เพื่อทำตามข้อตกลง ทำให้เธอต้องตั้งท้องลูกของชายแปลกหน้าคนหนึ่ง แต่แล้วเธอก็ต้องมาแต่งงานกับผู้ชายที่ได้หมั้นหมายกับเธอไว้ตั้งแต่เด็ก พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การตกลงเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้น แต่ทั้งสองกลับต้องตกหลุมรักอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะถึงเวลาคลอด วันหนึ่ง เขายื่นข้อตกลงการหย่าให้เธอ ทำให้เธอตื่นจากความฝันทันที แต่แล้ว เขาก็มาบอกกับเธอว่า ที่รักจ๋า คนที่ผมรักคือเธอตลอด
“ครั้งแรกเหรอ?”
ลมหายใจของชายแปลกหน้าดังก้องอยู่ข้างหูเธอ หลินซินเหยียนตัวสั่นเทา ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามอง
“ผ่อนคลายหน่อยสิ ฉันกลัวทำเธอเจ็บ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
หลินซินเหยียนยังไม่ทันได้ตอบ ชายหนุ่มก็ใช้มือช้อนคางเธอขึ้นมารับจูบจากเขา
โอ๊ยเจ็บ!
ความเจ็บปวดที่ราวกับถูกฉีกทึ้งทำให้ในหัวเธอมีแต่ความว่างเปล่าไปในชั่วขณะ
พอหลังเที่ยงคืน ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ หลินซินเหยียนกัดฟันรีบพาร่างที่เจ็บปวดของเธอออกจากห้องไป
ในค่ำคืนที่เงียบงัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอย่างฉับพลันทำให้จิตใจของเธอรู้สึกว้าวุ่นกระวนกระวายใจ
หลินซินเหยียนมองโทรศัพท์แค่แวบเดียวก็รีบมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทันที
“คุณหมอคะ รีบช่วยแม่กับน้องชายฉันด้วยนะคะ…” หลินซินเหยียนเซ็นชื่อด้วยมือที่สั่นเทิ้ม แล้วยื่นเอกสารส่งให้หมอ
หมอมองไปที่เธอพลางพูดว่า “ขอโทษด้วยครับ น้องชายคุณได้จากไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ!”
มันเหมือนราวกับฟ้าผ่าลงกลางศีรษะของหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น
เมื่อแปดปีก่อน เธออายุได้สิบขวบ พ่อของเธอนอกใจแม่ของเธอ เขาได้ส่งแม่ที่กำลังตั้งท้องและตัวเธอไปยังที่ที่ไม่คุ้นเคย
หลังจากน้องชายเธอคลอดและอายุได้ 3 ขวบก็ตรวจพบว่าเป็นออทิสติก เธอกับแม่จึงต้องวิ่งรอกรับจ้างทำงานไปทั่ว ถึงมีชีวิตรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ ทว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้ กลับทำให้ครอบครัวเธอเหมือนถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ทันใดนั้นภาพที่อยู่เบื้องหน้าของหลินซินเหยียนก็พลันดับวูบลง…
“คุณผู้หญิงครับ คุณผู้หญิง… พยาบาล… เตรียมปฐมพยาบาลด่วน…”
หนึ่งเดือนต่อมา
หลินซินเหยียนกำลังถือกล่องเก็บความร้อนอยู่ พลางมองตัวเลขที่ลิฟต์สูงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วถอนหายใจ
หลังจากที่แม่ของเธอได้รับการรักษา อาการก็ดีขึ้น ทว่าพอได้ยินข่าวร้ายเรื่องน้องชายของเธอนั้น แม่ของเธอก็ผอมซูบลงไปเลยทีเดียว
เสียง“ติ๊ง”ดังขึ้น
หลินซินเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเดินไปหน้าห้องผู้ป่วย และขณะกำลังคิดจะเปิดประตูนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน——
“จื่อจิน เมื่อก่อนเป็นเพราะเธอกับคุณนายจงสนิทกันราวพี่กับน้องแล้วจึงได้ตกลงให้ลูกแต่งงานเพื่อเกี่ยวดองกัน ว่ากันตามหลักแล้ว ถ้าจะให้ทำตามข้อตกลงนั้นก็ควรให้ลูกสาวเธอเป็นคนแต่งถึงจะถูก...”
“หลินกั๋วอัน คุณหมายความว่ายังไง!” จวงจื่อจินจ้องมองคนตรงหน้าอย่างเดือดดาล
แปดปีที่แล้วเขาไม่เคยสนใจว่าพวกเธอแม่ลูกเลยว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่พอมาถึงก็คิดจะให้ลูกสาวเธอแต่งงานอย่างนั้นเหรอ?
“คุณจงทั้งรูปหล่อ แถมยังชาติตระกูลดี แต่งออกไปก็มีแต่จะได้เสวยสุข...” พอพูดถึงประโยคหลัง เสียงของหลินกั๋วอันก็แผ่วลง
คุณจงเป็นคนสูงส่ง แต่เพราะเดือนที่แล้วเขาไปทำธุระที่ต่างประเทศแล้วถูกงูกัดจนเป็นอัมพาต เดินเหินไม่ได้ แถมยังไม่สามารถมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย
แต่งไปก็ไม่ต่างจากการเป็นหม้าย
“ฉันจะแต่ง”
หลินซินเหยียนผลักประตูเข้ามา เธอจับกล่องอาหารเก็บความร้อนในมือไว้แน่น ก่อนจะโยนมันลงไปเสียงดังลั่น “แต่งงานน่ะได้ แต่ฉันมีข้อแม้”
หลินกั๋วอันมองประตู เขาตกใจจนถอยร่นไปเสียหลายก้าว
แปดปีผ่านไป เธอสูงขึ้นมาก ผิวพรรณขาวผ่อง แต่ออกจะดูผอมไปหน่อย แถมยังดูไม่มีการศึกษาเอาเสียเลย ต่างจากลูกสาวคนเล็กที่บ้านของเขาอย่างสิ้นเชิง ที่ชวนให้ผู้พบเห็นรักใคร่และเอ็นดูยิ่งนัก
หลินกั๋วอันขมวดคิ้วหน้าเครียด “ข้อแม้อะไร ว่ามา”
“พวกเราต้องการกลับประเทศ และต้องคืนทรัพย์สมบัติที่เป็นของแม่ให้พวกเราทั้งหมด” หลินซินเหยียนกำหมัดแน่นอยู่อย่างนั้น ถึงได้ค่อย ๆ สงบลง
“เหยียนเหยียน...” จวงจื่อจินคิดจะเกลี้ยกล่อมเธอ
หลินซินเหยียนต้องตกระกำลำบากกับเธอมามากแล้ว จะทำให้เธอต้องมาตกระกำลำบากด้วยเรื่องการแต่งงานอีกไม่ได้
หลินกั๋วอันเกรงว่าเธอจะถูกโน้มน้าวให้ไม่ยอมแต่ง จึงรีบเอ่ยขึ้น “ขอแค่แกยอมแต่ง ฉันจะให้แกกลับประเทศ”
“แล้วสมบัติของแม่ล่ะ?”
เมื่อเห็นท่าทีคล้ายจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็กลืนคำพูดตัวเองลงไปของหลินกั๋วอัน หลินซินเหยียนก็แค่นหัวเราะเย้ยหยัน
“แม่น้องสาวคนดีของฉันคงจะหน้าตาสะสวยไม่เบาสิท่า หล่อนน่าจะหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ได้ แต่ถ้าต้องมาแต่งกับผู้ชายพิกลพิการแล้วล่ะก็ ทั้งชีวิตของหล่อนก็คงจะจบเห่พอดี มิหนำซ้ำ คุณกับแม่ฉันก็หย่ากันไปแล้ว คืนสมบัติให้เธอก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้วไม่ใช่หรือไง?
แววตาที่มีประกายความรู้สึกผิดของหลินกั๋วอันไม่กล้ามองหลินซินเหยียน
พอคิดว่าเธอจะต้องแต่งงานกับคนไม่ปกติ หลินกั๋วอันก็กัดฟันกรอด “เอาไว้แกแต่งแล้ว ฉันก็จะให้แก”
ลูกสาวคนเล็กของเขางดงามราวกับบุปผา ล้ำค่าราวกับหยกมณี จะให้แต่งงานกับคนพิการได้อย่างไร?
พอคิดถึงจุดนี้หลินกั๋วอันก็ไม่รู้สึกเสียใจมากขนาดนั้นแล้ว
แต่ในใจก็ยังนึกรังเกียจหลินซินเหยียนขึ้นกว่าเดิม เธอไม่เพียงปากคอเราะร้าย แต่ยังคิดจะขโมยเงินไปจากเขาอีก
หลินกั๋วอันมองเธอด้วยสายตาเย็นชา “แม่แกนี่เลี้ยงลูกได้ดีเหลือเกินนะ ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย!”
หลินซินเหยียนแค่นเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่ได้คิดจะสวนกลับแต่อย่างใด
เพราะตอนนี้เธอกำลังเป็นรอง การยั่วโทสะหลินกั๋วอันก็ไม่เป็นผลดีกับเธอเช่นกัน
“เตรียมตัวให้พร้อม เราจะกลับกันพรุ่งนี้” หลินกั๋วอันสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกจากห้องผู้ป่วยไป
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"