© 2018-now MeghaBook
4. วิวาห์จัดฉาก
6. เขยไม่เอาถ่านกับตำนานลูกเศรษฐี
7. ท่านประธานขาพาหนูลงจากเตียง เอ๊ย คานที
8. สามีสุดที่ร้าย ภรรยาสุดที่รัก
10. เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ
ผู้เขียน: Axel Bob
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 การแต่งงานที่น่าสมเพช
ในค่ำคืนอันมืดมิด
แสงไฟภายในคฤหาสน์ของตระกูลยู่ยังส่องสว่างไสว เสียงหัวเราะครื้นเครงดังออกมาเรื่อย ๆ จากทางห้องนั่งเล่น
เจียงซุ่ยยืนอยู่เพียงผู้เดียวภายในห้องครัว ใบหน้าของหญิงสาวขึ้นสีแดงอย่างผิดปกติ เธอมองหม้อซุปด้วยความวิงเวียน ไอจากหม้อที่ลอยขึ้นมาปะทะใบหน้าทำให้เธอมองอะไรไม่ค่อยชัด
หญิงสาวมีไข้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
แต่เธอไม่มีแม้แต่เวลาจะออกไปหาซื้อยามากิน เธอมัวแต่สาละวนอยู่กับงานบ้านพวกนี้จนไม่ได้ออกไปไหนเลย
“นี่ เสร็จหรือยังวะ! เธอขนาดแค่ทำกับข้าวก็ช้าขนาดนี้ นี่พี่ชายของฉันไปคว้าเอาขยะอย่างเธอมาแต่งงานด้วยได้ยังไงเนี่ย!”
ยู่โหลเดินเข้ามาในห้องครัวพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
เจียงซุ่ยได้แต่เลียริมฝีปากที่แห้งผากของตนเอง หญิงสาวคุ้นชินกับท่าทีเช่นนี้ของน้องสามีตนเองแล้ว
“อีกไม่นานก็เสร็จแล้วค่ะ”
“งั้นก็เร็ว ๆ เข้า พี่ชายของฉันกับพี่เมิ่งหนิงกำลังรออยู่” ยู่โหลออกคำสั่งให้อีกคนเร่งมือ “พี่เมิ่งหนิงน่ะไม่เหมือนกับสาวบ้านนอกคอกนาอย่างเธอหรอกนะ พี่เขาเพิ่งจะกลับมาจากการรักษาที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นจะปล่อยให้พี่เขาหิวไม่ได้ เพราะถ้าพี่เขาหิวขึ้นมา พี่ชายของฉันไม่เอาเธอไว้แน่!”
เจียงซุ่ยกำช้อนในมือของตนเองแน่น เธอรู้สึกเหมือนถูกแทงทะลุหัวใจ มันเจ็บปวดเหลือเกิน
เธอคอยดูแลยู่จินเฉินและตระกูลยู่ด้วยกำลังทั้งหมดที่เธอมีมาตลอดระยะเวลาสามปี ไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้คนหนึ่ง แต่ในสายตาของสามี เธอเทียบอะไรกับเสิ่นเมิ่งหนิงไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผมด้วยซ้ำ
ผู้เขียน: แก้วใบเล็ก
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ครั้งแรก 1
เจ้าของร่างสูงใหญ่ยืนทอดสายตามองออกไปยังเนินเขาที่ลาดลงไปยังถนนด้านล่างที่ปกคลุมด้วยหญ้าที่ถูกตัดจนสั้นเตียน ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะเม็ดฝนที่พร่างพรมลงมาเพิ่งซาลง เห็นพุ่มไม้ดอกไม้ประดับเป็นเงาตะคุ่ม ๆ อยู่สองข้างทางที่ลาดปูด้วยหินธรรมชาติ แม้เพิ่งอยู่ในเวลาพลบค่ำ
ดวงตาสีนิลที่มองออกไปคาดเดาความรู้สึกนึกคิดของเจ้าของไม่ได้
“เธอพร้อมแล้วครับนายหัว” ลูกน้องคู่กายในวัยสี่สิบปีที่พ่วงตำแหน่งผู้จัดการโรงเลื่อยไม้บุรินทรด้วยบอกกับเจ้านายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาห้าปีเสียงเรียบ นายหัวสีหราช บุรินทร นั่นคือนามของบุรุษรูปงามผิวสีแทนที่ยังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงกว้างของบ้านปูนสองชั้น
“อืม เดี๋ยวผมไป” ใบหน้าและแววตายังคงนิ่งไม่เปลี่ยนก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะกระดิกเพื่อเขี่ยเถ้าบุหรี่ทิ้ง แล้วอัดเข้าปอดอีกครั้ง
“ให้ผมรอไหมครับ” นานมากแล้วที่นายของเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง และเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่คนอย่างสีหราชคิดอยากหลับนอนกับหญิงสาวที่ไม่ใช่คนรัก แถมยังใช้บ้านที่เคยคิดว่าจะเป็นเรือนหออีกต่างหาก ในฐานะลูกน้องอาชว์ก็ได้แค่สงสัยว่าผู้ชายที่หวงเรือนหอมากที่สุดทำไมกล้าพาผู้หญิงพวกนั้นเข้ามาในบ้านได้ แต่นายจะทำอะไรย่อมเป็นสิทธิ์ของเขาอยู่แล้ว อาชว์มีหน้าที่แค่รับส่งผู้หญิงของนายที่นรีเตรียมไว้ให้ก็พอ นอกนั้นก็ไม่ใช่หน้าที่ที่เขาจำเป็นจะต้องรู้ ถึงแม้ว่าเขาจะสนิทกับสีหราชมากแค่ไหน แต่เรื่องนี้ก็ไม่สมควรถ้าเขาจะเอ่ยถาม
“ไม่ต้อง” ตอบกลับเสียงเรียบไม่มีความตื่นเต้นในแววตาแม้แต่เสี้ยวเดียว
“ครับ” สิ้นคำลูกน้องที่ร่างกำยำไม่ต่างจากนายแต่ผิวสีเข้มกว่ามากโค้งคำนับให้เล็กน้อย ก่อนจะถอยหลังเดินออกไปยังห้องพักของตนที่อยู่บ้านหลังเล็กกว่าข้าง ๆ เรือนหลังใหญ่แห่งนี้
ผู้เขียน: ดอกอ้อลู่ลม
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 2 การกลับมา
สวัสดีค่ะฉันชื่อว่าเรนเดียร์พ่อกับแม่มักจะเรียกสั้นๆ ว่าเรนส่วนเพื่อนๆ จะเรียกว่าเดียร์แต่ฉันก็ยังมีชื่ออีกชื่อนึงนะคะแต่ชื่อนี้จะมีแค่คนเดียวที่เรียกแต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ยินชื่อนั้นอีกแล้วล่ะเพราะอะไรน่ะเหรออ่านไปก็จะรู้เองค่ะฉันไม่อยากสาธยายเพราะมันเหมือนเป็นการตอกย้ำความเจ็บปวดของตัวเอง
ตอนนี้ฉันมาอยู่ที่งานเลี้ยงรุ่น งานที่รวบรวมเพื่อนๆ ทุกคนที่บางคนก็ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เรียนจบหรือบางคนอาจจะยังเจอกันอยู่ ส่วนฉันตั้งแต่เรียนจบไปสามปีฉันไม่ได้เจอใครเลยค่ะเพราะหลังจากเรียนจบฉันก็ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเองที่ต่างจังหวัด
"เฮ้ยัยเดียร์ทางนี้โว๊ยยยยย!!! " เสียงเรียกชื่อของฉันที่ดังแข่งกับเสียงดนตรีทำให้ฉันหันไปมองหาว่าใคร ปรากฏว่าเป็นยัยอิมเพื่อนสนิทของฉันเองค่ะที่มันกำลังตะโกนเรียกจนทำให้คนอื่นๆ หันมามองจนฉันต้องรีบก้มหน้าแล้วเดินไปหามันที่โต๊ะ ยัยอิมชื่อเต็มๆ ก็คืออิมเมจและที่ฉันกับมันไม่ได้เจอกันก็เพราะหลังจากเรียนจบพ่อแม่มันก็ส่งมันไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีทำให้ฉันกับมันไม่ได้เจอหน้ากันเลยมีแค่โทรคุยกันเท่านั้น
"ไม่ได้เจอแกตั้งหลายปีโคตรคิดถึงเลยว่ะ" มันพุ่งเข้ามากอดฉันจนฉันแทบหงายหลังคือตอนนี้มันคงจะเมาแล้วล่ะเพราะดูจากแก้วเครื่องดื่มที่วางอยู่เต็มโต๊ะ
"อื้มมมฉันก็คิดถึงแกเหมือนกันว่าแต่ทำไมแกเมาเร็วขนาดนี้ล่ะงานเพิ่งเริ่มไม่ใช่เหรอ"
"ก็มันไม่มีอะไรทำนี่หว่าแกก็มาช้าฉันไม่อยากคุยกับใครก็เลยสั่งเครื่องดื่มมาดื่ม" มันยกแก้วเหล้าขึ้นมาโชว์ก่อนจะกระดกเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว
"เป็นความผิดฉัน?? " ฉันใช้นิ้วชี้มาที่ตัวเองเพราะยัยอิมมันโทษฉันว่าฉันมาสาย แต่ฉันก็มาสายจริงๆ เพราะฉันนั่งเครื่องจากเชียงใหม่เพิ่งจะถึงกรุงเทพได้ไม่กี่ชั่วโมงนี้เองแล้วไหนจะต้องหาโรงแรมที่พักอีกเพราะที่นี่ฉันไม่มีบ้านเมื่อก่อนตอนเรียนที่นี่ฉันก็เช่าหออยู่มาตลอดและไหนจะรถติดอีกคือกรุงเทพรถติดยังไงก็ยังติดอยู่อย่างนั้นคือฉันผิดเองแล่ะที่กะเวลาผิดเพราะเคยชินกับการเดินทางที่สะดวกสบายรถไม่ติดของบ้านเกิดตัวเอง
ผู้เขียน: รริศา
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ชะนีหนีคาน
งานเลี้ยงรุ่นประจำปี เป็นอีกวันที่สร้างความเบื่อหน่ายสุดแสนให้ ‘ป่านฝัน’ เธอเบื่อกับการฉายเดี่ยวตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่เพื่อนสาวแต่ละคนต่างควงคู่มากับคนรัก จากนั้นก็ทยอยแต่งงานกันออกไป เหลือเพียงไม่กี่คนในวัยสามสิบอย่างเธอที่ยัง ‘โสด!!’
ทุกงาน... เธอมักตกเป็นหัวข้อสนทนา ต้องทนยืนฟังคำหยามหยันของเพื่อน หลายงานที่เธอต้องทำใจฝืนยิ้มและแกล้งเมา ครั้งนี้ก็คงหนีไม่พ้นอีหรอบเดิม ทั้งที่ประสาทสัมผัสทางหูสามารถรับรู้ทุกอย่างที่เพื่อนพูดได้ดี ในใจปวดปร่าเหมือนเหล็กแหลมทิ่มแทง แต่เธอกลับฝืนยิ้มทำตัวร่าเริงให้จบงานเหมือนเคย
บนถนนกลางกรุง มหานครที่รถติดยาวเหยียดในช่วงเวลารีบเร่ง กว่าป่านฝันจะหลุดออกมาจากลูกค้าจอมเขี้ยวก็กินเวลานัดเพื่อนไปนานโข จากที่ต้องไปแต่งหน้าทำผมที่ร้านตามนัดกับพราวลดา เธอกลับต้องตรงดิ่งมาพร้อมชุดทำงาน งานที่เธอรับผิดชอบก็แสนจะหนักหนาและวุ่นวาย จนเกือบมาไม่ทันเวลา
พราวลดาเองก็โทร. มาเร่งยิกๆ
‘แกอยู่ไหนแล้วป่าน ฉันถึงโรงแรมตั้งนานแล้วนะ นี่มันก็เลยเวลานัดมากแล้ว หรือแกจะเบี้ยวแบบลาสมินิทเหมือนงานก่อน บอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าถ้าแกไม่มา ฉันโกรธจนลูกบวชแน่ มีอย่างที่ไหน นัดที่ร้านทำผมสี่โมงเย็น ไปไม่ทันยังพอทน แต่ที่บอกว่าจะมารอหน้างาน จะทุ่มครึ่งแล้ว ยังไม่เห็นโผล่หัวมาอีก’ ทันทีที่ป่านฝันกดรับสาย พราวลดาก็บ่นเพื่อนยืดยาว ตามแบบฉบับของเลขา เธออินกับบทบาทนี้มากจนเลยเถิดมาใช้จัดการชีวิตของเพื่อนแต่ละคนด้วย
แม้อยากยกให้เป็นเลขาแม่แบบ ทว่าบางครั้งก็อยากบอกเหมือนกันว่าเธอไม่ได้จัดตารางนักธุรกิจอยู่ ถึงพลาดเรื่องเวลาไม่ได้สักนาที
“อือ! ฉันไม่เบี้ยวหรอกน่า เพิ่งเสร็จประชุมกับลูกค้า นี่ฉันก็ขับรถอยู่ ใกล้จะถึงโรงแรมแล้วแหละ อือ! ฉันจะเหยียบมิดคันเร่งเลยเป็นไง”
ป่านฝันเย้าเพื่อน สลับกับปลายสายที่ยังบ่นไม่หยุด แต่พอเธอบอกจะเหยียบมิดคันเร่ง ปลายสายถึงกลับขนลุกซู่ กลืนน้ำลายฝืดลงคอ เพราะรู้จักวีรกรรมแม่สาวตีนผีอย่างป่านฝันเป็นอย่างดี
ผู้เขียน: กวินทร์แก้ว
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 บทนำ
บทนำ
บ้านสวน, อัมพวา
เสียงกุกกักดังขึ้นกลางดึกทำให้ชญานินสะดุ้งตื่น เธอตัดสินใจเปิดไฟแค่ห้องนอนเพราะห้องของเธออยู่ติดกับโถงห้องนั่งเล่นทำให้ไฟสามารถส่องสว่างถึงแม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม แต่เธอก็สามารถเห็นความเคลื่อนไหวและของภายในโถงห้องนั่งเล่น เธอค่อยๆ เปิดประตูห้องอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อเธอเปิดประตูกว้างขึ้นก็พบร่างท้วมของผู้ชายคนหนึ่งที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินออกจากห้องและเอ่ยเรียกชายร่างท้วม
"พ่อค่ะ มาทำอะไรกลางดึกแบบนี้ค่ะ พ่อดื่มเหล้ามาอีกแล้วเหรอ" ชญานินเอ่ยพลางขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นสุราจากชายร่างท้วมที่เธอเอ่ยเรียกว่า 'พ่อ' เธอชินแล้วกับการเห็นชายร่างท้วมกลับมาพร้อมกลิ่นสุรา แต่เธอก็ไม่เคยชินกับการที่พ่อส่งเสียงดังกลางดึก แม้พักหลังจะบ่อยขึ้นก็ตาม
บ้านของเธอเป็นบ้านสวนอยู่ริมแม่น้ำ ห่างจากถนนใหญ่ไม่มากแต่ก็ไม่มีเพื่อนบ้าน หากเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีใครรู้ รอบตัวบ้านก็มีสวนผลไม้เล็กๆ ที่แม่เป็นคนทำไว้ตั้งแต่เธอจำความได้และหลังจากสูญเสียแม่ไปจากโรคร้ายเธอก็คอยดูแลสวนหลังกลับจากงานร้านกาแฟและช่วงวันหยุดเพียงคนเดียว เพราะเธอไม่มีเงินมากมายที่จะจ้างคนมาดูแล
"มีเงินหรือเปล่า พ่อต้องการเงินสักห้าหมื่น" ธนัทพงษ์เอ่ยขึ้นพลางรื้อค้นลิ้นชักไปทั่วโถงห้องนั่งเล่น ชญานินมองตามร่างท้วมที่เดินไปทั่วก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป
"หนูไม่มีเงินแล้วค่ะ เมื่อวานพ่อก็มาเอาไปแล้วสามหมื่น เงินก้อนสุดท้ายที่หนูมี กว่าจะได้เงินเดือนจากร้านกาแฟก็สิ้นเดือนค่ะพ่อ"
"แกต้องมี! ถ้าแกไม่มีให้ฉันพวกเจ้าหนี้ก็จะมาฆ่าพวกเราและยืดบ้าน แกต้องการให้เป็นแบบนั้นหรือไง! " ธนัทพงษ์เดินมาตะคอกใส่ชญานินก่อนจะเดินชนไหล่หญิงสาวเข้าห้องนอนของเธอเพื่อรื้อค้นหาเงินต่อโดยไม่ฟังคำพูดของเธอที่เริ่มสั่นเครือพลางน้ำตาเอ่อคลอหันไปมองผู้เป็นพ่อ
ผู้เขียน: Sydney Chaplin
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ภรรยานอกใจ
ณ แผนกต้อนรับของบริษัท อีสท์เดย์ เดคคอร์เรชั่น เมืองจิ่วเจียง ประเทศอเมริกา
“นี่คือกาแฟที่คุณฟางจืออางสั่งไว้ค่ะ จะให้ไปส่งไว้ที่ไหนดีครับ?”
หลินเทียนถือถุงกระดาษในมืออย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าจะทำกาแฟหกอยู่ด้านใน
ผู้ช่วยหญิงที่แผนกต้อนรับมองพิจารณาหลินเทียนตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็พูดด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยามว่า “ตามฉันมา”
หลินเทียนเดิมเป็นคนขับอูเบอร์ แต่วันนี้เขาได้รับคำสั่งซื้อเดลิเวอรี่โดยไม่คาดคิดพร้อมเงินพิเศษ แล้วก็ยังได้ค่าส่งแบบเร่งด่วนเพิ่มมาอีกสองร้อยดอลลาร์ เขาถึงได้มาที่นี่
หลังจากนั้นไม่นาน หลินเทียนก็เดินตามผู้ช่วยหญิงคนนั้นไปที่ประตูสำนักงาน
ตอนที่หลินเทียนเพิ่งจะวางมือลงบนลูกบิดประตูสำนักงาน เสียงอ่อนเสียงหวานที่ชวนปลุกอารมณ์ของผู้หญิงก็ดังมาจากข้างใน
เสียงนี้ หลินเทียนคุ้นเคยเป็นอย่างมาก มันเหมือนกับเสียงของเจียงเชียนหนิงที่เป็นภรรยาของตัวเองเลย
ไม่หรอก เขาต้องฟังผิดแน่ ๆ
แต่หลินเทียนก็ยังทนไม่ไหวจึงต้องขยับเข้าไปฟังใกล้ ๆ
“อ่าส์...คุณฟาง อย่าทำแบบนี้สิคะ...”
“ให้ผมจูบหน่อยเถอะนะ สามีที่ไม่เอาไหนคนนั้นของคุณคงไม่เคยจูบคุณมาก่อนสิท่า”
เมื่อหลินเทียนได้ยินบทสนทนานี้ เขาก็ตัวแข็งอยู่กับที่ ราวกับถูกฟ้าผ่าลงมาอย่างจัง
ผู้เขียน: ผลิกา(เลอบัว)
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 บทนำ
บทนำ
“ผับ ๆๆ…” เสียงเสียดสีของสองกายที่ กำลังสอดประสานกลายเป็นหนึ่ง ยิ่งฟังยิ่งกระตุ้นความกำหนัดให้ปะทุถึงขีดสุด ดุ้นยักษ์ที่กำลังชำแรกแทรกผ่านความนุ่มลึก ทำเอาพวกเขาเสียวซ่านจนแทบลืมตัวตน เขาแข็งขึง ในขณะที่เธอก็อ่อนนุ่มแต่ร้อนผ่าว เขาเหยียดขยาย ในขณะที่เธอตอดรัดตลอดลำกายแกร่ง เขาขยับตอกอัด ในขณะที่เธอก็ส่ายร่ารับได้ทุกจังหวะการสอดใส่ ประหนึ่งร่างกายทั้งคู่เกิดมาเพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกัน
“อ๊ะ! อื้อ!” เสียงเธอครางตามจังหวะที่ถูกกระแทกกระทั้น รับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อเป็นจังหวะเดียวกัน
“อา…!” เขาเองก็คำรามเสียงแหบห้าว นึกไม่ถึงว่าร่างกายของผู้หญิงคนนี้จะให้ความรู้สึกดีถึงปานนี้ โดยเฉพาะความรัดรึงที่กำลังตอดตุบๆ มันทำเอาเขาอยากทะลายทำนบปลดปล่อยให้สายธารสวาทสาดกระเซ็นใส่ความแนบแน่นของเธอเต็มที อีกไม่นานหรอก รอให้เขาเสพสมเรือนร่างงดงามผุดผาดนี้ให้หนำใจซะก่อน ถึงตอนนั้นเขาจะปลดปล่อยให้เธอได้กลืนกินมัน
กายแกร่งแข็งขึงและร้อนผ่าวราวแท่งเหล็กที่กำลังขยับเข้าขยับออกเสียดสีจนเนินสาวร้อนฉ่า ไม่ใช่แค่เธอที่กำลังเสียดเสียวกับดุ้นยักษ์ที่ขยับตอกอัดลงมาซ้ำๆ เขาเองที่เป็นฝ่ายโรมรันก็ไม่ได้รู้สึกต่างกัน ยิ่งเขาขยับความคับแน่นก็ยิ่งบีบอัดจนต้องครางระงม ความกำหนัดที่มันกำลังพลุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคย ทำให้เขาแทบระเบิด เหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่กำลังผุดพรายเต็มใบหน้าของ ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกเหน็ดเหนื่อย กลับเป็นแรงกระตุ้นให้พวกเขาเข้าหากันอย่างรุนแรงมากขึ้น แนบแน่นขึ้น เธอยังคงส่ายร่าแอ่นรับตัวตนทั้งหมดที่เขาให้ ในขณะที่เขาก็โยกขยับสลับบดเบียดจนกายสาวสั่นคลอน
แสงไฟสลัวๆ จากหัวเตียงที่สาดกระทบมายังเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวเนียนกำลังปลุกปั่นความกำหนัดของเขาให้พุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม เธอเป็นใคร คำนี้ยังดังก้องอยู่ในหัว แล้วอะไรทำให้เธอต้องมาทำงานแบบนี้ คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดโมโหไม่ได้ เผลอระบายออกมาด้วยการกระแทกใส่เนินสาวแรงๆ จนเธอครางประท้วงใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก แน่นอนว่าเขารู้ดีว่านี่คือครั้งแรกของเธอ แต่ที่ไม่รู้คือ...ทำไมเธอต้องเป็นสาวไซด์ไลน์ ถึงครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก แต่ครั้งต่อๆ ไปล่ะ จะมีผู้ชายอีกกี่คนที่ได้ทำอย่างที่เขาทำ เพียงแค่คิด เขาก็เดือดดาลขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล พลันสะโพกสอบก็ขยับตอกอัดรุนแรงขึ้นอีก
ผู้เขียน: Leonora
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ฉันไม่เสียใจ
“ครั้งแรกเหรอ?”
ลมหายใจของชายแปลกหน้าดังก้องอยู่ข้างหูเธอ หลินซินเหยียนตัวสั่นเทา ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามอง
“ผ่อนคลายหน่อยสิ ฉันกลัวทำเธอเจ็บ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
หลินซินเหยียนยังไม่ทันได้ตอบ ชายหนุ่มก็ใช้มือช้อนคางเธอขึ้นมารับจูบจากเขา
โอ๊ยเจ็บ!
ความเจ็บปวดที่ราวกับถูกฉีกทึ้งทำให้ในหัวเธอมีแต่ความว่างเปล่าไปในชั่วขณะ
พอหลังเที่ยงคืน ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ หลินซินเหยียนกัดฟันรีบพาร่างที่เจ็บปวดของเธอออกจากห้องไป
ในค่ำคืนที่เงียบงัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอย่างฉับพลันทำให้จิตใจของเธอรู้สึกว้าวุ่นกระวนกระวายใจ
หลินซินเหยียนมองโทรศัพท์แค่แวบเดียวก็รีบมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทันที
“คุณหมอคะ รีบช่วยแม่กับน้องชายฉันด้วยนะคะ…” หลินซินเหยียนเซ็นชื่อด้วยมือที่สั่นเทิ้ม แล้วยื่นเอกสารส่งให้หมอ
หมอมองไปที่เธอพลางพูดว่า “ขอโทษด้วยครับ น้องชายคุณได้จากไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ!”
มันเหมือนราวกับฟ้าผ่าลงกลางศีรษะของหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น
เมื่อแปดปีก่อน เธออายุได้สิบขวบ พ่อของเธอนอกใจแม่ของเธอ เขาได้ส่งแม่ที่กำลังตั้งท้องและตัวเธอไปยังที่ที่ไม่คุ้นเคย
หลังจากน้องชายเธอคลอดและอายุได้ 3 ขวบก็ตรวจพบว่าเป็นออทิสติก เธอกับแม่จึงต้องวิ่งรอกรับจ้างทำงานไปทั่ว ถึงมีชีวิตรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ ทว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้ กลับทำให้ครอบครัวเธอเหมือนถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ผู้เขียน: ดอกอ้อลู่ลม
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ครั้งแรก อยากลองNC+
หนึ่งปีก่อน
" คิมูจิ"
"อ๊ะ อ๊ะ อิไต้ อิไต้"
">//<"
"0-0"
เธอกับคนข้างๆกำลังอึ้งและตื่นตกใจกับภาพที่ปรากฏอยู่หน้าจอคอม มันคือหนังประเภทนึงที่เธอกับเขาดันไปเปิดเจอเข้าโดยบังเอิญอย่างไม่ได้ตั้งใจ
"อื้มมหืมมมม นมแม่งโคตรใหญ่ แจ่มว่ะ" คนข้างๆก็มีอาการไม่แตกต่างไปจากเธอสักเท่าไหร่เขามองจอตาไม่กะพริบเลย
"ทำไมผู้หญิงต้องเอาอันนั้นเข้าปากด้วยอ่ะนายรู้มั้ยจากัวร์"
"ไม่รู้" ตอบแบบไม่ได้ใส่ใจที่จะตอบเพราะเอาแต่จ้องหน้าจอ
เอ๊ะ?? ดูนั่นสิมีน้ำพุ่งออกมาด้วยเหมือนนมโยเกิร์ตที่เราชอบกินเลย"
"โหเต็มหน้าเลยว่ะ เจ๋งไปเลย"
"ทำไมผู้หญิงถึงกินน้ำนั่นล่ะ"
"ไม่รู้ดิ อร่อยก็ได้มั้ง"
"อร่อย?? "
"อืมฮึ"
'นายจะมีน้ำนมโยเกิร์ตออกมาแบบนั้นมั้ยอ่ะจากัวร์"
"ผู้ชายคนนั้นมีฉันก็ต้องดิ เพราะฉันก็มีไอ้นั่นเหมือนกัน"
"เหรอออ"
"ทำไมอยากลองกิน?? "
"ก็อยากรู้ว่ามันจะอร่อยจริงมั้ย"
"อยากกินป่ะล่ะจะให้กิน"
สิบนาทีต่อมา...
เธอตัดสินใจจับเจ้าตัวปะหลาดอันใหญ่เข้าสู่โพรงปากซึ่งมันคับแน่นไปทั้งปากจนเธอหายใจแทบไม่ออก
อ๊อก อ๊อก อ๊อก
"ซี๊ดดด มันแปลกๆว่ะพรีม ซี๊ดดด อ่าาส์"
บ๊วบ บ๊วบ บ๊วบ
"โอ๊ยยย มันเสียวหัว อ่าาาส์"
"อ๊ะไอ่อ้ามอะออกอา" (มะไหร่น้ำจะออกมา)
"เธอว่าอะไรนะ ซี๊ดดดดด"
"มะไหร่น้ำจะออกมา" เธอเอาเจ้าแท่งประหลาดออกจากปากแล้วถามคนที่ยืนทำหน้าเหมือนคนใกล้ตาย
ผู้เขียน: Pinkygirl
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 นางมีชีวิตใหม่อีกครั้ง!
ในคุกใต้ดินที่ทั้งมืดและชื้น ตะขอเหล็กหนาสองอันเจาะเข้าไปในเนื้ออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีเลือดสาดกระเซ็นออกมา มันเจาะเข้าไปในกระดูกไหล่ของเซียวหยี่เกออย่างไร้ความปรานี
“อ้า!”
นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และสะดุ้งทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ตัวของนางสั่นไม่หยุด ดวงตาข้างซ้ายที่บวมเป่งกับรอยแผลเป็นที่คล้ายกับไส้เดือนบนหน้าของนาง เหมือนว่าจะทำให้นางดูน่าสยดสยองน่าหวาดกลัวมากขึ้น และเลือดก็ไหลออกมาตามตะขอจนแดงเต็มพื้น
ผู้ชายสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนาง เมื่อเห็นสภาพน่าอนาถของนาง เหมือนกับว่าพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
“ทำไม? ทำไมถึงทำกับข้าแบบนี้?” เซียวหยี่เกออดทนกับความเจ็บปวดที่แทบจะขาดใจตาย เงยหน้าขึ้นมองไปทางพวกเขาด้วยความยากลำบาก พวกเขาคนหนึ่งคือผู้ชายที่นางรักอย่างสุดใจ คนหนึ่งคือท่านพี่ของนาง คนหนึ่งคือเพื่อนที่รักกันมาตั้งแต่วัยเด็ก นางไม่อยากเชื่อว่า พวกเขาจะทำกับนางอย่างโหดร้ายขนาดนี้
เชียนซือเฉินเดินเข้ามาตรงหน้านาง “เกอเอ๋อร์ เจ้าไม่ควรหนี ฝูเอ๋อร์เป็นพี่สาวของเจ้า นางร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก แต่เลือดของเจ้ามียาวิเศษปะปนอยู่กว่าร้อยชนิด พิษทั้งปวงไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ แล้วยังสามารถทำให้คนฟื้นคืนชีพได้ หมอหลวงได้บอกแล้วว่า ใช้เลือดในตัวของเจ้าแลกให้กับฝูเอ๋อร์ นางก็จะสามารถมีอายุยืนยาวได้ เจ้าครอบครองตัวตนของฝูเอ๋อร์มานานหลายปี นางไม่เคยตำหนิอะไรเจ้า แล้วยังดีกับเจ้าเป็นอย่างมากด้วย เจ้าเองก็ไม่อยากให้นางเป็นอะไรไป ถูกต้องหรือไหม? ”
“นางสามารถมีอายุยืนยาว แล้วข้าล่ะ? ข้าก็ต้องตายอย่างนั้นหรือ?” เซียวหยี่เกอมองผู้ชายที่ตัวเองรักอย่างสุดหัวใจตรงหน้า แต่ในเวลานี้กลับดูแปลกหน้าเป็นอย่างมาก “ท่านพี่ซือเฉิน ท่านบอกเองว่าจะไม่ทำให้ข้าเสียใจ!” นางลองพิษทุกชนิดเพื่อเขาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถึงได้สามารถฝึกตัวเองให้พิษทั้งปวงมิอาจเข้ามากล้ำกลายนางได้ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นข้ออ้างที่เขาจะนำมาใช้ทำร้ายนาง