เธอแอบชอบรุ่นพี่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 แต่ไม่กล้าบอกจนผ่านมาได้ 1 ปีเธอถึงได้กล้าไปบอกเขาและขอตามฉี่เป็นเวลา 3 เดือนเขาปฏิเสธ
เธอแอบชอบรุ่นพี่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 แต่ไม่กล้าบอกจนผ่านมาได้ 1 ปีเธอถึงได้กล้าไปบอกเขาและขอตามฉี่เป็นเวลา 3 เดือนเขาปฏิเสธ
มหาวิทยาลัยK
ที่ม้าหินอ่อนระหว่างคณะอักษรกับคณะวิศวะ
"ไอ้พรีม!นั่น..พี่คิง..ว่าที่สามีแกนี่!!"อิงพูดแล้วพยักหน้าไปที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่อยู่ถัดไปอีกสองโต๊ะ
"หล่อออร่าจับกันทั้งโต๊ะเลยว่ะ!"ออยบอกแล้วยิ้ม
"แกก็พูดไป..ไอ้อิง..ถ้าใครมาได้ยิน..เขาจะเอาไปพูดกัน"พรีมว่าอย่างไม่จริงจังนัก
พรีม อิงกับออยเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ม.ต้นแล้วและก็เรียนด้วยกันมาตลอดจนสอบติดมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันอีกด้วย ทั้งสามคนเรียนคณะอักษรอยู่ปี2แล้ว ออยกับอิงรู้ว่าพรีมแอบชอบคิงรุ่นพี่ที่เรียนคณะวิศวะมาตั้งแต่พรีมเข้าปี1แล้ว ซึ่งตอนนั้นคิงมีแฟนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้พรีม ออยและอิงรู้มาว่าคิงเลิกรากับแฟนแล้วจึงพากันแซวพรีมมากขึ้น เพราะอยากให้พรีมกล้าที่จะไปบอกชอบคิงสักทีเพราะพรีมกล้าไปทุกเรื่องยกเว้นเรื่องนี้แหละ
"นี่แก..ไม่คิดจะบอกพี่คิงว่าแกชอบพี่เขาเลยหรือไง..จะเอาแต่แอบชอบแบบนี้ไปจนกว่าพี่เขาจะเรียนจบไปเลยหรือไงวะ!..ไอ้พรีม"ออยว่า
"นั่นสิ..นี่พี่คิงก็อยู่ปี3แล้วนะ..ปีหน้าก็จบแล้ว..ชั้นว่า..แกน่าจะทำอะไรสักอย่าง..ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องมานั่งเสียใจทีหลังนะโว้ย!"อิงสนับสนุน
"ใช่..เคยได้ยินมั้ย...ไม่แข่งยิ่งแพ้น่ะ"ออยบอกพลางตบบ่าของพรีมเบาๆ แต่ก่อนตอนที่คิงยังมีแฟนอยู่พวกเธอก็ไม่เคยจะยุพรีมหรอก แต่ตอนนี้คิงโสดแล้ว พวกเธอจึงอยากให้พรีมทำตามที่ใจต้องการ
"เฮ้อ!..พวกแกก็เห็น..ว่าพี่คิงไม่เคยสนใจใครอีกเลย..ตั้งแต่เลิกกับพี่ยี่หวาน่ะ..แถมหน้าตาก็ดุ..แล้วก็เย็นชา..ชั้นไม่เคยเห็นพี่คิงจะพูดกับใครเลยนะ..แม้แต่กับพวกเพื่อนๆของพี่คิงน่ะ..แล้วถ้าชั้นเข้าไปพูดแลัวพี่คิงไม่พูดด้วย..ชั้นไม่หน้าแตกเหรอวะ!?"พรีมร่ายยาวอย่างหนักใจ แต่ก็รู้ว่าเพื่อนทั้งสองคนหวังดี
"แต่ถ้าแกไม่ลอง..ก็ไม่รู้นะโว้ย!..อย่างน้อยๆได้บอกความรู้สึกออกไปก็ยังดีกว่าเก็บเอาไว้คนเดียวแบบนี้นะ"ออยบอกอย่างเห็นใจเพื่อน
พรีมไม่พูดอะไรต่ออีก ได้แต่คิดถึงคำพูดของเพื่อนแล้วก็คอยเหลือบสายตามองคิงคนที่เธอแอบชอบมาตั้ง1ปี คิงเป็นคนหล่อมาก ผิวขาว สูง190แต่ท่าทางที่แสนเย็นชาไม่ค่อยพูดทำให้ดูน่ากลัวต่างกับเพื่อนของเขาอีก3คนที่เธอก็รู้จักดี
เพื่อนสนิทของคิงมี3คนคือกาย ไนท์และชิน พรีมรู้เรื่องของคิงทุกอย่างทั้งของกินของใช้ที่คิงชอบ เวลาเรียนและเลิกเรียนรวมถึงนอกเวลาเรียนว่าคิงชอบไปที่ไหนบ้าง เรียกได้ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับคิงที่เธอจะไม่รู้ แม้กระทั่งสาเหตุที่คิงเลิกกับแฟนที่คบกันมานานถึง4ปีเธอก็รู้ ในตอนแรกเธอสงสารคิงมากๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนตอนนี้คิงเป็นโสดมาได้ครึ่งปีกว่าแล้ว หรือว่าเธอจะลองจีบคิงดูสักครั้งทำอย่างที่เพื่อนบอก เพราะมันคงดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย และถึงแม้ว่ามันแทบจะไม่มีความหวังอะไรเลยก็ตาม
พรึ่บ!!พรีมลุกขึ้นยืนเมื่อตัดสินใจได้แล้ว
"แกจะไปไหนวะ!?"อิงถาม
"ก็ไปจีบพี่คิงไง!"พรีมบอกแล้วยิ้มอย่างให้กำลังใจตัวเอง
"เยี่ยม!..พวกชั้นเป็นกำลังใจให้นะ..สู้ๆโว้ย!"ออยพูดแล้วยิ้มให้พรีม
"ขอบใจ"พรีมบอกแล้วเดินไปที่โต๊ะของคิงกับเพื่อนทันที
ออยกับอิงมองตามหลังพรีมไปอย่างลุ้นๆ พวกเธอคิดว่าพรีมน่าจะมีความหวังบ้างไม่มากก็น้อย เพราะพรีมเป็นคนสวยปนน่ารัก รูปร่างดี ผิวขาวสูงเกือบๆ180 พรีมเป็นคนนิสัยดี เข้ากับคนอื่นง่ายไม่เอาเปรียบใคร จิตใจดียิ้มเก่ง พรีมมีคนมาตามจีบหลายคนแต่ก็ไม่เคยสนใจใครแถมยังมีแฟนคลับมากอีกด้วยเพราะพรีมเคยเป็นดาวของคณะและเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลตัวแทนมหาลัยเพียงแต่พรีมไม่เคยมองว่าตัวเองสวยจึงทำให้ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองแค่นั้นเอง
ที่โต๊ะของคิง
"เอ่อ..ขอโทษนะคะพี่ๆ"พรีมพูดเมื่อเดินมายืนข้างๆที่คิงนั่งอยู่
"อ้าว!น้องพรีม..มีอะไรคับ?"กายถามแล้วยิ้ม
"พี่กาย..รู้จักพรีมด้วยหรือคะ!?"พรีมถามอย่างงงๆ
"ไม่ใช่แต่ไอ้กายที่รู้จักน้องพรีมนะคับ..พี่สองคนก็รู้จักคับ"ไนท์พูดแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"ใครไม่รู้จักน้องพรีมก็แย่แล้วคับ..มีรูปลงเพจมหาลัยออกบ่อยๆ..ว่าแต่น้องพรีมมาหาพี่ๆ..มีอะไรคับ?"ชินถาม
"อ้อ!ค่ะ..เอ่อ..คือ..พรีมมาหาพี่คิงน่ะค่ะ"พรีมพูดอย่างอ้ำอึ้ง
คิงได้ยินที่พรีมพูดก็เงยหน้ามามองแต่ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ทำหน้ามีคำถามเท่านั้น
"เอ้า!ไอ้คิง..น้องพรีมมาหามึงน่ะ!"กายพูดแล้วยิ้มล้อเลียน
"ว่า!!"คิงถามสั้นๆด้วยท่าทางเฉยชาเหมือนเดิม
"คือ..พรีม..พรีมชอบพี่คิงค่ะ..แล้วจะขอจีบพี่คิง..แต่พี่คิงอย่าเพิ่งปฎิเสธนะคะ..พรีมขอเวลาจีบพี่คิงแค่3เดือน..ถ้าภายใน3เดือนนี้พรีมทำให้พี่คิงชอบพรีมไม่ได้..พรีมจะไม่มาให้พี่คิงเห็นอีกเลยค่ะ..นะคะ"พรีมพูดอย่างเร็ว เธอมองหน้าคิงตลอดเวลาที่พูด
"ไม่!!"คิงบอกแล้วก้มหน้ามองโทรศัพท์ในมือต่ออย่างไม่สนใจ
"ไอ้คิง!..มึงก็นะ..ใจร้ายจังวะ!"ชินว่า
"ใช่..หรือมึงกลัววะ!..ถึงไม่กล้าให้น้องพรีมจีบน่ะ!"ไนท์รีบสนับสนุนชินทันทีเพราะเขารู้มาว่าพรีมนิสัยดีและน่าจะดีมากกว่ายี่หวาแฟนเก่าของคิงเสียอีก
"นั่นสิวะ..น้องพรีมออกจะน่ารัก..ทำไมถึงได้ไปชอบมึงวะ!..เป็นกูหน่อยไม่ได้"กายว่ายิ้มๆ
"กู..ไม่..ได้..กลัว!!"คิงพูดเน้นทีละคำอย่างรำคาญ
"งั้นมึงก็ให้น้องพรีมจีบสิวะ..แค่3เดือนเอง"ไนท์บอกแล้วยิ้มเพราะรู้ว่าคิงไม่ชอบการท้าทาย
"ก็ได้..แล้วอย่าลืมคำพูดล่ะ!!'คิงมองพรีมแล้วพูดอย่างไม่พอใจและรำคาญ
"ขอบคุณค่ะพี่คิง..พรีมไม่ลืมแน่นอน..ขอบคุณพี่ๆนะคะ..ฝากเนื้อฝากตัวด้วย..แล้วเจอกันค่ะ..พรีมขึ้นเรียนก่อนนะคะ"พรีมยิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนจะรีบเดินกลับไปหาออยกับอิงที่โต๊ะแล้วเดินไปทางตึกเรียน
เขาตกหลุมรักเพื่อนสนิทของน้องสาวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแต่เพราะเธอมีนิสัยที่ไม่เหมือนใครทำให้เขาไม่กล้าแสดงตัวว่าชอบได้แต่พยายามตีสนิทโดยมีน้องสาวตัวแสบคอยช่วยเหลือคงต้องมาช่วยกันลุ้นว่าเขาจะจีบเธอมาเป็นแฟนได้มั้ย
เขาแอบรักเธอตั้งแต่เขายังเรียนมัธยมต้นแต่ไม่กล้าบอกเพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทจนผ่านมาถึง10ปีเขาได้เจอกับเธออีกครั้งและตั้งใจจะบอกกับเธอ แต่เขาก็ต้องมีคู่แข่งอีกหลายคนดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนเพื่อทำให้เธอรักเขาให้ได้
เมื่อเขาต้องเลือกเจ้าสาวจากลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่มีอยู่2คน คนพี่สวยเซ็กซี่หยิ่งทนง คนน้องสวยน่ารักใสซื่อไม่ถือตัว เขาควรจะเลือกใครดี
เขาเป็นลูกชายของมาเฟียที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจ เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่จริงจังกับใครแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ช่วยชีวิตเธอไว้โดยบังเอิญแล้วนั่นก็เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเขาตกหลุมรักเธอโดยยังไม่รู้แม้แต่ชื่อ แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไป
เขาหลงรักเธอตั้งแต่ในความฝันแล้วพยายามตามหาเธอในความจริงจนกระทั่งพรหมลิขิตก็ทำให้เขาได้เจอกับเธอ
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
เธอถูกย่าแท้ๆฆ่าตายตอนอายุ6ขวบ กลายเป็นผีเร่ร่อนเฝ้าดูอนาคตและจุดจบของทุกคนที่รักอย่างเจ็บแค้น ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขทุกสิ่ง! แต่เอ๊ะ?คุณแม่ผู้ขี้ขลาดคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
© 2018-now MeghaBook
บนสุด