“ขอร้องอย่าทำ” จากจะอธิบายว่าทำไมถึงไม่ได้ขออนุญาตก็ต้องเปลี่ยนการขอร้องให้ปรเมศหยุดการกระทำตรงหน้า “ฉันไม่ชอบคนแหกกฎ โดยเฉพาะเด็กที่เกิดเมื่อวานอย่างเธอ” “หนูขะขอโทษ อ๊ะ"
"ฉันทำไม่ได้"
"ทำไมถึงทำไม่ได้ พ่อเลี้ยงก็ทำให้มันจบๆ ไปก็สิ้นเรื่อง"
ร่างเปลือยไร้เสื้อผ้าอาภรณ์โวยวายกับคนตรงหน้า เธอยืนแก้ผ้าเพื่อให้ปรเมศได้ทำเรื่องอย่างว่า แต่อีกฝ่ายกับยืนตัวแข็งทื่อไม่มีอารมณ์ร่วมในครั้งนี้
"กานต์ขอร้อง กานต์เบื่อที่ต้องตอบคำถามพ่อๆ แม่ๆ ว่าทำไมยังไม่มีลูก"
"ไม่ต้องขอร้อง"
ปรเมศปฏิเสธกับเรื่องบนเตียง มันอาจจะเป็นความตายด้านไปแล้วก็ได้ เขาไม่เคยมีอารมณ์กับผู้หญิงไหนนอกจากแฟนเก่าที่เสียชีวิตไปเมื่อสิบปีที่แล้ว กานต์กนก ภรรยาคนปัจจุบันที่แต่งกันด้วยธุรกิจ ผู้ใหญ่ทั้งสองคลุมถุงชนในการแต่งงานครั้งนี้ ปรเมศเองไม่ได้มีใครมานับสิบปีและยินยอมแต่งงานกับกานต์กนกเพราะแม่ร้องขอเพื่อทำให้มันจบๆ ไปเพราะไม่อยากมีปัญหา แม้กานต์กนกจะมีใจให้ปรเมศอยู่บ้าง แต่ก็รู้ตัวว่าเป็นได้แค่ภรรยาในนาม ผู้เป็นสามีชัดเจนมาตลอดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอมันธุรกิจไม่ได้รักหรือรู้สึกลึกซึ้งอะไร แต่ทว่ากานต์กนกก็คิดเสมอว่าความดีของเธอจะทำให้สามีใจอ่อนเข้าสักวัน แต่มันก็นานร่วม 3 ปี ปรเมศยังเป็นคนใจแข็งเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือปากคอเลาะร้ายไม่เคยถนอมน้ำใจกันสักครั้ง
"พ่อเลี้ยงเราแต่งงานกันมา 3 ปีไม่เคยมีอะไรกัน"
"......."
"กานต์จืดซืดขนาดนั้นเลยเหรอ"
"......."
"รูปร่างหน้าตาของกานต์ มันกระตุ้นต่อมความเงี่ยนของพ่อเลี้ยงไม่ได้เลยเหรอ"
ปรเมศเบือนสายตาไปทางอื่น กานต์กนกกระทืบเท้ากระเพื่อมสั่นไหวไปทั้งร่าง ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนขี้เหร่หรือไม่มีความเซ็กซี่จนไม่เร้าใจแต่อย่างใด ชายหนุ่มยึดถือในใจเสมอจะไม่ทำอะไรผู้หญิงที่ไม่ได้รักและกานต์กนกคือหนึ่งในเงื่อนไขนั้น เขาไม่รักเธอมันก็ไม่แปลกที่ปรเมศจะไม่ยอมมีอะไรด้วย ต่อให้คนตรงหน้ายั่วยุจนความเป็นบุรุษเพศแข็งขึ้น เขาก็จะไม่ทำ
"พูดจาอะไรให้เกียรติตัวเองด้วย มันดีแค่ไหนที่ผมไม่ย่ำยีและถีบหัวส่ง อย่าทำให้ผมเหลืออดหรือต้องร้ายไปมากกว่านี้"
ปรเมศแค่นเสียงตามไรฟันกับพฤติกรรมของกานต์กนกที่ยัดเยียดตัวเองเกินงาม ทะเบียนสมรสเป็นแค่กระดาษใบเดียว กานต์กนกจะเป็นเจ้าชีวิตของเขาไม่ได้
"นะคะพ่อเลี้ยง ทำลูกให้กานต์เถอะ กานต์อายที่ทุกคนต่างรุมถาม" เข้ากอดปรเมศแน่น ใบหน้าซุกลำคอขบเม้มเป็นการยั่วเย็ดให้เกิดอารมณ์ มือน้อยๆ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวลายสำหรับใส่ทำงานในไร่ของปรเมศ กลิ่นเหงื่อจากการตากแดดปะทะจมูกเป็นกลิ่นจางๆ ก็ไม่อาจต้านทานอารมณ์กำหนัดที่เกิดขึ้นของกานต์กนกได้ ในยามที่กระดุมหลุดทุกเม็ดแผงอก ก็ปรากฏหน้าอกหนาเป็นลอนๆ มีแต่กล้ามเนื้อ ขณะนี้มันล่อตาล่อใจหญิงตรงหน้าเป็นอย่างมาก กานต์กนกยกฝ่ามือน้อยๆ แนบแผงอกลูบวนไล่ ทั้งยังเขี่ยสะกิดยอดเม็ดสีน้ำตาลเข้มปรเมศเป็นการลากชายหนุ่มเข้าห้วงเสน่หา
"ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากห้องฉัน"
ผลักคนร่างเปลือยออกจากออกอ้อมกอดและจับกานต์กนกแต่งตัวราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ จากนั้นปรเมศก็ลากคนตัวเล็กกว่าออกจากห้อง เสียงร้องโวยวายดังลั่นทั่วบ้าน คนงานที่สนิทก็ต่างรู้ดีว่าทั้งคู่เป็นผัวเมียแค่ในนามเท่านั้น
"พ่อเลี้ยง" ตะคอกเสียงอย่างไม่พอใจ เขาทำกับเธออย่างไม่ใช่เมีย
"นี้เมีย" ชี้หน้าตัวให้ปรเมศหันมอง ว่าคนที่ยืนตรงนี้ตรงนี้คือเมียในสมรสถูกต้องตามกฎหมาย
"ก็ยังเห็นว่าเป็นเมีย ถึงไม่ทำอะไรต่ำๆ ไปมากกว่านี้ อย่าทำให้เหลืออดแค่กระดาษแผ่นเดียวมันไม่ได้มีค่ากับฉันขนาดนั้น"
ตอกกลับอย่างไม่แยแสความรู้อีกคน เลือกที่จะแต่งงานกับเขาตั้งแต่แรกก็ต้องรับให้ได้กับปากไม่มีหูรูดและความไม่ถนอมน้ำใจใคร ปรเมศเป็นคนตรงๆ ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ ยกเว้นก็แต่จะมีบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าไม่สมควรจะพูดก็จะกลายเป็นคนอีกบุคลิก
"สะอาด"
"......"
"สะอาด!!!" เรียกคนขับรถประจำไร่ภูมิดินที่อยู่ด้านหน้าของบ้าน
"ครับพ่อเลี้ยง" คนขับรถวิ่งหน้าตื่น ในมือยังถือผ้าเช็ดรถกำลังทำความสะอาดและขัดเหงาหลังจากล้างคราบดินคราบโคลนเสร็จ
"ไปส่งคุณกานต์ที่บ้าน" พูดจบก็เดินย้อนกลับเข้าห้องทำงาน หย่อนกายลงเก้าอี้หนังสีดำเอนศีรษะผิงพนักแหงนใบหน้าขึ้นและพ่นลมหายใจออกปลายจมูกเฮือกใหญ่ เขาต้องเผชิญกับปัญหาโลกแตกปัญหาการอยากได้หลานสืบทอดสกุลให้ตระกูลภูมิดิน ทั้งยังต้องประสาทเสียกับอีกคนที่อยากเสียตัวให้เขาตลอดเวลา
มันยากมากที่จะต้องฝืนใจทำเรื่องอย่างว่ากับคนที่ไม่ได้รัก ปรเมศไม่ใช่ผู้ชายมักมาก ไม่ค่อยสนใจเรื่องประเภทนี้สักเท่าไหร่วันๆ ตั้งหน้าตั้งตาเข้าไร่เข้าสวนธุรกิจที่สานต่อจากคุณปู่
ไร่ภูมิดินทำเกษตรเกี่ยวกับผักผลไม้เป็นหลัก ปลูกพืชออร์แกนิคสลับการปลูกตามธรรมชาติ รูปแฟนเก่ายังคงตั้งไว้บนโต๊ะทำงานไม่เคยอยากมันออกไปไหนและทุกคนก็รู้ว่าผู้หญิงนี้คือรักแรกและรักเดียวของปรเมศที่มี
"ผมคิดถึงคุณ" มือหนาสัมผัสเข้าที่กรอบรูป ใช้หัวแม่มือลูบใบหน้าบนกรอบรูป ปรเมศส่งยิ้มให้กับคนในกระดาษแผ่นเล็กด้วยความคิดถึง สิบปีที่ห่างกันไปความรู้สึกไม่เคยลดน้อยลง
ตกดึก
ปรเมศลืมตาขึ้นหลังจากหลับพักสายตาไปชั่วครู่ แสงที่สว่างจ้าจากโคมไฟดวงสวยดับลงเหลือเพียงความมืดอย่างแปลกประหลาด บรรยากาศในเงียบเป็นปกติอย่างเช่นทุกวันไม่ลมฟ้าลมฝนที่จะทำให้ไฟฟ้าดับลงได้
"ไฟดับ"
แต่เปล่าเลย ไฟในห้องกลับติดๆ ดับๆ ราวกับมีคนมาเปิดปิดสวิชไฟเล่น ปรเมศเหยียดกายลุกจากเก้าเปิดประตูออกมาด้านนอก ในขณะที่เดินสำรวจไฟในบ้านก็พลันเห็นเงาสีดำเปิดประตูหน้าบ้านออกไป ตอนนี้เขากำลังคิดว่าอาจเป็นขโมย ผลผลิตในไร่เริ่มออกอาจจะเป็นไปได้ว่าต้องมีโจรเข้ามาขโมยของ
ชายหนุ่มรีบย้ำเท้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินตามเงาตะคุ่มให้ทันออกมาด้านหลังและหวังจะจับส่งตำรวจให้ได้หากเป็นโจรจริงๆ
"หยุด" เข้าประชิดร่างปริศนาห่างกันไม่กี่คืบ ก็ตกใจเมื่อร่างนั้นหันมาปรากฏเป็นใบหน้าอดีตคนรักที่เสียชีวิตไปแล้ว
"มินตรา" ไม่ได้ตกใจกลัวแต่อย่างใดกลับดีใจด้วยซ้ำที่ได้เจอเธออีกครั้ง นานมากที่ไม่เจอมินตราแม้กระทั่งในความฝัน คนตรงหน้าส่งยิ้มให้ปรเมศอย่างสดใสอย่างที่ไม่เคยเห็นกับรอยยิ้มแบบนี้
"คุณมาหาผม"
"......" ไม่มีเสียงตอบกลับ มีแต่รอยยิ้มในมุมปากที่ส่งให้ปรเมศเรื่อยๆ มินตรายังคงเหมือนเดิมยิ้มสวยไม่มีที่ติแม้ไม่ได้เจอกันนานนับสิบปี
"ผมคิดถึง"
เดินเข้าใกล้มินตรา สองแขนอ้าเตรียมสวมกอดคนที่คิดถึง เพียงแต่โอบร่างคนรักแทนที่จะได้กอดรัดตัวเธอแต่กลายเป็นการสวมกอดตัวเอง มินตราหายไปต่อหน้าตาต่อปรเมศอย่างเหลือเชื่อ
"มิน มิน!!" ตะโกนเรียกสุดเสียง พลางกวาดสายตามองหาหมุนตัวเป็นรอบ 360 องศา ไปแล้ว!! มินตราหายไปจากปรเมศอีกครั้ง
"มิน!!!!"
เฮือก!! สะดุ้งตื่นกลางดึก ปรเมศยังนั่งบนเก้าอี้ทำงาน เขาเผลอหลับไปตั้งแต่นอนไหนก็ไม่รู้ มีเพียงแฟ้มออเดอร์จากลูกค้าสั่งผลผลิตในไร่กางไว้บนโต๊ะ เมื่อกี้เขาแค่ฝัน ฝันถึงคนรักที่จากไปนานแสนนาน เป็นครั้งแรกตั้งแต่มินตราจากไปแล้วเก็บมาฝันเพราะความคิดถึงสุดหัวใจ
เหงื่อซึมตามกรอบหน้า ปรเมศยกหลังมือปาดเช็ดมันออก จากนั้นเก็บแฟ้มต่างๆ ที่กองอยู่ตรงหน้าให้เป็นระเบียบ ก่อนจะปิดไฟและล็อคประตูห้องทำงานไม่ให้ใครเข้ามาโดยพลการแล้วเดินขึ้นห้องนอนในเวลาเที่ยงคืน
"คืนนั้นผมเป็นของพี่แล้ว คืนนี้พี่เป็นของผมได้ไหม" ภาคต่อรุ่นลูกของพ่อเลี้ยงปรเมศ ลูกชายคนเดียวที่ถูกส่งไปเรียนเมืองนอก เพื่อกลับมาสานต่องานที่ไร่ ความบังเอิญของปฐพีที่ทำให้พบกับพยาบาล เขาขอความช่วยเหลือเพราะจะถูกตามยิงกบาลเพราะดันไปยุ่งกับเมียชาวบ้านโดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าคนคุยมีผัว ทว่าได้วนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้นหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาในไร่ภูมิดิน ทำหน้าที่เป็นพยาบาลส่วนตัวให้พ่อ ความบังเอิญที่ได้เจอ แต่ต่อจากนี้จะเป็นความตั้งใจ
เพราะคำว่าครอบครัวเคยสมบูรณ์ ปวีร์ในวัยเด็กรับไม่ได้เมื่อพ่อแม่แยกทางกันเพราะเหตุผลของผู้ใหญ่ กระทั่งพ่อมีภรรยาเลยโทษผู้หญิงของพ่อว่าเป็นมือที่สาม ความเกลียดชังถูกระบายออกมาทางการกระทำ เมื่อแม่เลี้ยงมีลูกติด เกิดสัมพันธ์ลับๆระหว่างเขากับเฌอเอมหญิงสาววัยยี่สิบสองปี เธอผู้มีโลกอันสดใส แค่ต้องทุกข์ระทมเพราะต้องทอดเรือนร่างให้ผู้ชายที่เธอเคยเคารพและรักมาก เมื่อแม่ของเธอก้าวเท้ามาเป็นแม่เลี้ยงของเขา บัดนั้นปวีร์ก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน
ธนานักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่แต่งงานกับภรรยาแต่ไม่สามารถมีลูกได้ด้วยเหตุผลหลายประการ กระทั่งตัดสินใจรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม แต่โชคชะตากลับพลัดพรากภรรยาที่อยู่กินกันมาหลายปีไปด้วยอุบัติหตุุ เป็นเหตุให้ธนาต้องเลี้ยงบุญธรรมมาโดยลำพัง จนเติบโตเป็นสาว เพราะความไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขมาตั้งแต่แรก ทำให้ความหวั่นไหวเกินขึ้นและเกินเลยจนเปลี่ยนสถานมาเป็นผัวเมีย
หิรัญ เศษตรศวรรษศิลา หนุ่มใหญ่วัย 49 ปี ผู้ประสบความสำเร็จทุกด้านทั้งเรื่องการงานการเงินอำนาจและบารมี แต่อาภัพเรื่องความรักแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้งก็ถูกนอกใจทั้ง 2 ครั้ง เมื่อเจ็บมาหลายครั้งหลายหนก็อยากจะปิดตายเรื่องหัวใจและมุ่งหน้าทำธุรกิจให้เป็นหนึ่งที่สุด ทว่าโชคชะตาก็พาให้เขามาเจอแม่หม้ายลูกติด ความรักเกิดจากความสงสารคำนี้มีอยู่จริง จนกระทั่งเปิดใจอีกครั้งแต่สุดท้ายประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอย
ประธานบริษัทที่ต้องการเลขาคนใหม่เข้ามาทำงานในสัญญาจ้าง 6 เดือน เมื่อคนเก่าต้องลาคลอด ทว่าโชคชะตากับนำพาอดีตคนรักเข้ามาอีกครั้งในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป