ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / สุดที่รักของกันต์ธี
สุดที่รักของกันต์ธี

สุดที่รักของกันต์ธี

5.0
20 บท
490 ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เรื่องราวนี้ได้เริ่มจากการที่ “ที่รัก” สาวสวยพนักงานใหม่ ตกลงยินยอมแกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ ให้ “กันต์ธี” ประธานบริษัทหนุ่มสุดหล่อมาดนิ่ง เจ้าของธุรกิจมากมายรวมทั้งบริษัทที่เธอได้ทำงานอยู่ แต่จากแค่แกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ หลายสิ่งหลายอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อทั้งคู่เริ่ม “แอบมีใจให้กัน” เพราะตอนที่ใช้เวลาร่วมกันนั้นได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ทั้งวายป่วงน่าปวดหัว สนุก มีความสุข และอบอุ่นหัวใจ แต่ด้วยเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ในตอนต้น ด้วยสถานะทางสังคมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง พวกเขาจะกล้าก้าวข้ามเส้นความแตกต่างนั้นหรือไม่? ความรักของทั้งสองจะก่อเกิดขึ้นมาได้จริงหรือ?

บทที่ 1 อะไรนะ ประธานบริษัทงั้นเหรอ

“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้กันล่ะเนี่ย!?” ที่รัก หญิงสาววัย 23 ปีอดไม่ได้ที่จะบ่นอย่างหัวเสียเมื่อหลายสิ่งหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิดไว้

วันนี้เป็นวันที่เธอจะต้องไปทำงานวันแรก ด้วยความที่อยากให้หัวหน้าประทับใจ ที่รักจึงวางแผนจัดสรรเวลาไว้ดิบดี แต่แผนของเธอก็พังเละไม่เป็นท่าตั้งแต่เมื่อคืนและลามมาถึงตอนนี้

อย่างแรกเลยที่ไม่เป็นไปตามแผนคือเวลานอนและเวลาตื่นของเธอ เพราะตื่นเต้นและแอบเป็นกังวล ที่รักจึงนอนดึกกว่าที่วางแผนไว้ และผลของมันก็ทำให้เธอตื่นสาย

ส่วนอย่างที่สองคือฟ้าฝนและการคมนาคม ทั้งที่พยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้อากาศจะแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งโล่งสบาย แต่พอเธอมาถึงป้ายรถเมล์ฝนก็กระหน่ำตกลงมาห่าใหญ่อย่างกับพายุเข้า

และเท่านั้นยังไม่พอ รถเมล์สายที่เธอตั้งใจจะใช้เดินทางไปทำงานก็ยังไม่โผล่มาสักทีอีก ทั้งที่นี่ก็เลยเวลาไปกว่าสิบนาทีแล้ว

“ทำไงดีเนี่ย จะสายแล้ว ๆ ” ที่รักลนลานจนนั่งไม่ติดที่ เวลานี้เธอเริ่มคิดแล้วว่าการนั่งรอรถเมล์อย่างไร้ความหวังไม่ใช่เรื่องดี เธอจึงสอดส่ายสายตามองไปโดยรอบ

และหลังจากใช้เวลาสำรวจอยู่ครู่เดียวที่รักก็เห็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างกำลังหลบฝนอยู่ไม่ไกลจากเธอ

“นั่นไง!” ที่รักเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เธอตัดสินใจทันทีเลยว่าจะเปลี่ยนไปเดินทางด้วยวิธีนี้ แต่แม้จะตัดสินใจได้แล้วเธอก็ต้องนั่งรออยู่ต่อจนกว่าฝนจะซาลง

หลังจากผ่านไปราวห้านาทีฝนก็หยุดตกอย่างไม่น่าเชื่อ ที่รักไม่รอช้ารีบวิ่งไปแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนวินมอเตอร์ไซค์ทันที

ทุกอย่างดูเหมือนจะกำลังไปได้สวย เพราะหลังจากดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ ที่รักพบว่าเธอน่าจะยังไปทันอยู่ แต่เหมือนสวรรค์ตั้งใจเล่นตลก เพราะแค่เธอดีใจได้ครู่เดียวเธอก็ซวยอีกหนแล้ว

หนนี้มันคือการที่ขณะเธอนั่งบนวินมอเตอร์ไซด์อยู่ดี ๆ ก็มีรถสปอร์ตคันหรูขับแซงไปด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบน้ำที่เจิ่งนองอยู่บนท้องถนนสาดกระเซ็นใส่เธอ จนชุดตัวเก่งที่หญิงสาวลงทุนซื้อมาใหม่เปียกไปกว่าครึ่ง

ถึงแม้ว่าจะเจอเรื่องซวยไปชุดใหญ่ สุดท้ายที่รักก็มาถึงบริษัทได้ทันเวลา เธอรีบวิ่งเข้าลิฟต์ที่มีคนน้อยที่สุดไป จากนั้นก็กดยิก ๆ ตรงปุ่มเลือกชั้นก่อนจะผละออกมายืนรอ

“ในที่สุดก็มาถึงสักที เฮ้อ... ทำไมวันนี้ฉันถึงได้ซวยขนาดนี้กันล่ะเนี่ย” พอมีเวลาให้ได้พักหายใจหายคอที่รักก็เริ่มบ่นออกมา

“มันควรจะเป็นวันที่สดใสมีแต่เรื่องดี ๆ สิ ไม่ใช่แบบนี้ โอ๊ยย... น่าปวดหัวชะมัด” ที่รักบ่นอย่างหัวเสีย เธอหยิบกระดาษทิชชูออกมาเช็ดคราบน้ำที่เปียกเลอะตามตัวหวังให้มันซับน้ำซับคราบออกไป แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไหร่เลย

จากแค่บ่นที่รักก็เริ่มทำท่าทีฟึดฟัด เวลานี้เธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับตัวเองจนลืมคิดไปเลยว่าตนจะเสียงดังรบกวนคนอื่นไหม แต่ก็มีเสียงทุ้ม ๆ ดังขึ้นมาเรียกสติของเธอ

“ไปโดนอะไรมาเหรอครับ?”

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ!” ที่รักโพล่งคำขอโทษออกไปในทันทีพร้อมยกมือไหว้ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายและตระหนักได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองลืมตัวจนลืมสังเกตรอบข้างไป

เธอไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ด้วยชุดสูททรงภูมิฐานที่อีกฝ่ายสวมใส่เธอก็มั่นใจว่าเขาต้องทำงานที่นี่เหมือนกันแน่นอน และก็คงจะตำแหน่งใหญ่กว่าเธอด้วย

“ไม่เป็นไรครับ” ชายวัยกลางคนว่าด้วยเสียงทุ้มพร้อมยิ้มอ่อนให้ ก่อนจะกล่าวต่อ

“ว่าแต่ตกลงไปโดนอะไรมาเหรอครับ? ทำไมถึงได้เปียกขนาดนี้ล่ะ?”

“อ๋อ... นี่... เอ่อ...” ที่รักอ้ำอึ้งไปชั่วขณะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี แต่พอนึกถึงเรื่องซวย ๆ ที่เธอเจอมา โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้เธอเปียกแบบนี้เธอก็ตัดสินใจเล่าออกไป

ที่รักบ่นเป็นต่อยหอยอย่างคับข้องใจจนแทบเห็นเป็นฉาก ๆ เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เริ่มแรกมันก็ไม่ได้ใส่อารมณ์มากเท่าไหร่ แต่พอพูดมาถึงเรื่องที่มีคนขับรถสปอร์ตคันหรูเหยียบน้ำใส่ความไม่พอใจก็ถูกร่ายออกมาเต็ม ๆ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เธอหัวเสียมากที่สุด

“คนอะไรก็ไม่รู้นิสัยไม่ดีชะมัด ขับรถไม่คิดถึงคนใช้รถใช้ถนนคนอื่นเลย”

ที่รักยังคงว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ โดยที่เธอไม่ได้สังเกตคู่สนทนาและอีกคนซึ่งยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ เลยว่ามีสีหน้ายังไงในตอนนี้

“ผมเข้าใจที่คุณจะโกรธ แต่ผมคิดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจหรอกมั้งครับ บางทีเขาอาจจะรีบเหมือนกันกับคุณก็ได้”

คำกล่าวของชายวัยกลางคนช่วยยั้งความไม่พอใจของที่รักไว้ เพราะพอคิดตามแล้วมันก็อาจจะจริง ขนาดเธอยังรีบเลย บางทีเขาคนนั้นก็อาจจะรีบเหมือนกันก็ได้

“ก็... อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้มั้งคะ ฉันไม่เคยคิดมุมนี้เลย...”

“ทำไงดีเนี่ย ฉันเผลอหัวเสียใส่อารมณ์มากไปซะได้ ขอโทษด้วยนะคะ” พออารมณ์โกรธหายไปที่รักเปลี่ยนเป็นอายแทน ที่อยู่ ๆ เธอบ่นชุดใหญ่ใส่เต็มกับคนที่ตัวเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใครอย่างออกรสออกชาติ

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ถ้าโมโหก็ควรจะระบายมันออกมาบ้างน่ะถูกแล้ว” ชายวัยกลางคนยังคงว่าด้วยท่าทียิ้ม ๆ ตามเดิม

“ค่ะ... ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ แต่ฉันก็ต้องขอโทษอยู่ดีที่บ่นใส่อารมณ์ไปเต็มที่แบบนี้ ทั้งที่คุณไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยแท้ ๆ แหะ ๆ ” ที่รักว่าพร้อมเกาท้ายทอยเขิน ๆ

ในตอนที่ที่รักพูดคำนี้ประตูลิฟต์ได้เปิดออกพอดี เธอจึงหลีกทางให้ทั้งสองออกไปก่อน ก่อนที่เธอจะตามออกมาด้วยเวลาไล่เลี่ยกัน

“สวัสดีค่ะหัวหน้า---” ทันทีที่ออกมาสายตาของที่รักก็เห็นคนคุ้นหน้า คนนั้นคือยี่หวา หัวหน้าของเธอ เธอจึงยกมือขึ้นไหว้พร้อมกล่าวทักทาย แต่เธอยังไม่ได้พูดจบอีกฝ่ายก็เอ่ยสวนมาก่อน

“สวัสดีค่ะท่านประธาน สวัสดีค่ะคุณเด่นชัย”

“ฮะ?” ที่รักหลุดปากส่งเสียงประหลาดใจ เธอหันไปมองสองคนข้างกายโดยเฉพาะคนที่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรด้วยตาที่เบิกโต

ด้วยการแต่งกายก็ดี มาดที่อีกฝ่ายมีก็ดี ที่รักก็คิดไว้แล้วล่ะว่าสองคนนี้คงมีตำแหน่งไม่ธรรมดา แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นประธานบริษัทของเธอ

“อ้าว ที่รัก เธอก็มาแล้วเหรอ?”

“เดี๋ยวนะ ว่าแต่ทำไมเธอขึ้นลิฟต์ตัวนี้มาล่ะเนี่ย?”

“เอ่อ... คือ...” ที่รักอ้ำอึ้งตอบออกไปไม่ได้ เพราะเธอยังตกใจกับสถานะของสองคนเมื่อครู่ไม่หาย

“อ๋อ เธอไม่รู้สินะ” เห็นที่รักไปต่อไม่ถูกและทำหน้าตื่นตกใจยี่หวาก็แก้สถานการณ์โดยการตอบแทนให้ พร้อมหันไปขอโทษขอโพยประธานบริษัทของเธอ

“ขอโทษนะคะท่านประธาน เด็กคนนี้ชื่อที่รักค่ะ เป็นพนักงานใหม่ที่จะมาเป็นผู้ช่วยฉันเอง มาทำงานวันแรกเธอคงจะไม่รู้ว่าลิฟต์นี้เอาไว้แค่ให้ผู้บริหารใช้... ฉันต้องขอโทษแทนเธอด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไร” ชายร่างสูงตอบห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งพร้อมพยักหน้าให้ เขาหันหลังทำท่าคล้ายจะเดินจากไป แต่เดินได้ก้าวเดียวเขาก็หันกลับมาแล้วพูดกับที่รักว่า

“ชื่อที่รักงั้นสินะ... ผมขอโทษด้วยแล้วกันที่เป็นคนนิสัยไม่ดี ขอโทษที่ขับรถไม่สนใจเพื่อนร่วมทางแล้วไปเหยียบน้ำใส่คุณ” ว่าเสียงเรียบจบชายที่ที่รักรู้แล้วว่าเป็นใครก็หันหน้ากลับแล้วเดินจากไป ปล่อยทิ้งให้เธอได้แต่ยืนหูอื้อตาลายแขนขาไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะล้มพับไปอยู่เบื้องหลัง

มีแต่เรื่องให้น่าตกใจ เรื่องก่อนยังตกใจไม่หายเรื่องใหม่ก็ตามมาแล้ว แถมเรื่องนี้ยังใหญ่กว่าชนิดที่ว่าเรื่องเดิมเทียบไม่ติดอีก

มาทำงานวันแรกก็บ่นด่าประธานไปชุดใหญ่ ดูท่าแล้วชีวิตการทำงานของฉันคงจะไม่ได้สดใสแบบที่คิดไว้ แต่เต็มไปด้วยความหมองหม่นแทนแล้วล่ะมั้ง... ที่รักคิดในใจ

พอได้เริ่มคิดแล้วที่รักก็ไม่สามารถสลัดความคิดลบ ๆ นี้ออกจากหัวได้เลย ทำให้ตลอดทั้งวันที่ทำงานไปที่รักไม่สามารถสนุกกับงานแบบที่คิดไว้ได้เลยจนจบวัน...

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY