*** เนื้อหาบางส่วน *** ปลายนิ้วหยาบแตะลงบนกางเกงชั้นในของขวัญจิราอย่างเบา ๆ พร้อมกับใช้ปลายนิ้วถูขึ้นลงไปมาระหว่างร่องสาวของเธอ ในขณะที่หญิงสาวนั่งจนตัวเกร็ง เพราะเธอไม่เคยรู้สึกยินดีและเต็มใจขนาดนี้มาก่อน “อ๊า! อ๊ะ! อ๊ายยย” คิรากรถูปลายนิ้วขึ้นลงตามจังหวะจากช้าไปเร็ว จนทำให้หญิงสาวหลุดครางเสียงดังออกมาด้วยความเสียว “พี่ขอนะขวัญ” เขากระซิบบอกหญิงสาวที่ตอนนี้นั่งหลับตาพริ้มพร้อมกับขบเม้มริมฝีปากของตนเพื่อกลั้นความเสียวนั้นเอาไว้ ขวัญจิราพยักหน้าตอบเขาแทน เพียงแค่นั้นเขาก็จับกางเกงชั้นในของเธอหลุดออกจากขาขาว ๆ ของเธออย่างเบามือ
“ขวัญ! ขวัญ! มาช่วยแม่ทำกับข้าวหน่อยเร็วลูก”
หญิงวัยกลางคนกำลังวุ่นอยู่ในครัว เพื่อจัดเตรียมอาหารนำไปถวายพระที่วัด รวมไปถึงสังฆทานที่วางไว้บนโต๊ะทานอาหาร ซึ่งหล่อนฝากภูมิรพีหรือลูกเขยซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของขวัญนิภา หล่อนเป็นมารดาของขวัญจิราที่เอ่ยชื่อเรียกบุตรสาวของตนไปเมื่อสักครู่
ขวัญนิภาซึ่งอยู่ในชุดลายไทย มัดผมรวบเก็บไว้อย่างเรียบร้อย สีผมดำธรรมชาติ รูปร่างสมส่วน ตัวเล็กกว่าขวัญจิราอยู่ไม่มาก หน้าตาละม้ายคล้ายกับขวัญจิรา ซึ่งบุตรสาวถอดแบบมาจากตนไม่มีผิดเพี้ยน ถ้าบอกว่าทั้งสองเป็นพี่น้องก็อาจจะมีคนเชื่อได้ เพราะขวัญนิภาไม่ได้ดูแก่ลงไปมากมายนัก ถึงแม้ว่าอายุจะเข้าเลขหกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าแล้วก็ตาม
“จ๊ะ แม่” เธอขานรับ
ก่อนจะวางดอกไม้ลงในแจกันให้เรียบร้อย พร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทั้งที่ในมือถือแจกันดอกไม้เอาไว้ พลางสาวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบน เพื่อนำของที่อยู่ในมือทั้งสองข้างขึ้นไปไว้ในห้องพระ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก็ก้าวขาลงมาชั้นล่าง พร้อมกับนำร่างกายอันบอบบางตรงเข้าไปยังห้องครัวแทบจะทันที เมื่อเท้าแตะพื้นบันไดขั้นสุดท้าย
ขวัญ หรือ ขวัญจิรา วัยยี่สิบเจ็ดปีเศษ ที่เพิ่งนำแจกันดอกไม้ไปไว้ให้กับผู้เป็นมารดาได้กราบไหว้ หลังจากที่ท่านกลับมาจากวัดแล้ว
ขวัญจิรา มีรูปร่างหน้าตาดีพอใช้ได้ เป็นผู้หญิงรูปร่างผอมบาง ส่วนสูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผิวพรรณธรรมชาติแต่ไม่ขาวมาก ผมสีน้ำตาลดัดลอนถูกมัดรวบไว้อย่างเรียบร้อยและสวยงาม เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่เป็นชุดไทย เหมาะจะเข้าวัดเข้าวาทำบุญด้วยเช่นกัน
แค่เพียงชั่วครู่ เธอก็ช่วยมารดาจัดแจงทำอาหารที่อยู่ในกระทะ เพราะขวัญนิภากำลังล้างผักในอ่างล้างจาน จากนั้นเพียงไม่นาน ขวัญนิภาก็ถือโคมผัก ส่วนมืออีกข้างกำและสะบัดน้ำที่ติดผักให้หลุดออก ก่อนจะหย่อนมันลงไปในกระทะที่ขวัญจิรากำลังผัดเนื้อหมูและเครื่องปรุงจนออกรส เลยทำให้สองสาวได้พูดคุยกันตามประสาแม่ลูก
“ขวัญ วันนี้พี่ภูมิจะเข้ามารับตอนไหน นี่ก็เริ่มจะสายแล้วนะ” ผู้เป็นมารดาเอ่ยปากถามบุตรสาวที่กำลังวุ่นอยู่กับกระทะใบใหญ่ ซึ่งมันใหญ่กว่าแขนเจ้าตัวแน่นอน
“คงอีกสักพักค่ะแม่ ขวัญเพิ่งโทรหาพี่เขาไม่นานเอง” หญิงสาวตอบคำถามผู้เป็นมารดา
ขวัญจิราเป็นผู้หญิงเรียบร้อย เฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้ามารดาหรือต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ แต่เวลาอยู่กับเพื่อนกับฝูง เธอก็จะสนุกเฮฮาปาร์ตี้เหมือนวัยรุ่นทั่วไป
ทว่าเวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ที่เธอไม่ได้สัมผัสกับวัยนั้นอีกแล้ว หลังจากที่หญิงสาวได้แต่งงานกับภูมิรพี ซึ่งเป็นการแต่งงานของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรวมไปถึงตัวภูมิรพีเอง เจ้าตัวเมื่อได้เห็นหน้าขวัญจิราสมัยเรียน เขาก็ได้พาบิดาและมารดาไปสู่ขอเธอทันทีหลังจากที่เจ้าตัวเรียนจบ
ภูมิรพี หรือ ภูมิ เป็นชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปี เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนอยากได้ และเขาตรงสเปคผู้หญิงหลาย ๆ คน แถมเจ้าตัวเป็นคนที่มุ่งมั่นกับงาน
สำหรับเขา งานคืองาน เล่นคือเล่น เขาทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับร้านขนมเค้ก เปิดอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของจังหวัด
และตัวเขาเองก็มีฝีมือในการทำขนมเค้กอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเค้กวันเกิด เค้กทานเล่นเป็นอาหารว่าง หรือแม้กระทั่งรับทำเค้กในงานแต่ง
ภูมิรพีเป็นชายหนุ่มรูปร่างสันทัด เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว และเป็นคนเจ้าระเบียบ เสื้อผ้าหน้าผมต้องดูดีอยู่เสมอ เมื่อออกไปพบปะกับลูกค้า แต่ในเวลาที่เขาเข้าครัวลงมือทำเค้กกับมือ เขาจะแต่งตัวตามสบายให้เหมาะกับการทำงานในห้องครัว
ภูมิรพีและขวัญจิราเจอกันได้อย่างไร ย้อนกลับไปในสมัยที่ ขวัญจิรายังเรียนมหา’ลัย
เธอใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงยาวเกือบถึงพื้น สวมรองเท้าผ้าใบ สีขาวใส่สบาย ด้วยความที่ขวัญจิราไม่ชอบใส่รองเท้าคัทชู เพราะมันชอบกัดเท้าของเธอ จนหญิงสาวต้องมานั่งทะเลาะกับรองเท้าต่อหน้าเพื่อน ๆ ในกลุ่ม รวมถึงเพื่อน ๆ ในห้องอีกด้วย
ภูมิรพีได้เจอกับขวัญจิรากันครั้งแรก คือ ตอนเธอไปทานอาหารกับเพื่อน ๆ ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เนื่องด้วยเพื่อนในกลุ่มของเธอใส่ชุดนักศึกษาคล้าย ๆ กัน ซึ่งตัวเขาเองก็มิอาจทราบได้ว่า เป็นเพื่อนจากมหา’ลัยเดียวกันหรือไม่ หรือแค่ต่างคณะ แต่ทว่าชายหนุ่มไม่ได้สนใจในจุดนั้น
ซึ่งในตอนนั้นขวัญจิราไว้ผมยาวสีดำ กำลังนั่งหัวเราะต่อกระซิกกับเพื่อน ๆ อย่างออกรส แต่ในขณะเดียวกัน เขาเองก็ต้องยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ พร้อมกับพยายามขยายภาพเข้าไปใกล้ ๆ ว่าเธอศึกษาอยู่ที่ไหน คณะอะไร และชั้นปีที่เท่าไหร่
ซึ่งในตอนนั้นภูมิรพีมีอายุยี่สิบเก้าย่างสามสิบปี เป็นช่วงอายุที่เขาควรจะมีครอบครัว และอีกอย่างเพื่อนในวัยเดียวกับเขาต่างก็มีครอบครัวและเจ้าตัวน้อยกันเกือบหมด
ต่อจากนั้นเพียงไม่นาน เขาสืบสาวได้ว่าผู้หญิงที่ตนหลงรัก ศึกษาที่ไหน ชั้นปีอะไร รู้ถึงชื่อและนามสกุลของเธอ เพราะเจ้าตัวดันเอารูปดังกล่าวไปให้ฐากูรและกชอรซึ่งเป็นบิดาและมารดาของตนได้ชม และบอกกับพวกท่านทั้งสองอีกว่า‘ผู้หญิงคนนี้ที่ผมอยากจะแต่งงานด้วย’
คำพูดที่เขากล่าวออกมา เป็นคำพูดที่ผู้หญิงหลาย ๆ คน อยากได้ยินจากปากผู้ชายที่เธอหลงรัก หรือจากปากของฝ่ายชายที่แอบชอบผู้หญิง
แต่เมื่อภูมิรพีได้พบเจอกับขวัญจิรา พอเขาได้เห็นปุ๊บ ก็หลงรักปั๊บ น้อยคนนักที่จะมีความรู้สึกได้ถึงขนาดนี้ จนทำให้ภูมิรพีเชื่อในคำนิยามที่กล่าวไว้ว่า ‘รักแรกพบ’ มันเป็นยังไง
ทว่าในตอนนั้น กชอรผู้เป็นมารดาของภูมิรพีมีความรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเด็กคนนี้ซะเหลือเกิน
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก กชอรก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เด็กสาวคนนี้เป็นบุตรสาวของขวัญนิภา ซึ่งเป็นเพื่อนของตนในสมัยเรียน อีกอย่างก็เพิ่งเจอกันเมื่อไม่นานมานี่เอง
++ คำโปรย ++ เมื่อเธอท้องกับเขา แต่แม่ฝ่ายชายกลับไม่ยอมรับแถมยังให้ชายคนรักของตนต้องไปแต่งงานของคนอื่นน้องแฝดที่คลอดก่อนกำหนดด้วยสภาวะจิตใจของผู้เป็นแม่จะเป็นอย่างไร +++ เนื้อหาบางส่วน +++ "พะ แพรว... อ๊ายยย" ธิดาเสียหลัก จึงเรียกสายตาของทุกคน พร้อมกับแพรวที่เข้ามาหาร่างของเธอ "กะ แกละ เลือด..." น้ำเสียงสั่นเครือ มองไปบนพื้น ซึ่งเริ่มมีสีแดง ค่อย ๆ ไหลเจิ่งนอง ใบหน้าของธิดาเริ่มไม่สู้ดี เมื่อเพื่อนสาวของตนบอกว่ามีเลือด จึงทำให้ธิดาก้มไปมองด้านล่าง และก็เป็นอย่างที่เห็น "ธะ ธิดา" นันยศลืมไปเลยว่าตนเองอยู่ในฐานะไหน ร่มที่กางแดดบังลมให้กับขวัญเนตร ก็ร่วงหล่นตกพื้น ก่อนจะรีบปีนข้ามรั้ว ปรี่เข้ามาชอนร่างของธิดามาอยู่ในวงแขน "ฉันจะพาธิดาไปโรงพยาบาล ส่วนเธอค่อยตามไป เตรียมของทุกอย่างของธิดาให้พร้อม และอย่าลืมบอกแม่ด้วย" เขากล่าวเสร็จสรรพ ก่อนจะสาวเท้าไปด้านหน้า เช่นเดียวกับที่แพรววิ่งไปเปิดประตูรั้ว "อุ่น!" ตะโกนลั่น ริมฝีปากที่ขบเม้มเข้าหากัน แววตาเบิกโพลง ไม่ชอบใจที่เขาทำอะไรออกนอกหน้า "ถ้ายังเป็นคน ก็หลีกไปซะ ผมจะไม่ยอมให้ลูกในท้องเป็นอะไรเด็ดขาด" น้ำเสียงเข้มของนันยศ ทำให้ขวัญเนตรต้องสะดุ้ง เพราะตั้งแต่ทั้งสองเป็นสามีภรรยา เขาก็ไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับหล่อนเลยสักครั้ง
กุมภัณฑ์ เป็นชายหนุ่มที่เกิดในราศี กุมภ์ และเขาเป็นผู้ที่อยู่ในดินแดนของยมโลก เนื่องด้วยได้คำสั่งจากเบื้องบนให้ไปดูแล โมราห์ เป็นเด็กสาวที่อยู่ในการปกครองของ กุมภัณฑ์ แต่มันจะเกี่ยวอะไรกับเธอหรือเปล่านะ ทำไมถึงต้องส่งชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ที่วัน ๆ คลุกคลีสาวงามที่ดินแดนมีแต่กระทะทองแดง ต้นหงิ้ว และเสียงร้องโหยหวยจากพวกวิญญาณที่ทำชั่ว ทว่าเขาจะอดใจได้หรือไม่ ที่ไม่ได้ปลดปล่อยความเป็นชาย
.. "ใครให้คำนิยาม ว่าการแต่งงานคือตอนจบของชีวิต การแต่งงานต่างหากล่ะ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด" .. . . . # "หากมนุษย์เราสามารถย้อนอดีตไปได้ แล้วการแก้ไขเรื่องราวในอดีต จะทำให้อนาคตเปลี่ยนแปลงไหม"
++ คำโปรย ++ ใครจะไปคิดล่ะว่านางจะเข้าไปอยู่ในซีรีส์ที่ได้ชมก่อนนอน จึงทำให้นางได้ไปพบกับท่านแม่ทัพในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งมีจักรพรรดิเฉียนหลงเป็นฮองเต้ในสมัยนั้น แถมท่านแม่ทัพผู้นี้เพิ่งจะโดนหักอกมามาด ๆ อีกด้วย *** เนื้อหาบางส่วน *** “เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ” เสียงสาวใช้ในเรือนของซูเม่ย ดังขึ้นมาจากด้านนอก พลางรีบปรี่เข้ามาหานายของตน ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าสาวใช้ของตนมาก่อน “เจ้าจะเอะอะโวยวายอันใดกัน ข้ากำลังนั่งปักผ้าให้สามี” ซูเม่ยที่กำลังจดจ่อกับผ้าขาวบาง ที่มีไม้ขนาดสี่เหลี่ยมทับผ้าผืนนั้นเอาไว้ พร้อมกับลายผ้าที่มีรอยร่างเส้นไว้บาง ๆ ให้เป็นลายปัก “กะ… เกิดเรื่องใหญ่ที่เรือนภรรยาเอกของท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ” สาวใช้คนดังกล่าวมีใบหน้าที่ตื่นตระหนก พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ “เกิดเรื่องอันใดของเจ้ากัน ข้ากำลังอารมณ์ดี ๆ เจ้ากลับหาเรื่องมาให้ข้าอารมณ์ขุ่นมัว” คิ้วขมวดเป็นปมของซูเม่ยบ่งบอกว่านางไม่สบอารมณ์จริง ๆ เพราะหลังจากที่ท่านแม่ทัพมาให้ความสุขกับนางถึงในอ่างอาบน้ำ นางจึงปักผ้าให้สามีของตนเป็นการตอบแทน ที่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ลืมนางเสียทีเดียว
เมื่อ 'รมิตา' ต้องมาเป็นเลขาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจ เพราะ 'ชัชนนท์' เป็นบอสของเธอ ที่เอาแต่จะหาเรื่องแกล้งเธอตลอดเวลา แต่ทว่ามีอะไรฝั่งใจชัชนนท์กันนะ ถึงได้แกล้งนางเอกของเรา แต่มันมีเรื่องราวอะไรมากกว่านั้น
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"