เขาตกหลุมรักเพื่อนสนิทของน้องสาวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแต่เพราะเธอมีนิสัยที่ไม่เหมือนใครทำให้เขาไม่กล้าแสดงตัวว่าชอบได้แต่พยายามตีสนิทโดยมีน้องสาวตัวแสบคอยช่วยเหลือคงต้องมาช่วยกันลุ้นว่าเขาจะจีบเธอมาเป็นแฟนได้มั้ย
เขาตกหลุมรักเพื่อนสนิทของน้องสาวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแต่เพราะเธอมีนิสัยที่ไม่เหมือนใครทำให้เขาไม่กล้าแสดงตัวว่าชอบได้แต่พยายามตีสนิทโดยมีน้องสาวตัวแสบคอยช่วยเหลือคงต้องมาช่วยกันลุ้นว่าเขาจะจีบเธอมาเป็นแฟนได้มั้ย
ณ.มหาวิทยาลัยแห่งหนื่งใจกลางกรุงเทพ
“แคท..มายด์..ทางนี้”มีเสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง
แคทกับมายด์หันกลับไปมองก็เห็นปรางยืนโบกมือเรียกอยู่ไม่ไกล แคทกับมายด์ยกมือตอบแล้วเดินเข้าไปหา
“มานานแล้วเหรอ”มายด์ถาม
”สักพักแล้วจ้า…แล้วทำไมมาช้าจังล่ะ”
“รถติดมากกกก”แคทพูด
”กรุงเทพก็อย่างนี้แหละ…แถมวันนี้มหาลัยเปิดวันแรกด้วย มาอยู่ตั้งหลายวันแล้วยังไม่ชินอีกเหรอ”ปรางถาม
แคททำหน้าย่นแล้วส่ายหัว มายด์กับปรางก็เลยขำ
แคท มายด์และปรางบังเอิญเจอกันที่โรงเรียนกวดวิชานิสัยคล้ายกันก็เลยทำให้สนิทกันมาก
แคทกับมายด์มาจากโรงเรียนเดียวกัน พ่อแม่ของทั้งคู่รู้จักกัน
พ่อของมายด์เป็นเกษตรอำเภอส่วนแม่เป็นแม่บ้าน ฐานะปานกลาง มายด์มีน้องอยู่หนึ่งคนเป็นผู้ชายเรียนอยู่โรงเรียนประจำจังหวัด
มายด์เป็นคนรูปร่างสมส่วน สูง165ซม. นน.54กก.ผิวสีน้ำผึ้งออน่ ไว้ผมยาวถึงกลางหลังชอบปล่อยผมสยาย ผมตรงดำเป็นเงา เป็นคนตรงพูดน้อยหน้าตาน่ารัก
แคท พ่อเป็นอาจารย์ใหญ่ประจำอยู่ที่โรงเรียนที่น้องของมายด์เรียนอยู่ส่วนแม่เป็นแม่บ้านเหมือนกัน ฐานะทางบ้านก็ปานกลาง แคทมีน้องชายหนึ่งคนเหมือนมายด์แต่น้องของแคทโตกว่าน้องของมายด์ ตอนนี้น้องของแคทได้ทุนไปเรียนอยู่ที่สิงคโปร์ แคทเป็นคนหุ่นนางแบบเลยคือสูง170ซม.นน.52กก.ผิวขาวออกเหลือง ไว้ผมยาวประมาณกลางหลังผมแคทจะหยักเป็นลอนดูมีน้ำหนักแต่ไม่เคยปล่อยผมเลย แคทจะม้วนผมและใช้ปิ่นปักไว้เสมอจึงไม่มีใครรู้ว่าผมเธอยาวแค่ไหนนอกจากมายด์ แคทเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี หน้าตาสวยคมโดยเฉพาะตาตาแคทจะคมมากแต่บางครั้งก็น่ากลัวสำหรับปราง
พ่อของปรางเป็นนักธุรกิจมีบริษัทเป็นของตัวเองส่วนแม่อยู่บ้านเฉยๆ ฐานะทางบ้านถือว่าร่ำรวยทีเดียว ปรางมีพี่ชายหนึ่งคนอายุ30ปีแล้วตอนนี้ทำงานแทนพ่ออยู่ที่บริษัท ปรางเป็นคนรูปร่างสมส่วนเหมือนกับมายด์ สูง165ซม.นน.52กก.ผิวขาวมากจนเห็นเส้นเลือดไว้ผมยาวประบ่าผมสีน้ำตาลชอบปล่อยผมเหมือนมายด์ปรางจะเป็นคนพูดเก่งยิ้มง่ายและใจเย็น
เปิดเทอมวันแรกคนเยอะมากในมหาลัย แคท มายด์และปรางสอบติดคณะเดียวกันคือเลขานุการเอกภาษาต่างประเทศ แคทเก่งภาษาอยู่แล้วเพราะพ่อส่งให้เธอไปเรียนภาษาตั้งแต่ตอนปิดเทอมม.ต้น แต่สำหรับมายด์กับปรางถือว่าพอใช้ได้ที่เลือกมาสอบคณะนี้ก็เพราะไม่อยากจากเพื่อน
สามสาวยืนมองไปรอบๆก่อนที่ปรางจะบอกว่า
”ไปที่ตึกคณะกันดีกว่า”แคทกับมายด์พยักหน้าเห็นด้วย
ทั้งสามคนเลยเดินมุ่งหน้าไปทางตึกด้านใน ในที่สุดก็เดินมาถึงตึกคณะบริหารธุรกิจ ด้านหน้าตึกมีรุ่นพี่แต่ละแผนกเอาป้ายมาปักไว้ให้น้องปีหนึ่ง
ของแต่ละแผนกได้ไปเข้าแถวเพื่อรายงานตัว พอสามสาวเดินเข้าไปทุกคนก็หันมามองเป็นตาเดียวกันเลย เพราะว่าแคทเด่นกว่าคนอื่น อาจจะด้วยความสูงและก็หน้าตาของเธอ ก็บอกแล้วว่าหุ่นนางแบบ
“เขามองอะไรกันล่ะ?”แคทหันมาถามเพื่อน
"ก็มองเธอนั่นแหละ”ปรางพูดพร้อมกับยิ้ม
”ทำไมอ่ะมันมีอะไรผิดปกติหรือไง?”แคทพูดพร้อมกับทำหน้าแปลกๆ
”เขามองคนสวยไง…หึหึ”มายด์พูดบ้าง
”ใครสวย?ตกลงเขามองมายด์กับปรางใช่มั้ย”แคทพูดพร้อมกับมองไปที่เพื่อน
”มองเธอนั่นแหละ”คราวนี้มายด์กับปรางพูดพร้อมกันและก็หัวเราะ
แคทชี้มือมาที่ตัวเองแล้วยิ้มน้อยๆพร้อมกับเดินนำไปนั่งหน้าป้ายแผนก แคทไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนสวยไม่ว่าจะมีใครพูดก็ตาม
ในที่สุดก็ผ่านการรับน้องมาจนถึงตอนเย็น ปรางมีคนมารับกลับบ้านส่วนแคทกับมายด์กลับด้วยกันเพราะอยู่ด้วยกัน ท้ังคู่พักอยู่ที่บ้านของป้ามายด์
ป้าของมายด์ชื่อป้ามล ป้ามลไม่ได้แต่งงานเลยพักอยู่คนเดียว ป้ามลทำงานธนาคารถือว่าสบายเลยทีเดียวที่บ้านป้ามลอยู่กันทั้งหมด3คนมีป้ามล น้าสมกับน้าสี
น้าสมกับน้าสีเป็นคนที่ป้ามลจ้างให้มาช่วยทำงานบ้าน
บ้านป้ามลเป็นบ้านสองชั้นมีสนามหญ้า มีสระว่ายน้ำมีรั้วโดยรอบ
“กลับมากันแล้วเหรอลูก”ป้ามลถามทันทีที่เห็นแคทกับมายด์
“เป็นไงบ้างลูก..เปิดเทอมวันแรก”ป้ามลถาม
”สนุกค่ะ..แต่ก็เหนื่อย”มายด์บอก
”แล้วแคทล่ะลูก…เป็นไงบ้าง”ป้ามลหันไปที่แคท
”วุ่นวายมากกว่าค่ะ”แคทพูดแล้วก็นั่งลงที่โซฟา
”แคทได้เป็นดาวคณะด้วยล่ะค่ะ..ป้า”มายด์บอก
ป้ามลเดินมาลูบหัวแคท”ก็บอกแล้วว่าหลานป้าสวย”ป้ามลพูด
”ไม่สวยสักหน่อย..มายด์กับปรางสวยกว่าอีก…แคทไม่อยากเป็นเลยค่ะ”แคทบอกพูดจบก็ทำหน้าแบบขัดใจมาก
ป้ามลหัวเราะออกมาเพราะเอ็นดู
”ไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวกัน”ป้ามลพูด
”ค่ะ”แคทกับมายด์พูดพร้อมกัน
ผ่านมาได้ 1 เดือนแล้วสำหรับชีวิตการเรียนในมหาลัย
เย็นวันนี้จะมีประชุมกันในคณะเรื่องกีฬาของมหาลัยที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
ผลการประชุมออกมาว่าแคท มายด์และปรางต้องเป็นดรัมเมเยอร์ของคณะ ซึ่งจะต้องมีซ้อมกันในตอนเย็นของทุกวัน
”โอ้ย!ทำไมต้องเป็นพวกเราล่ะนี่”แคทบ่น
”เพราะเธอเป็นดาวคณะไงล่ะ…ทำให้ชั้นกับมายด์เลยโดนไปด้วย”ปรางพูดแบบยิ้มๆพลางมองแคทที่ทำท่าเหมือนอยากหายตัวได้
”จะโวยวายทำไม?ยายแคท….ตอนอยู่รร.เก่าก็เคยเป็นนะ”มายด์พูดบ้าง
”แต่นี่มันมหาลัยนะ..ถ้าพลาดไปได้อายทั้งคณะแน่”แคทพูดพลางเกาหัว
”น่าสนุกดีออกนะ..ดีที่เราเป็นด้วยกัน”ปรางพูด
”แล้วเขาจะเริ่มซ้อมกันเมื่อไรล่ะ”แคทหันไปถาม
”เห็นว่า..เดี๋ยวพี่ๆจะบอกอีกทีอ่ะ”ปรางตอบ
”ป่ะ…กลับบ้านกันเถอะ”แคทพูด
วันจันทร์ถัดมาตอนเช้า
”เย็นนี้จะเริ่มซ้อมกีฬาและซ้อมหลีดกับดรัมนะคับ…น้องๆที่เป็นนักกีฬา เป็นหลีดและเป็นดรัมเย็นนี้เจอกันที่โรงยิมใหญ่ตอน5โมงเย็นนะคับ”เสียง
ของรุ่นพี่ที่เป็นประธานคณะพูดผ่านไมโครโฟน
ประธานคณะเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีเรียนเอกคอมเคยเป็นเดือนของคณะเมื่อปีที่แล้วชื่อ ศิวา
ตกเย็นในโรงยิมก็เต็มไปด้วยคนจำนวนมาก ทั้งนักกีฬา ทั้งหลีดและพวกดรัมเพราะต้องประชุมกันก่อนแยกย้ายไปซ้อมตามที่ต่างๆ พอประชุม
เสร็จในโรงยิมก็เหลือแค่พวกหลีด กับดรัมและนักกีฬาวอลเล่ย์บอลกับบาสเกตบอลเท่านั้น
”แคท..ชั้นว่าพี่ศิวามองแกบ่อยๆนะ”ปรางพูด
”ไม่หรอกมั้ง..พี่เขาก็มองไปทั่วๆแหละเขาเป็นประธานก็ต้องดูแลทุกคนนะ”แคทหันไปมอง
”แต่..ชั้นว่าปรางพูดถูกนะ”มายด์พูดบ้าง
”ชั้นเห็นเขามองมาทางแกอย่างบ่อย เวลาแกเผลออ่ะ”ปรางบอก
”ซ้อมต่อเถอะ”แคทพูด เธอรู้สึกเฉยๆ
หลังจากซ้อมเสร็จแล้ว สามสาวเปลี่ยนชุดแล้วและกำลังจะเดินออกจากโรงยิม
”น้องแคทคับ..”มีเสียงเรียกมาจากข้างหลัง
สามสาวหันกลับไปมองพร้อมกัน ศิวานั่นเอง เขากำลังวิ่งเข้ามาหา ปรางกับมายด์หันไปมองหน้าแคท
”ค่ะพี่”แคทตอบ
”มีอะไรคะ..พี่ศิวา”แคทถาม เมื่อศิวามาถึง
”พี่จะบอกว่า…พรุ่งนี้ตอนพักกลางวันเขานัดประชุมดาวและเดือนปีนี้นะ”ศิวาบอก
“ที่ไหนคะ”แคทถาม
”ที่หอประชุมกลางคับ”ศิวาพูด
”ตรงไหนเหรอคะ..พอดีแคทยังไม่ค่อยได้ทำความคุ้นเคยกับมหาลัยสักเท่าไรค่ะ”แคทพูดพร้อมกับหันมาทางปรางกับมายด์ซึ่งก็ส่ายหน้าทั้งคู่
”งั้น…พรุ่งนี้ไปพร้อมกับพี่ก็ได้เพราะยังไงพี่ก็ต้องไปอยู่แล้ว”ศิวาพูด
แคทหันไปมองหน้าเพื่อน
”ก็ได้ค่ะ”แคทพูด
”งั้นพรุ่งนี้…พี่จะคอยอยู่ที่หน้าคณะนะคับ”ศิวาบอก
“ค่ะ..พี่”แคทตอบ
”โอเค..กลับบ้านกันดีๆนะคับ”ศิวาพูด
“ค่ะ..ขอบคุณนะคะ”แคทพูด
แล้วศิวาก็หันหลังเดินกลับไป
เขาแอบรักเธอตั้งแต่เขายังเรียนมัธยมต้นแต่ไม่กล้าบอกเพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทจนผ่านมาถึง10ปีเขาได้เจอกับเธออีกครั้งและตั้งใจจะบอกกับเธอ แต่เขาก็ต้องมีคู่แข่งอีกหลายคนดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนเพื่อทำให้เธอรักเขาให้ได้
เมื่อเขาต้องเลือกเจ้าสาวจากลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่มีอยู่2คน คนพี่สวยเซ็กซี่หยิ่งทนง คนน้องสวยน่ารักใสซื่อไม่ถือตัว เขาควรจะเลือกใครดี
เขาเป็นลูกชายของมาเฟียที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจ เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่จริงจังกับใครแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ช่วยชีวิตเธอไว้โดยบังเอิญแล้วนั่นก็เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเขาตกหลุมรักเธอโดยยังไม่รู้แม้แต่ชื่อ แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไป
เขาหลงรักเธอตั้งแต่ในความฝันแล้วพยายามตามหาเธอในความจริงจนกระทั่งพรหมลิขิตก็ทำให้เขาได้เจอกับเธอ
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เธอแอบชอบรุ่นพี่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 แต่ไม่กล้าบอกจนผ่านมาได้ 1 ปีเธอถึงได้กล้าไปบอกเขาและขอตามฉี่เป็นเวลา 3 เดือนเขาปฏิเสธ
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
ลู่หมิงเยว่ถูกแฟนนอกใจ และยังโดนดูถูกว่าเธอแค่ดีแต่หน้าตา ด้วยความโกรธ ลู่หมิงเยว่ใช้เสน่ห์ของเธอไปมีความสัมพันธ์กับเยี่ยนเฉิงจือประธานบริษัท แต่เธอกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ หลังจากเสร็จธุระนั้นเธอก็หนีไปเงียบๆ และยังเข้าใจผิดว่าคนในคืนนั้นคือเพลย์บอย เสิ่นเว่ยตง ทำให้เยี่ยนเฉิงจือเข้าใจผิดว่าเธอชอบคนอื่น เขาเลยแอบอิจฉาและหึงหวงอยู่เงียบๆ มานาน
คนอื่นเขาข้ามมิติมาเป็นนางร้ายแล้วได้กับพระเอก ทว่าหวางเสี่ยวเหยาเข้าร่างนางร้ายแล้ววิ่งตามตัวประกอบชายแสนจืดจาง เพื่อตามเขามาปลูกผักซะงั้น…
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY