[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน แสงแดดแผดจ้า
ลู่ชิงชิงทนต่อแดดจ้าทำงานพาร์ทไทม์แจกใบปลิวอยู่หน้าประตูห้าง
ทันใดนั้นไม่ไกลออกไปก็หันไปเห็นชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามาทางประตูด้านข้างของห้าง
เมื่อมองจากแผ่นหลังแล้ว ดูเหมือนจะเป็นหลินซั่วแฟนของเธอ กับฉินฮันเยว่ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ
วันนี้หลินซั่วต้องไปสัมภาษณ์งานไม่ใช่เหรอ?
ลู่ชิงชิงรู้สึกร้อนใจมาก เธอจึงรีบตามไปทันที
แต่แล้วเมื่อเธอเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็พบว่าพวกเขาหายไปเสียแล้ว
หลังจากเดินวนอยู่หลายรอบ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ได้รับข้อความเตือนการใช้บัตรเครดิต
เคาน์เตอร์เครื่องประดับ ยอดค่าใช้จ่าย 250000 บาท
ลู่ชิงชิงตกใจกับตัวเลขนี้จนมือสั่นไปหมด นี่มันรายได้เกือบครึ่งปีของเธอเลยนะ
ไม่ช้าลู่ชิงชิงก็หาเคาน์เตอร์รับเงินเจออย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็เห็นว่าพนักงานแคชเชียร์กำลังสวมแหวนเพชรที่แวววาวลงบนนิ้วนางที่ขาวกระจ่างใสและนุ่มนิ่มของฉินฮันเยว่
เพชรบนแหวนมีขนาดใหญ่มาก แล้วก็งดงามมากด้วย มันเป็นเพชรที่ลู่ชิงชิงหมายตามานานมากแล้ว
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าของฉินฮันเยว่ ลู่ชิงชิงก็รู้สึกหัวสมองว่างเปล่าไปหมด
หลินซั่วตกงานมาหกเดือนแล้ว เขากินอยู่กับเธอทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขากลับกล้าที่ใช้บัตรของเธอไปซื้อแหวนเพชรให้กับเมียน้อยเนี่ยนะ?
คิดว่าเธอตายไปแล้วรึไง?
เธอรีบวิ่งไปแย่งแหวนจากมือของฉินฮันเยว่มาทันที แล้วก็ยื่นไปให้พนักงานแคชเชียร์
“คืนแหวนวงนี้ค่ะ”
“ลู่ชิงชิง นี่มันอะไรของเธอเนี่ย? นี่มันแหวนที่ฉันเพิ่งซื้อมานะ เธอมีสิทธิ์อะไรเอาไปคืนห่ะ?” ฉินฮันเยว่ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“เพี๊ยะ!” ลู่ชิงชิงตบหน้าของฉินฮันเยว่ไปทีหนึ่ง
“นี่คุณทำบ้าอะไร?” เวลานี้หลินซั่วที่กลับมาจากไปจ่ายเงิน กอดฉินฮันเยว่เอาไว้ในอ้อมแขนอย่างสงสาร แล้วก็ตะโกนใส่ลู่ชิงชิงเสียงดัง
“ก็แค่เอาบัตรคุณไปรูดไม่กี่แสงเอง คุณถึงขั้นต้องทำตัวเป็นหมาบ้ามาลงมือลงไม้กับคนอื่นเลยเหรอ คุณไม่รู้จักอายบ้างเลยรึไง?” ความรังเกียจและความเคียดแค้นในแววตาของหลินซั่วมันชัดเจนมาก
หัวใจของลู่ชิงชิงเหมือนถูกบดละเอียด การถูกหักหลัง ความโกรธ และความอัปยศอดสู ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำ
“คุณเอาเงินที่หามาอย่างยากลำบากของฉันไปเลี้ยงดูผู้หญิงคนอื่น แล้วคุณยังจะมาบอกว่าฉันหน้าไม่อายอีกงั้นเหรอ?”
“แล้วจะทำไม เธอไม่ดูสารรูปของเธอ จะมีผู้ชายที่ไหนมาสนใจเธอกันห่ะ!”
ตลอดเวลาครึ่งปีที่ผ่านมาที่เธอต้องเลี้ยงหลินซั่ว เธอต้องประหยัดเงินค่าอาหารและค่าใช้จ่ายของเธอ นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเลย เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ก็เก่า ๆ แต่แล้วสิ่งที่เธอได้ตอบแทนมามันคืออะไร เป็นการทรยศที่ไร้ยางอายเนี่ยนะ!
คนมามุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ หลินซั่วจึงโยนบัตรเครดิตและใบแจ้งหนี้ไปที่หน้าของลู่ชิงชิงด้วยความโกรธ
“เอาไปเลย อะไรก็เงิน เงิน เงิน ฉันทนกับเธอมามากพอแล้ว”
ใบหน้าของลู่ชิงชิงโดนบัตรเครดิตฝาดจนรู้สึกเจ็บ แต่ทว่าหัวใจของเธอเจ็บกว่าเยอะ
“ลู่ชิงชิง จุดจบของผู้หญิงอย่างเธอคงต้องตายอย่างโดดเดี่ยวเท่านั้นแหละ ไม่มีผู้ชายคนไหนรับเธอได้หรอก” หลังจากที่หลินซั่วพูดจบ เขาก็ดึงฉินฮันเยว่ออกจากห้างสรรพสินค้าไป
ลู่ชิงชิงก้มลงหยิบบัตร และใบแจ้งหนี้บนพื้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ เธอทำตามขั้นตอนการคืนเงินเสร็จสิ้น แล้วก็กลับไปที่บ้านที่เธอ และหลินซั่วเช่าเอาไว้
บ้านหลังนี้เป็นแบบสองห้องนอน หลินซั่วและเธออาศัยอยู่ห้องใครห้องมันมาโดยตลอด
แต่ที่น่าตลกก็คือ ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าที่หลินซั่วทำเช่นนี้เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษ
เมื่อเธอเข้าบ้านไป เธอก็เริ่มจัดกระเป๋าเดินทางของหลินซั่ว เพื่อเตรียมที่จะไล่เขาออกไป
ตอนที่เธอกำลังสะบัดผ้าปูที่นอน เธอก็เจอถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วสองอัน
เมื่อมองดูถุงยางที่ ‘สด ๆ’ นี้ ความรู้สึกที่ลู่ชิงชิงมีต่อหลินซั่วก็ดับลงในทันที
สัมภาระที่ถูกแพ็คเรียบร้อยแล้วถูกโยนออกไปนอกประตูทีละชิ้น
ขณะเดียวกันหลินซั่วกลับมาพร้อมกับฉินฮันเยว่
เมื่อเห็นว่าห้องถูกเก็บจนว่างเปล่า หลิน ซั่วก็โมโหสุด ๆ
“ลู่ชิงชิง เธอบ้าไปแล้วรึไง เธอมีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องของของฉันห่ะ?”
ลู่ชิงชิงกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ในอดีตเธอแค่คิดว่าหลินซั่วเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลก แต่เมื่อมามองดูตอนนี้อีกที เธอกลับรู้สึกรังเกียจเขายิ่งกว่าอะไรดี
“คุณกลับมาพอดี เอากุญแจห้องมาคืนฉันซะ แล้วต่อไปก็อย่ามาที่นี่อีก เดี๋ยวบ้านของฉันจะสกปรก”
“ลู่ชิงชิง เธอเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า? ก่อนหน้านี้ฉันก็จ่ายค่าเช่าเหมือนกันนะ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาย้ายข้าวของของฉันไม่ทราบ?” หลินซั่วตะหวาดขึ้นมาด้วยความโกรธ
“คุณก็บอกเองหนิว่าเมื่อก่อน แล้วค่าเช่าครึ่งปีมานี้กับค่าครองชีพสองปีครึ่ง คุณได้ให้ฉันบ้างรึเปล่า?”
ลู่ชิงชิงทำใจให้เย็นเข้าไว้ พยายามทำตัวให้แข็งแกร่งมากที่สุด
เมื่อหลินซั่วเห็นเพื่อนบ้านที่มามุงดูแล้วก็เริ่มชี้มือชี้ไม้วิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก เขาจึงรู้สึกอับอาย ทำให้เขาต้องพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ แล้วก็ต้องเอาตัวรอดจากตอนนี้ไปให้ได้
“ลู่ชิงชิง เธอต้องการแค่เงินไม่ใช่เหรอ? ค่าเช่าครึ่งปีก็แค่แสนกว่าสองแสงเอง ก็แค่เงินเดือนครึ่งเดือนของฉันเท่านั้นไว้รอฉันหางานได้ก่อน ฉันจะจ่ายค่าเช่าครึ่งปีที่ฉันติดค้างเธอคืนให้หมด”
“ไม่จำเป็นต้องรอถึงครึ่งปีหรอก เราจะให้เงินเธอตอนนี้เลย” ฉินฮันเยว่หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา แล้วก็เดินไปหาลู่ชิงชิง “เรามาตกลงกันก่อน ถ้าฉันจ่ายค่าเช่าครึ่งปีนั้นให้เธอแล้ว เธอต้องย้ายออกไปวันนี้”
จากการคำนวณของฉินฮันเยว่แล้ว ครึ่งหนึ่งของค่าเช่าครึ่งปีอยู่ที่ห้าหมื่นกว่า ๆ เท่านั้น แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ยัยโง่ลู่ชิงชิงจ่ายไปมากกว่านั้นอีก แถมเธอยังจะสร้างความประทับใจที่ดีให้หลินซั่วได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้หลินซั่วสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัฐที่จัดอันดับมหาลัยดีเด่น ถือว่าเขาเป็นเสมือนหุ้นที่มีศักยภาพ เมื่อก่อนตอนที่เขาทำงานเขาเคยมีรายได้มากถึงแสนห้าต่อเดือนเลย!
เมื่อฉินฮันเยว่เห็นว่าลู่ชิงชิงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล เธอก็เปิดคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน แล้วเงินก็ถูกโอนไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ประตูอย่างได้ใจพลางพูดว่า “รีบไปเก็บข้าวของและไสหัวออกไปซะสิ!”
“ไม่รีบ” ลู่ชิงชิงหันกลับมาโดยไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด แล้วก็หันไปหยิบโฉนดบ้านออกมาจากห้อง
“พวกเธออ่านให้ละเอียดนะ” ลู่ชิงชิงเปิดโฉนดบ้านออก ชื่อเจ้าของบ้านเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เขียนชื่อของลู่ชิงชิงเอาไว้
“ฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ แล้ววันนี้ฉันก็จะเอาบ้านหลังนี้คืน”
“ลู่ชิงชิง เธอหลอกฉันเหรอ?” เมื่อเห็นโฉนดบ้าน หลินซั่วก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที “เธอเป็นเจ้าของบ้าน แต่ยังมาบอกให้ฉันจ่ายค่าเช่ามาตั้งหลายปีอีกเนี่ยนะ?”
“มาอยู่บ้านคนอื่นก็ต้องจ่ายค่าเช่า มันก็ถูกต้องแล้วหนิ?” ลู่ชิงชิงยักไหล่ ใบหน้าของเธอดูใสซื่อมาก
“เธอมันใจร้าย!” หลินซั่วใช้นิ้วที่กำลังสั่นเทาของเขาชี้หน้าลู่ชิงชิง “ก่อนหน้านี้ฉันประเมินเธอต่ำไปจริง ๆ”
“ลู่ชิงชิง เธอมันน่ารังเกียจมาก” ฉินฮันเยว่รู้สึกเสียใจจนเจ็บใจไปหมด นอกจากจะเสียเงินแล้ว ที่จะอยู่ยังไม่มีอีกด้วย
“ถ้าเทียบกับพวกคุณแล้ว ฉันยังคงตามหลังอยู่ไกลมาก”
ลู่ชิงชิงเปิดประตูบ้านพลางพูดว่า “เอาของของพวกคุณออกไป แล้วก็ไสหัวไปซะ!”
ฉินฮันเยว่ยังอยากจะอาละวาดต่ออีก แต่เมื่อหลินซั่วเห็นว่าเพื่อนบ้านมามุงดูกันเต็มไปหมด เขาจึงรีบลากฉินฮันเยว่ออกไปทันที
ก่อนจะไปเขายังหันไปมองลู่ชิงชิงตาเขม็ง คิดวางแผนในใจว่าจะหลอกเอาอพาร์ทเมนต์แห่งนี้มาได้อย่างไร
หลังจากจัดการกับผู้ชายสารเลวไปแล้ว ลู่ชิงชิงก็พิงมุมกำแพงแบบไร้เรี่ยวแรงใด ๆ
สิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจก็คือ ก็ดีเหมือนกัน ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องทำหลาย ๆ งานเพื่อมาคอยเลี้ยงผู้ชายสารเลวแบบนี้อีกแล้ว
แต่ในขณะที่เธอเพิ่งจะถอนหายใจออกไป จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เมื่อลู่ชิงชิงก้มไปมองก็พบว่าเป็นน้องชายของเธอที่โทรมา
“พี่ ย่าเป็นมะเร็ง ต้องจ่ายค่าผ่าตัดสองล้านห้า ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้น ผม.....” ในโทรศัพท์ เสียงน้องชายที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นมา
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ