เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
ณ.มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
ตึก..ตึก..ตึก..พลั้ก!..ตุ๊บ..
"ว้าย!..ขอโทษนะคะ..ขอโทษค่ะ"
กอหญ้าก้มหน้าพลางพูดโดยไม่ได้เงยหน้ามองคนที่ถูกชน
"วิ่งยังไงวะ!..ไม่เห็นคนหรือไง"ภีรนัสหรือภีมพูดด้วยเสียงดุๆและหน้าตาที่หงุดหงิด
"ขอโทษค่ะ..ขอโทษจริงๆ"กอหญ้าพูดพร้อมกับก้มลงเก็บหนังสือที่หล่นอยู่ที่พื้น
"ใจเย็นๆโว้ย!...ไอ้ภีม"
ตรีวิทย์หรือวิทย์พูดพลางเอามือจับบ่าของภีมไว้
"ใช่..น้องเค้าคงไม่ได้ตั้งใจหรอก"เดชาหรือชาช่วยพูด
"กูว่าเธอตั้งใจวิ่งชนกูมากกว่าว่ะ"
ภีมพูดสีหน้ายังคงหงุดหงิดเพราะเขาเคยเจอมาบ่อยๆที่ชอบมีสาวๆแกล้งมาเดินชนเพราะอยากจะพูดคุยกับเขา
"ห่ะ..พี่ว่าอะไรนะคะ!?"
กอหญ้าลุกขึ้นหลังจากเก็บหนังสือที่หล่นหมดแล้วจึงเงยหน้ามองหน้าของภีมพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด ผู้ชายคนนี้สูงมากน่าจะเกิน180ซม.หน้าตาหล่อมากๆ แต่ดวงตาที่ทั้งคมทั้งดุแถมสีหน้าที่เรียบเฉยและสายตาที่ค่อนข้างเย็นชาทำให้ดูน่ากลัวในสายตาของกอหญ้าแต่เธอจำเป็นต้องพยายามทำเหมือนไม่กลัวทั้งๆที่กลัวจะแย่อยู่แล้ว
พอกอหญ้าเงยหน้าขึ้นมาทำให้วิทย์ ชารวมถึงภีมถึงกับอึ้งไปเลยเพราะกอหญ้ามีดวงตาที่กลมโตสดใสเหมือนดาวบนท้องฟ้า จมูกโด่งรั้นนิดๆ ปากอิ่มสีชมพู แก้มป่องๆขาวๆที่ตอนนี้มีสีแดงนิดๆน่าจะเหนื่อยจากการวิ่ง ผมตรงยาวสีดำไปถึงกลางหลัง สูงน่าจะไม่เกิน165ซม.ตัวเล็กมากๆน่ากลัวว่าถ้าลมพัดแรงๆจะปลิวไปตามลมมากกว่าสรุปแล้วเธอทั้งน่ารักและสวยรวมอยู่ในคนๆเดียว
"พี่พูดว่ายังไงนะคะ!?"กอหญ้าเอียงคอถามอีกครั้ง
"เอ่อ..ผมว่าคุณตั้งใจจะวิ่งชนผมมากกว่า"
ภีมพูดนิ่งๆหลังตื่นจากภวังค์ เธอโคตรน่ารักถูกใจเขามากแต่เขาต้องทำตัวเข้มและเย็นชาเหมือนเดิมไว้ก่อน
"ทำไมหนูต้องตั้งใจวิ่งชนพี่ด้วยล่ะคะ"กอหญ้าถามอย่างงงๆ
"เพราะคุณอยากคุยกับผมและอยากตีสนิทด้วยไงล่ะ.."ภีมพูดแบบหยิ่งๆ
"หึหึ..พี่คิดมากไปแล้วค่ะ..หนูไม่ได้อยากคุยหรืออยากจะตีสนิทกับพี่หรอกนะคะ..และถ้าพี่ไม่ได้เจ็บตรงไหนหนูขอตัวก่อนนะคะ..ขอโทษอีกครั้งค่ะ!"
กอหญ้ายิ้มกว้างก่อนจะก้มหัวแล้วหันหลังวิ่งออกไปทันทีเพราะจะเข้าเรียนคาบแรกไม่ทันแล้วและอีกอย่างเธอรู้สึกกลัวผู้ชายที่ถูกเธอชนมากๆ
"นี่!..เธอ.."
ภีมอึ้งกับคำพูดของกอหญ้ามาก ตั้งแต่เขาโตมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขาเลยสักคน มีแต่พยายามเข้าหาเขาตลอดและนั่นทำให้เขารู้สึกเบื่อมากๆจนไม่ค่อยอยากจะพูดคุยกับผู้หญิงสักเท่าไร แต่คนตัวเล็กเมื่อกี้กลับบอกว่าไม่อยากจะคุยและสนิทกับเขา
"555..ตั้งแต่กูเป็นเพื่อนกับมึงมานะ..ไอ้ภีม..นี่เป็นครั้งแรกที่มีสาวมาบอกว่าไม่อยากคุยกับมึงว่ะ!"วิทย์ขำ
"ใช่ว่ะ!..แถมสาวคนนั้นทั้งสวยและน่ารัก..แม่งเหมือนตุ๊กตาเลยว่ะ"ชาสนับสนุน
"เออ..ไม่รู้ว่าเป็นคนหรือตุ๊กตา..แหม!..กูอยากรู้จริงๆว่าเรียนคณะไหน..จะได้ตามไปจีบเสียหน่อย"วิทย์พูด
"แต่เมื่อกี้...ตอนน้องเค้าเก็บหนังสือ..ดูเหมือนจะเป็นหนังสือเรียนวิศวะปี1นะ"ชาบอก
"จริงเหรอวะ!...มึงแน่ใจนะ"ภีมถาม
"ทำไม!?..มึงสนใจเหรอวะ..แต่ปกติมึงไม่เคยจะสนใจนี่หว่า"ชาถามพลางจ้องหน้าภีมตรงๆ
"ก็..ป่าว..แค่ถามดู"ภีมตอบเลี่ยงๆ
"ไม่จริงมั้ง!..พวกกูรู้จักมึงมาตั้งนานแล้วนะโว้ย!..จะไม่รู้จักนิสัยมึงเลยหรือไงวะ"วิทย์พูดยิ้มๆ
"ใช่...ถ้ามึงสนใจ..พวกกูก็จะไม่ยุ่งแถมยังจะช่วยมึงอีกด้วย..ใช่มั้ย..ไอ้วิทย์"ชาบอก
"ใช่สิวะ..น้ำแข็งจะได้กลายเป็นน้ำเสียที555"วิทย์ขำ
"พอๆ..เลิกพูด..ไปเข้าเรียนก่อนเถอะว่ะ"ภีมรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อถูกเพื่อนๆแซว
"เออๆ..ไม่พูดก็ได้..แต่สวยน่ารักขนาดนั้น..ถ้าไม่รีบ..กูว่าคงมีคนคาบเอาไปแดกแน่ๆ"ชาบอก
"ของที่กูสนใจ..ใครก็เอาไปไม่ได้ทั้งนั้น"ภีมบอกเสียงเรียบๆ
"งั้น..ก็ไปเข้าเรียนกัน..ไป..พวกมึง"
วิทย์บอกแล้วเดินนำไปทางตึกคณะวิศวะ
ภีม วิทย์และชาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม เรียนด้วยกันมาตลอดจึงสนิทกันมาก ทางบ้านของทั้งสามคนมีฐานะร่ำรวยมาก มีกิจการเป็นของตัวเองแล้วทั้งสามคนยังได้ร่วมกันเปิดผับแบบกึ่งร้านอาหารด้วยกันอีกด้วย ทั้งสามคนเป็นหนุ่มฮอตประจำมหาลัยที่ทั้งหล่อทั้งรวย เป็นที่หมายปองของสาวๆทั้งในมหาลัยและข้างนอกโดยเฉพาะภีมมีดีกรีเป็นถึงเดือนของมหาลัยเมื่อปีที่แล้วด้วย ทั้งสามคนเรียนอยู่คณะวิศวะปี2แล้ว
"กอหญ้า..ทางนี้!"รุ้งดาวหรือรุ้งเรียกเมื่อเห็นกอหญ้ายืนอยู่ที่ประตูห้องเรียน
"ทำไมช้าจังล่ะ"เมยาหรือเมย์ถามเมื่อกอหญ้าเข้ามานั่งลงแล้ว
"พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ..ดีนะที่มาทัน"กอหญ้าพูดเหนื่อยๆเพราะวิ่งมา
"มีอะไร..!?"รุ้งถาม
"ไม่มีอะไรหรอก..ชั้นแค่วิ่งชนคนน่ะ..น่าจะเป็นรุ่นพี่..แต่ไม่รู้ว่าคณะอะไรตรงมุมตึกน่ะ"
กอหญ้าเล่าให้เพื่อนฟัง เธอกับรุ้งและเมย์เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแม่ของทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างเหมือนกัน เพียงแต่แม่ของกอหญ้าเสียไปตั้งแต่กอหญ้าได้2ขวบ เธอจึงอยู่กับป๊าและพี่ชายที่อายุมากกว่าถึง8ปี ดังนั้นเธอจึงสนิทกับรุ้งและเมย์จนเหมือนพี่น้องกันแท้ๆ
"ซุ่มซ่ามอีกแล้วล่ะสิแกน่ะ"เมย์บอก
"แหม!..ชั้นก็แค่รีบน่ะ"กอหญ้าเสียงอ่อยๆ
"ทุกทีเลยนะแกน่ะ..ปล่อยไปไหนคนเดียวทีไร..เกิดเรื่องทุกที"รุ้งว่า
"พวกแกเลิกว่าชั้นเถอะนะ..ต่อไปจะระวัง..นะ..นะ"กอหญ้าอ้อน
"ก็พูดอย่างนี้ทุกครั้งแหละ..ว่าแต่นี่แกบอกป๊าหรือยัง..ที่ออกมาอยู่ที่หอพักน่ะ"เมย์ถาม
"ยังเลยว่ะ...ว่าจะรอให้ป๊ากลับมาจากฮ่องกงแล้วรู้เองดีกว่า..อีกอย่างรอให้เฮียกลับมาจากมาเลย์ด้วย..จะได้มาช่วยพูดกับป๊าให้น่ะ"
กอหญ้าบอกหน้าเรียบๆ เธอเคยขอป๊าแล้วว่าจะออกมาอยู่หอพักใกล้ๆกับมหาลัยแต่ป๊าไม่ยอม เธอเลยแอบย้ายออกมาตอนที่ป๊าไปทำงานที่ฮ่องกง
"ชั้นว่านะ..ถ้าป๊ารู้มีหวัง..มาตามแกถึงมหาลัยแน่ๆ"รุ้งว่า
"ชั้นก็ว่าอย่างนั้นแหละ..แล้วนี่ป๊าจะกลับเมื่อไหร่วะ"เมย์ถาม
"ก็น่าจะวันสองวันนี้แหละ..ชั้นคงต้องหลบๆจนกว่าเฮียจะกลับมาน่ะ"กอหญ้าบอก
"แล้วเฮียจะกลับเมื่อไหร่ล่ะ"รุ้งถาม
"เห็นว่าวันศุกร์หรือเสาร์นี้แหละ"กอหญ้าบอก
"เออๆ..เอาไว้ค่อยคุย..อาจารย์มาแล้ว"เมย์ว่า
สามสาวจึงหันกลับไปตั้งใจเรียนก่อน
สองวันต่อมา โรงอาหารคณะวิศวะ
"ว้าย!แกดูนั่นสิ..พี่ภีมโคตรหล่อเลยอ่ะ"
"พี่วิทย์กับพี่ชาก็น่ารัก"
เสียงสาวๆนักศึกษาที่มารวมกันอยู่ในโรงอาหารพากันพูดและมองไปทางสามหนุ่มหล่อของมหาลัยที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ
"ทำไมวันนี้โรงอาหารคณะเรามีสาวๆมากจังล่ะ!..ไหนบอกว่าคณะวิศวะมีผู้หญิงเรียนน้อยไง"
กอหญ้าถามเมื่อเดินเข้ามาในโรงอาหาร
"อ้อ!..ชั้นรู้แล้ว..ก็พี่ๆสุดหล่อประจำมหาลัยมานั่งกินข้าวอยู่นั่นไงล่ะ..สาวๆจากหลายคณะจึงมารวมตัวกัน"เมย์บอก
"ไหนวะ..จริงด้วย..นั่นพี่ภีม..พี่วิทย์และพี่ชา..โอ้ย!โคตรหล่ออ่ะ"รุ้งทำท่าปลื้ม
กอหญ้าหันไปมองตามที่เพื่อนบอก เธอเห็นภีมแล้วถึงกับชะงัก นั่นมันพี่หน้าดุๆที่โดนเธอชนวันนั้นนี่นา นี่เขาเรียนวิศวะเหรอ ไม่ใช่มั้งถ้าใช่ ตาย! ตายแน่!!ไอ้กอหญ้า
เขาตกหลุมรักเพื่อนสนิทของน้องสาวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแต่เพราะเธอมีนิสัยที่ไม่เหมือนใครทำให้เขาไม่กล้าแสดงตัวว่าชอบได้แต่พยายามตีสนิทโดยมีน้องสาวตัวแสบคอยช่วยเหลือคงต้องมาช่วยกันลุ้นว่าเขาจะจีบเธอมาเป็นแฟนได้มั้ย
เขาแอบรักเธอตั้งแต่เขายังเรียนมัธยมต้นแต่ไม่กล้าบอกเพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทจนผ่านมาถึง10ปีเขาได้เจอกับเธออีกครั้งและตั้งใจจะบอกกับเธอ แต่เขาก็ต้องมีคู่แข่งอีกหลายคนดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนเพื่อทำให้เธอรักเขาให้ได้
เมื่อเขาต้องเลือกเจ้าสาวจากลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่มีอยู่2คน คนพี่สวยเซ็กซี่หยิ่งทนง คนน้องสวยน่ารักใสซื่อไม่ถือตัว เขาควรจะเลือกใครดี
เขาเป็นลูกชายของมาเฟียที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจ เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่จริงจังกับใครแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ช่วยชีวิตเธอไว้โดยบังเอิญแล้วนั่นก็เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเขาตกหลุมรักเธอโดยยังไม่รู้แม้แต่ชื่อ แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไป
เขาหลงรักเธอตั้งแต่ในความฝันแล้วพยายามตามหาเธอในความจริงจนกระทั่งพรหมลิขิตก็ทำให้เขาได้เจอกับเธอ
เธอแอบชอบรุ่นพี่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 แต่ไม่กล้าบอกจนผ่านมาได้ 1 ปีเธอถึงได้กล้าไปบอกเขาและขอตามฉี่เป็นเวลา 3 เดือนเขาปฏิเสธ
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ