3Pความดื้อและขี้สงสัยของมายู กำลังสร้างปัญหาให้กับเธอ และมันก็เป็นต้นต่อทำให้ความสำพันธ์พ่อลูกปล่อมๆของพวกเราจบลง ‘เด็กดื้อ’ ก็ต้อง ‘เจอแด๊ดดุ’
• ACTION •
หลังจากที่พ่อและแม่ใหม่ของผมเสียชีวิตได้ไม่นานผมก็ต้องหยุดความฝันทุกอย่างของตัวเองไว้เพื่อขึ้นรับตำแหน่งแทนพ่อและทำงานหาเลี้ยงน้องๆ ผมกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวในวัยเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปี
แถมยังต้องเลี้ยงน้องวัยสิบเก้าและน้องสาวต่างแม่วัยสี่ขวบอีกด้วย ผมล้มลุกคลุกคลานอยู่นานเจอปัญหามากมายที่เด็กเพียงอายุยี่สิบกว่าอย่างผมเกินจะรับไหว แต่ผมก็ทิ้งทุกอย่างไปไม่ได้
และทุกครั้งที่ผมเจอกับปัญหามันก็ทำให้ผมโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมพาบริษัทไวน์ของพ่อขึ้นสู่บริษัทส่งออกไวน์อันดับหนึ่งในไทย ซึ่งมันก็ใช้เวลาอยู่หลายปีเช่นกัน
จนตอนนี้ก็ผ่านมาสิบสองปีได้แล้วที่ผมขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัท ตอนนี้การทำงานของผมอยู่ตัวมากขึ้นไม่ต้องเหนื่อยเหมือนแต่ก่อน แต่สิ่งที่ทำให้ผมหนักใจมากขึ้นทุกวันและไม่รู้ว่าจะแก้ยังไงก็คือเรื่องมายูนี่แหละ ที่ตอนนี้ผมกับไอซีนายกลายเป็นพ่อจำเป็นให้เธอไปแล้ว
“แด๊ดดี้~”
เสียงห้าวของเด็กผู้หญิงวิ่งตะโกนรอบบ้านซึ่งทำผมกับเฮียโซ่ปวดหัวทุกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของเธอ “อยู่นี่!” ผมตะโกนขานรับเสียงเรียกหาของเด็กสาวที่ดังมาจากชั้นสองของบ้าน
ฉันชะโงกหน้าไปมองตามเสียงที่ดังมาจากห้องโถงใหญ่กลางบ้านซึ่งพอมองลงไปก็เห็นว่าพวกแด๊ดนั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขกใหญ่กลางบ้านเลยรีบวิ่งลงไปหาพวกเขาเพื่อให้แด๊ดจัดการธุระสำคัญให้
“มีอะไร เรียกหาแด๊ดทำไม” ผมเอ่ยปากถามมายูที่วิ่งลงบันไดมาหน้าตาตื่นราวกับว่าเธอนั้นมีเรื่องสำคัญ
“แกะตะขอเสื้อในให้หน่อย มายูแกะไม่ออก” ฉันเพิ่งจะลองใส่มันอยู่ไม่กี่ครั้งเพราะก่อนหน้านี้ฉันใส่แต่เสื้อซับกับเสื้อกล้าม แต่การใส่เสื้อในครั้งนี้มันแกะยากมากกว่าครั้งก่อนๆ ฉันแกะมันอยู่นานแล้วจนคิดว่าคงต้องหาคนช่วยเอามันออกแล้วล่ะ
พอได้ยินสิ่งที่มายูพูดผมก็โยนขี้ไปให้ไอซีนายทันที “ไปให้ไอซีนายแกะเลย”
“อ้าวเฮีย..” เฮ้อ ผมละปวดหัวกับเด็กคนนี้จริงๆ เธอไม่เคยระวังตัวกับพวกเราเลยทำตัวเหมือนว่าตัวเองเป็นเด็กผู้ชายที่เพิ่งมีนมไปได้
ฉันเดินเข้าไปหาแด๊ดซีนายที่โซฟาก่อนจะหันหลังและเอาตูดดันขาสองข้างของแด๊ดซีนายให้แยกออกจากกันเพื่อที่ตัวเองจะแทรกตูดเข้าไปนั่งตรงกลางระหว่างขาของแด๊ดได้ “ดูนี่สิแด๊ดมันใหญ่ขึ้นทุกวัน...ใหญ่ขึ้นไม่พอแถมยังเจ็บอีก”
มายูพูดพร้อมกับใช้มือบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่มสองก้อนบนหน้าอกของตัวเองให้ผมเห็น แล้วผมก็ดันโชคร้ายที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับมายูพอดี “มายู! อย่าทำแบบนั้นสิหนูโตแล้วนะ”
ผมได้ยินเสียงเฮียโซ่ดุมายูซึ่งผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าเธอทำอะไรถึงโดนเฮียดุแบบนั้นเพราะผมกำลังมือสั่นอยู่กับการปลดตะขอเสื้อในให้ลูกสาวสุดดื้ออยู่ เฮ้อกูจะบ้าตาย
“ทำไมต้องดุด้วยล่ะ” ฉันก็แค่ต้องการให้แด๊ดเห็นก้อนเนื้อที่มันงอกขึ้นมาบนตัวของฉันซึ่งฉันไม่ถูกใจกับมันเอามากๆ เพราะมันทำให้ฉันเจ็บ
มายูยกคิ้วถามผมด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่ได้มีความเกรงกลัวผมเลย เธอจะชอบพูดตลอดว่าผมใส่แว่นเหมือนเด็กติ๋มสงสัยที่เธอจะไม่กลัวผมเพราะแบบนั้น เฮ้อ “ไม่ต้องถาม แด๊ดบอกว่าอย่าทำก็คืออย่าทำ” ผมพูดบอกเธอจบก็เปิดหนังสือหน้าที่อ่านค้างอยู่เพื่ออ่านต่อ แต่ด้วยความเป็นเด็กขี้สงสัยของมายูเธอก็ไม่ลดละความพยามที่จะถามผมเอาคำตอบให้ได้
“แล้วทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ ทำไม่ได้ก็ต้องมีเหตุผลสิว่าเพราะอะไร” ฉันพูดพร้อมกับยกมือสองข้างขึ้นและแบมือออกเพื่อที่จะเอาคำตอบจากแด๊ดเคนโซ่ “ทำไมถึงทำไม่ได้คะ?”
“เสร็จแล้ว ขึ้นห้องไปไป๊” พอปลดตะขอเสื้อในให้มายูเสร็จผมก็ดันหลังเธอให้ลุกออกจากระหว่างขาของผมทันที
“เลิกสงสัยได้แล้วขึ้นไปเปลี่ยนชุดไป” ผมไล่เธอให้ขึ้นไปเปลี่ยนถอดชุดนักเรียนออกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องตอบคำถามนั้นกับเธอ
พอเห็นว่าถามยังไงแด๊ดก็ไม่ยอมบอกก็เลยสบัดตูดขึ้นห้องนอนมาเปลี่ยนชุด “เชอะ!”
หลังจากที่มายูเดินขึ้นห้องผมก็เอนหัวพิงกับพนักพิงโซฟาทันที เพราะรู้สึกเอือมระอาและเหนื่อยที่จะตอบคำถามของเธอ...วันๆ ไม่รู้จะสงสัยอะไรนัก
กริ่งๆ เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นและพอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ต้องแปลกใจที่เบอร์นี้โทรเข้ามาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปสักพัก “สวัสดีครับครู” ตอนนี้ผมกำลังลุ้นอยู่ว่าครูประจำชั้นของมายูจะโทรมาหาผมเรื่องอะไร
“เอ่อ...วันนี้มายูโดดเรียนสามวิชาค่ะ” ฉันทำใจอยู่นานที่จะโทรมาบอกพ่อของมายูดีหรือเปล่าแต่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำแบบนี้ แล้วฉันก็ไม่อยากจะเห็นเด็กนักเรียนของตัวเองเรียนซ้ำชั้นอีกด้วยเลยคิดว่าโทรมาปรึกษาคุณพ่อของเธอน่าจะดีกว่า
“โดดเรียนอีกแล้วเหรอครับ..” และเรื่องที่ครูบอกก็เป็นเรื่องที่ผมไม่อยากจะฟังเลย “โดดเรียนวิชาอะไรครับ..”
“วิชาคณิตศาสตร์ อังกฤษ แล้วก็เพศศึกษาค่ะ”
ดูเหมือนว่าลูกสาวของเราจะสร้างเรื่องอีกแล้วดูจากที่เฮียโซ่คุยกับครูของมายูหน้ามุ่ยแบบนั้นแล้ว เด็กนี่แสบจริงๆ
“แล้วมายูโดดเรียนไปไหนครับ”
“เห็นบรรณารักษ์ห้องสมุดบอกว่าเธอแอบเข้าไปอ่านการ์ตูนอยู่ในนั้นจนถึงเลิกเรียนเลยค่ะ”
“ขอบคุณมากครับคุณครูเดี๋ยวผมจะจัดการเธอเอง” ผมรีบวางสายทันทีเพราะคิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างกับมายูแล้วขืนปล่อยไปแบบนี้เหมือนครั้งก่อนๆ เธอได้เรียนซ้ำชั้นแน่ และผมก็ไม่อยากที่จะใช้เงินยัดเพื่อให้เธอเรียนจบเหมือนตอนมอต้นแล้วด้วย
“ตีเลยไหมเฮีย ฮ่าๆ” ผมพูดแหย่เฮียขำๆ เพราะเห็นว่าเฮียดูจะเครียดกับมายูลูกสาวของเราเอามากๆ
ห้องนอนเคนโซ่...
ตอนแรกผมก็กะว่าจะเข้าไปคุยกับมายูที่ห้องแต่ผมเคลียร์งานนานไปหน่อยพอเปิดเข้าไปก็เห็นว่าเธอหลับไปแล้วเลยไม่ได้ปลุกเธอขึ้นมาคุย “พรุ่งนี้ค่อยคุยแล้วกัน” พรุ่งนี้เป็นวันหยุดพอดีผมมีเวลาคุยปรับทัศนคติลูกสาวตัวแสบของผมได้ทั้งวันเลยล่ะ
ครืน ครืน เปรี๊ยง!
ขณะที่ผมกำลังจะเอนหลังลงนอนก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังขึ้นเหมือนว่าคืนนี้จะฝนตกหนัก ผมหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วก็เห็นว่าตอนนี้เกือบจะตีหนึ่งได้แล้ว ''คงไม่ตื่นหลอกมั้ง'' ผมกลัวว่าคนที่จะตื่นขึ้นกลางดึกเพราะเสียงฟ้าร้องนั่นจะเกิดงอแงเข้ามานอนห้องผมอีกเหมือนทุกครั้ง แต่ดึกป่านนี้แล้วเธอคงจะหลับสนิทแล้วล่ะ ผมเองก็หวังให้มันเป็นแบบนั้นแต่ก็อดจ้องมองไปที่ประตูไม่ได้ “หาว~”
ครืน เปรี๊ยง!!
แก๊ก!
ห้องนอนซีนาย...
“ฮึกๆ ...” เสียงฟ้าร้องนั่นทำให้ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นจนต้องมานอนในที่หลบภัย และห้องแด๊ดซีนายก็ไม่ได้ล็อกพอดี ฉันหมุนตัวเข้าไปซุกกอดแด๊ดเพราะหาเกาะป้องกันจากเสียงฟ้าร้องที่ดังคำรามน่ากลัวนั่น และถึงฉันจะเหม็นกลิ่นเหล้าที่ตัวแด๊ดมากแค่ไหนก็ต้องฝืนนอนที่นี่เพราะแด๊ดเคนโซ่ล็อกห้องนอนไว้ฉันเลยเข้าไม่ได้
“กินหรืออาบมาเนี่ยแด๊ด!” ขนาดฉันพูดบ่นขนาดนี้แด๊ดซีนายยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยไม่รู้ว่าหลับหรือน็อกเหล้าตายไปแล้ว แต่ก็ยังดีกว่านอนในห้องคนเดียวล่ะวะ
เวลา9โมงเช้า...
ผมนอนหลับตาลูบคลำเรือนร่างของผู้หญิงที่ผมหิ้วมานอนที่บ้านเมื่อคืนหลังกลับจากไปเที่ยวผับ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงที่ผมพากลับมาหน้าตาเป็นยังไงแต่เพียงแค่ได้กลิ่นหอมๆ จากซอกคอของเธอและผิวเนียนนุ่มที่เหมือนผิวเด็กบนร่างเล็กๆ นี่แล้วก็รู้ได้ทันทีว่าเธอต้องสวยมากแม้จะยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองก็ตาม
ผมเริ่มลากมือขึ้นมาบีบก้อนเนื้อนุ่มบนหน้าอกของเธออย่างเบามือพร้อมกับใช้แกนชายที่เริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นบดเบียดเด้าบั้นท้ายสวยของเธอ
(แต่...เมื่อคืนกูแดกเหล้าที่บ้านนี่หว่า)
พอผมเริ่มสร่างเมาขี้ตาและจำความได้ก็ลืมตาขึ้นมองคนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของผมทันทีว่าเธอคือใครและผมก็ต้องเห็นเข้ากับสีหน้าของเด็กสาวที่ผมคุ้นชินกับใบหน้าของเธอดีและตอนนี้เธอกำลังขมวดคิ้วและยกคิ้วข้างนึงขึ้นก่อนจะลากสายตาขึ้นลงมองที่หน้าของผมด้วยท่าทางกวนโอ๊ย
“ทำอะไรของแด๊ดเนี่ย!” ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะรู้สึกเจ็บที่แด๊ดบีบนวดตัวฉัน ไม่รู้ว่าที่เขาทำเพราะนอนละเมอหรือจะแกล้งให้ฉันตื่นกันแน่
“หยุดเอาอะไรแข็งๆ มาทิ่มก้นมายูได้แล้ว มายูจะนอน” ผลัก! ฉันใช้มือดันของแข็งที่กำลังทิ่มก้นของฉันอยู่ให้ออกห่างจากก้นของฉันเพราะสิ่งนั้นมันทำให้ฉันรำคาญและมันก็กวนเวลานอนพักผ่อนยาวๆ ในวันหยุดแบบนี้
มือน้อยของมายูหมับเข้าที่แกนชายของผมก่อนจะดันเป้าผมให้ถอยออกห่าง “อุ๊ย! มายูกลับไปนอนห้องดีกว่าไหม”
ตอนนี้ผมอยากให้เธอย้ายกลับไปนอนที่ห้องของตัวเองมากๆ เพราะว่าผมเกิดรู้สึกผิดที่มีอารมณ์แบบนั้นกับมายูแถมผมยังเผลอไปลวนลามเธออีก แล้วดูท่าแกนชายของผมจะยิ่งขยายใหญ่มากขึ้นเมื่อมันโดนสัมผัสด้วยมือเล็กของเด็กคนนี้ เฮ้อ…
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด