S2.1 ...แสนดีตั้งใจที่จะเรียนจิตแพทยย์เพื่อญะญ๋า แต่กลับต้องมารักษาอาการป่วยจิตให้กับหมอปืนแฟนของเธอแทน... (ฉันจะรักษาหมอปืนให้หาย แกไม่ต้องเป็นห่วงนะญะญ๋า)
S2.1 ...แสนดีตั้งใจที่จะเรียนจิตแพทยย์เพื่อญะญ๋า แต่กลับต้องมารักษาอาการป่วยจิตให้กับหมอปืนแฟนของเธอแทน... (ฉันจะรักษาหมอปืนให้หาย แกไม่ต้องเป็นห่วงนะญะญ๋า)
INTRO!(สำคัญ)
"ทำความเข้าใจก่อนอ่าน"
S1อาหมอ S2.1 บำบัดรักแฟนเพื่อน (OLD.)
ควรอ่านตามนี้เพื่อไม่ให้งง มี2แบบ ดังนี้.
เริ่มอ่าน s1อาหมอ ต่อด้วย s2.1 บำบัดรักแฟนเพื่อน (ตอนจบแบบเก่า)
เริ่มอ่าน s1อาหมอ ต่อด้วย s2.2 คุณหมอสองรัก (ตอนจบแบบใหม่)
ปล.ใครยังไม่เคยอ่านเรื่องแรก สามารถเริ่มอ่านเรื่องใหม่ 'บำบัดรักแฟนเพื่อน' ได้เลยนะครับ เดี๋ยวไรท์จะลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ ของS1ไว้ให้ เผื่อใครอยากเริ่มอ่านที่เรื่องนี้เลย
S1.ญะญ๋าและหมอปืนทั้งคู่เป็นอาหลาน (เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของพ่อ) ญ๋ามาอาศัยอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของหมอปืนและทำงานที่เดียวกันจึงเกิดความรักขึ้น ญะญ๋าป่วยเป็นแพนิคและซึมเศร้า มีเรื่องฝังใจมากมาย เช่น ความเครียดในวัยเด็ก เธอมีเพื่อนคนเดียวคือแสนดีเพราะหลายคนไม่ชอบที่เธออ่อนแอและความกดดันจากการเรียนแพทย์ (ญ๋าเรียนไม่เก่ง หัวไม่ดีแต่ก็พยายามถึงที่สุดเพื่อจะเป็นหมอ) บุกคลิกของเธอที่เป็นสาวหวานน่ารักไร้เดียงสา ท่าทางของเธอไม่ถูกใจเพื่อนร่วมงานจนถูกเอาไปนินทาในกลุ่มลับว่าเธอเป็นพวกแอ๊บใส ซึ่งต่อหน้าทุกคนทำเป็นพูดดีด้วยแต่ลับหลังพูดถึงเธอเสียๆ หายๆ ถึงอาการป่วยที่เธอเป็น (ว่าเป็นโรคอ่อยผู้ชายยอดฮิต) แต่เธอกลับมองว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่น่ารักกลุ่มหนึ่งซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เหตุการณ์ฝั่งใจที่ทำให้อาการเธอแย่ขั้นสุด คือเธอไม่สามารถรักษาคนไข้ต่อได้เพราะอาการแพนิคกำเริบจนทำคนไข้เสียชีวิตคาเตียงผ่าตัด เรื่องที่ต้องปิดบังพ่อแม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับๆ ของเธอกับหมอปืน และเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้คนอ่อนแออย่างญะญ๋าตัดสินใจฆ่าตัวตาย (ในตอนจบของเรื่อง s1อาหมอ) จนเป็นที่มาให้หมอปืนคนรักของเธอเสียสติ
ตอนจบเก่า OLD! [แสนดีตั้งใจที่จะเรียนจิตแพทย์เพื่อญะญ๋า แต่กลับต้องมารักษาอาการป่วยจิตให้กับหมอปืนแฟนของเธอแทน]
...ฉันจะรักษาหมอปืนให้หาย แกไม่ต้องเป็นห่วงนะญะญ๋า...
ไปเริ่มกันเลย!!
• ACTION •
วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องมาพบกับคนไข้จิตเวชคนพิเศษ หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันนานสามปี เพราะหลังจากที่พวกเราสูญเสียญะญ๋าไปทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง และกว่าที่จะตั้งหลักกับความเป็นจริงที่ไม่มีญ๋าได้ฉันก็ใช้เวลาไปเป็นปี
แต่ยังมีอยู่คนนึงที่ติดอยู่กับเหตุการณ์ในอดีตไม่ยอมไปไหน และหากว่าเขายังเป็นแบบนี้อยู่อีกไม่นานก็คงเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น เพราะการที่เขาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์หรูนี้ลำพังและไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ไม่นานความโดดเดี่ยวจะฆ่าเขาในที่สุด
หลังจากที่แสนดีปฏิเสธการรักษาหมอปืนอยู่หลายครั้ง เพราะกลัวว่าการที่ได้เจอหมอปืน มันจะทำให้พากันเศร้าทั้งคนไข้แล้วก็หมอ แต่สุดท้ายเธอก็รับรักษาคนไข้คนนี้เหตุผลก็เพราะเพื่อนรักของเธอ
ติ๊งต่อง!
พอได้ยินเสียงคนกดกริ่งเจ้าบ้านก็เดินมาเปิดประตูทันที แล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าแสนดีมาที่นี่
“อ้าวแสนดี ไม่เจอกันนานเลย มาหาญะญ๋าเหรอ...”
คำพูดนั้นของหมอปืนทำให้เธอจุก จนแน่นิ่งไปสักพัก “ค่ะหมอ” นี่แหละสิ่งที่ฉันกลัว การที่หมอปืนยังพร่ำเพ้อพูดถึงญ๋าอยู่แบบนี้
“เข้ามาก่อนสิ ญ๋ายังหลับอยู่เลย”
หลับอยู่เหรอ “...หมอปืนสบายดีใช่ไหมคะ”
แสนดีมองดูสภาพผมยาวเฟื้อยหนวดไม่ได้โกน ร่างกายซูบผอมของคนไข้ของเธอแล้วก็รู้สึกเวทนา
“ก็สบายดีนะ แต่ญ๋านี่สิเอาแต่นอนอย่างเดียวขี้เกียจตัวเป็นขนเลย ฮ่าๆ” หมอปืนหัวเราะออกมาทั้งที่สีหน้าของตัวเองนั้นดูเศร้ามากและมันก็ยิ่งทำให้คนที่เห็นรู้สึกหดหู่จนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “นั่งก่อนสิแสนดี”
“ค่ะหมอ”
เธอนั่งลงที่โซฟาห้องรับแขกและมองไปรอบๆ บ้านก็เห็นว่าที่นี่ดูสะอาดตาดีเหมือนว่าหมอปืนจะเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเป็นปกติ แต่ที่ดูรกหูรกตาที่สุดก็หน้าจะเป็นเจ้าของบ้านนี่แหละ ตอนนี้หมอปืนผมยาวกว่าเธอซะอีกแถมหนวดเคราก็ยาวรกรุงรังปิดหน้าไปหมด พอเห็นสภาพคนไข้แล้วเธอก็รู้สึกท้อใจเพราะเขาดูแย่กว่าที่เธอคิดไว้
หมอปืนเดินเข้าไปเอาน้ำในครัวมาวางไว้ให้แสนดี ก่อนจะถามถึงธุระของเธอ “มีธุระอะไรกับญ๋าเหรอ?”
“แค่คิดถึงญ๋าเฉยๆ น่ะค่ะ ก็เลยแวะมาหา” เธอรู้ว่าถ้าบอกคนไข้ไปตามตรงว่าเธอจะมารักษาเขา เธอคงจะโดนเขาไล่ออกจากบ้านแน่
“ช่วงนี้ญ๋าเอาแต่นอน ข้าวปลาก็ไม่ยอมลุกมากิน..ถ้าอยากเจอก็ลองเข้าไปเรียกดูสิเผื่อว่าญ๋าจะตื่น” ผู้ป่วยคิดไปว่าถ้าแฟนของตนเห็นว่าเพื่อนมาหาเธออาจจะดีใจ
“ไปเรียกเหรอคะ”
“ใช่ ในห้องนั้น เดินเข้าไปได้เลย”
“ค่ะ”
ถึงจะรู้ว่าภายในห้องนั้นไม่มีใคร แต่ฉันก็ต้องลุกไปดูญ๋าตามที่คนไข้ของฉันบอก เพราะการได้รู้ความเป็นอยู่ของเขามันน่าจะมีอะไรที่ฉันสามารถเก็บข้อมูลไว้ไปทำการรักษาเขาได้
พอเปิดเข้ามาในห้องนี้ก็ดูสะอาดตาเหมือนกับภายนอก พอมองไปที่เตียงฉันก็เห็นญ๋าของคนไข้ฉันจริงๆ หมอนข้างที่สวมชุดนอนสีฟ้าอ่อนมีโบผูกผมมัดไว้ที่จุกหมอนข้าง
ภาพที่เห็นทำให้แสนดีกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะเธอเองก็ยังจดจำญะญ๋าได้ดีไม่เคยลืม “ฮึกๆ ญ๋า”
เธอฟุบหน้าร้องไห้กับหมอนข้างตัวแทนของญ๋าที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียง เพราะภาพจำทั้งหมดมันยากเกินจะทนเจ็บ เมื่อได้นึกถึง
“ตั้งสติหน่อยสิแสนดี แกมารักษาหมอปืนนะ” เธอพูดเตือนตัวเองที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย
“ญ๋าตื่นหรือเปล่าแสนดี?”
“เอ่อ..ญ๋าบอกว่าอยากนอนต่ออีกหน่อยน่ะค่ะ” แสนดีรีบยกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาออก เพื่อไม่ให้หมอปืนเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ “เราออกไปข้างนอกกันดีกว่านะคะ”
จิตแพทย์อย่างแสนดีเริ่มคิดหาวิธีที่จะทำการรักษา และเขาควรจะได้รับยาเพื่อปรับสารเคมีในสมองที่เป็นผลต่อโรคให้มีความสมดุล ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะให้คนไข้จิตเวชทานยาตามที่หมอสั่ง
“หมอปืนอยู่แต่บ้านไม่ออกไปไหนเลยเหรอคะ?”
“ใช่..หมอไม่ได้ออกไปไหนหรอกอยู่บ้านเป็นเพื่อนญ๋าน่ะ จะมีก็แต่ไอเซฟกับแสนรักที่มาหาบ้าง”
“อ๋อจริงสิ หนูมีของฝากมาให้หมอปืนด้วยน่ะค่ะ” ฉันหยิบกระปุกยาวิตามินอาหารเสริมที่ด้านในถูกสลับเปลี่ยนเป็นยาที่หมอปืนควรจะได้รับเพื่อการรักษา
“วิตามินอาหารเสริมค่ะ ยี่ห้อนี้กินดีมากเลยนะคะ” ฉันวางกระปุกยาไว้ที่โต๊ะตรงโซฟาก่อนจะหาเรื่องชวนหมอปืนกินข้าว “หมอปืนทานข้าวหรือยังคะ”
“กินหรือยังเหรอ?” เขาพยายามนึกว่าตนเองทานข้าวไปหรือยัง แต่ก็นึกไม่ออก มือที่สั่นไม่หยุดเพราะอดข้าวตอบกลับอีกคนได้เป็นอย่างดี
“เราทานข้าวกันดีไหมคะ หนูยังไม่ได้กินอะไรมาเลย”
“ได้สิ เดี๋ยวหมอทำอะไรให้กินนะ” เขาพูดจบก็ลุกเดินเข้าครัวไป แต่เมื่อเปิดดูของในตู้เย็นและตู้เก็บของในครัวก็ไม่เห็นว่ามีอะไรเหลืออยู่ จะมีก็แค่มาม่าคัพเท่านั้น
“อ้าว ลืมไปว่าในตู้เย็นไม่มีของเลย...ทำไงดีล่ะ”
“ไม่มีของเหรอคะ?”
“ใช่ หมอไม่ได้ออกไปซื้อของมาตุนไว้เลยน่ะ”
“งั้นเราออกไปซุปเปอร์ใกล้ๆ ซื้อของกันก่อนดีไหมคะ” ฉันหลอกล่อหมอปืนให้ออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง เผื่อว่าการที่เขาได้เห็นอะไรแปลกหูแปลกตา จะช่วยกระตุ้นให้เขาตื่นตัวพร้อมรับกับการรักษาของฉัน
“ไม่ได้หรอก หมอทิ้งญ๋าไว้บ้านคนเดียวไม่ได้ เธอเป็นซึมเศร้าอยู่แสนดีลืมเหรอ” การทิ้งผู้ป่วยไว้คนเดียวเป็นเรื่องที่อันตราย ผมทำแบบนั้นไม่ได้
“แต่เมื่อกี้ญ๋าก็บ่นว่าหิวเหมือนกันนะคะ เห็นบอกว่าอยากจะกินตีนไก่เผ็ดด้วย สงสัยเธอคงต้องอดกินแล้วล่ะ” เธอยกญะญ๋าขึ้นมาอ้างเพื่อหลอกล่อหมอปืน
“เอ่อ...” หมอปืนทำท่าทางคิดหนัก
“เราไปซื้อของกันแล้วให้ญ๋านอนรออยู่ที่บ้าน พอทำเสร็จค่อยไปเรียกญ๋ามากินข้าวด้วยกันดีไหมคะ”
“แต่ว่ารถหมอ...”
“หนูเอารถมาค่ะ ไปรถหนูก็ได้”
“งั้น..หมอขอไปบอกญ๋าก่อนนะว่าจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวตื่นมาแล้วหาหมอไม่เจอเดี๋ยวจะงอแงอีก”
“ได้ค่ะ..ฝากถามญ๋าด้วยนะคะว่าอยากกินอะไรเพิ่มไหม”
การที่จะเป็นจิตแพทย์ได้ฉันก็ต้องเข้าใจคนไข้ที่ตัวเองรักษาโดยการเอาตัวเข้าไปอยู่ใกล้เขา แบ่งปันเรื่องเล่าความทุกข์จากเขาและบางทีฉันก็ยังต้องทำตัวบ้าเหมือนเขาอีกด้วย เคสหมอปืนก็ยังถือว่าดีกว่าคนไข้ของฉันก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองเป็นนางทาสในสมัยรัชกาลที่5 ซึ่งฉันก็แปลงร่างเป็นคุณหญิงเพื่อช่วยบำบัดคนไข้มาแล้ว เรื่องตามน้ำคนไข้จิตแพทย์แบบฉันถนัดเรื่องนั้นที่สุด
ฉันสัญญานะญ๋า ว่าจะรักษาคนรักของแกให้หายกลับมาเป็นปกติให้ได้...
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
ลู่หมิงเยว่ถูกแฟนนอกใจ และยังโดนดูถูกว่าเธอแค่ดีแต่หน้าตา ด้วยความโกรธ ลู่หมิงเยว่ใช้เสน่ห์ของเธอไปมีความสัมพันธ์กับเยี่ยนเฉิงจือประธานบริษัท แต่เธอกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ หลังจากเสร็จธุระนั้นเธอก็หนีไปเงียบๆ และยังเข้าใจผิดว่าคนในคืนนั้นคือเพลย์บอย เสิ่นเว่ยตง ทำให้เยี่ยนเฉิงจือเข้าใจผิดว่าเธอชอบคนอื่น เขาเลยแอบอิจฉาและหึงหวงอยู่เงียบๆ มานาน
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
จะดีแค่ไหน หากหล่อนได้ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาทุกเช้า... ตั้งแต่จำความได้ ชมพูนุชก็หายใจเป็นชื่อของเขาเรื่อยมา องค์รัชทายาทรูปงามแห่งซาเรีย เขาคือความสุขเดียวในชีวิตของหล่อน แต่ความสุขนั้นกลับไม่จีรังดั่งใจหวัง เมื่อหญิงเดียวในดวงใจของเขาหนีหน้าหายไปพร้อมกับพี่ชายของหล่อน ความผิดบาปทุกอย่างจึงถูกขว้างใส่หน้า เขาเรียกร้องให้ครอบครัวของหล่อนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับตราหน้าผู้หญิงที่เฝ้าภักดีกับเขาอย่างหล่อนว่า ‘นังแพศยา’ “หน้าที่หนึ่งเดียวสำหรับเธอ บนเตียงของฉันก็คือ... นางบำเรอ” องค์รัชทายาทรูปงามหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ นัยน์ตาสีทองตวัดจ้องมองมายังร่างเปลือยเปล่าบอบช้ำของหล่อนอย่างดูแคลน “จำเอาไว้ ถ้าฉันเรียก เธอก็ต้องมา ถ้ามาช้า ฉันจะสั่งโบยพ่อ หรือไม่ก็ แม่ของเธอ” “อย่านะเพคะ...” ริมฝีปากหยักสวยคลี่ยิ้มหยัน “ถ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เธอควรจะรู้หน้าที่ของตนเอง...” มือใหญ่ตบลงบนเตียงนอนนุ่ม ราวกับต้องการย้ำเตือนหน้าที่อันทรงเกียรติของหญิงสาว
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY