ธนภัทรจะทำเช่นไรเมื่ออังคณาคู่ปรับประจำชั้นประถมต้องมา ตกกระไดพลอยโจนกลายมาเป็นสามีของอังคณาอย่างไม่ทันตั้งตัว เหตุการณ์ชุลมุนเมื่ออังคณาดันกลายมาเป็นนางแบบประจำรีสอร์ทดาหรันที่เขาบริหารอยู่เสียนี่ ...ความสัมพันธ์ของเขา และดาราสาวจะลงเอยเช่นไร ใจหนึ่งอยากรัก อีกใจกลับอยากทดสอบหญิงสาว… ความสัมพันธ์ในครั้งนี้จะเป็นความรักฤาแค่เล่นใจกันแน่ มาร่วมลุ้นความรักครั้งนี้ของเขาและเธอกันในนิยายเรื่องนี้กันค่ะ
แสงแฟลชวูบวาบดังขึ้นหลายครั้ง ขณะที่หญิงสาวตรงหน้า ยังคงหมุนตัวไปทางด้านซ้ายอย่างไม่หยุดหย่อน
“ยอดเยี่ยมค่ะน้องอังอัง” กีตาร์ผู้จัดการสาวเอ่ย
ดวงหน้าหวานของดาราสาวแต้มระบายรอยยิ้มเล็กน้อย อังคณาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ช่างภาพประจำตัวถ่ายภาพเธอออกมาได้สวยงาม
อังคณาเป็นเน็ตไอดอลสาวที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงมืออาชีพ หญิงสาวมีใบหน้าหวาน ดวงตาทั้งสองข้างของหญิงสาวกลมโต
นัยน์ตาสีดำสนิทของอังคณาฉายรอยสดใสเปล่งประกายราวดวงดาว
บนฟ้า
เวลานี้อังคณาสวมใส่ชุดเดรสสีน้ำเงินเว้าหลังเผยผิวขาวนวลละเอียด หญิงสาวได้รับเลือกเป็นนางแบบของแบรนด์เครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
“เยี่ยมมากอังอัง” ผู้จัดการส่วนตัวกล่าว
อังคณาโพสต์ท่าสุดท้าย เธอยืนนิ่งให้ช่างภาพถ่ายรูปอยู่นานสองนาน
“เสร็จแล้วครับคอลเล็กชันนี้”ช่างภาพประจำแบรนด์กล่าวกับ เจ้าของแบรนด์อย่างรวดเร็ว
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ”อังอังเอ่ยถามคุณประพตเจ้าของ แบรนด์เครื่องสำอางเกรดพรีเมี่ยม
“เรียบร้อยแล้วครับ”เจ้าของแบรนด์เอ่ยพลางค้อมศีรษะให้ อังคณาเล็กน้อย
“ขอบคุณคุณอังอังมากครับ”เจ้าของแบรนด์เอ่ยกับเน็ตไอดอล สาวด้วยความปลื้มที่ได้ร่วมงานกับดาราสาว
“ยินดีค่ะ”อังคณากล่าวพลางส่งยิ้มให้กับเจ้าของแบรนด์
อย่างสุภาพอ่อนหวาน
ห้องแต่งตัวนักแสดง
“เสร็จหรือยังคะ...น้องอังอัง”เสียงเรียกของกีตาร์ดังขึ้นเป็น จังหวะเดียวกันกับที่อังคณาเดินเข้ามาหาผู้จัดการสาวพอดี
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” อังคณาเอ่ยพลางส่งชุดราคาเหยียบแสนให้ผู้จัดการสาว
“โอเคค่ะ ถ้างั้นน้องอังอังรอพี่กีตาร์อยู่ด้านนอกนะคะ” กีตาร์เอ่ยกับดาราสาวพลางถือชุดในมืออย่างระวัง
“ค่ะ” อังคณากล่าวกับผู้จัดการสาวของเธอ
กีตาร์เดินจากไปนานแล้ว ทว่าอังคณายังคงอยู่หมุนตัวหน้ากระจกบานกว้าง
ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของอังคณาเป็นภาพที่ช่างหาดูได้ยากยิ่งนัก
คิ้วเรียวเข้มโค้งโก่งดั่งคันศรของอังคณางดงามจนหาที่ติไม่ได้ แววตาของหญิงสาวเปล่งประกายสดใส จมูกของดาราสาวโด่งรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อชวนฝัน
อังคณาอดรู้สึกภาคภูมิใจในความงามของตนเองไม่ได้ เวลานี้หญิงสาวดูสวยโดดเด่นสะดุดตากว่าดาราสาวๆคนอื่นๆ
เธอไม่ใช่อังคณาคนเดิมที่ชอบแต่งตัวเฉิ่ม ๆ เชย ๆ แบบเดิมอีกต่อไป
อังคณาไม่ลืมหยิบหมวกปีกกว้างคู่ใจพร้อมกับแว่นกันแดดมา ใส่ให้ดูเข้ากันหญิงสาวมองสำรวจตนเองในกระจกอีกครั้งเพื่อตรวจดู ความเรียบร้อย
ปลายรองเท้าผ้าใบสาวเท้าออกจากห้องแต่งตัว...หญิงสาวก้าวเดินฉับ ๆ แล้วออกไปยืนรอกีตาร์ผู้จัดการส่วนตัวสาว
ด้านนอกอย่างรวดเร็ว
มือเรียวบางของอังคณาผลักประตูบานกระจกออกกว้าง หญิงสาวแทรกตัวผ่านช่องว่างนั้นออกมาอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ด...นั่นพี่อังอังใช่ไหม”เสียงหนึ่งดังขึ้นยามเมื่อในเวลานี้หญิงสาวผมสั้นเสมอติ่งหูเห็นอังคณาเดินออกมาจากบริษัทที่เพิ่งถ่ายงานเสร็จหมาด ๆ
อังคณาไม่ทันได้ตอบเด็กหญิงคนนั้น เธอจึงส่งยิ้มหวานอย่างเป็นกันเองไปให้
“ใช่จริง ๆ ด้วย” หญิงสาวผมสั้นคนนั้น เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ พลางหันไปกระซิบกับผู้ชายที่มาด้วยกัน
“ว้ายพี่อังอังขาขอลายเซ็นหน่อยค่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียง หวานจัดพลางถลาเข้ามาหาอังคณาอย่างรวดเร็ว
ดาราสาวยื่นมือมารับสมุดของเด็กสาวและเด็กหนุ่มที่ดูจะสาวไม่แพ้กันทั้งสองคน
มือเรียวจรดปลายปากกาเพื่อเขียนลายเซ็นหวัดๆของหญิงสาว
ลงไปบนสมุดการบ้าน
“ขอบคุณที่ติตตามนะคะ”อังคณาเอ่ยขึ้นพลางส่งสมุดคืนให้อย่างรวดเร็วด้วยเห็นว่ากีตาร์ ผู้จัดการของเธอกำลังเดินมาทางนี้
“ขอบคุณค่ะพี่อังอัง พวกหนูรอดูผลงานของพี่อยู่นะคะ” เด็กทั้งสองคนกล่าวแล้วเดินจากไป
รถตู้คันหรูจอดเทียบกับฟุตบาทหน้าบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง อังคณาสาวเท้าเข้าไปในรถพร้อมกับย่อตัวลงนั่งบนเก้าอี้รถตู้คันหรูอย่างดี
ประตูรถตู้เลื่อนปิดด้วยฝีมือโชว์เฟอร์คนขับรถอย่างรวดเร็ว
คนขับรถรีบขึ้นมาขับ รถตู้คันหรูพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไปบริษัทค่ะ”กีตาร์ออกคำสั่งกับโชว์เฟอร์หนุ่มพลางหันมา มองอังคณาที่หลุบสายตาต่ำลงยามเมื่อผู้จัดการสาวจ้องมองเขม็งมา อย่างรู้สึกตัวว่าทำผิด
“อังอังทีหลังจะทำอะไรปรึกษาพี่ก่อนนะคะ”กีต้าร์เอ่ยด้วย น้ำเสียงไม่พอใจมากนัก
“ค่ะพี่กีตาร์” อังอังกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ครั้งนี้ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายนะคะเราเป็นระดับซุปตาร์จะมาทำตัวเหมือนคนธรรมดาไม่ได้นะคะ” กีตาร์เอ่ยแกมดุอังคณา ดาราสาวที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้
“ค่ะพี่กีตาร์” อังคณาเอ่ยกับกีตาร์
ค่าย TTY
ค่ายนักแสดงที่ใหญ่ที่สุดในเวลานี้ ภายในค่ายTTY มีดารา
นักแสดงมากมายรวมถึงศิลปินดาราคุณภาพคับแก้วที่กวาดรางวัลเวทีดารานำยอดเยี่ยมมานับไม่ถ้วน
“เอาไปดูซะกีตาร์”เสียงของคุณสมโชคผู้บริหารหนุ่มเอ่ยอย่าง ไม่พอใจนัก
“ดูอะไรคะคุณสมโชค”กีตาร์เอ่ยถามเสียงเบาพลางสบสายตา จ้อมเขม็งมายังเธอ
“ดูเอาเองเถอะ” สมโชคกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจ
มือเรียวของกีตาร์ผู้จัดการสาวส่วนตัวของอังคณาเอื้อมมือมารับซองกระดาษสีน้ำตาลจากมือคุณสมโชคอย่างรวดเร็ว
ผู้จัดการสาวดึงภาพถ่ายออกมาจากซองเอกสารสีน้ำตาลอย่าง เบามือ
ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าของกีตาร์ทำให้หญิงสาวอดรู้สึกหัวเสียขึ้นมาไม่ได้ผู้จัดการสาวรีบเก็บภาพนั้นเข้าไปในซองเอกสารอย่างรวด เร็วราวกับไม่อยากเห็นมัน
แรงโทสะของกีตาร์ปะทุขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แววตาของ หญิงสาววาวโรจน์อย่างที่กีตาร์อดรู้สึกไม่ได้ว่าเวลานี้เธอกำลังโกรธจนจะฉีกเนื้อสวยๆ ของอังคณาได้เลยทีเดียว
“ถ้ามีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีกผมจะถอนสัญญาอังอังนะ”สมโชค กล่าวอย่างสุภาพพลางตีสีหน้าบูดบึ้ง
“ค่ะ...คุณสมโชค”กีตาร์กล่าวด้วยแววตากระด้างพลางสาวเท้าออกจากห้องผู้บริหาร ด้วยแววตาพราวระยับ
บ้านติเสกุล
“เธอทำอะไรลงไปรู้ตัวไหมอังอัง”กีตาร์ผู้จัดการสาวเอ่ยกับ อังคณาด้วยน้ำเสียงขุ่นพลางโยนซองกระดาษเอกสารสีน้ำตาลให้อังคณาอย่างไม่ปรานี
มือเรียวของอังคณาเอื้อมหยิบซองเอกสารที่กีตาร์โยนลงบน เตียงมาเปิดดูอย่างสั่นเทา
อังคณาคลี่ซองเอกสารสีน้ำตาลให้เปิดออกพลางหยิบภาพซ่อนอยู่ในซองเอกสารขึ้นมา
ภาพเบื้องหน้าเป็นรูปภาพมุมเสยของหญิงสาวและชายหนุ่ม พลภัค อดีตคนรักหนุ่มที่เป็นนักบินของเธอที่เพิ่งเลิกไปหมาด ๆ “ถ้าอยากกินกับก็บอกกันดี ๆ ไม่ใช่แอบมาทำลับ ๆ แบบนี้”
กีตาร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงวีน
“มันไม่ใช่อย่างที่พี่กีตาร์เข้าใจนะคะ”อังคณาตอบโต้หญิงสาว ด้วยเสียงแผ่วเบา
“ภาพมันออกมาขนาดนี้แล้วนะอังอังยังกล้าปฏิเสธพี่ได้ลงเหรอ” กีตาร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว ดวงตาของกีตาร์จ้องเขม็งมายังเธอ
อังคณาจำได้ว่าในวันนั้นที่พลภัคปลีกตัวออกมาหาเธอจากงาน เลี้ยงซึ่งเธอผิดเองที่แอบนัดพบกับเขาโดยไม่ได้บอกกีตาร์ก่อน
หากแต่หญิงสาวจำได้ว่าในวันนั้นพลภัคบอกเลิกเธอไม่ใช่พลอดรักกันอย่างที่กีตาร์เข้าใจ
หากอังคณาคาดคะเนไม่ผิดมากนักหญิงสาวเดาว่าช่างภาพผู้ประสงค์ร้ายต่อตัวเธอคงจะฉวยโอกาสตอนที่เธอกำลังโรมรันต่อว่าพลภัคภถ่ายภาพของเธอเป็นแน่ไม่เช่นนั้นภาพแบบนี้จะหลุดออกมาในมุม เสยแบบนี้ได้อย่างไร
อังคณากัดริมฝีปากล่าง มือเรียวบางของหญิงสาวจิกเข้าหากัน แน่นโดยที่ดาราสาวไม่ทันรู้ตัว
“อังอัง พี่บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าค่ายเรามีกฎอะไร”
กีตาร์ยังคงหัวเสียไม่เลิกเมื่อเธอต้องมาดูแลนักแสดงสาวที่กำลังจะมี ประวัติเสียหายอย่างอังคณา
“อังอังจำกฎได้ค่ะ ในวันนั้นอังไปบอกเลิกพี่ภัคพอดี” อังคณาตอบผู้จัดการสาวเสียงอ่อนเบา
“แล้วทำไมไม่บอกพี่ล่ะ” กีตาร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มที แรงโทสะของผู้จัดการสาวจวนเจียนปะทุได้ตลอดเวลา
“อังอังกลัวพี่กีตาร์ไม่ให้ไป”อังคณาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนจางกว่าเดิม
“ใช่ถ้าพี่รู้พี่ก็ไม่ให้อังไป ทำไมถึงชอบนักผู้ชายเลว ๆ นี่” กีตาร์เอ่ยอย่างไม่เข้าใจอังคณาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ
“พี่กีตาร์ค่ะ วันนี้พลภัคบอกเลิกอังอังจริงๆนะคะ
แล้วอังก็เข้าไปทะเลาะกับเขาปาปารัสซี่คงแอบอยู่เลยถ่ายออกมาได้รูปมุมเสยจนเป็นแบบนี้” อังคณากล่าวอธิบายทั้งน้ำตา
หยาดน้ำใสไหลเอ่อคลอหน่วยตาทั้งสองข้างของหญิงสาว อังคณาพยายามไม่ให้น้ำตาของเธอไหลไปมากกว่านี้
อากัปกิริยาตรงหน้าของกีตาร์ทำให้หญิงสาวใจอ่อนยวบ กีตาร์เดินไปหาอังคณาอย่างเห็นใจ
กีตาร์สวมกอดอังคณาที่หันมาซบไหล่ของเธออย่างเต็มแรง หยาดน้ำใสไหลรินอาบแก้มชมพูของอังอังอย่างไม่ต้องสงสัย
กีตาร์ทำอะไรไม่ถูกนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อังคณาใช้น้ำตาจนเธอ
ใจอ่อนหากแต่ในครั้งนี้อังคณาคงจะเสียใจและอดรู้สึกสับสนไม่ได้เมื่อ
ถูกบอกเลิกและยกเลิกงานกลางครัน
“พี่กีตาร์คะ อังอังขอโทษค่ะ อังอังจะไม่โกหกพี่กีตาร์อีกแล้ว” อังคณาเอ่ยอย่างสะอึกสะอื้น
“ไม่เป็นไรอังอัง...พี่ว่าตอนนี้เราควรไปพักผ่อนนะ”กีตาร์เอ่ย
กับอังคณาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“พักผ่อน?” อังคณาเอ่ยทวนคำของผู้จัดการสาวด้วยน้ำเสียงสูง
“ใช่ไปพักผ่อน”พี่จองรถตู้ให้เธอแล้ว”กีตาร์เอ่ยเสียงเข้มท้าย ประโยคหญิงสาวพยายามทำเสียงอ่อนเบาเพื่อไม่ให้อังคณาตกใจ
“ที่ไหนคะ”อังคณาเอ่ยถามอย่างสงสัยในท่าทีของผู้จัดการสาว อย่างกีตาร์
“รีสอร์ทดาหรันที่กระบี่”กีตาร์เอ่ยอย่างแผ่วเบากับนักแสดงสาวที่เพิ่งจะถูกคาดโทษทัณฑ์มาหมาดๆ
“ค่ะพี่กีตาร์” อังคณาเอ่ยกับกีตาร์ด้วยแววตาอ่อนลง
หัวใจของอังคณาหล่นวูบถึงตาตุ่มหญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าการไปเที่ยวครั้งนี้อาจเป็นเรื่องที่หญิงสาวต้องจดจำไปตลอดชีวิตและนั่น
อาจหมายถึงการถูกเลิกเป็นนักแสดงที่เป็นความฝันของอังคณามาตั้งแต่เด็ก
นิยายจอมใจฮิปปาเรียนี้จะถูกเรียกว่าหนังสือชุด #อาณาจักรฮิปปาเรีย ค่ะ โดยซีรีส์อาณาจักรฮิปปาเรียมีนิยายทั้งหมด 10 เล่ม ดังต่อไปนี้ 1.จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย 2. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 2 ผจญภัยป่าดงดิบฮานาบี 3. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 1 กำเนิดรัชทายาทฮิปปาเรีย 4. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 2 นางบรรณาการแคว้นดิมาเรีย 5. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ปราบกบฎบัลลังก์สราเนีย 6. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ห้าเจ้าหญิงผู้นำทางปริศนา 7. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 1 หนึ่งเดียวในหทัย 8. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 2 อาณาจักรฮิปปาเรีย 9. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 1 เจ็ดขุนนางผู้พิทักษ์ 10. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 2 ราชอาณาจักรฮิปปาเรีย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจาก จินตนาการของ "ดวงดาหลา" เองค่ะ ดินแดนฮิปปาเรียเป็นดินแดนสมมติที่ผู้เขียนเฝ้าฝันถึง จอมใจฮิปปาเรีย มีสี่ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 2 เล่มค่ะ รับรองค่ะว่า เข้มข้น หวานซึ้ง ตรึงใจทุกคนแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องจะสนุกขนาดไหน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนียได้แล้ว ณ บัดนี้ Duangdala Talk ดวงดาหลากลับมาเเล้วค่ะ หลังจากติดภารกิจมานาน รี้ดทุกคนสามารถคอมเม้น หรือกดใจทั้ง 5 ให้ดวงดาหลาได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #ดวงดาหลา ป.ล. นักอ่านท่านใด หรือ ใครอ่านเเล้วมารีวิว มาเม้นมาพูดคุยกันกับดวงดาหลา ได้น้า
พจน์ศรัช โคฟาวเดอร์ หนุ่มที่ได้โคจรมาพบกับธาสิกา คู่หมั้นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เรื่องราวชุลมุนยิ่งขึ้นเมื่อคู่หมั้นคนก่อนเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนาในสถานอโคจรที่เขาต้องมีเอี่ยวไปด้วย งานนี้ธาสิกาจึงต้องลงมือสืบสาวเรื่องราวด้วยตัวเอง งานแต่งยังคงดำเนินต่อไป และใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของยศรินทรา แฝดพี่ของธาสิกา ไม่รู้ว่าจะเรียกพรหมลิขิตเขียนไว้หรือจะเป็นบาปเวรแต่ชาติปางไหน...เมื่อหัวใจรักของเขาทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว
“เพ่ยอินเหยาข้านี่แหละยอดขุนพลสตรี เล่ม 1” นิยายรักจีนโบราณสายบู๊และบุ๋น ‘อินตูตู’ ขุนพลสตรีผู้มีศักดิ์เป็นแม่ทัพคุมค่ายพลทหารชาวฉินเพื่อออกรบในสมรภูมิทีเดิมพันด้วยชีวิตอย่างแคว้นฉี หากการมาแคว้นฉีไม่ได้มีเพียงแค่สงครามระหว่างแคว้นเท่านั้น ทว่าการมาครั้งนี้ของนางมาเพื่อแก้ปมปริศนาสตรีที่หายไปในแคว้นฉินด้วยต่างหาก สงครามระหว่างแคว้นฉินและฉีจะจบลงเช่นไร แล้วใครกันเป็นผู้บงการเกมที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต
ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ จุดเริ่มต้นความน่าสะพรึงกลัวของทุกสิ่งที่จารีย์ได้เจอนั้นมาจากคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่าแห่งนี้ ภายนอกงดงามหากแต่ภายในกลับรกร้างราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน แรงแค้น แรงพยาบาท แรงอาฆาต ของสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนตามจองกรรมทวงถามความเป็นธรรมอย่างที่พวกมันรอคอยตลอดมา! +++ นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!
"วันดับนางริษยา" นิยายแนวสยองขวัญกระตุกประสาทที่จะมาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ มาร่วมค้นหาบทสรุปในนิยายเล่มนี้กันค่ะ
"วันดับนางริษยา" นิยายสยองขวัญกระตุกประสาท #ดวงดาหลา ที่จะพาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ ++++++++++++ โปรปราย เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไป,kอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้