็นลูกสาวนอนตัวงอด้วยความเจ็บปวดจึงรีบร้องห้ามสามี และนั่นก็ทำให้คนใจสัตว์อย่างทัดเทพหันมาประเคนฝ่าเท้าเตะเข้าที่เบ้าตาของภรรยาอย่างแรง
“กูบอกให้มึงเอาเงินมาไง อีดอก”
“ฉัน... ฉันไม่มีจ้ะพี่เทพ... ไม่มี”
ใบหน้าที่ฟกช้ำดำเขียวรีบส่ายไปมา น้ำตาไหลออกมานองหน้า มองผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีด้วยความเจ็บช้ำ ทัดเทพไม่เคยช่วยทำมาหากิน แถมยังมาคอยขูดเลือดเอากับหล่อนอีก ขนาดเมริสาเป็นเด็กยังออกไปช่วยขายพวงมาลัยที่สี่แยกเพื่อหาเงินเข้าบ้าน
“ไม่มีอะไร กูเห็นนะว่ามึงมี เอาออกมา ก่อนที่กูจะฆ่ามึงตายคามือ”
ใบหน้าของทัดเทพแดงก่ำด้วยโทสะ กลิ่นเหล้าฟุ้งกระจาย จนอัมพรแทบอาเจียน มือใหญ่ของมันขยุ้มลงบนเส้นผมของอัมพร ก่อนจะกระชากแรง ๆ
“อย่าพี่! ฉันเจ็บ...”
“พ่ออย่าทำแม่นะ” เมริสาร้องไห้คร่ำครวญเข้าไปกอดขาบิดา แต่ก็ถูกเหวี่ยงกระเด็นออกมาอีกครั้ง
“มึงไปให้พ้นเลยอีเมย์ ก่อนที่กูจะกระทืบมึงอีกคน”
มันหันมาขู่บุตรสาวที่มันไม่เคยเห็นว่าเป็นลูก ก่อนหันไปทำร้ายอัมพรผู้ไม่มีทางสู้อีกครั้ง และในที่สุดเมริสาก็ทนเห็นมารดาเจ็บมากไปกว่านี้ไม่ไหว จำต้องควักเงินของตัวเองออกมาให้บิดาที่อยู่ในสภาพเมามายทั้งน้ำตา
“อย่าทำแม่เลยพ่อ อ่ะนี่เงินของเมย์ที่ขายพวงมาลัยได้ เอาไปเลยพ่อ”
“เมย์อย่าให้ลูก... เราจะไม่มีเงินซื้อกับข้าวเย็นนี้” อัมพรรีบร้องห้าม แต่ก็ถูกทัดเทพหันมากระทืบซ้ำด้วยความหมั่นไส้ จนตัวงอด้วยความเจ็บ
“อีดอก มึงอย่ามาแส่ได้ไหม เอามานี่อีเมย์”
ทัดเทพรีบคว้าเงินในมือของเมริสาที่มีไม่กี่ร้อยบาทอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหย่อนใส่กระเป๋ากางเกงและเดินผิวปากออกจากบ้านไปทันที
เมริสารีบวิ่งเข้าไปประคองมารดาที่นอนหมดสภาพอยู่ด้วยความเป็นห่วง น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด เจ็บแค้นยิ่งนักที่บิดาไม่เคยเห็นหล่อนกับแม่เป็นคน ทั้งทุบ ทั้งตี ราวกับพวกหล่อนเป็นสัตว์
“แม่จ๋า... แม่เป็นอย่างไรบ้าง เราหนีพ่อไปอยู่ที่อื่นกันเถอะนะจ๊ะแม่...”
นางอัมพรได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญกับสภาพฟกช้ำดำเขียวที่เกิดจากมือและเท้าของสามี คงทำให้หล่อนไม่สามารถออกไปทำงานได้อีกหลายวัน แล้วหล่อนกับลูกจะเอาอะไรกิน
“แม่... เมย์เกลียดพ่อ”
“ไม่เอาเมย์อย่าพูดแบบนั้น ยังไงเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของหนู”
“แต่เมย์เกลียดพ่อ เกลียดจริง ๆ พ่อทำกับแม่เหมือนไม่ใช่คน ถ้าคืนนี้พ่อเสียไพ่มาอีก พ่อก็คงจะ...”
แม้เมริสาจะยังเด็ก แต่ก็พอจะรู้ว่าบิดาให้เพื่อนของตัวเองมาทำอะไรอัมพร เพราะเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ตนได้ยินแม่ร้องออกมานั้นช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จนเด็กน้อยต้องนั่งกัดมือตัวเองเพื่อข่มความน่ารังเกียจนั้นเอาไว้
ผู้ชายมันสารเลวทุกคน...
อัมพรก้มหน้าด้วยความอดสู หล่อนรู้ดีว่าเมริสารู้เรื่องความอัปยศที่ทัดเทพทำไว้กับหล่อนทุกอย่าง โดยเฉพาะการให้เจ้าหนี้มาย่ำยีตนเองที่บ้าน เพื่อชดใช้หนี้พนัน แม้หล่อนจะขัดขืนเพียงไร แต่ก็ไม่มีทางดิ้นหนีความหยาบช้าของซาตานร้ายพวกนั้นได้เลย
แม้อยากจะตายไปจากโลกนี้นัก แต่หล่อนก็เป็นห่วงลูกสาว จึงต้องจำใจทนอยู่ แม้จะเจ็บปวดมากมายแค่ไหนก็ตาม
“นะแม่ เราไปกันเถอะ อยู่ไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น”
“แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะเมย์ เราไม่มีเงิน ไม่มีญาติ แม่ไม่อยากพาลูกไปเร่ร่อน”
เมริสาส่ายหน้าทั้งน้ำตา มองมารดาอย่างอ้อนวอน
“เมย์ยินดีนอนข้างถนน ยินดีเป็นขอทาน ยินดีอดตาย ขอเพียงแค่เราไปพ้นจากผู้ชายคนนี้ เมย์เกลียดเขา เกลียดผู้ชายทุกคน”
อัมพรกอดร่างเล็กของลูกสาวที่มีเพียงเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่ผ่านการปะชุนมาแล้วหลายครั้งไว้แน่น เมริสาเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ หล่อนไม่อยากให้ลูกสาวต้องลำบาก ต้องเร่ร่อน แต่ครั้งนี้มันก็สุดจะทานทนแล้ว เพราะหากหล่อนยังฝืนทนอยู่กับทัดเทพต่อไป เมริสาเองนั่นแหละจะต้องลำบาก
บางทีทัดเทพอาจจะขายเมริสาให้กับเจ้าหนี้เหมือนที่ทำกับหล่อนก็ได้
“ถ้าเมย์ต้องการ... แม่ก็จะไปกับหนู”
เมริสาฉีกยิ้มกว้างทั้งน้ำตา เงยหน้าขึ้นมองมารดาด้วยความดีใจ
“จริงเหรอแม่ เมย์ดีใจเหลือเกิน งั้นเมย์ไปเก็บของก่อนนะแม่”
ผู้เป็นมารดาพยักหน้าช้า ๆ มองตามร่างเล็ก ๆ ของบุตรสาวไปด้วยสายตาเศร้าหมอง เมริสายังเด็กนัก แต่ก็ต้องมารับรู้ มาทนทุกข์ยากกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อขึ้น