วิญญาณ ความรัก ความใคร่ สิเสน่หา สโรชาใช้ชีวิตเรียบง่ายมาตลอดยี่สิบสองปี แต่เพราะคำขอร้องกึ่งบังคับให้เธอต้องแต่งงานกับหลานชายของแม่เลี้ยง ทำให้เธอต้องจำใจแต่งงานกับธีรภัทร ทนายหนุ่มอนาคตไกลวัยยี่สิบแปด ทว่าเมื่อแต่งงานแล้วชีวิตแต่งงานไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด มันมาพร้อมมรดกชิ้นสุดท้ายที่คุณตาทิ้งไว้ให้ซึ่งมันเป็นบ้านเก่าของแม่ ความลับหลังบานประตูเรือนไม้อายุกว่าห้าสิบปีเปิดออกพร้อมกับความลี้ลับในห้วงอารมณ์ของอิสตรี.
สโรชาใช้ชีวิตเรียบง่ายมาตลอดยี่สิบสองปี แต่เพราะคำขอร้องกึ่งบังคับให้เธอต้องแต่งงานกับหลานชายของแม่เลี้ยง ทำให้เธอต้องจำใจแต่งงานกับธีรภัทร ทนายหนุ่มอนาคตไกลวัยยี่สิบแปด ทว่าเมื่อแต่งงานแล้วชีวิตแต่งงานไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด มันมาพร้อมมรดกชิ้นสุดท้ายที่คุณตาทิ้งไว้ให้ซึ่งมันเป็นบ้านเก่าของแม่ ความลับหลังบานประตูเรือนไม้อายุกว่าห้าสิบปีเปิดออกพร้อมกับความลี้ลับในห้วงอารมณ์ของอิสตรี.
กลิ่นหอมละมุนของดอกไม้ที่เธอไม่รู้จักทำให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ มือที่กำลังจับดินสออยู่ถึงกับชะงัก ร่างบางที่นั่งอยู่กับกองหนังสือเล่มหนาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนหลับตาแล้วสูดลมหายใจลึกๆ กลิ่นหอมหวานเคล้ากับสายลมฤดูหนาวชวนให้รู้สึกคุ้นเคย ทว่าเธอไม่เข้าใจว่ากลิ่นที่สัมผัสนั้นคือกลิ่นอะไรและมาจากที่ใด เพราะตอนนี้เธอนั่งอยู่ในห้องหนังสือ
สโรชาวางดินสอในมือแล้วขยับแว่นสายตาให้ชิดใบหน้า เธอมองหาที่มาของกลิ่นแต่กลับไร้วี่แววทำไมจู่ๆ เธอถึงรู้สึกได้กลิ่นประหลาดนี้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเป็นมา มันเริ่มตั้งแต่วันไหนนะ? วันที่พ่อเรียกเธอไปคุยพร้อมยื่นโฉนดที่ดินใบหนึ่งให้เธอใช่ไหม?
“อะไรคะคุณพ่อ”
“ของแกนั้นแหละ”
“คุณพ่อก็อธิบายให้บัวเข้าใจหน่อยซิคะ” หญิงสาวรับกระดาษแผ่นเก่าคร่ำครึมาดูด้วยความสงสัยในขณะที่บิดาได้แต่ถอนหายใจหนักๆ
“บ้านเก่าของแม่แกนั้นแหละ คุณตาของแกเขาให้ทนายส่งมาให้ เป็นมรดกมอบให้ลูกคนเดียว”
“บ้านของแม่รึคะ”
สโรชาเสียแม่ไปตั้งแต่เธออายุแค่ขวบเศษเธอแทบไม่มีความทรงจำเรื่องแม่เลยสักนิด เคยเห็นแต่รูปเก่าๆว่าแม่เป็นคนสวย แต่ก็ไม่รู้อะไรมากนัก พ่อทำเหมือนไม่อยากพูดถึงแม่ ถึงพ่อจะพาผู้หญิงเข้าบ้านในฐานะ ‘เมีย’ แต่คนที่พ่อยกย่องที่สุดก็คือ ‘บุหลัน’ แม่ของเธอเอง บรรดาผู้หญิงที่พ่อพาเข้าบ้านไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับสโรชา เรียกว่าต่างคนต่างอยู่ ถ้าคนไหนกล้าแกล้งหรือรังแกเธอ พ่อได้ขับไล่ออกบ้านอย่างไร้เยื่อใย
หญิงสาวเป็นเด็กหัวดีเรียนเร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่การเป็นเด็กเรียนเก่งมันไม่ได้ส่งผลดีกับเธอเลยสักนิด เพราะหลังเรียนจบมัธยมปลาย พ่อก็ส่งไปเรียนต่อที่อังกฤษทันที ระหว่างที่เรียนในระดับปริญญาตรีเธอก็รับรู้ว่าพ่อแต่งงานใหม่กับ ‘ดาวฉาย’ เธอไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ที่มาที่ไป จนกระทั่งวันที่เรียนจบกลับมาเมืองไทย ก็พบเมียใหม่ของพ่อเป็นครั้งแรก
“เรียกอาดาวก็ได้ค่ะ” ดาวฉายแนะนำตัวง่ายๆ เธอเป็นหญิงสาววัยสามสิบหกที่รูปร่างเต่งตึงอวบอัด แบบที่ผู้ชายยอมสยบแทบเท้าได้ไม่ยาก แต่ใครจะคิดว่าผู้หญิงสาวเซ็กซี่ขนาดนี้จะยอมแต่งงานกับผู้ชายอายุเจ็ดสิบปีอย่างพ่อของเธอล่ะ
“ค่ะ”
“งั้นอาเรียกหนูบัวนะคะ”
“ได้ค่ะ”
เธอไม่อยู่เมืองไทยแค่สี่ปี แต่ดูเหมือนหลายอย่างในบ้านเปลี่ยนไปมาก นอกจากผู้หญิงคนใหม่ของพ่อแล้วก็ยังมี ‘ธีรภัทร’ เขาเป็นหลานชายของ ‘ดาวฉาย’ และเป็นทนายคนใหม่ของบริษัทของพ่อด้วย
สโรชาสลัดความคิดในหัวออกไปจนหมด จดจ่ออยู่เพียงโฉนดที่ดินตรงหน้า ที่ดินน่าจะอยู่แถวๆฝั่งธนบุรี
“มันเป็นของแก จะเอาไปทำอะไรก็เอาไปเถอะ”
“บัวจะเอาไปทำอะไรล่ะคะ?” เธอไม่มีหัวด้านธุรกิจเหมือนพ่อนี่นะ
“ที่ดินแปลงนี้สวย จะทำคอนโดฯก็ดีนะ พ่อลงทุนให้”
“ก็แล้วแต่พ่อเถอะค่ะ พ่อก็รู้ บัวไม่ค่อยรู้เรื่องงานของพ่อ”
เธอพูดเหมือนน้อยใจ งานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของพ่อ พ่อไม่ได้ให้เธอเข้าไปช่วยอะไรเลย ทั้งที่เธอเป็นลูกสาวคนเดียวแท้ๆ แล้วจู่ๆ ก็โยนที่ดินแปลงนึงให้แล้วบอกให้ไปทำอะไรก็ได้นี่นะ ถ้ามันไม่ใช่เป็นสมบัติของแม่ พ่อก็คงไม่เรียกเธอมาคุยแบบนี้แน่
“รู้สึกว่าที่ดินตรงนั้นจะมีบ้านเก่าอยู่หลังนึงนะ เป็นบ้านของตาแม่แก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะยังอยู่หรือเปล่า ยังไงไปดูเสียหน่อย ถ้าจะรื้อทิ้งก็จะได้ไม่ต้องมาเสียดายที่หลัง”
“ค่ะพ่อ”
รับปากพ่อมาเป็นสัปดาห์ แต่สโรชาก็ยังไม่ได้ไปดูเรือนหลังนั้นของแม่เลย ถึงเธอจะไม่ได้ช่วยงานที่บริษัทของพ่อ แต่เธอก็มีงานแปลหนังสือที่สร้างรายได้ไม่มากไม่น้อยให้เธอได้ภูมิใจในตัวเอง ตั้งแต่เธอเอาฉโนดที่ดินฉบับนั้นมาไว้ในห้องหนังสือที่เป็นห้องทำงานของเธอด้วย เธอมักจะได้กลิ่นหอมของดอกไม้อยู่เสมอ ทั้งที่ในห้องก็ไม่มีแจกันดอกไม้หรือใช้น้ำหอมปรับอากาศอะไรเลย
เสียงเคาะประตูหน้าห้องสองสามครั้งก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น สโรชาหันไปมองตามเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้แล้วเธอก็มีสีหน้างุนงงสับสน อาการของเธอทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลงตรงหน้าหญิงสาว
“ทำงานหนักไปหรือเปล่าครับน้องบัว”
“พี่ธีร์” เธอเรียกเขาเหมือนไม่มั่นใจ บางครั้ง ความทรงจำของเธอสับสน นั้นเป็นเหตุผลที่พ่อผลักไสเธอไปเรียนต่างประเทศหลายปี แท้จริงเธอไปรักษาตัวเองด้วย
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"