เรื่องราวนี้ได้เริ่มจากการที่ “ที่รัก” สาวสวยพนักงานใหม่ ตกลงยินยอมแกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ ให้ “กันต์ธี” ประธานบริษัทหนุ่มสุดหล่อมาดนิ่ง เจ้าของธุรกิจมากมายรวมทั้งบริษัทที่เธอได้ทำงานอยู่ แต่จากแค่แกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ หลายสิ่งหลายอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อทั้งคู่เริ่ม “แอบมีใจให้กัน” เพราะตอนที่ใช้เวลาร่วมกันนั้นได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ทั้งวายป่วงน่าปวดหัว สนุก มีความสุข และอบอุ่นหัวใจ แต่ด้วยเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ในตอนต้น ด้วยสถานะทางสังคมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง พวกเขาจะกล้าก้าวข้ามเส้นความแตกต่างนั้นหรือไม่? ความรักของทั้งสองจะก่อเกิดขึ้นมาได้จริงหรือ?
“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้กันล่ะเนี่ย!?” ที่รัก หญิงสาววัย 23 ปีอดไม่ได้ที่จะบ่นอย่างหัวเสียเมื่อหลายสิ่งหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิดไว้
วันนี้เป็นวันที่เธอจะต้องไปทำงานวันแรก ด้วยความที่อยากให้หัวหน้าประทับใจ ที่รักจึงวางแผนจัดสรรเวลาไว้ดิบดี แต่แผนของเธอก็พังเละไม่เป็นท่าตั้งแต่เมื่อคืนและลามมาถึงตอนนี้
อย่างแรกเลยที่ไม่เป็นไปตามแผนคือเวลานอนและเวลาตื่นของเธอ เพราะตื่นเต้นและแอบเป็นกังวล ที่รักจึงนอนดึกกว่าที่วางแผนไว้ และผลของมันก็ทำให้เธอตื่นสาย
ส่วนอย่างที่สองคือฟ้าฝนและการคมนาคม ทั้งที่พยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้อากาศจะแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งโล่งสบาย แต่พอเธอมาถึงป้ายรถเมล์ฝนก็กระหน่ำตกลงมาห่าใหญ่อย่างกับพายุเข้า
และเท่านั้นยังไม่พอ รถเมล์สายที่เธอตั้งใจจะใช้เดินทางไปทำงานก็ยังไม่โผล่มาสักทีอีก ทั้งที่นี่ก็เลยเวลาไปกว่าสิบนาทีแล้ว
“ทำไงดีเนี่ย จะสายแล้ว ๆ ” ที่รักลนลานจนนั่งไม่ติดที่ เวลานี้เธอเริ่มคิดแล้วว่าการนั่งรอรถเมล์อย่างไร้ความหวังไม่ใช่เรื่องดี เธอจึงสอดส่ายสายตามองไปโดยรอบ
และหลังจากใช้เวลาสำรวจอยู่ครู่เดียวที่รักก็เห็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างกำลังหลบฝนอยู่ไม่ไกลจากเธอ
“นั่นไง!” ที่รักเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เธอตัดสินใจทันทีเลยว่าจะเปลี่ยนไปเดินทางด้วยวิธีนี้ แต่แม้จะตัดสินใจได้แล้วเธอก็ต้องนั่งรออยู่ต่อจนกว่าฝนจะซาลง
หลังจากผ่านไปราวห้านาทีฝนก็หยุดตกอย่างไม่น่าเชื่อ ที่รักไม่รอช้ารีบวิ่งไปแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนวินมอเตอร์ไซค์ทันที
ทุกอย่างดูเหมือนจะกำลังไปได้สวย เพราะหลังจากดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ ที่รักพบว่าเธอน่าจะยังไปทันอยู่ แต่เหมือนสวรรค์ตั้งใจเล่นตลก เพราะแค่เธอดีใจได้ครู่เดียวเธอก็ซวยอีกหนแล้ว
หนนี้มันคือการที่ขณะเธอนั่งบนวินมอเตอร์ไซด์อยู่ดี ๆ ก็มีรถสปอร์ตคันหรูขับแซงไปด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบน้ำที่เจิ่งนองอยู่บนท้องถนนสาดกระเซ็นใส่เธอ จนชุดตัวเก่งที่หญิงสาวลงทุนซื้อมาใหม่เปียกไปกว่าครึ่ง
ถึงแม้ว่าจะเจอเรื่องซวยไปชุดใหญ่ สุดท้ายที่รักก็มาถึงบริษัทได้ทันเวลา เธอรีบวิ่งเข้าลิฟต์ที่มีคนน้อยที่สุดไป จากนั้นก็กดยิก ๆ ตรงปุ่มเลือกชั้นก่อนจะผละออกมายืนรอ
“ในที่สุดก็มาถึงสักที เฮ้อ... ทำไมวันนี้ฉันถึงได้ซวยขนาดนี้กันล่ะเนี่ย” พอมีเวลาให้ได้พักหายใจหายคอที่รักก็เริ่มบ่นออกมา
“มันควรจะเป็นวันที่สดใสมีแต่เรื่องดี ๆ สิ ไม่ใช่แบบนี้ โอ๊ยย... น่าปวดหัวชะมัด” ที่รักบ่นอย่างหัวเสีย เธอหยิบกระดาษทิชชูออกมาเช็ดคราบน้ำที่เปียกเลอะตามตัวหวังให้มันซับน้ำซับคราบออกไป แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไหร่เลย
จากแค่บ่นที่รักก็เริ่มทำท่าทีฟึดฟัด เวลานี้เธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับตัวเองจนลืมคิดไปเลยว่าตนจะเสียงดังรบกวนคนอื่นไหม แต่ก็มีเสียงทุ้ม ๆ ดังขึ้นมาเรียกสติของเธอ
“ไปโดนอะไรมาเหรอครับ?”
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ!” ที่รักโพล่งคำขอโทษออกไปในทันทีพร้อมยกมือไหว้ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายและตระหนักได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองลืมตัวจนลืมสังเกตรอบข้างไป
เธอไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ด้วยชุดสูททรงภูมิฐานที่อีกฝ่ายสวมใส่เธอก็มั่นใจว่าเขาต้องทำงานที่นี่เหมือนกันแน่นอน และก็คงจะตำแหน่งใหญ่กว่าเธอด้วย
“ไม่เป็นไรครับ” ชายวัยกลางคนว่าด้วยเสียงทุ้มพร้อมยิ้มอ่อนให้ ก่อนจะกล่าวต่อ
“ว่าแต่ตกลงไปโดนอะไรมาเหรอครับ? ทำไมถึงได้เปียกขนาดนี้ล่ะ?”
“อ๋อ... นี่... เอ่อ...” ที่รักอ้ำอึ้งไปชั่วขณะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี แต่พอนึกถึงเรื่องซวย ๆ ที่เธอเจอมา โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้เธอเปียกแบบนี้เธอก็ตัดสินใจเล่าออกไป
ที่รักบ่นเป็นต่อยหอยอย่างคับข้องใจจนแทบเห็นเป็นฉาก ๆ เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เริ่มแรกมันก็ไม่ได้ใส่อารมณ์มากเท่าไหร่ แต่พอพูดมาถึงเรื่องที่มีคนขับรถสปอร์ตคันหรูเหยียบน้ำใส่ความไม่พอใจก็ถูกร่ายออกมาเต็ม ๆ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เธอหัวเสียมากที่สุด
“คนอะไรก็ไม่รู้นิสัยไม่ดีชะมัด ขับรถไม่คิดถึงคนใช้รถใช้ถนนคนอื่นเลย”
ที่รักยังคงว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ โดยที่เธอไม่ได้สังเกตคู่สนทนาและอีกคนซึ่งยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ เลยว่ามีสีหน้ายังไงในตอนนี้
“ผมเข้าใจที่คุณจะโกรธ แต่ผมคิดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจหรอกมั้งครับ บางทีเขาอาจจะรีบเหมือนกันกับคุณก็ได้”
คำกล่าวของชายวัยกลางคนช่วยยั้งความไม่พอใจของที่รักไว้ เพราะพอคิดตามแล้วมันก็อาจจะจริง ขนาดเธอยังรีบเลย บางทีเขาคนนั้นก็อาจจะรีบเหมือนกันก็ได้
“ก็... อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้มั้งคะ ฉันไม่เคยคิดมุมนี้เลย...”
“ทำไงดีเนี่ย ฉันเผลอหัวเสียใส่อารมณ์มากไปซะได้ ขอโทษด้วยนะคะ” พออารมณ์โกรธหายไปที่รักเปลี่ยนเป็นอายแทน ที่อยู่ ๆ เธอบ่นชุดใหญ่ใส่เต็มกับคนที่ตัวเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใครอย่างออกรสออกชาติ
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ถ้าโมโหก็ควรจะระบายมันออกมาบ้างน่ะถูกแล้ว” ชายวัยกลางคนยังคงว่าด้วยท่าทียิ้ม ๆ ตามเดิม
“ค่ะ... ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ แต่ฉันก็ต้องขอโทษอยู่ดีที่บ่นใส่อารมณ์ไปเต็มที่แบบนี้ ทั้งที่คุณไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยแท้ ๆ แหะ ๆ ” ที่รักว่าพร้อมเกาท้ายทอยเขิน ๆ
ในตอนที่ที่รักพูดคำนี้ประตูลิฟต์ได้เปิดออกพอดี เธอจึงหลีกทางให้ทั้งสองออกไปก่อน ก่อนที่เธอจะตามออกมาด้วยเวลาไล่เลี่ยกัน
“สวัสดีค่ะหัวหน้า---” ทันทีที่ออกมาสายตาของที่รักก็เห็นคนคุ้นหน้า คนนั้นคือยี่หวา หัวหน้าของเธอ เธอจึงยกมือขึ้นไหว้พร้อมกล่าวทักทาย แต่เธอยังไม่ได้พูดจบอีกฝ่ายก็เอ่ยสวนมาก่อน
“สวัสดีค่ะท่านประธาน สวัสดีค่ะคุณเด่นชัย”
“ฮะ?” ที่รักหลุดปากส่งเสียงประหลาดใจ เธอหันไปมองสองคนข้างกายโดยเฉพาะคนที่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรด้วยตาที่เบิกโต
ด้วยการแต่งกายก็ดี มาดที่อีกฝ่ายมีก็ดี ที่รักก็คิดไว้แล้วล่ะว่าสองคนนี้คงมีตำแหน่งไม่ธรรมดา แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นประธานบริษัทของเธอ
“อ้าว ที่รัก เธอก็มาแล้วเหรอ?”
“เดี๋ยวนะ ว่าแต่ทำไมเธอขึ้นลิฟต์ตัวนี้มาล่ะเนี่ย?”
“เอ่อ... คือ...” ที่รักอ้ำอึ้งตอบออกไปไม่ได้ เพราะเธอยังตกใจกับสถานะของสองคนเมื่อครู่ไม่หาย
“อ๋อ เธอไม่รู้สินะ” เห็นที่รักไปต่อไม่ถูกและทำหน้าตื่นตกใจยี่หวาก็แก้สถานการณ์โดยการตอบแทนให้ พร้อมหันไปขอโทษขอโพยประธานบริษัทของเธอ
“ขอโทษนะคะท่านประธาน เด็กคนนี้ชื่อที่รักค่ะ เป็นพนักงานใหม่ที่จะมาเป็นผู้ช่วยฉันเอง มาทำงานวันแรกเธอคงจะไม่รู้ว่าลิฟต์นี้เอาไว้แค่ให้ผู้บริหารใช้... ฉันต้องขอโทษแทนเธอด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไร” ชายร่างสูงตอบห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งพร้อมพยักหน้าให้ เขาหันหลังทำท่าคล้ายจะเดินจากไป แต่เดินได้ก้าวเดียวเขาก็หันกลับมาแล้วพูดกับที่รักว่า
“ชื่อที่รักงั้นสินะ... ผมขอโทษด้วยแล้วกันที่เป็นคนนิสัยไม่ดี ขอโทษที่ขับรถไม่สนใจเพื่อนร่วมทางแล้วไปเหยียบน้ำใส่คุณ” ว่าเสียงเรียบจบชายที่ที่รักรู้แล้วว่าเป็นใครก็หันหน้ากลับแล้วเดินจากไป ปล่อยทิ้งให้เธอได้แต่ยืนหูอื้อตาลายแขนขาไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะล้มพับไปอยู่เบื้องหลัง
มีแต่เรื่องให้น่าตกใจ เรื่องก่อนยังตกใจไม่หายเรื่องใหม่ก็ตามมาแล้ว แถมเรื่องนี้ยังใหญ่กว่าชนิดที่ว่าเรื่องเดิมเทียบไม่ติดอีก
มาทำงานวันแรกก็บ่นด่าประธานไปชุดใหญ่ ดูท่าแล้วชีวิตการทำงานของฉันคงจะไม่ได้สดใสแบบที่คิดไว้ แต่เต็มไปด้วยความหมองหม่นแทนแล้วล่ะมั้ง... ที่รักคิดในใจ
พอได้เริ่มคิดแล้วที่รักก็ไม่สามารถสลัดความคิดลบ ๆ นี้ออกจากหัวได้เลย ทำให้ตลอดทั้งวันที่ทำงานไปที่รักไม่สามารถสนุกกับงานแบบที่คิดไว้ได้เลยจนจบวัน...
สวี่กงเหมย บุตรสาวบุญธรรมของปรมาจารย์หมื่นพิษ ต้องคอยเป็นผู้ดูแลและปรุงยาให้กับเขา ท่านแม่ทัพแห่งแดนเหนือ ตั้งแต่อยู่บนหุบเขาหมื่นพิษ แล้วยังต้องตามไปดูแลถึงชายแดนเหนือและในเมืองหลวงจนกว่าจะครบหนึ่งปี เซวียนจางหย่ง แม่ทัพแห่งชายแดนเหนือ ผู้ที่มีศักดิ์และฐานะอันสูงส่ง ในชีวิตนี้ คุณหนูนางใด หญิงสาวคนไหน ที่ว่ามีความเพียบพร้อมในทุกด้าน ตัวเขากลับมิเคยชายตาแล แต่คงใช้ไม่ได้กับสาวน้อยบ้านป่าคนนี้ เจอกันครั้งแรกนางก็หมายยิงเขาด้วยธนูเสียเเล้ว จากนั้นตัวเขาและนางก็กลายเป็นเหมือนน้ำมันกับไฟ ถึงแม้นางจะกลั่นแกล้งเขาไว้มากน้อยเพียงไหนในตอนที่อยู่ในหุบเขาหมื่นพิษ เขากลับมิเคยโกรธ และไม่รู้ว่านานเพียงใด ที่ไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่น สายตาของเขาก็มีไว้เพียงมองนางเท่านั้น
สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!
สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!
กู้เฟยหลง หัวหน้าหน่วยอวี้หลิน ขุนนางผู้ซึ่งทำงานขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ เสียชีวิตจากการตามสืบราชการลับ ทั้งที่ได้ให้สัญญาไว้กับฮูหยินของตนเองว่าจะรีบกลับมาฉลองเทศกาลหยวนเซียวด้วยกัน หยางลี่อิน หญิงสาวที่เข้มแข็ง มีความรู้ทางด้านการแพทย์ ต้องสูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แต่ด้วยความสามารถพิเศษ ทำให้นางรู้ว่าสามีของนางยังไม่จากไปไหน แต่จะทำเช่นไร เมื่อสามีกลับจำนางไม่ได้ เพราะรักจึงท้าทายสวรรค์ ฝืนหวนกลับคืนมายังโลกเบื้องหลัง แต่สวรรค์ใช่ว่าใครก็สามารถท้าทายได้ ราคาที่ต้องจ่าย มักแพงกว่าเสมอ…
อานนท์ ชายหนุ่มโสดอายุ 25 ปี หน้าตาดาษดื่น เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าอุ่นไอรัก อาชีพหลักคือการขายอาหารตามสั่งในฟู๊ดเซนเตอร์ห้างดัง อาชีพรองเป็นผู้ช่วยนักเขียนนิยาย รับจ้างหาข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้กับนักเขียน งานไหนได้เงิน อานนท์ทำทั้งหมด ในวันหยุดยาว กลางวันนอกจากต้องไปยืนทำอาหารตามสั่ง กลางคืนยังต้องมานั่งหาข้อมูลส่งให้ผู้ว่าจ้างงานด่วนอีก ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ วิญญาณจึงบ๊ายบายจากโลกเก่า ไปเกิดใหม่ในร่างของจางอี้หมิง บุตรชายตัวน้อยอายุ 5 ขวบของบัณฑิตจาง ที่ถูกบ้านหลักมอบหนังสือแยกบ้าน พร้อมขับไล่ครอบครัวให้มาอยู่บ้านนอก อุตส่าห์ได้กลับมาเกิดใหม่ทั้งทีในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ แม่ และย่าตามที่อานนท์เคยฝันไว้ แต่ทำไมถึงแถมความยากจนมาให้เขาด้วย ชาติก่อนก็สู้ชีวิตจนตาย มาชาตินี้ชีวิตสู้กลับยิ่งกว่านิยายที่เขาเคยอ่านเสียอีก นี่สินะ!!! ของฟรีไม่มีในโลก มันต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ
อานนท์ ชายหนุ่มโสดอายุ 25 ปี หน้าตาดาษดื่น เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าอุ่นไอรัก อาชีพหลักคือการขายอาหารตามสั่งในฟู๊ดเซนเตอร์ห้างดัง อาชีพรองเป็นผู้ช่วยนักเขียนนิยาย รับจ้างหาข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้กับนักเขียน งานไหนได้เงิน อานนท์ทำทั้งหมด ในวันหยุดยาว กลางวันนอกจากต้องไปยืนทำอาหารตามสั่ง กลางคืนยังต้องมานั่งหาข้อมูลส่งให้ผู้ว่าจ้างงานด่วนอีก ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ วิญญาณจึงบ๊ายบายจากโลกเก่า ไปเกิดใหม่ในร่างของจางอี้หมิง บุตรชายตัวน้อยอายุ 5 ขวบของบัณฑิตจาง ที่ถูกบ้านหลักมอบหนังสือแยกบ้าน พร้อมขับไล่ครอบครัวให้มาอยู่บ้านนอก อุตส่าห์ได้กลับมาเกิดใหม่ทั้งทีในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ แม่ และย่าตามที่อานนท์เคยฝันไว้ แต่ทำไมถึงแถมความยากจนมาให้เขาด้วย ชาติก่อนก็สู้ชีวิตจนตาย มาชาตินี้ชีวิตสู้กลับยิ่งกว่านิยายที่เขาเคยอ่านเสียอีก นี่สินะ!!! ของฟรีไม่มีในโลก มันต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!